น่ามันเขี้ยว

1186 คำ
“3 กล่อง 315 บาทค่ะ” เสียงของพนักงานร้านสะดวกซื้อเอ่ยกับชายร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนสีเข้มซึ่งยืนหันหลังให้สาวสวยใบหน้าอ่อนวัยผู้สวมเสื้อยืดตัวโคร่งคลุมถึงชายกางเกงยีนขาสั้นและกำลังยืนต่อแถวรอจ่ายเงินเช่นกัน เธอถอนหายใจเบา ๆมองคนร่างใหญ่ใช้มือตบไปทั่วตัวเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง พนักงานสาวเหลือบมองของที่เขาซื้อใบหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อยแต่ก็ยังเก็บความรู้สึกบนใบหน้าได้ดี พอหันกลับมามองชายตรงหน้าก็เหมือนเขายังหาสิ่งที่ต้องการไม่เจอ “เอ่อ… 315 บาทค่ะ” เธอกล่าวย้ำอีกครั้งเป็นการเร่งทางอ้อมเพราะลูกค้าที่ต่อแถวจ่ายเงินเริ่มจ้องมาที่แคชเชียร์มากขึ้นเรื่อย ๆ “สงสัยผมจะลืมเงินไว้ในรถ รอครู่เดียวนะครับ” “เดี๋ยวหนูจ่ายให้ค่ะ เสียเวลาคนอื่นมาก ๆ เลย” “...” เสียงใส ๆ ดึงความสนใจให้ชายหนุ่มหันกลับมามองก่อนจะยิ่งแปลกใจมากกว่าเดิมเพราะเจ้าของเสียงที่แสดงความมีน้ำใจเชิงรำคาญน่าจะอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 หรือ ปี 2 เขาคาดเดาจากชุดที่เด็กคนนี้สวมรวมถึงใบหน้าที่เนียนใสไร้เครื่องสำอางปกปิด “ไม่เป็นไร รถพี่จอดอยู่หน้าร้านนี่เอง” “คุณอาเดินไปที่รถ 3 นาที น่าจะใช้เวลาหากระเป๋าเงินอีก 3 นาทีเดินกลับมาอีก 3 นาที รวมเป็น 9 นาทีทำไมทุกคนที่นี่ต้องรอคุณอาคนเดียวคะ” “อา?” มือเรียวเล็กวางขนมขบเคี้ยวและของใช้จุกจิกอีก 2-3 อย่างลงบนเคาน์เตอร์คิดเงินแล้วหันไปพูดกับพนักงาน “คิดรวมไปเลยค่ะ” เธอไม่สนใจจะมองคนข้าง ๆ เสียด้วยซ้ำไปมือข้างที่ว่างล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่แล้วดึงกระเป๋าเงินใบเล็กออกมาเตรียมจ่ายเงิน “ทั้งหมด 565 บาทค่ะ” ธนบัตรใบละ 1,000 บาทถูกยื่นให้พนักงานโดยไม่ลังเลท่าทางแสนน่ามันเขี้ยวตกอยู่ในสายตาของชายร่างโตแต่ไม่มีเงินตั้งแต่ต้นจนจบ เขาเพียงยิ้มน้อย ๆ ที่เห็นเด็กสาวเป็นคนกล้าคิดกล้าตัดสินใจ ที่สำคัญท่าทางจะสายเปย์เสียด้วย “นี่ค่ะ ของคุณอาถือเสียว่าหนูซื้อให้เป็นรางวัลที่รู้จักการป้องกันโรคติดต่อระหว่างมีเพศสัมพันธ์” เสียงเจื้อยแจ้วนั่นพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยต่อหน้าลูกค้ารายอื่นที่กำลังต่อแถวจ่ายเงิน และมันน่าขายหน้าที่สุดเพราะเขาคือผู้ใหญ่อิฐซ้ำยังเป็นหลานชายของย่าพิศ เจ้าของไร่ผลไม้สวนผสมบนเนื้อที่กว่าร้อยไร่ใครบ้างจะไม่รู้จักเขา ก็คงยกเว้นแค่เด็กคนนี้ สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ผู้ใหญ่บ้านหนุ่มหล่อ แม้จะไม่ได้ตำหนิแต่แฝงการล้อเลียนแน่นอน “ลาก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ” เด็กแสบ! ร่างเล็กเดินสะพายกระเป๋าเป้เดินออกนอกร้านไปอย่างสบายใจทิ้งเขาไว้กับความขายขี้หน้าเพียงลำพัง มือหนารีบคว้ากล่องสีดำ 3กล่องแล้วยัดลงกระเป๋ากางเกง รีบสาวเท้าตามออกไปอย่างรวดเร็ว “เดี๋ยวก่อน” เสียงเรียกตามมาจากข้างหลังทำให้เด็กสาวหยุดรอฟังว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรจากเธออีก หรือไม่มีเงินเติมน้ำมัน “มีอะไรคะ” ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าเชิดรั้นบ่งบอกถึงความเอาแต่ใจ เธอตัดผมหน้าม้ารวบผมสูงมัดไว้เรียบร้อย มีไรผมตกลงมาล้อมกรอบหน้านิดหน่อยผิวขาวสะอาดเหมือนกับเจ้ากระต่ายน้อยที่ห้อยอยู่ข้างกระเป๋าเป้ คนถูกเรียกเงยหน้ามองเขา แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยคำถามแฝงความรำคาญดูอย่างไรก็น่ามันเขี้ยวเหมือนเดิม “พี่จะเอาเงินคืนให้ ตั้ง 300 บาท” เด็กสาวจ้องมองเขาครู่หนึ่งก่อนจะเลื่อนสายตาไปหยุดที่กระเป๋ากางเกงของเขา มันรัดจนเป็นรูปกล่องซึ่งถูกอัดอยู่ในนั้น “ไม่เป็นไรค่ะ หนูภูมิใจที่ได้ช่วยประเทศไทยลดจำนวนประชากร” “อะไรนะ! เป็นเด็กเป็นเล็ก พูดจาให้น่ารักสมกับหน้าตาหน่อย” นี่เด็กประเภทไหนกันวะ ใบหน้าไร้เดียงสามากแต่คำพูดคำจาแก่แดดจนน่าจับมาตีก้น “หนูพูดความจริง” “พี่ขอเบอร์หน่อย เดี๋ยวพี่โอนเงินคืนให้” มือหนายกขึ้นยีผมหน้าม้าด้วยความหมั่นไส้ในความมั่นเกินวัยแต่ก็ถูกปัดมือออกโดยเร็ว “หนูตื่นขึ้นมาเซ็ตผมหน้าม้าตั้งแต่ 6 โมงเช้ามันอยู่ทรงเข้ากับรูปหน้าหนูจนกระทั่งมือของคุณอามาแตะต้องต้องมันโดยไม่ได้รับอนุญาต” “คุณอา? เลิกเรียกคุณอาเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวจับตีก้นเลย” “ถ้าแก่กว่าพี่ชายหนู เท่ากับคุณอาทั้งหมดและสิ่งที่คุณอาควรจะเรียนรู้อีกอย่างก็คืออย่าแตะต้องหน้าม้าผู้หญิง” เด็กสาวยู่หน้าด้วยความไม่พอใจก่อนจะเดินหนีไปไม่รอเอาเงินคืนจากผู้ชายที่เธอมองว่าไร้สาระ ขนาดมาซื้อถุงยางอนามัยเงินก็ยังไม่เอามา ดีแล้วที่ไม่ตั้งใจจะมีลูก ผู้ใหญ่อิฐ หรือ อชิระ ยันต์ นั่นคือชื่อของเขาที่ยังไม่ทันจะได้แนะนำตัวกับเธอ ดวงตาคมมองตามเด็กสาวพลางหัวเราะในลำคอ ดูแล้วคงจะโกรธไม่น้อยเพราะท่าทางการเดินกระแทกส้นผ้าใบทำให้กระเป๋าที่สะพายอยู่แกว่งไปมารวมถึงเจ้ากระต่ายหน้ายู่ที่ห้อยอยู่ข้างกระเป๋าด้วย หน้าตาช่างเหมือนเจ้าของมันเหลือเกิน เมื่อมองดูเด็กสาวเดินลับหายไปจากสายตาจึงเดินกลับมาที่รถแล้วเริ่มมองหากระเป๋าและโทรศัพท์ ก่อนจะพบว่ามันตกอยู่ข้าง ๆ เบาะ Rrrrrr Rrrrrr “ครับ” (ผู้ใหญ่ขา โบว์รอนานแล้วนะคะ โทร.ไปตั้งหลายครั้งก็ไม่รับ) “ลืมโทรศัพท์ไว้ที่รถ” (โบว์รอที่สำนักงานในไร่นะคะ) “ครับ” (เร็วนะคะ สารภาพเลยว่าแฉะหมดแล้ว) “ช่วยตัวเองไปก่อน” (ผู้ใหญ่อะ) รถกระบะยกสูงสีดำค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากริมฟุตพาทมุ่งหน้ากลับ ‘ไร่พิศมัย’ วันนี้เขามีนัดกับเด็กเลี้ยงคนโปรด แค่คิดถึงท่วงท่าของเธอก็ทำให้ต้องกัดปากตัวเองเบา ๆ ปีนี้เขาอายุย่าง 35 ปี เคยมีชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวเมื่อนานมาแล้วและความสัมพันธ์จบแบบย่ำแย่มาก จากนั้นมาเขาก็มีแค่เด็กเลี้ยงไม่เคยจริงจังกับใครอีกเลย จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่มีแฟน ใบหน้าคมเข้มยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นเด็กสาวคนเดิมกำลังเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ริมถนน เดาว่าคงกำลังเดินไปขึ้นรถสองแถว ถ้าจอดทักทายตอนนี้ก็คงจะโดนแว้ดใส่เป็นแน่ จึงขับรถผ่านไปช้า ๆ แล้วแอบมองดูผ่านกระจกหลัง เด็กคนนี้น่ารักดี! แต่ก็น่าตีก้นเหลือเกินไม่รู้โตมาอย่างไรถึงได้แก่แดดขนาดนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม