EP. 9เอ็มมี่ come on!

1668 คำ
#ZIAN PART @อาคารข้างลานกิจกรรมมหา’ลัย แอบมาดูน้องผ้าแพรรับน้องสาขา ของคณะศึกษาศาสตร์ ใครจะไปคาดคิดว่า จะได้เจอกันซึ่งๆ หน้า แถมยังมีโอกาสได้ใกล้ชิดพูดคุยกันมากขนาดนี้ มิหนำซ้ำคาดไม่ถึงว่าน้องเขากำลังตามหาผมอยู่ด้วย ถึงแม้ตอนแรกเจ้าตัวจะไม่รู้ก็ตามเถอะว่าคนที่ตามหามันยืนอยู่ตรงหน้านี้แล้ว พอมีโอกาสได้คุยกัน ผมเองก็อยากถามสิ่งที่คาอยู่ในใจจนถึงขั้นเหม่อลอยไม่กล้าถามตรงๆ ว่าน้องเขามีแฟนรึยัง อยากถามใจจะขาดแต่ก็ยั้งปากทุกครั้ง ขณะที่กำลังคิดไม่ตกก็เพิ่งนึกได้ สงสัยอยู่เหมือนกันว่าน้องเขามาตามหาผมทำไม ตามหาทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้ามันชื่อ เซียน! “ว่าแต่... ตามหาพี่ทำไมเหรอครับ?” ผ้าแพรสตั๊นไปชั่วครู่หนึ่งที่จู่ๆ ก็ถูกถามขณะที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนที่เธอจะเรียบเรียงคำพูดแล้วพูดออกมา “คือว่า… ที่หนูตามหาพี่เซียน เพราะได้รับภารกิจจากพี่รหัสมาค่ะ” “หืม?! ภารกิจมีเกี่ยวกับพี่ด้วยเหรอ?” “คือ… พี่รหัสให้หนูมาขอเบอร์โทรของคนที่คิดว่าหล่อที่สุดในคณะนั้น และหนูก็จับฉลากได้คณะบริหารธุรกิจที่พี่เซียนเรียนอยู่ ก็เลย… ตั้งใจจะมาขอเบอร์โทรพี่เซียนค่ะ ถ้าไม่ได้เบอร์โทรพี่กลับไป พี่รหัสหนูจะไม่รับเป็นสายรหัสค่ะ” หัวใจมันพองโตที่น้องยังคิดว่าผมดูดีในสายตาของเธออยู่ เกือบจะหุบยิ้มไม่อยู่ที่ได้ยินน้องพูดแบบนั้น “แล้วมั่นใจได้ไงว่าพี่เป็นหนุ่มหล่อที่สุดของคณะบริหารธุรกิจ ว่าแต่… เรามองว่าพี่หล่อจริงๆ งั้นเหรอ?” “เปล่าค่ะ หนูไม่ได้คิดเองหรอกพอดีเพื่อนบอกมา ว่าพี่เซียนจัดอยู่ในกลุ่มชายหนุ่มหน้าตาดีของคณะบริหารธุรกิจ ฮิฮิ” “…!” ได้ยินแบบนั้นก็เหวอเลยสิครับ เวรกรรม นึกว่าจะดูดีในสายตาน้องเขาสักหน่อยจะว่าไปกูก็เสือกไปสำลักน้ำที่ร้านน้องเขาน้ำหูน้ำตาไหล มันก็คงจะมีภาพดีๆ อยู่หรอกมั้งนะ เฮ้อ… “เอ่อ… พี่เซียนคะ พี่จะให้เบอร์หนูได้ไหม?” ผมเลิกคิ้วมองเผลอยิ้มกวนใส่ “ถ้าพี่ไม่ให้ล่ะ” หลังจากตอบกลับไป เห็นเธอหน้าเสียนิดหน่อยจากการที่ถูกปฏิเสธ แต่แค่แป๊บเดียวก็กลับมองผมอย่างอ้อนวอน “ฮึ้ยย ช่วยหนูหน่อยน้า~” โอ๊ย! เจอลูกอ้อนไม้นี้ ใจผมแทบละลายแล้ว ไม่ได้ๆ ใจแข็งไว้ไอ้เซียนตอนนี้มึงเป็นต่ออยู่ อย่ายอมตกเป็นรองเด็ดขาด! ผมทำหน้าจริงจังคิดหนักพร้อมกับยื่นขอเสนอต่อรอง “อืมม… ถ้าพี่ให้ไปคือว่าพี่เสียเปรียบอะดิ งั้นขออะไรแลกเปลี่ยนได้ไหมล่ะ?” “อะไรเหรอคะ?” มองเธอเอียงคอทำท่าทางสงสัย น่ารักชะมัดเลยโว้ย ใจระส่ำไม่เป็นจังหวะแล้ว “เอาไลน์ เฟส ของน้องมาแล้วค่อยแลกเบอร์กันดีไหม แต่ถ้าไม่ให้ก็ไม่เป็นไรนะ” พอบอกไปแบบนั้นเธอก็ทำท่าคิดหนักอย่างจริงจัง น่ารักโคตรๆ! “อืมมม… ไลน์หนูมีไว้แค่ติดต่ออาจารย์ ส่วนเฟสก็ไม่ค่อยเล่นเท่าไหร่ไม่ค่อยอัปเดตอะไรด้วยซ้ำ ไม่ได้โพสต์ ไม่ได้ไปเที่ยวไหน มีแค่รูปแมวข้างบ้านบางครั้งเท่านั้น เพื่อนในเฟสก็มีไม่มีกี่คนเพื่อนมัธยมก็นิดหน่อย” “…” น้องบอกแบบนี้แปลว่าอะไรกัน สรุปจะแลกเปลี่ยนกับผมรึเปล่านะ? ขณะที่ใช้ความคิดอยู่นั้น ไม่รู้ตัวเลยว่ามีบางคนได้แอบสังเกตและเดินป้วนเปี้ยนบริเวณที่ผมกับน้องผ้าแพรนั่งอยู่ ชายปริศนาคนนั้นเหมือนจะเดินผ่านพวกเราไป แต่แล้วเขาก็วกถอยหลังกลับมายืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับจ้องมาที่ผมกับน้องผ้าแพรที่กำลังสนทนาต่อรองกันอยู่ “ก็ได้ค่ะ…” ได้ยินคำตอบก็เกือบเก็บอาการไม่อยู่ อยากจะกระโดดร้องไชโยออกมาดังๆ แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพื่อไม่ให้มีพิรุธมากเกินไป พอน้องบอกเบอร์โทรมาก็แสร้งทำเหมือนบันทึกข้อมูลใหม่ทั้งที่มีเบอร์อยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ได้จากร้านขายขนมที่ศูนย์อาหาร “เดี๋ยวพี่โทร. หานะ ให้เรากดรับสายพี่ก่อนแล้วอย่าลืมบันทึกด้วยล่ะ” น้องพยักหน้าหงึกๆ ขณะที่มือของผมกดปุ่มโทร. ออกเพื่อต่อสายไปยังเครื่องของเธอ “เรียบร้อยค่ะ ส่วนไลน์ พี่เซียนก็เอาเบอร์หนูค้นหาได้เลยนะคะ” ได้ยินแบบนั้นแล้วจะรออะไรล่ะครับ ผมก็ทำทันทีและส่งสติกเกอร์ไปหนึ่งครั้งพร้อมกับมีความคิดแวบเข้ามาในหัว “ถ้าว่างพี่ทักไปได้ไหม เอ่อ… เผื่อสั่งข้าวไว้ล่วงหน้าน่ะ” “ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูบอกแม่ทำไว้ให้ค่ะ” อื้มๆ~ แค่กๆๆ ขณะที่กำลังพูดคุยกับน้องผ้าแพรอยู่เพลินๆ ก็มีเสียงไอแห้งๆ เป็นระยะซึ่งมันรบกวนบรรยากาศเป็นอย่างมาก ผมคิดในใจป่วยทำไมไม่นอนอยู่บ้านวะ ซึ่งก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เดี๋ยวก็คงเงียบไปเอง อะแฮ่ม อะแฮ่ม แค่กๆๆ อะ แฮ้ม! แค่ก แค่ก แค่ก แชะๆ เหมือนเสียงจะดังขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกรำคาญแม่งใครกันวะ?! ที่มีตั้งเยอะตั้งแยะไม่ไปนั่ง ผมค่อนข้างหัวเสียนิดหน่อย แต่แป๊บเดียวก็กลายเป็นอารมณ์หดหู่เมื่อเห็นน้องผ้าแพรกำลังเก็บของแล้วลุกขึ้น “พี่เซียนคะ งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะเดี๋ยวจะไปรายงานพี่รหัส” “อ้อครับ” น้องผ้าแพรเดินกลับไปทางลานกิจกรรม ผมก็ได้แต่ยืนมองแผ่นหลังบอบบางอยู่เงียบๆ จนน้องหายไปไม่เห็นแม้แต่เงา เฮ้อ… อุตส่าห์ได้มีโอกาสได้คุยกันทั้งที กำลังไหลลื่นเลย น่าจะเป็นวันที่ดีเพอร์เฟคแล้วแท้ๆ ถ้าไม่เพราะมีไอ้บ้าที่ไหนมาขัดจังหวะก็คงไปได้สวยกว่านี้ไหนขอดูหน้าชัดๆ หน่อยสิ ไอ้พวกชอบขัดความสุขของคนอื่น “เฮ้ย!! เชี่ยแล้วไง! มึงมาไงวะ ไอ้แดน!” พอหันไปมองโต๊ะข้างๆ ก็เห็นไอ้แดนยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ มันมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ตัวเลย ใครจะไปคิดว่ามันจะโผล่มาได้ ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนี้ และสายตาของมันกำลังสื่อถึงความกวนตีนขั้นสุด “อะแฮ่ม แฮ่มๆๆ” “ยัง ยัง มึงยังไม่หยุดอีก ส้นตีนติดคอมึงรึไงวะ?” “ฮั่นแน่ะ ฮั่นแน่ะๆ” “นี่มึงจะแซวกูไม่หยุดใช่ไหม ได้! กูจะทำให้มึงต้องร้องขอชีวิต” พูดจบก็ทำท่าถอดรองเท้าแสร้งจะแพ่นลงกบาลมันอย่างหมั่นไส้ “โว โว โว ใจเย็นก่อนพ่อรูปหล่อข้าน้อยแค่ผ่านทางมาไม่ได้เจตนาอย่าถือสาข้าเลย โฮะๆๆ” ผมสวมรองเท้ากลับไปที่เดิมก่อนจะเอามือกุมขมับ จบแล้ว มันจบแล้ว! เสือกมาเห็นตอนอยู่กับหญิง จังหวะนรกฉิบหาย แล้วกูจะอธิบายยังไงดีวะ ยังคิดอะไรไม่ทันออกก็ได้ยินเสียงไอ้แดนตะโกนโหวกเหวกขึ้นมา “เอ็มมี่ come on! แล้วไอ้เฟยอะเรียกมันด้วย! มีเรื่องเด็ดๆ โว้ย!” เท่านั้นแหละผมก็หันไปมองตาม เห็นเอ็มมี่เดินมากับไอ้เฟย เชี่ยแล้วไหมล่ะ มากันครบแก๊งเลยสถานการณ์เลวร้ายสุดๆ ไม่นานเฟยและเอ็มมี่ก็เดินมาถึงโต๊ะ ซึ่งตอนนี้อยู่กันครบทุกคนในแก๊ง ส่วนผมได้แต่นั่งนิ่งๆ ดูสถานการณ์ไปก่อนไม่อยากจะพูดอะไรออกมาตอนนี้ กลัวหลุดไอ้พวกนี้ยิ่งไม่ธรรมดา ในตอนนั้นเอ็มมี่มองมาพอดี “อ้าวเซียนก็อยู่ด้วยเหรอ?” “อื้ม มานั่งเล่นหาอะไรเย็นๆ กิน” ผมโชว์แก้วชาไข่มุกที่ยังไม่ได้เปิดและน้ำแข็งละลายไปแล้ว - - ในตอนที่กำลังจะพูดต่อ สายตาดันเหลือบไปเห็นท่าทางสยดสยองของไอ้แดน มันเอามือทั้งสองข้างเท้าคางพร้อมส่งสายตาหวานปิ๊งๆ มาที่ผม แม่ง! โคตร กวนตีน “ไอ้เซียนน~ มึงมีไรจะบอกพวกกูปล๊าววว~ มากันครบองค์ประชุมแล้วนะมึงงง” ไอ้แดนพูดพร้อมขยิบตาให้ผมอีกรอบ “…” ไอ้เฟยที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ็มมี่ยังไม่รู้เรื่องอะไร ก็แอบทำหน้างงๆ ก่อนจะเอ่ยปากถาม “ทำไรกันอยู่วะพวกมึง ไม่ไปดูรุ่นน้องเรารับน้องกันเหรอ?” ไอ้แดนโพล่งทันทีราวกับรอเวลานี้มาถึง “ก็ไม่มีอะไรหร้อก~ พอดี๊พอดีกูเดินผ่านมากะว่าจะไปหาอะไรเย็นๆ กิน พลางดูสาวสวยซะหน่อยซึ่งมันก็เป็นปกติของกูอะนะ แต่รู้อะไรปะ กูเจอเพื่อนคนนึงเว้ย มันทำตัวผิดวิสัยที่พวกเรารู้จักว่ะ มันมาแอบหลีหญิง!! พูดไปเดี๋ยวหาว่ากูซุย อะกูมีหลักฐาน! เดี๋ยวโชว์เลย!” แล้วมันก็ล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วเปิดเข้าไปในแกลอลี่ เฮ้ย! นั่นมันรูปผมกับน้องผ้าแพรกำลังนั่งคุยกันแล้วก็มีใบหน้าทุเรศของมันเซลฟี่อยู่ตรงกลาง แม่งมันไปแอบถ่ายตอนไหนวะ! ผมเห็นก็รีบเข้าไปยื้อแย่งทันทีจะเอามาลบ แต่สารภาพตามตรงก็แอบอยากได้รูปที่มันถ่ายจะเก็บเอาไว้ดูเหมือนกัน ประเด็นคือผมไม่อยากให้พวกนี้มันเห็นน่ะสิ! “เฮ้ย เอามานี่เลยเอามานี่เลยไอ้เวร”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม