น่ามันเขี้ยว
“3 กล่อง 315 บาทค่ะ”
เสียงของพนักงานร้านสะดวกซื้อเอ่ยกับชายร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนสีเข้มซึ่งยืนหันหลังให้สาวสวยใบหน้าอ่อนวัยผู้สวมเสื้อยืดตัวโคร่งคลุมถึงชายกางเกงยีนขาสั้นและกำลังยืนต่อแถวรอจ่ายเงินเช่นกัน เธอถอนหายใจเบา ๆมองคนร่างใหญ่ใช้มือตบไปทั่วตัวเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง
พนักงานสาวเหลือบมองของที่เขาซื้อใบหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อยแต่ก็ยังเก็บความรู้สึกบนใบหน้าได้ดี พอหันกลับมามองชายตรงหน้าก็เหมือนเขายังหาสิ่งที่ต้องการไม่เจอ
“เอ่อ… 315 บาทค่ะ” เธอกล่าวย้ำอีกครั้งเป็นการเร่งทางอ้อมเพราะลูกค้าที่ต่อแถวจ่ายเงินเริ่มจ้องมาที่แคชเชียร์มากขึ้นเรื่อย ๆ
“สงสัยผมจะลืมเงินไว้ในรถ รอครู่เดียวนะครับ”
“เดี๋ยวหนูจ่ายให้ค่ะ เสียเวลาคนอื่นมาก ๆ เลย”
“...”
เสียงใส ๆ ดึงความสนใจให้ชายหนุ่มหันกลับมามองก่อนจะยิ่งแปลกใจมากกว่าเดิมเพราะเจ้าของเสียงที่แสดงความมีน้ำใจเชิงรำคาญน่าจะอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 หรือ ปี 2 เขาคาดเดาจากชุดที่เด็กคนนี้สวมรวมถึงใบหน้าที่เนียนใสไร้เครื่องสำอางปกปิด
“ไม่เป็นไร รถพี่จอดอยู่หน้าร้านนี่เอง”
“คุณอาเดินไปที่รถ 3 นาที น่าจะใช้เวลาหากระเป๋าเงินอีก 3 นาทีเดินกลับมาอีก 3 นาที รวมเป็น 9 นาทีทำไมทุกคนที่นี่ต้องรอคุณอาคนเดียวคะ”
“อา?”
มือเรียวเล็กวางขนมขบเคี้ยวและของใช้จุกจิกอีก 2-3 อย่างลงบนเคาน์เตอร์คิดเงินแล้วหันไปพูดกับพนักงาน
“คิดรวมไปเลยค่ะ”
เธอไม่สนใจจะมองคนข้าง ๆ เสียด้วยซ้ำไปมือข้างที่ว่างล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่แล้วดึงกระเป๋าเงินใบเล็กออกมาเตรียมจ่ายเงิน
“ทั้งหมด 565 บาทค่ะ”
ธนบัตรใบละ 1,000 บาทถูกยื่นให้พนักงานโดยไม่ลังเลท่าทางแสนน่ามันเขี้ยวตกอยู่ในสายตาของชายร่างโตแต่ไม่มีเงินตั้งแต่ต้นจนจบ เขาเพียงยิ้มน้อย ๆ ที่เห็นเด็กสาวเป็นคนกล้าคิดกล้าตัดสินใจ ที่สำคัญท่าทางจะสายเปย์เสียด้วย
“นี่ค่ะ ของคุณอาถือเสียว่าหนูซื้อให้เป็นรางวัลที่รู้จักการป้องกันโรคติดต่อระหว่างมีเพศสัมพันธ์”
เสียงเจื้อยแจ้วนั่นพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยต่อหน้าลูกค้ารายอื่นที่กำลังต่อแถวจ่ายเงิน และมันน่าขายหน้าที่สุดเพราะเขาคือผู้ใหญ่อิฐซ้ำยังเป็นหลานชายของย่าพิศ เจ้าของไร่ผลไม้สวนผสมบนเนื้อที่กว่าร้อยไร่ใครบ้างจะไม่รู้จักเขา ก็คงยกเว้นแค่เด็กคนนี้
สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ผู้ใหญ่บ้านหนุ่มหล่อ แม้จะไม่ได้ตำหนิแต่แฝงการล้อเลียนแน่นอน
“ลาก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ”
เด็กแสบ!
ร่างเล็กเดินสะพายกระเป๋าเป้เดินออกนอกร้านไปอย่างสบายใจทิ้งเขาไว้กับความขายขี้หน้าเพียงลำพัง มือหนารีบคว้ากล่องสีดำ 3กล่องแล้วยัดลงกระเป๋ากางเกง รีบสาวเท้าตามออกไปอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวก่อน”
เสียงเรียกตามมาจากข้างหลังทำให้เด็กสาวหยุดรอฟังว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรจากเธออีก หรือไม่มีเงินเติมน้ำมัน
“มีอะไรคะ”
ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าเชิดรั้นบ่งบอกถึงความเอาแต่ใจ เธอตัดผมหน้าม้ารวบผมสูงมัดไว้เรียบร้อย มีไรผมตกลงมาล้อมกรอบหน้านิดหน่อยผิวขาวสะอาดเหมือนกับเจ้ากระต่ายน้อยที่ห้อยอยู่ข้างกระเป๋าเป้
คนถูกเรียกเงยหน้ามองเขา แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยคำถามแฝงความรำคาญดูอย่างไรก็น่ามันเขี้ยวเหมือนเดิม
“พี่จะเอาเงินคืนให้ ตั้ง 300 บาท”
เด็กสาวจ้องมองเขาครู่หนึ่งก่อนจะเลื่อนสายตาไปหยุดที่กระเป๋ากางเกงของเขา มันรัดจนเป็นรูปกล่องซึ่งถูกอัดอยู่ในนั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูภูมิใจที่ได้ช่วยประเทศไทยลดจำนวนประชากร”
“อะไรนะ! เป็นเด็กเป็นเล็ก พูดจาให้น่ารักสมกับหน้าตาหน่อย”
นี่เด็กประเภทไหนกันวะ ใบหน้าไร้เดียงสามากแต่คำพูดคำจาแก่แดดจนน่าจับมาตีก้น
“หนูพูดความจริง”
“พี่ขอเบอร์หน่อย เดี๋ยวพี่โอนเงินคืนให้”
มือหนายกขึ้นยีผมหน้าม้าด้วยความหมั่นไส้ในความมั่นเกินวัยแต่ก็ถูกปัดมือออกโดยเร็ว
“หนูตื่นขึ้นมาเซ็ตผมหน้าม้าตั้งแต่ 6 โมงเช้ามันอยู่ทรงเข้ากับรูปหน้าหนูจนกระทั่งมือของคุณอามาแตะต้องต้องมันโดยไม่ได้รับอนุญาต”
“คุณอา? เลิกเรียกคุณอาเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวจับตีก้นเลย”
“ถ้าแก่กว่าพี่ชายหนู เท่ากับคุณอาทั้งหมดและสิ่งที่คุณอาควรจะเรียนรู้อีกอย่างก็คืออย่าแตะต้องหน้าม้าผู้หญิง”
เด็กสาวยู่หน้าด้วยความไม่พอใจก่อนจะเดินหนีไปไม่รอเอาเงินคืนจากผู้ชายที่เธอมองว่าไร้สาระ ขนาดมาซื้อถุงยางอนามัยเงินก็ยังไม่เอามา ดีแล้วที่ไม่ตั้งใจจะมีลูก
ผู้ใหญ่อิฐ หรือ อชิระ ยันต์ นั่นคือชื่อของเขาที่ยังไม่ทันจะได้แนะนำตัวกับเธอ ดวงตาคมมองตามเด็กสาวพลางหัวเราะในลำคอ ดูแล้วคงจะโกรธไม่น้อยเพราะท่าทางการเดินกระแทกส้นผ้าใบทำให้กระเป๋าที่สะพายอยู่แกว่งไปมารวมถึงเจ้ากระต่ายหน้ายู่ที่ห้อยอยู่ข้างกระเป๋าด้วย หน้าตาช่างเหมือนเจ้าของมันเหลือเกิน
เมื่อมองดูเด็กสาวเดินลับหายไปจากสายตาจึงเดินกลับมาที่รถแล้วเริ่มมองหากระเป๋าและโทรศัพท์ ก่อนจะพบว่ามันตกอยู่ข้าง ๆ เบาะ
Rrrrrr Rrrrrr
“ครับ”
(ผู้ใหญ่ขา โบว์รอนานแล้วนะคะ โทร.ไปตั้งหลายครั้งก็ไม่รับ)
“ลืมโทรศัพท์ไว้ที่รถ”
(โบว์รอที่สำนักงานในไร่นะคะ)
“ครับ”
(เร็วนะคะ สารภาพเลยว่าแฉะหมดแล้ว)
“ช่วยตัวเองไปก่อน”
(ผู้ใหญ่อะ)
รถกระบะยกสูงสีดำค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากริมฟุตพาทมุ่งหน้ากลับ ‘ไร่พิศมัย’ วันนี้เขามีนัดกับเด็กเลี้ยงคนโปรด แค่คิดถึงท่วงท่าของเธอก็ทำให้ต้องกัดปากตัวเองเบา ๆ
ปีนี้เขาอายุย่าง 35 ปี เคยมีชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวเมื่อนานมาแล้วและความสัมพันธ์จบแบบย่ำแย่มาก จากนั้นมาเขาก็มีแค่เด็กเลี้ยงไม่เคยจริงจังกับใครอีกเลย จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่มีแฟน
ใบหน้าคมเข้มยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นเด็กสาวคนเดิมกำลังเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ริมถนน เดาว่าคงกำลังเดินไปขึ้นรถสองแถว ถ้าจอดทักทายตอนนี้ก็คงจะโดนแว้ดใส่เป็นแน่ จึงขับรถผ่านไปช้า ๆ แล้วแอบมองดูผ่านกระจกหลัง
เด็กคนนี้น่ารักดี! แต่ก็น่าตีก้นเหลือเกินไม่รู้โตมาอย่างไรถึงได้แก่แดดขนาดนี้