เช้าในวันต่อมา หมอกบาง ๆ ลอยคลุมทั่วท้องนา เสียงไก่ขันแว่วอยู่ไกล ๆ แต่ไม่มีใครในหมู่บ้านรู้สึกว่านั่นคือเช้าวันธรรมดา เพราะกลิ่นไหม้ไหม้ยังลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ
“เฮ้ย! ศาลยายคำไหม้!” เสียงชายชราคนหนึ่งร้องลั่นเมื่อเดินผ่านท้ายทุ่ง
ไม่นาน ชาวบ้านหลายคนก็พากันแห่มาดู ศาลเก่าที่เคยตั้งอยู่ตรงนั้นเหลือเพียงเสาไม้ดำ ๆ พังทลายกลายเป็นเถ้าถ่าน กลางพื้นดินมีรอยไหม้เป็นวงกลมชัดเจนเหมือนถูกเผาด้วยไฟแรง — แต่ที่น่าขนลุกกว่านั้นคือ ไม่มีร่างของมนตรี อยู่ตรงไหนเลย
มีเพียง “จอบเก่าไหม้ครึ่งหนึ่ง” ปักอยู่ตรงกลางวงเพลิง คล้ายกับว่ามันเป็นเครื่องหมายของบางสิ่งที่ยังไม่จบสิ้น
ป้าสาย ญาติของมนตรี วิ่งมาถึงทีหลัง เห็นภาพนั้นก็ทรุดลงร้องไห้เสียงดัง “ยายคำ... ขออโหสิให้หลานฉันด้วยเถิด... มันไม่รู้เรื่องอะไรเลย... มันแค่จะไปขออโหสิกรรม...”
แต่แทนที่จะได้ยินเสียงตอบรับจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนทุกครั้งที่เธอเคยอธิษฐาน ลมเย็นจัดกลับพัดวูบหนึ่งผ่านร่างเธอไป — ลมแรงขนาดที่พวงมาลัยบนมือปลิวหล่นไปบนเถ้าถ่าน ลมพัดไม่หยุด สักครู่ใหญ่เลย ทำให้ทุกๆคนในพื้นที่ตรงนั้นต้องรีบ หนีแยกย้ายกันกลับ
เสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นมาพร้อมลม “ยัง...ไม่ถึงเวลา...”
ชาวบ้านหลายคนได้ยินพร้อมกัน ต่างหน้าซีดเผือด บางคนยกมือไหว้ทั้งน้ำตา บางคนวิ่งหนีกลับบ้านด้วยความกลัว
คืนนั้น ป้าสายนอนไม่หลับ เธอนั่งอยู่หน้าบ้าน มองดูเปลวไฟจากตะเกียงที่สั่นไหวในความมืด แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางทุ่งนา — เสียงเหล็กขูดกับพื้นดิน... แคร่ก... แคร่ก... เหมือนคนกำลังถากหญ้าด้วยจอบ
เธอเดินไปจนถึงขอบรั้ว มองออกไปในความมืด เห็นเงาคนกำลัง “ขุดดิน” อยู่ตรงที่ศาลเคยตั้งอยู่ แม้ไกลเกินจะเห็นหน้า แต่แสงจันทร์ก็พอให้เห็นได้ว่าคนคนนั้นใส่เสื้อของมนตรี...
“มนตรี... ใช่ลูกหรือเปล่า...” เธอเรียกเสียงสั่น น้ำตาไหลพราก แต่ไม่มีเสียงตอบ
เพียงเสียงจอบกระทบดินดังต่อเนื่อง — แคร่ก... แคร่ก... แคร่ก...
เมื่อเธอตัดสินใจจะก้าวออกไป เสียงลมแรงพัดวูบจนเธอต้องยกมือบังหน้า แล้วทุกอย่างก็เงียบกริบ เธอหันกลับมาดูอีกที เงานั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงควันลอยบาง ๆ และจอบครึ่งไหม้ปักอยู่ที่เดิม
รุ่งเช้า ชาวบ้านกลับไปดูอีกครั้ง พบว่าดินตรงนั้นถูกขุดเป็นหลุมเล็ก ๆ ขนาดเท่าคนหนึ่งนอนอยู่ และตรงก้นหลุมมีรอยไหม้ใหม่ที่ยังอุ่น
ไม่มีใครกล้าแตะจอบนั้นอีก ทุกคนตกลงกันว่าจะไม่พูดถึงเหตุการณ์นี้อีก
แต่ทุกคืนวันพระ จะมีคนได้ยินเสียง “ขุดดิน” แว่วจากทุ่งนาทางท้ายหมู่บ้านอยู่เสมอ
เสียงนั้นดังขึ้นสามครั้ง แล้วเงียบลงเหมือนคนกำลังรอใครบางคนมาขอขมา...
เพราะสำหรับ “ไฟแห่งการชดใช้” —
มันยังไม่ดับ... และ “เวลานั้น” ยังมาไม่ถึง.