อาการป่วย

1185 คำ
กลางดึกในบ้านสไตล์โมเดิร์นสองชั้นหลังใหญ่ในอาณาเขตพื้นที่10ไร่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในตอนนี้เจ้าของบ้านอย่างราวินยังไม่หลับไม่นอนเพราะเขารู้สึกคลื่นไส้เวียนหัวแทบจะตลอดเวลาจนต้องหาอะไรเปรี้ยวปากทานในเวลาที่ไม่ใช่เวลาทานอาหาร หลังจากที่เขาเข้ารับการผ่าตัดดวงตาจนหายดีได้เดือนกว่าจู่ๆเขาก็ชอบมีอาการวิงเวียนศีรษะทานอะไรไม่ค่อยได้จนทำให้เสียการเสียงานและกลายเป็นคนที่หงุดหงิดตลอดเวลาด้วยเพราะหายจากอาการมองไม่เห็นก็คิดว่าจะลุยงานเต็มที่กลับต้องมาเป็นโรคที่หมอเก่งๆก็วินิจฉันไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่เขาถึงได้เวียนหัวแทบจะตลอดเวลาเช่นนี้ “ฉันจะบ้าตาอยู่แล้วตกลงแกวินิจฉันไม่ได้จริงๆหรอว่าฉันเป็นอะไร” เป็นอีกวันราวินยกหูโทรหาเมธัสเพื่อนสนิทที่เป็นหมอประจำตัวของเขากลางดึก “ก็ร่างกายแกปกติทุกอย่างจะให้ฉันบอกว่าแกเป็นอะไร” ปลายสายอย่างเมธัสให้คำตอบกับราวินด้วยความเหนื่อยหน่ายหัวใจเพราะเขาก็ตรวจร่างกายราวินอย่างละเอียดสามสี่รอบแล้วก็ไม่เห็นว่าร่างกายจะมีอะไรผิดปกติ “พรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปตรวจร่ายกายอย่างละเอียดอีกรอบแกเตรียมตัวตรวจฉันด้วย” ราวินว่าจบก็วางสายด้วยอาการหงุดหงิดก่อนจะเปิดตู้เย็นหยิบกล่องมะม่วงเบาออกมาทานรสเปรี้ยวของมะม่วงชิ้นเล็กที่เคี้ยวอยู่ในปากทำให้ราวินรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยแต่เขาก็ไม่ได้อยากใช้วิธีนี้ทำให้ตัวเองดีขึ้นเขาไม่อยากให้ตัวเองมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเพราะมันเสียบุคลิกเวลาเจอกับพนักงานที่บริษัทเวลาไปทำงาน “เฮ้อ..” ราวินเดินจากห้องครัวมาที่ห้องนอนเขารู้สึกดีขึ้นหลังจากได้ทานอะไรเปรี้ยวๆไปจึงกลับมานอนทั้งตอนนี้ในหัวยังคงวนคิดถึงเรื่องเมื่อไม่กี่เดือนก่อนในตอนที่เขาเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ตาบอดระยะเวลาที่รอการผ่าตัดเขาต้องปิดเรื่องทุกอย่างเป็นความลับโดยการไปอยู่บ้านหลังเล็กที่เขาใหญ่เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องที่เขาป่วยด้วยกลัวจะกระทบกับราคาหุ้นของบริษัทและในตอนนั้นก็ทำให้เขาได้ตกหลุมรักคนที่เขาใช้เงินจ้างมาดูแลปรนนิบัติทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าของเธอ แต่การที่คิดจะเริ่มมีความรักจริงจังเขาก็ต้องผิดหวังเพราะรู้ธาตุแท้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเห็นแก่เงินเท่านั้นเพราะหลังจากที่เธอได้เงินก้อนจากเขาไปเธอก็หายหน้าติดต่อไม่ได้ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเขาเหตุนี้จึงทำให้ราวินไม่คิดจะเปิดใจให้ใครอีก เขาเองก็เจอผู้หญิงเข้าหามานักต่อนักและคิดว่ารู้จักผู้หญิงทุกคนดีแต่กลับพลาดท่ามีใจให้กับผู้หญิงที่ใช้เงินซื้อมาเสียได้ทั้งที่ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าผู้หญิงที่ขายตัวมาเพื่อเงินก็คงจะทำทุกอย่างไปก็เพราะเงิน ราวิน เอกอัศวกุล เขาคือประธานบริษัทนำเข้ารถหรูรายใหญ่ของไทยวัย32แม้นเขาจะอายุน้อยในวงการธุรกิจแต่ความสามารถล้นเหลือเพราะหลังจากที่พ่อและแม่ของเขาเสียไปในขณะที่เขาพึ่งเรียนจบเขาก็บริหารบริษัทเองตั้งแต่นั้นมา ราวินเป็นชายหนุ่มรูปหล่อสูงใหญ่กำยำผิวขาวอมชมพูใบหน้าคมเข้ม ค่อนข้างเป็นคนสุขุมนุ่มลึกจริงจังในการทำงานเจ้าระเบียบที่หนึ่งพนักงานทุกคนจึงเกรงกลัวเขามากเพราะราวินชอบความสมบูรณ์แบบทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องงาน ราวินเป็นชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่ามีคู่หมั้นแล้วแต่เขาและคู่หมั้นไม่ได้ใส่ใจเรื่องการหมั้นหมายนี้เท่าไรนักเพราะมันเป็นข้อตกลงของผู้ใหญ่ตั้งแต่รุ่นพ่อของเขาแล้วและหลังจากนี้อีกไม่นานเห็นทีเขาจะต้องคุยเรื่องถอนหมั้นเสียทีเพราะนลินดาหรือต้นหลิวคู่หมั้นของเขาคะยั้นคะยอให้เขาเข้าไปคุยกับพ่อและแม่ของเธอเรื่องถอนหมั้นนานแล้วด้วยหญิงสาวรักในชีวิตอิสระไม่อยากแต่งงานอยากจะท่องเที่ยวรอบโลกและใช้ชีวิตให้คุ้มมากกว่าจะต้องมีครอบครัว ช่วงสายของวันต่อมา ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง “ผลออกมามันไม่มีอะไรจริงๆ” เมธัสเดินเอาผลตรวจอย่างละเอียดทุกอย่างมาให้ราวินที่นั่งรออยู่ในห้องวีไอพีของโรงพยาบาลดูเพื่อยืนยันอีกครั้งว่าเขาไม่พบเจออะไรผิดปกติในร่างกายของเพื่อนเขาจริงๆ “แล้วอาการเวียนหัวคลื่นไส้ฉันมันเกิดจากอะไรแกจะไม่รู้ไม่ได้ไอ้หมอ” ราวินขมวดคิ้วมองหน้าคนที่กำลังหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับเขา “เฮ้อ..แกแพ้ท้อง” เมธัสหมอหนุ่มแว่นหน้าตี๋ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหาคำตอบตามความคิดของตัวเองที่คิดมาหลายครั้งแต่ก็ไม่กล้าพูดออกไปแต่เห็นทีครั้งนี้จะต้องพูดเพราะอาการที่เพื่อนของเขาเป็นมันไม่ผิดเพี้ยนไปเลยจากคนที่แพ้ท้องผิดแค่ตรงที่เพื่อนของเขานั้นเป็นผู้ชายเท่านั้นเอง “ห้ะ..แกอย่ามาตลก” ราวินถลึงตามองเมธัสก่อนจะส่ายหัวเบาๆที่เพื่อนพูดจาไร้สาระออกมา “ก็ไม่รู้ว่าจะวินิจฉัยอะไรแล้ว..อาการของแกก็เหมือนคนแพ้ท้อง” เมธัสว่าย้ำอีกรอบแต่ราวินก็ยังคงนั่งนิ่งเงียบอ่านผลตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งด้วยสีหน้าและแววตาที่เป็นกังวลเพราะทำอย่างไรเขาก็ไม่รู้เสียทีว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ “ฉันแนะนำให้แกลองปรึกษาจิตแพทย์” สิ้นเสียงของเมธัสทำราวินละเอกสารผลตรวจในมือมองจ้องเมธัสด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ “ฉันไม่ได้บ้านะโว้ย” “แกอาจจะเครียดเรื่องงานเกินไปก็ได้ลองคุยกับจิตแพทย์ดูก็ไม่เสียหายนี่หว่า” “ไม่อะ” “เฮ้อ..โน่นก็ไม่เอานี่ก็ไม่เอา..เอาเป็นว่าแกลองไปเที่ยวผ่อนคลายสมองดูเผื่ออะไรจะดีขึ้นถ้าไม่ดีขึ้นเราค่อยมาว่ากันอีกที” เมธัสทำได้ดีที่สุดก็เท่านี้เพราะเพื่อนตนเล่นหัวแข็งไม่ยอมปรึกษาจิตแพทย์ดูและเขาก็รู้ดีว่าคนอย่างราวินไม่มีใครสามารถบังคับอะไรได้หากไม่ราวินไม่อยากทำ “อืม..ฉันจะลองวิธีนี้ดู” ราวินรีบรับปากเมธัสกับข้อเสนอนี้เพราะวิธีที่จะต้องปรึกษาจิตแพทย์นั้นต้องยกให้เป็นวิธีท้ายๆเลยจริงๆด้วยไม่อยากดูเป็นผู้ป่วยโรคจิต
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม