ตอนที่1 กลับไทย

3596 คำ
ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา (ใช้เครื่องหมาย& แทนการสนทนาภาษาอังกฤษ) ตี๊ด..ตี๊ด.. เสียงเครื่องช่วยหายใจดัง ไปทั้งห้อง     ..?? ..: &ความดัน การเต้นหัวใจปกติ ผู้ป่วยสลบแล้ว//มีเสียงผู้หญิงในชุดโออาร์สีน้ำเงินพูดขึ้นด้วยภาษาอังกฤษ เรา : &ต่อไปจะเริ่มผ่าตัด//เราพูดขึ้น ทุกสายตาในห้องจัองมองเรา     ..?? ..: &ครับ,ค่ะ//พยาบาลและผู้ช่วยต่างขานรับตามที่เราพูด ทุกคนวิ่งไปประจำหน้าที่ของตนเอง เรามายืนข้างเตียงผู้ป่วย ยกแบ2มือขึ้นเพื่อเตรียมพร้อม     เรา : &ต่อไปจะเปิดหน้าอก ขอมีดเบอร์10//พยาบาลผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้างๆส่งมีดให้ เรารับมีด แล้วทำการกรีดมีดลงไปที่ตรงกลางหน้าอกประมาณ8นิ้ว ฉึก!! แค่กรีดลงไปเลือดไหลออกมาเป็นทาง ผู้ช่วยแพทย์อีกคนที่ยืนตรงข้ามเราใช้คีบง้างเปิดเนื้อหน้าอก     เรา : &ขอเลื่อยเล็ก//เราหันไปพูดกับพยาบาลที่ยืนอยู่ด้านข้าง พยาบาลหยิบเลื่อยส่งมาให้ เราจัดการเลื่อยกระดูกหน้าอกเล็กๆ ผู้ช่วยแพทย์ใช้คีบปากเรียบง้างดันตรงเนื้อหน้าอกทั้ง2ข้างไว้ เพื่อให้เห็นหัวใจที่กำลังเต้น ตึกตัก!! ตึกตัก!!     เรา : &ต่อไปจะใช้เครื่องเอคโม(ECMO)//คือเครื่องปอดและหัวใจเทียมเครื่องจะทำหน้าที่แทนหัวใจและปอดระหว่างการผ่าตัดหัวใจ เพื่อให้ไม่มีเลือดออกจากหัวใจและไม่ให้หัวใจหยุดเต้น เราจะได้ผ่าตัดหัวใจได้สะดวกขึ้น มีลักษณะเป็นเครื่องสี่เหลี่ยม เหมือนเครื่องช่วยหายใจ แต่เจ้าเครื่องนี้มีการทำงานที่ซับซ้อนกว่า วิธีการใช้ จะใส่สายสวนหลอดเลือดขนาดใหญ่เข้าสู่หลอดเลือดดำใหญ่ ซึ่งมักเป็นหลอดเลือดดำที่โคนขา เพื่อดูดเลือดออกไปเข้ากระบวนการเติมออกซิเจน และขับคาร์บอนไดออกไซด์ และจะส่งเลือดดีกลับเข้าไปในหลอดเลือดดำใหญ่ที่คอ หรือหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ขา การติดตั้งเครื่องจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อีกคนโดยผู้เชี่ยวชาญจากทีมวิญญี     ..?? ..: &ติดตั้งเสร็จแล้วครับ//เจ้าหน้าที่แจ้งมาทางเรา     เรา : &ความดันการเต้นของหัวใจเท่าไหร่//เราห้นไปถามพยาบาล     พยาบาล : &120/80 หัวใจเต้น82ปกติค่ะ     เรา : &okงั้นผ่าตัดต่อ หลอดเลือดอุดตันที่หลอดเลือดด้านซ้าย ฉันจะทำบายพาสตรงนี้//เราชี้ให้ผู้ช่วยแพทย์อีกคนดู จากนั้นเริ่มต่อหลอดเลือดแดงจากหน้าอกต่อปลายด้านหนึ่งของหลอดเลือดกับแขนงของหลอดเลือดแดงใหญ่ ส่วนปลายอีกด้านจะต่อเข้ากับหลอดเลือดแดงใต้จุดที่ตีบหรืออุดตัน การผ่าตัดต่อหลอดเลือดหัวใจทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้มากขึ้น จึงบรรเทาอาการหัวใจขาดเลือดและช่วยทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น ตรงนี้ใช้เวลาในการเย็บต่อถึง30นาที พยาบาลข้างๆคอยซับเหงื่อให้เรา     ผู้ช่วยแพทย์ : &ให้ผมเย็บต่อไหมครับ//ผู้ช่วยแพทย์ที่ยืนตรงข้ามถามเรา     เรา : &ได้//ที่เราตอบตกลงไปเพราะเหลือแค่การเย็บกระดูกหน้าอกด้วยลวด เราส่งต่อให้ผู้ช่วยแพทย์ ผู้ช่วยกำลังดึงคีบแบนที่ง้างตรงอกของผู้ป่วย ตี๊ด!! ตี๊ด!! เสียงเครื่องปอดและหัวใจเทียมดังเตือนขึ้น ทุกคนในห้องผ่าตัดหยุดชะงัก หันไปดูที่เครื่องแอดและหัวใจเทียมที่ดังผิดปกติ     พยาบาล : &ความดันและหัวใจเต้นผิดปกติค่ะ!! //พยาบาลตะโกน เราหันไปที่พยาบาลคนที่ตะโกน กึก!! กึก!! ร่างกายผู้ป่วยบนเตียงมีการชัก ทุกสายตาต่างตกใจ     เรา : &ผู้ป่วยมีโรคชัก กดตัวผู้ป่วยไว้!! //เราตะโกนเสียงดัง ทุกคนมาช่วยกันจับแขนขาเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยกระตุก ฉู้ด!! มีเลือดไหลออกจากทรวงอกที่เราผ่าไว้ กระเด็นออกมาเต็มหน้าเต็มตาของผู้ช่วยแพทย์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ     เรา : &วิสัญญีจัดการฉีดยาpyridoxine (วิตามินB6) เดี๋ยวนี้!!//เราตะโกนเสียงดัง     ทีมวิสัญญี : &ไม่ได้ค่ะ ต้องรอการพิจารณาจากแพทย์ด้านนี้ก่อน     เรา : &ในห้องผ่าตัดใครใหญ่ที่สุด!!//เราถามเสียงดัง     ทุกคน : &หมอสโนว์ครับ,ค่ะ//ทุกคนต่างตอบพร้อมกัน     เรา : &คำสั่งของฉัน ไปเอาpyridoxineมาฉีดให้ผู้ป่วยเดี๋ยวนี้!!//ทุกคนต่างหันไปมองหน้ากัน     ทีมงานผู้หญิง : &ค่ะๆ//มีผู้หญิงคนนึงวิ่งออกไปจากห้องผ่าตัด     เรา : &ผู้ช่วย เดี๋ยวฉันทำเย็บต่อเอง//เราก้มลงไปมองที่หน้าอก แผลที่เราผ่าตัดไว้ แต่ข้างในเลือดออกเยอะมาก พยาบาลเอาเครื่องดูดเลือดเข้าไปดูดข้างใน คนอื่นยังกดแขนขาผู้ป่วยไว้     ผู้ช่วย : &เลือดออกเยอะขนาดนี้คงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่องกล้องลงไปก็ไม่ได้     เรา : &ฉันจะดูเอง//เราก้มลงไปดูที่หน้าอกอีกครั้ง นี่ขนาดมีเครื่องดูดเลือดแล้ว แต่เลือดก็ยังไหลออกมาไม่หยุด มองไม่เห็นข้างในเลยสักนิด     ผู้ช่วย : &หมอจะทำอะไร//ครืด!! ประตูห้องผ่าตัดถูกเปิด คนที่เข้ามาคือทีมงานผู้หญิงคนเดิมที่ออกไป     ทีมงานผู้หญิง : &pyridoxineมาแล้วค่ะ     เรา : &จัดการฉีดที่หลอดเลือดดำเร็วๆ//ทีมงานคนนั้นเดินเอายาไปฉีดที่บริเวณต้นแขนของผู้ป่วย จากนั้นผู้ป่วยนอนสงบนิ่งลง     พยาบาล : &ความดัน การเต้นของหัวใจกลับมาเต้นปกติแล้วค่ะ//พยาบาลหันมาบอกเรา ทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง     เรา : &เช็คเครื่องECMOด้วย//เราหันไปสั่งคนควบคุมเครื่อง     คนควบคุม : &เครื่องECMOทำงานปกติครับ//เราหันไปพยักหน้ากับคนควบคุมคนนั้น     เรา : &ต่อไปจะขอตรวจสอบที่มาของเลือด//เรากำลังจะเอามือล้วงเข้าไปในทรวงอกที่เราพึ่งผ่าตัดไป     ผู้ช่วย : &เดี๋ยวครับ แบบนี้มันจะทำให้ผู้ป่วยแย่ลงนะครับ//ผู้ช่วยแพทย์ จับมือห้ามเราไว้     เรา : &วางใจฉันเถอะค่ะ//เราจ้องหน้าผู้ช่วยแพทย์อย่างจริงจัง ผู้ช่วยยอมเอามือออกไป เราใช้มือขวาล้วงลงไปในทรวงอก ปิดตาสนิท ใช้มือคลำรอบๆหัวใจของผู้ป่วยอย่างเบามือ ในหัวกำลังจินตนาการรูปการทำงานของหัวใจอย่างช้าๆ     เรา : &รู้แล้ว!! //เราเปิดตากว้าง รู้สาเหตุของการที่มีเลือดไหลแล้ว เราค่อยๆเอามือออก     ผู้ช่วย : &เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ//ผู้ช่วยถามเราพร้อมทั้งทำหน้างงๆ     เรา : &เตรียมไหมละลายและอุปกรณ์การเย็บ//เราหันไปมองพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆ พบาบาลหันไปจัดเตรียมทันที     ผู้ช่วย : &หมอจะเอามาเย็บอะไรเหรอครับ     เรา : &หลอดเลือดทางขวาฉีกขาด     ผู้ช่วย : &ฉีกขาด!! เป็นไปได้ยังไง//ผู้ช่วยแพทย์ทำหน้าตกใจ     เรา : &อาจเพราะตอนที่กำลังหยิบคีบออกเมื่อกี้ ผู้ป่วยชักเกร็งเลยทำให้ปากคีบบาดเข้าที่หลอดเลือดพอดี     ผู้ช่วย : &ผะ..ผมไม่ได้ทำ//ผู้ช่วยตัวสั่น เซถอยหลัง     เรา : &ใจเย็นๆ คุณยังเป็นแค่หมอมือใหม่ เกิดเรื่องผิดพลาดแบบนี้ได้     ผู้ช่วย : &ผม..ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ// ผู้ช่วยแพทย์เริ่มหน้าซีด เพราะกลัวความผิดของตัวเอง หมอมือใหม่พึ่งจะมาเป็นผู้ช่วยก็แบบนี้แหละ พอตัวเองทำให้เกิดปัญหาระหว่างการผ่าตัดก็จะต้องกลัวเป็นธรรมดา     เรา : &ออกไปทำใจข้างนอกดีกว่า ฉันอยากใช้สมาธิกับการผ่าตัด//ฉันไล่ผู้ช่วยออกไป     ผู้ช่วยแพทย์ : &ผมออกไปไม่ได้ หากออกไปผมจะมีประวัติและไม่สามารถเข้าผ่าตัดคนไข้ได้อีก//ผู้ช่วยแพทย์จ้องหน้าเรา ใช่มันเป็นความจริงตามที่เค้าพูด เพราะความผิดพลาดครั้งนี้เกิดจากผู้ช่วยแพทย์ และเค้ายังมีอาการกลัว ซึ่งเป็นข้อห้ามในการเข้าผ่าตัดอีก     เรา : &ทางที่ดีออกไปเถอะ//ฉันพยายามพูดเรียบเรียบ     ผู้ช่วยแพทย์ : &ไม่!! ผมจะออกไปเมื่อผู้ป่วยตายเท่านั้น ถ้าผู้ตายจะกลายเป็นความผิดของคุณ ที่เป็นหมอผ่าตัด//ผู้ช่วยแพทย์พูดจบ หันไปคว้ามีดผ่าตัด จะทิ่มลงไปที่หัวใจคนไข้     เรา : &เฮ้ย!! จะทำอะไร!!//หมับ!! เราจับมือผู้ช่วยแพทย์ไว้ทัน มีทีมวิญญีผู้ชาย2คนมาล็อคแขนผู้ช่วยแพทย์ไว้ ดึงมีดในมีดออกไป     เรา : &จะบ้าหรือยังไง นี่จะฆ่าคนเลยเหรอ ไม่มีจรรยาบรรณของหมอสักนิดเลยหรือไง//ฉันตะคอกเสียงดัง ทุกคนกลับเงียบ     เรา : &เอาตัวเค้าออกไป//ผู้ชาย2คนช่วยกันดึงตัวผู้ช่วยแพทย์ออกไปจากห้องผ่าตัด     เรา : &เริ่มผ่าตัดต่อ//เราตั้งสมาธิอีกครั้ง ใช้สมาธิจินตนาการยังรอยรั่วที่เส้นเลือดทางขวาจัเการเย็บด้วยไหมละลาย ทุกคนในห้องต่างเงียบมีแค่เสียงดังจากเครื่องช่วยหายใจเท่านั้น เป็นไปด้วยดีเลือดหยุดไหลแล้ว พยาบาลก็สูบเลือดออกจนหมด แต่หัวใจดันเต้นช้าลง ดีนะที่ใช้ECMO ไม่งั้นผู้ป่วยตายไปนานแล้ว     เรา : &การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี ต่อไปจะทำการเย็บปิดแผล//เราใช้ลวดเย็บกระดูกหน้าอกให้ติดเหมือนเดิม และจัดการเย็บชั้นผิวหนังสู่สภาพเดิม     เรา : &การผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย// แปะ!! แปะ!! เสียงปรบมือดังไปทั้งห้องผ่าตัด     พยาบาล : &ยินดีด้วยค่ะคุณหมอ//ทุกคนในห้องต่างพากันยินดีกับการผ่าตัดครั้งนี้     เรา : &ทุกคนคงต้องโดนสอบสวนกับเรื่องเมื่อกี้แน่ แค่พูดความจริงก็พอ//เรากวาดสายตามอง ทุกคนต่างพยักหน้า จากนั้นเราเดินออกจากห้องผ่าตัด เปลี่ยนใส่ชุดกาวน์สีขาว ไปรายงานผลการผ่าตัดทั้งหมดให้ผู้ใหญ่ของรพ.ทราบ เรื่องทั้งหมดก็จัดการเรียบร้อย คนที่โดนทำโทษก็คือผู้ช่วยแพทย์คนนั้น ส่วนเรื่องที่เราให้ทีมวิญญีฉีดpyridoxineให้ผู้ป่วย กลับไม่โดนทำโทษใดๆ     สวัสดีเราชื่อ สโนว์ อายุ28 บ้านเราฐานะรวยมาก ม๊าของเราชื่อจัสทีน่า ป๊าชื่อโชกุน คงรู้กันดีแล้วสินะ ตอนนี้เราอยู่ที่เมกา เรามาเรียนที่นี่ตั้งแต่ป.ตรี-ป.โท ตอนนี้กำลังต่อป.เอกและเรายังทำงานไปด้วย งานของเราน่ะเหรอเป็นงานที่ทั้งช่วยคนและฆ่าคน ก็เพราะเราเป็นหมอล่ะสิ เราเป็นหมอรักษาโรคหัวใจที่เลือกเรียนหมอหัวใจก็เพราะป๊ากับม๊าผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้กันและกัน เป็นความรักที่โรแมนติกมากๆเลย เราฟังเรื่องราวจากป๊าและม๊ามาตั้งแต่เด็กๆทำให้เราค้นหารักแท้มาตลอด และแล้วมาเจอผู้ชายคนนึงที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปมันทำให้เราได้รู้ว่าความรักในโลกนี้ไม่มีอยู่จริง เรื่องความรักของป๊าม๊าเป็นแค่รักแท้ในล้านล้านล้านคนจะสมหวังและรักกันอย่างจริงใจ เราสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เชื่อในความรักอีกเป็นอันขาด จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับความรักจอมปลอมอีก เช้าวันนึงหลังจากที่เมื่อวานได้ผ่าตัดใหญ่ เอาซะเราเหนื่อยมาก เราลุกขึ้นอาบน้ำกำลังแต่งตัวเพื่อไปรพ.     ..?? ..: หม่าม๊าตื่นหรือยังคะ//มีเสียงเด็กผู้หญิงดังเข้ามาในห้อง เธอมาเรียกเราบนห้องทุกๆเช้า     : ตื่นแล้วค่ะคนสวย เดี๋ยวหม่าม๊าลงไปนะ//เราแต่งตัวต่อ     ..?? ..: เร็วๆนะบิวตี้รออยู่//แล้วเสียงก็เงียบไป ใช่แล้วเสียงเด็กผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า บิวตี้ เธอเป็นลูกสาวของเราเอง เธออายุ7ขวบกำลังเรียนชั้นประถมที่นี่ บิวตี้เป็นเด็กเรียนเก่ง ร่าเริง นิสัยกล้าแสดงออกเหมือนเด็กฝรั่ง ไม่กลัวใคร เราหัดให้ลูกพูดภาษาไทย แต่อยู่โรงเรียนจะพูดเป็นภาษาอังกฤษ บิวตี้นางหวงเรามากแทบไม่ให้ผู้ชายอื่นเข้าใกล้เราเลย ส่วนพ่อของบิวตี้เรื่องมันซับซ้อนไว้เราจะเล่าอีกที มีครั้งนึงที่บิวตี้ถามเรื่องพ่อแต่เราบอกว่าตายแล้ว ตั้งแต่นั้นบิวตี้ไม่เคยถามอีกเลย เรื่องของบิวตี้ป๊าม๊าของเรารู้ว่าเป็นลูกสาวของเรา พวกท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ยอมให้เราทำอะไรตามใจได้เพราะแลกกับที่เราตั้งใจเรียนเป็นหมอจนสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ พวกท่านเองยังไม่เคยได้กอดบิวตี้เลยสักครั้งเพราะตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้กลับไปไทยอีก มีแต่โทรวิดีโอคอลกับป๊าและม๊าเท่านั้น เราแต่งตัวเสร็จเดินลงมาข้างล่าง บิวตี้กำลังปิ้งขนมปังไว้ให้เรา     บิวตี้ : นี่ขนมปังทาแยมของหม่าม๊าค่ะ//เราเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่ประจำ     เรา : อายุแค่7ขวบแต่ทำเป็นทุกอย่างเลยนะ เก่งจริงๆ     บิวตี้ : แน่นอนอยู่แล้วก็บิวตี้เป็นลูกสาวของหมอสโนว์นี่คะ กริ๊ง..กริ๊ง เสียงโทรศัพท์มือถือเราดังขึ้น เราหยิบออกมาดูเป็นเบอร์ป๊าที่โทรมา ที่เมกา7โมงที่ไทยก็น่าจะดึก ป๊าโทรมาแบบนี้เรารู้สึกใจไม่ดีเลย เรารีบกดรับสาย     เรา : ว่าไงคะป๊า     ป๊า : รีบกลับไทยด่วนเลยอาการม๊ามึงไม่ไหวแล้ว     เรา : ม๊าเป็นอะไร     ป๊า : โรคหัวใจกำเริบ     เรา : สโนว์จะรีบจองตั๋วเครื่องบินด่วนๆเลยค่ะ     ป๊า : พาบิวตี้กลับมาด้วย     เรา : ค่ะๆ//ป๊ากดวางสายไปเลย     บิวตี้ : หม่าม๊ามีเรื่องอะไรเหรอคะ     เรา : อาม๊าป่วยโรคหัวใจกำเริบเราจะต้องรีบกลับไทย     บิวตี้ : หนูห่วงอาม๊าจังเลยค่ะ     เรา : บิวตี้รีบไปเก็บกระเป๋านะเดี๋ยวหม่าม๊าจะจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวที่เร็วที่สุดและหม่าม๊าจะไปลาที่รพ.ด้วย     บิวตี้ : เช้าใจแล้วค่ะ//เราโทรจองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินทันที มีเที่ยวบิน ไปไทยคืนนี้พอดี เรารีบไปลากับทางรพ.อย่างไม่มีกำหนดเพราะต้องดูอาการของม๊าทีน่าอีกทีว่าเป็นอะไรเยอะหรือเปล่่า ลาทางรพ.เสร็จเรารีบกลับมาที่บ้านจัดเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยเตรียมกลับไทย เราโทรไปถามอาการของม๊าจากป๊าเป็นระยะๆและบอกไปว่าจะขึ้นเครื่องกับไทยคืนนี้ จะถึงไทยก็น่าจะค่ำๆของอีกวัน ป๊าบอกจะให้คนมารับที่สนามบิน เรากับลูกมาถึงสนามบินที่ไทยแล้ว เราทั้ง2คนเดินออกมาจากสนามบิน     บิวตี้ : ใครจะมารับเหรอคะหม่าม๊า     เรา : ไม่รู้เหมือนกัน แต่อาก๋งบอกจะให้คนมารับ แต่จะรู้ไหมว่าเป็นใคร//เราหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาป๊าแต่มีคนมาสะกิดไหล่เราซะก่อน เราหันกลับไป     ..?? ..: สโนว์หรือเปล่า     เรา : ใช่ค่ะ//คนที่สะกิดเป็นผู้ชายคนนึงรูปร่างสูงวัยกลางคนมีหนวดนิดหน่อย ดูน่ากลัว     เรา : คุณเป็นใครคะ ทำไมรู้จักชื่อฉัน//เรายกคิ้วเชิงสงสัย     ..?? ..: จำเตี๋ยรามไม่ได้เหรอ//ผู้ชายคนนั้นชี้หน้าตัวเอง     เรา : เตี๋ยรามมมม//เราเข้าไปกอดเตี๋ยรามทันที เพราะเตี๋ยรามคือสามีของอี๋จัสมิน (เตี๋ย=ลุงเขย)     บิวตี้ : ใครคะ ทำไมต้องมากอดหม่าม๊าของบิวตี้ด้วย//บิวตี้แทรกตัวดันเราออกจากเตี๋ยราม     เรา : นี่เป็นลุงของม๊าเอง บิวตี้ต้องเรียกว่าตาใช่ไหม//เรามองหน้าบิวตี้สลับกับเตี๋ยราม เตี๋ยราม : ฟังแล้วดูแก่ชะมัด     บิวตี้ : แล้วจะให้เรียกว่าอะไรคะ//บิวตี้จ้องหน้าเตี๋ยรามอย่างไม่กลัว     เราแทรก : เรียกอาก๋งรามไง     บิวตี้ : ค่ะ อาก๋งราม//บิวตี้พูดเบาๆ     เตี๋ยราม : โตเป็นสาวคงสวยและน่ารักสมชื่อนะ     บิวตี้ : แน่นอนอยู่แล้วเพราะหนูเป็นลูกหม่าม๊าสโนว์ก็ต้องสวยเหมือนหม่าม๊าสิคะ//บิวตี้ส่งยิ้มให่เตี๋ยราม แล้วหันมามองหน้าเรา     เตี๋ยราม : ไม่มีคำว่าถ่อมตัวเลยนะ     เรา : กลับกันดีกว่าค่ะ สโนว์อยากไปดูอาการของม๊าทีน่าแล้ว     เตี๋ยราม : ได้สิ จากนั้นเตี๋ยรามพาเราเดินมาที่รถเก๋งคันสีดำ ซึ่งมีเด็กผู้ชายวัยรุ่นอายุน่าจะไม่ถึง15ยืนอยู่ที่รถ     เรา : ใครคะ//เราหันไปถามเตี๋ยราม เตี๋ยราม : นี่ลูกชายของธรไงชื่อ ไทเกอร์//เฮียธรเป็นลูกชายคนแรกของป้าจัสมินกับลุงราม เฮียธรมีศักดิ์เป็นพี่ชายเรา ส่วนไทเกอร์ก็เป็นหลาน     เรา : ไม่กลับมาหลายปี หลานๆเป็นหนุ่มกันหมดแล้ว ไปเจอข้างนอกคงจำไม่ได้ว่าเป็นใครกันบ้าง     บิวตี้ : ชื่อไทเกอร์ที่แปลว่าเสือ แต่หน้านี่เหมือนลูกแมวเลยนะคะอิอิ//บิวตี้หัวเราะเบาๆ     ไทเกอร์ : อีเด็กนี่!!//ไทเกอร์มองหน้าบิวตี้อย่างหาเรื่อง     เตี๋ยราม : เฮ้ย!! ไอ้เสือใจเย็นๆนั่นน้องสาว     ไทเกอร์ : แต่กงฟังมันพูดสิ     เรา : บิวตี้มารยาทไม่ดีนะคะ พูดแบบนี้ไม่ได้ เห็นไหมว่าพี่เค้าไม่ชอบขอโทษพี่เค้าซะ     บิวตี้ : ขอโทษค่ะ//บิวตี้ยกมือไหว้     ไทเกอร์ : ชิ๊!!     เรา : ถือว่าโกวขอนะเป็นพี่น้องอย่าทะเลาะกันเลย//เราหันไปพูดกับไทเกอร์     ไทเกอร์ : ครับโกว     เตี๋ยราม : งั้นก็กลับกัน//เราเดินขึ้นรถด้านหลังกับบิวตี้ เตี๋ยรามขึ้นนั่งข้างๆคนขับ เราหันไปถามทันที     เรา : เตี๋ยรามไม่ขับรถเองหรอ     เตี๋ยราม : ไม่ล่ะก็คนขับอยู่โน้นไง//เตี๋ยรามชี้ไปที่ไทเกอร์ที่เข้ามาในรถ     เรา : ห๊า!! แต่ไทเกอร์อายุยังไม่ถึง15ปีไม่ใช่เหรอ     เตี๋ยราม : ใช่ แต่ฝีมือขับรถไม่เป็นรองใครนะ     เรา : แล้วถ้าเจอตำรวจตรวจใบขับขี่ล่ะ     เตี๋ยราม : จะสนทำไมตระกูลเราใหญ่อยู่แล้ว     เรา : มันก็จริงนะ ไทเกอร์ขับรถพาพวกเรามาเรื่อยๆ เรามองไปรอบๆ นี่เหรอประเทศไทยที่เราไม่ได้กลับมานานมากเกืิอบ10ปีแล้วสินะ ทุกอย่างดูแออัด ไร้ระเบียบ ยิ่งกว่าเดิม     บิวตี้ : หม่าม๊าที่นี่รถติดมาก//บิวตี้กวาดสายตามองรอบๆอย่างตื่นเต้น     เรา : เรื่องปกติสำหรับประเทศไทยจ๊ะ//เราหันไปส่งยิ้มให้ลูก     บิวตี้ : ที่นี่ร้อนมากๆเลยค่ะ     เรา : ใช่ ที่นี่รัอน เวลาลูกออกไปไหนมาไหน ต้องทาโลชั่นกันแดดและพยายามเลี่ยงแดดนะ     บิวตี้ : อืม//บิวตี้หันไปดูโน้นนี่นั่น ถามเยอะมาก จนขับเข้ามาในเมือง มาจอดยังคฤหาส์หลังหนึ่ง เป็นสถานที่ที่คุ้นเคย ทุกอย่างยังดูเหมือนเดิม นั่นคือบ้านของเราเอง บ้านที่เราไม่ได้กลับมาเป็น8ปี เราเดินลงจากรถ คนแรกที่เดินออกมาจากบ้านเป็นผู้ชายร่างสูง ตัวผอม ไว้หนวดนิดหน่อย มีรอยตีนกาที่หางตา หน้าผากมีรอยย่นตามอายุ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อน ใส่กางเกงขายาวสีดำ ถึงจะอายุเยอะแต่ก็ยังแต่งตัวดูดีคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้คือป๊าโชกุนของเราเอง     เรา : ป๊าค่ะ//เราวิ่งไปกอดป๊าทันที น้ำตาแห่งความคิดถึงไหลออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว     ป๊า : กลับมาแล้วสินะ//ป๊ากอดเราตอบ กอดไว้แน่น ความรู้สึกอบอุ่นที่ห่างหายไปนาน     เรา : ฮือๆๆ คิดถึงมาก คิดถึงป๊ากับม๊ามากๆ//เราซบอกป๊า พูดไปร้องไห้ไป     บิวตี้ : หม่าม๊า//บิวตี้เดินมาจับเสื้อเราไว้ เราผละกอดออก เช็ดน้ำตาตัวเอง     เรา : ลืมแนะนำ นี่บิวตี้ลูกของสโนว์เอง และนี่อาก๋งโชกุนยังไงล่ะ     บิวตี้ : สวัสดีค่ะอาก๋ง//บิวตี้ยกมือไหว้ อย่างรู้ประเพณี     ป๊า : มาให้อาก๋งอุ้มหน่อยสิ อืบ~//ป๊าโชกุนอุ้มบิวตี้ขึ้น     เรา : แล้วม๊าล่ะคะ//เรารีบถามป๊า     ป๊า : นอนอยู่ที่ห้องข้างบน     เรา : เอ๊ะ!! ทำไมไม่ให้นอนที่รพ.ของเราล่ะคะ     ป๊า : ก็รู้อยู่ว่าม๊ามึงดื้อขนาดไหน     เรา : นั่นสิ//ป๊าพูดจบก็เดินนำเราเข้าไปในบ้าน บ้านที่เราคุ้นเคยทุกอย่างยังเหมือนเดิม     เตี๋ยราม : กูว่ากูกลับก่อนดีกว่าว่ะ//เตี๋ยรามพูดขึ้น     ป๊า : เออๆขอบใจมากที่ไปรับลูกกู     เรา : ขอบคุณนะคะเตี๋ย//เตี๋ยรามเดินออกจากบ้านไป ป๊าพาเรามาชั้นบน มายังห้องนอนชองป๊าและม๊า ป๊าเปิดประตูเข้าไป วางบิวตี้ให้ยืนกับพื้น เราเดินตาทมเข้าไปในห้อง มองยังบนเตียงที่มีผู้หญิงร่างบางนอนหลับสนิทอยู่ ด้านข้างมีเครื่องช่วยหายใจสี่เหลี่ยมวางอยู่ใกล้ๆ เรารีบวิ่งเข้าไปซบกอดทันที เรา : ม๊าค่ะ สโนว์กลับมาแล้ว สโนว์มาหาม๊าแล้ว//เราพูดไปน้ำตาไหลไป   
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม