ตอนที่8

1411 คำ
"เมย์!" เสียงเรียกทำให้เมยาวีต้องหันตาม เพื่อนร่วมคณะของเธอนั่นเอง คนผิวคล้ำหน่อยชื่อน้ำขิง ส่วนหน้าหมวย ๆ ตามหน้าตาเลย หล่อนมีชื่อว่าหมวย "มีอะไรเหรอ?" เมยาวีถามกลับด้วยสีหน้าที่ยังคงกังวลจากเรื่องของหัวใจอยู่ "ข่าวว่าไปทำงานที่บาร์ไม่กี่วันก็มีเสี่ยเลี้ยงแล้วเหรอ?" น้ำขิงถามเสียงแหลมด้วยความสงสัยระคนตื่นเต้น "เสี่ยเลี้ยง?" เมยาวีทวนคำอย่างไม่เข้าใจ "ใช่ ยัยพลอย ไปพูดทั่วมหา’ลัย ว่าเธอทำงานได้วันเดียวก็โดนหิ้วกลับ โดยคุณกวินทร์ หนุ่มหล่อเจ้าของยิมชื่อดัง" หมวยเสริมอย่างรวดเร็ว เมยาวีหน้าถอดสี เรื่องที่ว่าเธอไปทำงานที่บาร์ฯ เธอคิดว่ารู้กันแค่เธอกับพลอยชมพูเสียอีก ที่แท้ เธอไว้ใจผิดคนงั้นเหรอ "พลอยมันโกหก!" เมยาวีปฏิเสธเสียงแข็ง ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวด้วยความอับอายที่ถูกใส่ร้าย "ฉันไม่ได้โดนหิ้วกลับ ฉันแค่... ฉันแค่ลาออก" "แต่ทุกคนเชื่อยัยพลอยไปแล้วนะ" น้ำขิงพูดขึ้นด้วยความเยาะหยันเพราะปกติเธออิจฉาในความสวยของเมยาวีอยู่แล้ว เมยาวีเป็นแค่เด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียน แต่โดดเด่นเรื่องเรียนอยู่ไม่น้อย จึงสร้างความหงุดหงิดให้คนที่เอาแต่สวยไปวันๆอย่างพวกเธอเป็นที่สุด “โน้นไง ! ยัยพลอยมาพอดีถามเลยสิ” เมยาวีหันไปตามสายตา เห็นร่างของพลอยชมพูเดินเข้ามาอย่างมั่นใจ ใบหน้าของเมยาวีเย็นชาลงทันที "พลอย.." เมยาวีเรียกชื่อเพื่อนที่เคยไว้ใจเสียงแข็ง พลอยชมพูเดินเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้มใสๆ ไม่ใช่น้ำเปล่าแต่คือโซจู ไม่มีความรู้สึกผิดใด ๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย ๆนั้นเลย "อ้าว เมย์... ข่าวว่าเปลี่ยนสถานะไปเป็นเด็กเจ้าของยิมแล้วเหรอจ้ะ?" พลอยชมพูใช้คำพูดที่เสียดแทงและตอกย้ำข่าวลือ ต่อหน้าคนอื่นในตอนนี้ เธอเผยธาตุแท้ออกมาอย่างชัดเจน เมยาวีรู้สึกเจ็บใจที่โดนหักหลัง คนที่ไว้ใจร้ายที่สุด! "เธอใส่ร้ายฉันทำไม! ฉันไว้ใจเธอนะ!" เมยาวีพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น พลอยชมพูหัวเราะเบา ๆ "ใส่ร้ายเหรอ? ฉันแค่พูดความจริงนะเมย์ ฉันบอกทุกคนว่าคุณกวินทร์ใจดีแค่ไหนที่ยอมจ่ายเงินหนึ่งแสนบาท ให้เธอเลิกทำตัวเป็นเด็กใจแตก " เมยาวีรู้สึกเหมือนมีเลือดขึ้นหน้า เธอรู้สึกโทษตัวเองที่ไว้ใจเล่าทุกอย่างให้พลอยชมพูฟัง แต่ยัยนี่กลับไปเอาตีไข่ใส่สี "ฉันไม่ได้โดนหิ้ว! พี่กวินทร์แค่ให้งานฉันทำ!" "งานเหรอ?" พลอยชมพูเลิกคิ้วมองอย่างดูถูก "งานอะไรที่ให้เงินเดือนเยอะกว่าพนักงานธนาคารที่พี่ชายเธอทำงานเสียอีก? น่าอิจฉาจังนะที่อยู่ ๆ ก็ได้เปลี่ยนสถานะจากเด็กเสิร์ฟเป็น ของเล่นมีราคา" 'ของเล่นมีราคา' ประโยคนั้นทำให้ความโกรธของเมยาวีถึงขีดสุด เธอรู้ว่าไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร ไม่มีใครเชื่อเธออยู่ดี เพราะสถานะของเธอกับกวินทร์นั้น เป็นความจริงตามที่พลอยพูดทุกประการแม้จะโดนไปร้ายไปบ้าง แต่ยังไงซะมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ พลอยชมพูไม่มีสิทธิ์เอาเรื่องเธอไปพูดกับใครต่อใคร "ฉันไม่คิดเลยว่าเพื่อนที่ฉันไว้ใจ คนที่ฉันคิดว่าสนิทไว้ใจเล่าทุกอย่างให้ฟัง ที่แท้เป็นคนแบบนี้” “แหม่! ยัยเมย์ เธอพลาดแล้วล่ะ ยัยนี่อ่ะ เป็นแบบนี้มานานแล้ว เธอแค่เชื่อใจคนผิดเอง” น้ำขิงเอ่ยออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะในความโง่ของเมยาวี “ต่อไปนี้เราไม่ใช่เพื่อนกันอีก” เมยาวีหันไปพูดกับพลอยชมพูด้วยสายตาที่ผิดหวังขั้นสุด ตอนแรกพลอยชมพูดก็หัวเราะเยาะเธอเหมือนคนอื่นแต่พอได้เห็นสายตาผิดหวังของเมยาวีแล้ว ในใจเธอก็แอบสะท้านไปเหมือนกัน เพราะคนอื่นที่เธอเคยทำแบบนี้ไม่ถึงกับเลิกคบเธอไปเลย “เมย์...” เมยาวีหันหลังเดินออกจากกลุ่มเพื่อนทันที เธอเดินเหม่อออกมาอย่างไร้จุดหมายปลายทาง และมาหยุดอยู่ที่ร่างสูงของกวินทร์ที่วันนี้ตั้งใจมารับเธอด้วยตัวเองตอนไหนไม่รู้ “พี่กวินทร์..” “ทำไมสีหน้าเป็นแบบนั้น เป็นอะไร?” เมยาวีไม่ตอบ แต่ตรงไปขึ้นรถของเขาที่จอดอยู่ทันที เพราะตอนนี้เธอก้าวขาและรับน้ำหนักของตัวเองไม่ไหวแล้ว เธอหมดเรี่ยวแรงจะไปต่อ กวินทร์เปิดประตูเข้ามานั่งฝั่งคนขับ ก่อนจะมองเมยาวีที่กำลังนั่งก้มหน้า ไหล่เล็ก ๆของเธอกำลังสั่นเทาเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นเธออยู่ในสภาพที่ยอมจำนนทางอารมณ์ถึงเพียงนี้ แล้ว จู่ ๆ หญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก จนเขาตกใจ เมยาวีไม่สามารถควบคุมความรู้สึกที่อัดอั้นจากความอับอายเนื่องถูกทรยศจากเพื่อนที่สนิทที่สุดได้อีกต่อไป "พี่กวินทร์ ฮือ~" เธอโผเข้าหาเขาทันทีอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ซบใบหน้าลงกับไหล่ของเขา และปล่อยให้น้ำตาท่วมไหล่เสื้อยืดของเขาเหมือนเด็กน้อย กวินทร์ทำอะไรไม่ถูก เขาเองก็ไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน รู้เพียงว่าตอนนี้เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอ เพราะมันทำให้หัวใจของเขารู้สึกปวดขึ้นมาดื้อ ๆ กวินทร์กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น เขาไม่พูดจาตำหนิใด ๆ มีแต่เพียงสัมผัสที่ให้ความอบอุ่นอย่างที่เมยาวีต้องการที่สุด "ไม่ร้องนะเมย์ ไม่ร้อง พี่อยู่ตรงนี้แล้ว" เขาปล่อยให้เธอร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเสียงสะอื้นของเธอเบาลง เขาจึงผละออกเล็กน้อยแล้วใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาออกจากแก้มของเธออย่างอ่อนโยน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย อย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเลย "เกิดเรื่องอะไรขึ้น ใครรังแกเธอ" "ฮือ เมย์ทำตัวเอง ฮึก ๆ เมย์รู้แล้วว่าทำไมพี่กวินทร์ไม่อยากให้เมย์ไปอยู่ในที่แบบนั้น ข่าวลือ ฮืออ" เมยาวียังคงสะอื้นไห้ ยิ่งพูดน้ำตาของเธอก็ยิ่งไหล “ข่าวลืออะไร?”กวินทร์ถามซ้ำ เมยาวีเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เธอฟ้องเขาเหมือนเด็กๆ ที่ต้องการที่พึ่ง "เพื่อนสนิทเมย์ไปปล่อยข่าวว่าเมย์ไปทำงานที่บาร์ แล้วโดนพี่กวินทร์ไปหิ้วมา ว่าเมย์ว่าเป็นเด็กเลี้ยงเสี่ย แล้วเอาเมย์ไปพูดเสียหายทั่วคณะเลย ฮือ~" กวินทร์รับฟังด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป ไม่รู้ว่าจะขำหรือสงสารดี เขามองใบหน้าอ่อนเยาว์ของเมยาวีที่บอบช้ำด้วยเรื่องราวแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกอยากจะปกป้องเธอจนถึงที่สุด "ลงไปกับพี่ ไปหาเพื่อนสนิทของเธอ" กวินทร์สั่งเสียงต่ำ แต่ทว่าเมยาวีมองเขาด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับส่ายหน้ารัว "ไม่นะคะ! พี่กวินทร์อย่าทำอะไรเลยค่ะ ปล่อยให้มันจบไปเถอะค่ะ เมย์ไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โตไปกว่านี้" "จบงั้นเหรอ เธอร้องไห้ขนาดนี้พี่จะทนเห็นเรื่องนี้จบได้อย่างไร" กวินทร์ถามเสียงเครือ มือของเขาจับพวงมาลัยแน่น "ได้ค่ะ เมย์ไม่ร้องแล้ว ไม่ร้องแล้วค่ะ" เมยาวีหยุดร้องไห้ทันที แม้เสียงยังสั่นเครือ "หากพี่กวินทร์ไปเอาเรื่องกับเรื่องแค่นี้ ใครเห็นเข้าจะหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก มันเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นเรื่องที่เราไม่ควรเอามาใส่ใจค่ะ" เมยาวีใช้เหตุผลที่เธอรู้ว่าเขาต้องรับฟัง กวินทร์ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าหญิงสาวหยุดร้องและสามารถใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง เขายกมือขึ้นลูบผมของเธอเบา ๆ "รู้แล้วใช่มั้ยล่ะ เหตุผลทั้งหมดก็อยู่ในประโยคที่เมย์พูดออกมาหมดแล้ว ดังนั้น จะไปสนใจทำไมกับปากคน" กวินทร์พูดยิ้ม ๆ "เป็นเด็กเสี่ยกวินทร์ไม่ดีตรงไหน มีใครบ้างไม่อยากเป็นล่ะ ใช่มั้ย?"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม