‘แต่เมย์อยากให้พี่เป็นของเมย์คนเดียว’
เมยาวีได้แต่ตอบโต้เขาอยู่ในใจ เธอรู้ว่าพวกนั้นอิจฉาเธอเรื่องกวินทร์ เพราะวันก่อนเธอเอากระเป๋าใบหรูที่พี่กวินทร์ซื้อให้ไปมหา’ลัยด้วย เพราะไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นจุดเด่น
เธอแทบจะไม่รู้จักของพวกนี้ ใครจะคิดล่ะว่ามันเป็นต้นเหตุของบ่อเกิดแห่งความอิจฉาริษยา จะไม่เอามาใช้พี่กวินทร์ก็ไม่ยอม
“บัตรที่ให้ไป ไม่เห็นเอาไปซื้อของอะไร?”
เมยาวีหันมามองหน้าเขา ไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นที่ต้องการของสาว ๆ ทั้งหล่อ รวย และพร้อมเปย์ขนาดนี้ ใคร ๆ ก็อยากได้ ไม่เว้นกระทั่งเธอเองก็เช่นกัน
“กำลังลิสต์รายการอยู่ค่ะ ไม่รู้ว่าวงเงินในบัตรพอมั้ย?”
มุมปากของเขาขยับเล็กน้อย
“ประชดประชันเก่ง อย่างกะเป็นเมีย!”
เมยาวีหันควับ!มาหาเขาอีกครั้ง หัวใจเธอเต้นแรง คำว่าเมียที่เขาพูดออกมามันทำให้เธอวูบวาบ แก้มแดงปลั่ง เขินจนต้องเมินหน้าออกไปนอกหน้าต่าง
“ไม่มีหรอกเหรอคะ เมียพี่กวินทร์”
“ยังอ่ะ ไม่แน่อาจจะชอบไม้ป่าเดียวกันอย่างที่เธอกำลังสงสัย หรือไม่! ก็อาจจะเป็นพวกเสือใบก็ได้ หญิงก็ได้ชายก็ดี”
แก้มของเธอยิ่งแดงหนักกับคำพูดของเขาที่ฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
“เมย์ไม่รู้ค่ะ สมัยนี้แล้วไม่มีใครว่าหรอกค่ะ จะเป็นอะไรก็เป็นไปเถอะค่ะพี่กวินทร์ “
“พูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่รู้อีกสินะ...อยากพิสูจน์อีกมั้ยล่ะ”
เขาก็ดูเหมือนคนมีสติดี ไม่ได้เมาแต่วันนี้เขาพูดมากเกินเหตุ จนเมยาวีเองก็อดที่ค้อนไม่ได้
“พี่กวินทร์!”
เมยาวีนั่งตัวแข็งทื่อกับคำพูดของเขาแต่ล่ะอย่างในวันนี้ ทำเอาเธอขนลุกไปหมด เขาเป็นอะไรของเขากันนะกินยาผิดขวดหรือไง
“ไม่ต้องสงสัยหรอก”
ขณะพูดเขาหัวเราะออกมาเบา ๆ เหมือนรู้ทันความคิดเธอทุกอย่าง
“พี่แค่อยากให้เธอยิ้มได้ แต่ดูเหมือนว่าจะเครียดหนักกว่าเดิม พี่เล่นมุขไม่ค่อยเก่งด้วยสิ”
เมยาวีถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งที่เขาอธิบายออกมาก่อนที่ไมเกรนจะถามหาเธอ เอาจริง ๆเธอก็เอ็นดูในความพยายามของเขา มองให้ดีเวลาเป็นแบบนี้เขาก็น่ารักเหมือนกัน แต่...รักไม่ได้น่ะสิ ไม่อยากน้ำตาเช็ดหัวเข่า
รถเลี้ยวเข้ายิมก่อนจะจอดสนิทที่ลานจอดรถ กวินทร์ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันมามองเมยาวีที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่
"วันนี้ไม่มีงาน แต่มาอยู่รอพี่ออกกำลังกายก็พอ หรือจะออกด้วยก็ได้ ดูผอมแห้งขนาดนี้ ออกกำลังสักหน่อยดีมั้ย?จะได้ดูสุขภาพดี"
เมยาวีรู้สึกประหลาดใจกับคำสั่งกะทันหันนี้ เพราะเขาไม่ได้แจ้งอะไรล่วงหน้ามาก่อน
"จะดีเหรอคะ เมย์ไม่เคยเลยสักครั้ง"
"ไม่เคย ก็เคยซะสิ"
กวินทร์ตอบอย่างไม่ยอมให้โต้แย้งอีก
"ไปเปลี่ยนชุดเถอะ ชุดพี่ซื้อไว้ให้แล้วที่โต๊ะทำงานน่ะ แล้วตามพี่มา"
เมยาวีเดินตามกวินทร์ออกจากห้องทำงานส่วนตัวไปยังพื้นที่ออกกำลังกายที่เต็มไปด้วยแสงไฟสว่างไสวและลูกค้า เสียงเพลงเร้าใจทำให้บรรยากาศคึกคัก ลูกค้าหลายคนมองมาที่กวินทร์อย่างให้ความเคารพ และไม่วายที่จะมองเมยาวีที่อยู่ในชุดออกกำลังกายเรียบ ๆปกติข้างกายของกวินทร์แทบจะไม่มีผู้หญิงเดินตาม แสดงว่าคนนี้ต้องพิเศษ ทุกคนคิดเหมือนกันหมด
"ทำตามที่พี่บอก ห้ามดื้อ"
กวินทร์กระซิบเตือน ก่อนจะพาเธอไปยังโซนคาร์ดิโอ
"เริ่มที่เครื่องเดินวงรีสิบนาที"
เมยาวีพยายามทำตามอย่างทุลักทุเล ไม่นานเหงื่อก็เริ่มซึมออกมาเต็มหน้าผาก เธอรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอและไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมนี้เลยแม้แต่น้อย
"ช้าไป"
กวินทร์เดินมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังเธอโดยไม่คาดคิด ความสูงใหญ่ของเขาทาบทับอยู่เหนือเธอ
"หลังตรง อย่าก้ม"
กวินทร์สั่งเสียงทุ้มต่ำ มือใหญ่ของเขาเอื้อมมาแตะที่ด้านหลังของเมยาวี เพื่อจัดท่าทางให้ถูกต้อง
หญิงสาวตัวแข็งเกร็งทันที สัมผัสจากเขาส่งผลให้หัวใจของเธอเต้นรัวยิ่งกว่าการออกกำลังกายเสียอีก ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นอย่างโจ่งแจ้งในที่สาธารณะทำให้เธอรู้สึกเขินอายทุกสายตาที่มองมา
"อย่าเกร็ง"
กวินทร์สั่ง เขารับรู้ถึงอาการของเธอแต่กลับไม่ผละออกเหมือนจงใจ
"ไม่ต้องกลัวใครมอง"
เขาบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้น
"มองตรงไป อย่ามองพื้น"
"ทำไม... ทำไมพี่กวินทร์ถึงต้องทำเองคะ" เมยาวีถามเสียงแผ่วเนื่องจากมือของเขาที่สัมผัสกับสัดส่วนของเธอมันทำให้เธอรู้สึกวูบวาบ
"เพราะไม่มีใครเชื่อใจได้เท่าพี่"
กวินทร์โน้มตัวลงมากระซิบข้างหู นอกจากจะรู้สึกขนลุกซู่แล้ว ยิ่งทำให้เธอกลายเป็นเป้าสายตามากยิ่งขึ้น ก็นั่นแหล่ะ!ปกติแล้วกวินทร์ไม่เคยรับเทรนให้ใครมาก่อน
โอ้ย!ทั้งหุ่นของเขา ทั้งสัมผัส ทั้งกลิ่นตัวหอมสะอาดของเขา วันนี้ขอให้อีเมย์ผ่านมันไปได้โดยไม่มีเลือดกำเดาไหลด้วยเถอะ!
เมยาวีได้แต่ภาวนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์!สิ่งศักดิ์สิทธิ์!
ผ่านไปเกือบชั่วโมง เมยาวีก็นั่งหอบแฮ่ก อยู่กับพื้นอย่างคนที่หมดแรง โดยที่กวินทร์เดินออกไปหยิบน้ำมาให้เธอ
“น้ำ!”
เขามองเธอด้วยสายตาขำ ๆเมยาวีรับขวดน้ำมาแนบแก้มทันที
“เมย์ว่าวงการนี้ เมย์เข้าแล้วออกเลยดีกว่าค่ะ เมย์ยอมอ้วนเป็นหมู”
“มีเสี่ยเป็นเจ้าของยิม ปล่อยตัวเองให้อ้วนเป็นหมู ภาพลักษณ์ของยิมพี่ก็แย่สิ”
ขณะพูดเขายกผ้าขนหนูขึ้นซับเหงื่อที่หน้า แต่...อีกคนแก้มแดงปลั่ง เขินหลบสายตาของเขาอย่างรวดเร็ว
“วันนี้พี่กวินทร์ดูอารมณ์ดีนะคะ พูดเล่นตลอดเลย”
"หน้าพี่ดูเหมือนคนพูดเล่น?"
กวินทร์ถามย้ำด้วยสายตาที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆแต่เมยาวีรู้ได้ว่ามันไม่ใช่แค่นั้น เธอรับผ้าเช็ดหน้าที่เขายื่นมาให้ก่อนจะพูดเสียงเบา
"เมย์ ยอมแพ้ค่ะ งั้นพี่กวินทร์พูดจริงก็ได้ค่ะ"
เธอตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ แม้ในใจจะรู้ว่าตัวเองกำลังเขินอายกับสายตาของเขา
ทว่า พอนึกขึ้น
“ห่ะ หมายถึง เมย์คือเด็กเสี่ยจริง ๆเหรอคะ?”
กวินทร์หัวเราะในลำคอเบาๆ
"ไม่ใช่หรอก เป็นเด็กของกวินทร์ต่างหาก"
เขายิ้มมุมปาก เผยให้เห็นลักยิ้มจางๆ ที่ทำให้ใบหน้าคมคายดูอ่อนโยนขึ้นนิดหนึ่ง
เมยาวีอึ้งไปทันทีทั้งความหล่อและคำพูดของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ เธอไม่กล้าสบตาเขาอีกต่อไป รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งแก้ม เธอต้องรีบหันไปเก็บข้าวของเพื่อทำลายความรู้สึกที่วูบวาบนี้
"พี่ว่าเรากลับกันเถอะ"
กวินทร์ลุกขึ้นยืนด้วยท่วงท่าที่น่ามอง
"เดี๋ยวจะมืดกว่านี้"
เมื่อมาถึงคอนโดฯ กวินทร์จอดรถแล้วหันมามองเธอ
"วันนี้ดีมากที่เชื่อฟัง"
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติ
เมยาวีรีบปลดเข็มขัดนิรภัย
"เมย์เข้าไปก่อนนะคะ"
เธอรีบพูดแล้วเปิดประตูรถออกไปทันที เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะกลัวจะควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้
กวินทร์มองตามหลังร่างบางที่รีบเดินเข้าคอนโดฯ ไปอย่างรวดเร็ว เขายิ้มอย่างอ่อนใจกับท่าทางที่พยายามหลบหนีของเธอ
"หนีงั้นเหรอ" เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ
เมยาวีรีบเดินเข้าห้องพักของตัวเองทันที ล็อกประตูอย่างแน่นหนา ก่อนจะทรุดตัวลงพิงบานประตูอย่างหมดแรง ความหวั่นไหวจากเขายิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวัน จนไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป
'บ้าจริง! ทำไมเราต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย'
เธอยกมือขึ้นมาสัมผัสริมฝีปากที่เคยโดนเขาจูบอย่างเหม่อลอย กลิ่นเหงื่อจางๆ และกลิ่นโคโลญจน์ของเขาที่ยังคงติดอยู่ที่เสื้อทำให้เธอต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ เธอพยายามเตือนตัวเองว่าเผลอใจรักเขาไม่ได้ เขาไม่ได้รักเธอแบบนั้น เธอเป็นแค่ของเล่นชั่วคราว เรียนจบเมื่อไหร่ก็ต้องไปจากที่นี่ และเมื่อถึงตอนนั้นเธอถ้าเขาไม่รั้งไว้ คนที่หัวใจแตกสลายก็คือเธอคนเดียว
รักแรกกับการอกหักครั้งแรก T T