EP.7 มันคุ้มแล้วกูวันนี้

1968 คำ
#ZIAN PART @สวนสาธารณะ 05.50น. อาทิตย์กว่าแล้วที่ผมทำเช่นนี้ ตื่นเช้าเพื่อมาดูน้องใส่บาตรกับแม่ของเธอ เฝ้ามองอยู่เงียบๆ ไม่ให้ใครเห็น และรอเวลาจนร้านเปิดบริการ มาฝากท้องที่ร้านคุณป้าทุกเช้า ผมกลายเป็นลูกค้ารายแรกเสมอวันนี้ก็เช่นเดิม เดินเข้ามาในร้านสายตากวาดมองรอบๆ หาใครบางคน แต่เห็นคุณป้าเพียงคนเดียวที่มองมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “สวัสดีครับคุณป้า” “วันนี้ก็มาอีกแล้วเหรอ ขาประจำเลยนะเราหาที่นั่งก่อนนะพ่อหนุ่มเดี๋ยวป้าเดินไปรับเมนู” “…!” ได้ยินแบบนั้นก็สตั้นไปหนึ่งวินาที ตามปกติต้องเป็นน้องผ้าแพรมาจดเมนูอาหารไม่ใช่หรือ ทำไมครั้งนี้ถึงเป็นคุณป้าไปได้ เดินไปนั่งโต๊ะประจำทั้งที่ยังสงสัยอยู่ และขณะนั้นคุณป้าก็เดินตามหลังมา พร้อมในมือถือปากกากระดาษจดรายการอาหาร คุณป้าเดินมาหยุดที่โต๊ะแล้วมองสงสัยเล็กน้อยเหมือนอยากถามอะไร “พ่อหนุ่มอยู่แถวนี้เหรอป้าเห็นมากินข้าวเช้าที่ร้านทุกวันเลย ติดใจกับข้าวฝีมือป้าเหรอจ๊ะ?” “ผมชอบโจ๊ก กวยจั๊บ ร้านป้ามากเลยรสชาติไม่เหมือนใครดี” ป้ายิ้มที่ได้ยินแบบนั้น “อย่างงั้นต้องมาบ่อยๆ นะจ๊ะ ว่าแต่พ่อหนุ่มชื่ออะไรเหรอ?” “ผมเซียนครับ” “อ้อเซียน ยังไม่ตอบป้าเลยเป็นคนแถวนี้เหรอ?” “ครับ ผมอยู่แถวนี้แหละเรียนมหาลัยใกล้ๆ นี่เองครับ” ป้าทำหน้าประหลาดใจ “อ้าวเหรอจ๊ะ ลูกสาวป้าก็เรียนมหาลัยใกล้ๆ เหมือนกันเพิ่งสอบได้เรียนอยู่ปีหนึ่ง” “อ้อ เหรอครับดีเลยตอนนี้ผมเรียนอยู่ปีสามถ้าน้องมีอะไรให้ช่วยหรือมีปัญหาอะไรบอกผมได้เลยนะครับ” “ดีจังเลย อุ๊ย! เดี๋ยวป้าไปทำกับข้าวให้ดีกว่า ชวนคุยเพลินเลย ว่าแต่เอาอะไรนะ?” “โจ๊กหนึ่งถ้วยครับ” คุณป้ารับเมนูเสร็จก็เดินกลับไป ไม่นานเท่าไรก็เดินกลับมาพร้อมโจ๊กหนึ่งถ้วย และน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว เหมือนว่าคุณป้ากำลังจะชวนคุยอีก ก็เหลือบเห็นเงาน้องผ้าแพรเดินออกมาจากในบ้าน สายตาก็เบนจากคุณป้ามองลูกสาวแทน วันนี้น้องยังสวมชุดเล่นเรียบร้อยอยู่เลย ขณะที่มองอยู่ไม่รู้ตัวเลยว่าคุณป้าสังเกตเห็นและหันมองตามสายตาของผม “อ้าวลูก ทำไมไม่เปลี่ยนชุดไปเรียนล่ะ?” “หนูมีเรียนตอนบ่ายค่ะแม่” “อ้อ” “ป้าครับขอกวยจั๊บอีกชามนึงครับ” ดันขัดจังหวะแม่ลูกคุยกันอยู่ และพอคุณป้าได้ยินก็หันไปบอกลูกสาว “ลูกแพรเอากวยจั๊บมาเสิร์ฟให้พี่เขาหน่อยลูก” น้องได้ยินที่แม่บอกก็เดินไปทำกวยจั๊บมาให้ ส่วนผมก็มองน้องซะเคลิ้มเลย มองจนลืมตัวว่าแม่เธอยืนอยู่ข้างๆ กำลังยืนจับจ้องอยู่ กว่าจะรู้ตัวก็หันไปเจอใบหน้ายิ้มรู้ทันของคุณป้าซะแล้ว เล่นซะทำตัวไม่ถูกเลย ไม่นานน้องก็เอากวยจั๊บมาวางที่โต๊ะ ผมก็แสร้งจิบน้ำแก้เขินเป็นเกร็งๆ ยังไงไม่รู้ ส่วนคุณป้าก็จ้องอยู่นั่นแหละยิ้มกริ่มไม่หยุด และเหมือนว่าจะพูดอะไร “แหม! ไม่รู้ว่าติดใจฝีมือป้าหรือติดใจลูกสาวคนสวยของป้าน้อ ~” พรวดดด! แค่กๆๆ น้ำแทบพุ่งสำลักน้ำใหญ่ คุณป้าพูดอะไรเนี่ย! “…” “แม่นี่ละก็พูดไปเรื่อย” “ฮ่าๆ ลูกแพรไปเอาผ้ามาเช็ดโต๊ะหน่อยสิลูก น้ำหกเต็มโต๊ะพี่เขาหมดแล้ว” บอกลูกสาวเสร็จคุณป้าก็หันมามองผมที่กำลังทำตัวไม่ถูก “ป้าแซวแรงไปไหมเนี่ย?” “…” คุณป้ายังกล้าถาม สำลักน้ำออกทั้งจมูกทั้งปากขนาดนี้ นี่ยังอายไม่หยุดเลย!ไม่รู้เลยว่าจะตอบป้าเขาไปว่าไง “แหม! ป้าแค่แซวเล่นนิดหน่อยเอง เป็นอะไรมากไหมพ่อหนุ่ม” แค่กๆ “ไม่เป็นอะไรครับป้า แค่สำลักน้ำนิดหน่อย” ขณะนั้นเองน้องผ้าแพรก็ถือผ้ามาเช็ดที่โต๊ะ ที่ผมสำลักน้ำกระเด็นเปื้อนไปเมื่อสักครู่ เธอทำความสะอาดจนหมดจด “…” กูอายก็อาย เขินก็เขิน จะลุกไปไหนก็ไม่กล้า แต่ว่า… ภาพตรงหน้าที่มีน้องสาวมายืนอยู่ใกล้ๆ แบบนี้แถมยังมีกลิ่นหอมจางๆ โชยมาเบาๆ เออออ…! มันคุ้มแล้วกูวันนี้! “ขอบคุณครับ” ผมพูดได้แค่ประโยคเดียว ‘ขอบคุณครับ’ เท่านั้น คงจะพูดอะไรอีกไม่ได้แล้ว บอกตามตรงผมอาย! ใจจริงอยากอยู่ต่อนานกว่านี้อีก อุตส่าห์มีโอกาสได้คุยกันครั้งแรก โว้ยยย ไอ้เซียน! หันไปมองคุณป้าที่กำลังยืนสังเกตการณ์ “ป้าครับ คิดเงินเลยก็ได้ครับ ผมกินต่อไม่ไหวแล้ว” ป้าสีหน้าประหลาดใจแล้วมองถ้วยโจ๊ก “กินไปนิดเดียวเองนี่ จะไปแล้วเหรองั้นเดี๋ยวป้าห่อกลับให้ละกันนะ” “เอ่อ… ครับๆ” เดินออกมาจากร้านไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับไปมอง โดนคุณป้าเล่นซะแล้ว คราวหน้าจะกล้ามาไหมล่ะเนี่ย ขับรถกลับคอนโดเอาโจ๊กไปแช่ตู้เย็นแล้วกระโดดขึ้นเตียงยังดีที่วันนี้มีเรียนสิบเอ็ดโมงได้งีบหลายชั่วโมงหน่อย พอใกล้เวลาก็ลุกจากเตียงอาบน้ำแต่งตัว มาถึงห้องเรียนก็เห็นพวกเพื่อนมากันแล้ว ผมเดินมานั่งข้างไอ้แดน นั่งปุ๊บก็ได้ยินเสียงเอ็มมี่พูดขึ้นมา “แดน ช่วงนี้อ้วนขึ้นปะเนี่ย ทำไมหน้ากลมซะขนาดนั้นไปทำไรมาเหรอยะ?” ไอ้แดนได้ยินแบบนั้นก็เหลือบมองผมตาขวางๆ ราวกับเป็นตัวต้นเหตุ “เพราะมึงเลยไอ้เซียน!” “อ้าว! เกี่ยวอะไรกับกูวะ?” “มึงเลยไอ้ตัวดี กูชวนไปกินข้าวที่ไหนก็ไม่ไป ให้แต่กูแดกของในตู้เย็นมึงอยู่นั่นแหละ” ไอ้แดนเริ่มโวยวายกับผม แล้วมันก็หันไปมองทางเฟยเหมือนจะฟ้องอะไรอีก “เฮ้ยเฟยมึงรู้ปะในตู้เย็นไอ้เซียนมีอะไร” ไอ้เฟยได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้างงใส่ “มีไรวะ มีหมูแช่ให้มึงกินรึไงมึงถึงได้อ้วนขนาดนี้” “ไม่ใช่โว้ย! ในตู้เย็นมันนะมีบราวนี่ อันนี้กูไม่แปลกใจแต่ที่กูแปลกใจ แม่งมี โจ๊ก กวยจั๊บว่ะ ไอ้สัส! ไข่กระทะในกล่องยังมีเลยมึง และแม่งมีขนมวุ้นด้วยติดป้ายห้ามกินด้วยนะมึง” พอพูดถึงขนมวุ้นมันก็หันมามองผมแล้วยิ้มเยาะใส่ “ขนมวุ้นที่ติดป้ายห้ามกินกูแดกหมดแล้วแหละ อร่อยดี!” “…!” เท่านั้นแหละผมก็ลุกขึ้นเอื้อมมือไปจับคอเสื้อมันเขย่าแรงๆ “มึงนะมึงไอ้เวร กูติดป้ายไว้แท้ๆ มึงอ่านภาษาคนไม่ออกเหรอวะ?!” เชี่ย! มันแดกไปกี่ชิ้นวะแช่ไว้ยังไม่ได้เช็กเลยว่ะ “มึงจะให้กูล้วงคออ้วกคืนไหมล่ะ แค่นี้ทำเป็นหวง” แม่งไม่หวงได้ไงวะ นั่นขนมน้องผ้าแพรทำกับมือ ไอ้ห่า! ผมปล่อยมือที่จับคอเสื้อมัน แล้วนั่งที่เดิม ก็ได้ยินเสียงมันพูดขึ้นอีก “เดี๋ยวมึงก็ไปเดินสายงานบุญก็ได้คืนแล้วมีทั้งโจ๊ก กวยจั๊บอะไรนั่น” เฮ่อ! มันเหมือนกันที่ไหนวะ ได้แค่บ่นในใจคนเดียวบอกใครไม่ได้ ขณะนั้นเองที่ผมกับไอ้แดนเถียงกันอยู่เอ็มมี่ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ก็พูดขึ้นมาบ้าง “เซียนกินอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?” เธอไม่ใช่แค่พูดขึ้นมาแต่ยังมองผมอย่างสงสัย รวมถึงไอ้เฟยที่นั่งข้างเอ็มมี่ด้วย ที่สงสัยเหมือนกันจนต้องเอ่ยปากถาม “เออ นั่นดิปกติแม่งแอนตี้ขนมไทยไม่ใช่เหรอวะ เห็นกินทีไรก็บ่นบอกว่าหวานไว้วันหลังกูต้องไปรื้อตู้เย็นมึงบ้างแล้วเผื่อจะเจออะไรดีๆ” ไอ้เฟยมันยิ้มมุมปากมองผมราวกับจับพิรุธบางอย่าง เอ็มมี่ก็สำทับขึ้นมาอีก “นั่นสิเหมือนมันมีอะไรน่าสงสัยนะ ใช่ไหมเซียน หึๆ” ไอ้คู่นี้แม่งน่ากลัวเล่นซะเกือบเสียอาการ “พวกมึงเป็นนักสืบกันรึไงวะ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ กูคิดอยากกินไรกูก็ซื้อ” “หึๆ” พวกนั้นหัวเราะอย่างกะรู้ว่าผมแอบทำอะไรอยู่ ได้แต่หันมองไปทางอื่นกลบเกลื่อนกลัวเผยพิรุธ แล้วก็เห็นอาจารย์เพิ่งเดินเข้าห้องเรียนมา เยี่ยม! มาได้จังหวะพอดี ผมหันไปบอกพวกมันที่ยังจ้องกันไม่เลิก “นั่นจารย์มาแล้วตั้งใจเรียนได้แล้วพวกมึงอะ” พอพวกมันได้ยินที่บอกแล้วหันไปเห็นอาจารย์ ก็ต่างเลิกสนใจผมต่างคนต่างตั้งใจฟังอาจารย์บรรยายเนื้อหาในบทเรียน เลิกคลาสผมกลับคอนโดส่วนพวกเพื่อนเตรียมเดินทางกลับบ้านในเย็นวันศุกร์ ไอ้แดนที่ชอบตามมาเล่นที่ห้องทุกวันมันก็กลับบ้านเช่นกัน @ZCondo 17.00น. มาถึงคอนโดก็กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง แล้วเล่นโทรศัพท์เพิ่งนึกได้ว่าหลายวันก่อนได้เบอร์โทร. น้องผ้าแพรกับร้านขายขนมที่ศูนย์อาหารมา มองเบอร์โทรที่ถ่ายเก็บไว้แล้วบันทึกลงเครื่องเรียบร้อย แต่ว่าใครจะกล้าโทร. หา ถ้าน้องดันรับสายขึ้นมาคิดไม่ออกเลยว่าประโยคแรกจะพูดอะไร พอได้เบอร์มาก็อยากได้รูปถ่ายเก็บไว้มองตอนคิดถึง… น้องเพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่ง บรรยากาศรับน้องปีนี้จะมีรูปน้องเขาในนั้นบ้างรึเปล่านะ… คิดได้แบบนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดโน๊ตบุ๊คเข้าเพจมหา’ลัยดูรูปกิจกรรมรับน้องที่มีเมื่อหลายวันก่อน เลื่อนเมาส์หาอยู่นานก็เจอโพสต์รับน้องของปีนี้ แต่ว่าไม่ง่ายเลยที่จะเจอรูปถ่าย เพราะในเพจรูปกิจกรรมรับน้องมีทุกคณะคนอย่างเยอะ ผมดูรูปไปเรื่อยๆ ทีละรูปอย่างใจเย็น จนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงเป็นพันๆ รูปที่ดูไปแล้ว แต่ไม่มีรูปน้องผ้าแพรสักรูป “…” อ่า… เหมือนเพิ่งนึกได้ทำไมกูไม่หาในเพจคณะศึกษาศาสตร์ที่น้องเรียนอยู่วะ?! โว้ย! ไอ้เซียนทำไมมึงโง่ขนาดนี้วะ ด่าตัวเองเสร็จก็หาเพจคณะศึกษาศาสตร์ทันที และแน่นอนว่าในเพจนั้นมีกิจกรรมรับน้องรูปถ่ายกิจกรรมก็เยอะเอาการ แต่ว่าผมไม่คิดจะหยุดความพยายาม ยังไงก็ต้องหารูปน้องมาเก็บเอาไว้ดูให้ได้! ผมค่อยๆ ดูทีละรูปกลัวว่าจะพลาดถ้าดูผ่านๆ เวลาผ่านไปราวยี่สิบนาที ความพยายามไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย ดีใจแทบแย่ มีรูปน้องผ้าแพรในชุดพละใบหน้าเปื้อนสีที่ป้ายโดนหน้า น้องผ้าแพรหน้าตาดีระดับหนึ่งแน่นอนว่าช่างภาพต้องถ่ายรูปน้องมากกว่าคนอื่น นั่นก็เป็นเรื่องดีที่ผมจะได้เก็บภาพเธอได้เยอะๆ หน่อย แต่ว่าผมไม่ได้อยากให้ใครมองด้วยน่ะสิ นี่แหละปัญหา นี่ขนาดไม่ได้เป็นอะไรกันก็ยังหวงขนาดนี้ เลิกคิดเพ้อเจ้อแป๊บนึงก็กดเมาส์คลิกรูปเซฟไว้ในเครื่องทุกรูปที่มีน้องผ้าแพร วันนี้ที่พยายามไม่เสียแรงเปล่าเลย น้องผ้าแพรคณะศึกษาศาสตร์เอกภาษาไทย… พออ่านหน้าเพจเหมือนว่าอีกไม่กี่วันจะมีกิจกรรมรับน้องเอกภาษาไทย และผมจำได้ว่าน้องเขาเรียนเอกภาษาไทยซะด้วยสิ หึๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม