#PHAPARE PART
@ร้านข้าวแม่สุนีย์
“ผ้าแพรเก็บถ้วยไปไว้หลังบ้านหน่อยลูก ไม่ต้องล้างนะ เดี๋ยวแม่ล้างเอง”
“ได้ค่ะแม่ ขอโทษด้วยนะคะหนูไม่ได้มาช่วยเสิร์ฟลูกค้าเลย”
“จะเรียกมาได้ยังไงละจ๊ะ แม่ก็รู้อยู่ว่าลูกสาวแม่ไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอล์”
“…”
ฉันมองถ้วยที่วางอยู่บนโต๊ะของลูกค้ากลุ่มแรก ยังจำได้ว่าแค่เดินผ่านพวกเขาก็เกือบจะเป็นลมเพราะกลิ่นเหล้าเคล้าคลุ้งไปทั่วร้าน จนต้องเสียมารยาทเอามือปิดจมูกตัวเองตอนที่เดินผ่านพวกเขาตอนนั้น
มือค่อยๆ เก็บถ้วยขึ้นมาซ้อนกันก่อนจะยกทั้งหมดนั้นเดินไปที่หลังร้าน และจัดการล้างเรียบร้อยอย่างน้อยๆ ก็แบ่งเบางานของแม่ได้บ้าง
และสักพักก็ได้ยินเสียงบ่นของคุณแม่พร้อมกับเสียงฝีเท้าเดินตามหลังมา คิดว่าแม่คงได้ยินเสียงเปิดน้ำล้างจาน
“ยัยลูกคนนี้นี่! บอกให้เอาไปวางเฉยๆ ไม่ต้องล้างเอาเวลาไปรีดชุดเตรียมตัวไปเรียนเถอะ”
ได้แต่ยิ้มแล้วบอกแม่ “หนูทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้วค่ะ เหลือแค่เตรียมกับข้าวให้คุณยาย”
“ไม่เป็นไรหรอก กับข้าวคุณยายเดี๋ยวแม่ทำเอง ลูกรีบไปเรียนเถอะเดี๋ยวจะเข้าเรียนสาย”
“เปิดเทอมมาจะเป็นเดือนแล้ว หนูเริ่มปรับตัวได้แล้วค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงว่าจะไปเรียนสาย งั้นหนูไปก่อนนะคะ”
“จ้ะ รีบไปเถอะลูก”
ฉันล้างมือเสร็จแล้วเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา และหยิบเอาสัมภาระเตรียมพร้อมไปเรียน
เดินทางมาถึงมหา’ลัยแทบจะร้องวิชาแรกที่เจอก็คือภาษาอังกฤษขั้นต้นถึงจะเป็นวิชาเสริมแต่มือเผลอกุมขมับตัวเอง ฉันเรียนครูภาษาไทยนะทำไมต้องมาเรียนภาษาอังกฤษด้วย นี่อุตส่าห์หนีการเรียนภาษาอังกฤษจากตอนเรียนมัธยมยังต้องมาเจอตอนเรียนมหา’ลัยอีกเหรอ
ถึงจะบ่นไปก็เท่านั้นไม่ทำให้หลุดพ้นจากวิชานี้ไปได้หรอก ทำได้แค่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมคิดว่าสักวันคงจะชอบวิชาภาษาอังกฤษได้บ้างนะ
#ZIAN PART
@ZCondo
มาถึงคอนโดผมกระโดดขึ้นเตียงแทบจะทันทีเสื้อผ้าไม่ต้องเปลี่ยนนอนตัวเหม็นทั้งอย่างนั้น แต่ว่าก่อนที่ตาจะปิดจริงๆ ภาพสาวน้อยร้านโจ๊กก็ลอยเข้ามาในสมอง เช้านี้คิดว่ากำลังจะฝันดี ว่าแต่… น้องเขาชื่ออะไรนะ?
กริ๊ง! กริ๊ง!
เสียงนาฬิกาดังจนสะดุ้งตื่น ผมงัวเงียคว้าหาที่มาของเสียงก่อนจะค่อยๆ ลืมตาปิดเสียงของมันแล้วลุกจากเตียงนั่งกุมขมับ ปวดหัวชะมัดเมื่อคืนดื่มไปค่อนข้างเยอะ ผมนั่งอยู่ขอบเตียงแป๊บนึงปรับร่างกายแล้วค่อยลุกไปอาบน้ำ บ่ายวันนี้มีเรียนวิชาเอกกับพวกเพื่อน ไม่รู้ว่าไอ้พวกบ้านั้นมันตื่นกันหรือยัง?
@คณะบริหารธุรกิจ
เข้ามาในคณะบริหารธุรกิจผมเดินขึ้นไปตากลมบนดาดฟ้ายังมีเวลาเหลือก่อนจะถึงเวลาเรียน และก็มีเวลาพอที่จะคิดถึงน้องสาวคนนั้น…
เธอทำให้ผมประหลาดใจตัวเองอยู่บ่อยๆ ก่อนนี้ไม่เคยอยากรู้จักชื่อผู้หญิงคนไหนเพราะไม่ได้สนใจขนาดนั้น ไม่ว่าใครจะผ่านเข้ามาหรือพยายามจะเข้าหาก็เฉยชาไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่คราวนี้กลับต่างออกไปเป็นตัวผมเองที่อยากรู้จักเธอก่อน อยากทำความรู้จัก อยากรู้ชื่อ โดยที่บางทีเธออาจไม่ได้อยากรู้จักผมซะด้วยซ้ำ
จะว่าไปแล้วไม่รู้ว่าตอนนี้น้องสาวร้านโจ๊กกำลังทำอะไรอยู่ หรือถ้าผมอยากรู้มากๆ ก็น่าจะแวะไปหาข้าวกินที่ร้านน้องอีกครั้งดีไหมนะ
แต่...
เฮ้ย! กูเพิ่งไปกินมาเมื่อเช้า นี่กูคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย?! เจอหน้าเขาแค่ไม่กี่วินาทีก็นึกถึงเขาแล้วเหรอ มึงนี่มันใจง่ายไปนะไอ้เซียน!
เฮ้อ...
เสือร้ายอย่างผม จะไปตกหลุมรักยัยแมวเหมียวง่ายๆ ได้ไงกัน
จะว่าไปตัวผมกำลังหมกมุ่นเรื่องของเธอมากไปรึเปล่านะ ได้แต่ส่ายหัวล้างสมองคิดว่าใกล้ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว แต่ว่าเมื่อผมหันหลังกลับไปก็เผลอสบถร้อง เชี้ย! ออกมาอย่างดัง
ไอ้! แดนนรก!
ไอ้เวร!
มันยืนอยู่ข้างหลังนานแค่ไหนไม่รู้แต่ตอนนี้มันกำลังเลียไอติมแผล็บๆ อยู่ตรงหน้าแถมยังทำหน้ากวนตีนใส่อีก
“…”
มันเลิกเลียไอติมเอียงคอนิดนึงทำท่าจะพูดด้วย “มึงมายืนเป็นพระเอกเอ็มวีอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียววะ? มาก็ไม่ชวนเพื่อน กินไอติมมะจะได้ใจเย็น” มันพูดจบก็เลียไอติมพรืดใหญ่ แล้วยื่นไอติมที่เปียกโชกด้วยน้ำลายมาให้แทบจะจ่อหน้า!
“ไอ้ฉิบหาย โสโครกฉิบ! เอาไปให้ห่างกูเลย ทุเรศสัส!”
ผมด่ามันแต่มันยักไหล่ทำหน้าไม่สนใจแล้วกลับไปเลียไอติมต่อ แม่ง! เสียอารมณ์ชะมัด เท้าก้าวเดินลงดาดฟ้าไม่สนใจมัน ระหว่างทางจะเข้าห้องเรียนเห็นไอ้เฟยกับเอ็มมี่เดินผ่านหน้าพอดี
พอไอ้เฟยเห็นผมกับไอ้แดนที่เดินตามหลังมามันก็รีบบอกทันที “เฮ้ย! พวกมึงรีบไปเข้าเรียนกันได้แล้วคลาสจะเริ่มละเนี่ย เดี๋ยวอาจารย์เล่นพิเรนทร์ล็อกห้องเข้าเรียนไม่ได้อีก ปะ”
“เออๆ กูก็กำลังไปนี่ไง ห่า”
แล้วพวกผมทั้งหมดก็เดินเข้าเรียน แต่ระหว่างที่กำลังจะถึงห้องเรียนเห็นอาจารย์ก้มลงจะล็อกประตูพอดี พวกผมพากันวิ่งราวกับม้าดีดสุดชีวิตแล้วรีบดันประตูที่กำลังจะถูกล็อกให้เปิดออกจนได้ อาจารย์นี่ก็บ้าชอบล็อกห้องแกล้งนักศึกษา วันๆ นึงทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะเนี่ย!
หลังจากจบคลาสเรียนในช่วงบ่ายผมโบกมือลาพวกเพื่อน จะกลับคอนโดไปนอนพักสักหน่อย กะว่าพอตื่นมาจะได้มีแรงไปเที่ยวกับไอ้พวกบ้านี่ต่อ
แต่ว่า…
คิดว่าตัวเองอาบน้ำเสร็จแล้วและกำลังจะนอนพักไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมตัวผมถึงได้มาโผล่ที่นี่ได้ละเนี่ย?!
โอ้ว มาย ก๊อด!!
ผมยืนงงอยู่ตรงสวนสาธารณะที่เพิ่งพากันแดกเหล้ากับไอ้พวกบ้าเมื่อคืน แต่สายตากำลังจ้องมองร้านโจ๊กที่ปิดบริการอยู่ นี่ใจลอยมาถึงนี่เลยเหรอหัวจะปวดว่ะ!
ว่าแต่… น้องคนนั้นอยู่บ้านไหมหนอ?
ไม่ ไม่ ไม่ กำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย! ที่ใจลอยมาถึงนี่คงเพราะติดใจโจ๊กฝีมือคุณป้าต่างหาก เกิดมาไม่เคยกินโจ๊กอะไรอร่อยเท่านี้ต้องใช่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นจะขับรถมาตั้งไกลเพื่อมาโผล่ที่นี่ทำไม
อืม แต่ว่า… ก็ไม่ได้หิวเท่าไรนะ
#PHAPARE PART
16.30น.
เพิ่งเดินออกมาจากห้องเรียนก่อนเวลา ดีจังที่วันนี้อาจารย์ปล่อยคลาสเร็วก็เลยมีเวลาไปรับดอกไม้ให้คุณยายเร็วขึ้น จะได้มีเวลาช่วยคุณยายร้อยมาลัยเพิ่มมากกว่าเดิม เอาละถ้าอย่างนั้นก็ไปรับดอกไม้กลับบ้านเลยดีกว่า
มาถึงร้านขายดอกไม้และกำลังถือกระสอบพลาสติกใสเล็กๆ ที่ใส่ดอกไม้เตรียมให้คุณยายแต่ละถุงก็จะมี ดอกพุด ดอกรัก ดอกมะลิ และดอกดาวเรือง และอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบของการร้อยมาลัย
ขับรถมาถึงบ้านก็หอบทุกอย่างเดินมาหาคุณยาย เห็นท่านกำลังนั่งรออยู่เลย ฉันเดินไปหาแล้ววางทุกอย่างไว้ข้างๆ
“คุณยายหนูเอาดอกไม้มาให้แล้ว วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็ว มาเดี๋ยวหนูช่วย แต่ไปเปลี่ยนชุดแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวจะรีบมาค่ะ”
มองคุณยายพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม เห็นท่านหยิบถุงลากไปไว้ใกล้ๆ ตัว ก่อนจะค่อยๆ บรรจงเทดอกไม้เหล่านั้นใส่กะละมังอย่างทะนุถนอม เห็นแบบนั้นก็อดอมยิ้มไม่ได้ เพราะรู้ว่านั่นเป็นงานอดิเรกโปรดปรานของคุณยายที่สุด
ผ่านห้องครัวแวะเข้าไปหาน้ำดื่มก่อนจะรีบขึ้นไปเปลี่ยนชุด ขณะนั้นก็เห็นคุณแม่กำลังง่วนอยู่กับจานชามก็เลยเดินไปหยิบผ้าจะมาช่วยแม่เช็ดจาน
แต่พอแม่เห็นก็แย่งผ้าไปจากมือฉัน “ไปพักก่อนก็ได้จ้ะลูกแม่ อันนี้เล็กๆ น้อยๆ เดี๋ยวแม่จัดการเองทำเสร็จก็จะไปช่วยคุณยายแล้ว ลูกขึ้นไปพักผ่อนสักหน่อยพอมีแรงค่อยลงมาก็ได้จ้ะ”
“หนูไม่ได้เหนื่อยอะไรนะ เดี๋ยวเปลี่ยนชุดเสร็จก็ลงมาแล้วแม่ก็รู้นี่นาว่าหนูอยู่เฉยๆ ไม่เป็น”
“หึๆ” แม่หัวเราะใส่แล้วมองด้วยสายตาอ่อนโยน “งั้นก็ตามใจลูกก็แล้วกัน เด็กดื้อเอ๊ย เจ้าลูกแมวน้อยของแม่”
“ไปแล้วค่ะ เหมี๊ยววว~” แกล้งทำเสียงเหมือนแมวเพราะแม่ชอบเรียกเจ้าลูกแมวแบบนี้ประจำ หลังจากนั้นกำลังเดินขึ้นห้องไปเปลี่ยนชุดได้ยินเสียงแม่พูดตามหลังมา
“น่ารักน่าชังจริงๆ ลูกฉัน เฮ้อ... โตเป็นสาวแล้วแต่ทำไมยังรู้สึกเหมือนเด็กประถมอยู่เลย”
เข้ามาในห้องฉันรีบเปลี่ยนเป็นชุดลำลองสบายๆ แล้วลงไปข้างล่างเห็นคุณยายกำลังง่วนอยู่กับดอกไม้ก็เดินเข้าไปหอมแก้มหนึ่งฟอดใหญ่
“เหนื่อยไหมจ๊ะคุณยาย หนูมาช่วยแล้ว”
“ไม่เหนื่อย จะเหนื่อยได้ยังไงยังไม่ได้สักพวง เอาให้มันได้เยอะๆ ละวันเนี่ย”
“ได้จ้า ผ้าแพรจัดให้เลย” ฉันอมยิ้มแล้วหยิบอุปกรณ์มานั่งร้อยมาลัยข้างๆ คุณยาย ไม่นานนักก็เห็นคุณแม่เดินออกมาจากห้องครัวก่อนจะมานั่งข้างกัน หลังจากนั้นเราก็ช่วยกันร้อยพวงมาลัย ประหนึ่งล้อมวงกินข้าวอย่างไรอย่างนั้น
ฉันชอบบรรยากาศตอนนี้ที่สุดเลย การได้อยู่กับครอบครัวและได้ช่วยเหลือคนที่เรารักมันไม่ได้ทำให้รู้สึกเหนื่อยสักนิด แต่มันกลับทำให้ฉันมีความสุขซะมากกว่า
กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนเดียวเงียบๆ กับความสุขที่อยู่ตรงหน้าไม่นึกว่าคุณแม่จะสังเกตเห็น
“ยิ้มอะไรของลูกกัน กำลังคิดถึงใครอยู่รึเปล่า?”
“ไม่ได้คิดถึงใครค่ะ จะให้คิดถึงใครล่ะตอนเช้าก็ช่วยงานที่บ้านเรียนเสร็จก็กลับมาช่วยงานที่บ้าน งานยุ่งรัดตัวทั้งวันแบบนี้จะให้หนูเอาเวลาที่ไหนไปคิดถึงใครล่ะคะ แค่คิดถึงคุณยายกับคุณแม่ตอนไปเรียน หนูก็อยากกลับบ้านแทบแย่แล้วละ” พูดจบก็หอมแก้มคุณแม่ฟอดใหญ่ ก่อนจะหันไปหอมแก้มคุณยายอีกฟอด
แล้วคุณแม่กับคุณยายก็หัวเราะใส่ฉัน แต่ชอบนะเสียงหัวเราะของแม่กับยาย
นั่งร้อยมาลัยจนเวลาผ่านไปถึงช่วงหัวค่ำ ทำจนไม่เหลือดอกไม้ให้ร้อยมาลัยต่อ ฉันเก็บพวงมาลัยทั้งหมดลงกล่องโฟมเล็กๆ แล้วเดี๋ยวจะเอาไปส่งให้แม่ค้าที่ตลาด
“คุณแม่ เดี๋ยวหนูเอาพวงมาลัยไปส่งป้าแจ่มก่อนนะคะ”
“รีบไปรีบกลับนะลูก มันมืดค่ำแล้วเดี๋ยวแม่จะทำกับข้าวไว้รอ”
“ค่ะแม่”
หลังจากจบสิ้นบทสนทนาฉันก็ได้ยกกล่องโฟมไปไว้ที่ท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะใช้เชือกร้อยมัดเอาไว้ไม่ให้มันหล่น พร้อมออกไปส่งให้กับแม่ค้าขายพวงมาลัย ซึ่งทั้งหมดนี่คือกิจวัตรในทุกๆ วันของฉันเอง