บทที่ 1 ค่าชีทเยอะจนไข่หวานเพลีย..2

1389 คำ
หนึ่งทุ่ม สองสาวมาตามที่ได้นัดหมายก่อนหน้าที่ชิรญานัดไว้ ขวัญจิรายืนนิ่งไม่ขยับมองไปรอบๆ บรรดารถหรูจอดเรียงกันอยู่หน้าร้านเป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กกำพร้าอย่างเธอ ยิ่งได้เห็นสถานที่หรูหราจนต้องมองตาค้างแบบนี้หัวใจดวงน้อยก็กระตุกด้วยความตื่นเต้น “ตามมาสิไข่หวาน”ชิรญาเรียกเพื่อนที่ยืนอยู่หน้าร้านไม่ขยับ “มาแล้ว”เมื่อได้ยินเสียงเรียกเธอรีบสาวเท้าวิ่งตามไปทันที ภายนอกว่าหรูแล้ว ภายในยิ่งหรูเข้าไปอีก การตกแต่งที่เหมือนจะเรียบง่ายแต่ซ่อนความหรูหราไว้ในคราเดียว ชิรญาพาเธอเดินขึ้นไปยังชั้นสองของร้าน เข้าไปยังห้องหนึ่งที่อยู่มุมสุด หญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดราตรีสีหวาน มองมายังประตูทันทีที่เปิดออก ดวงตาของเธอเรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นในเวลาเดียวกัน “สวัสดีค่ะเจ๊ สวัสดีค่ะพี่เชน”ชิรญายกมือขึ้นไหว้สองคนที่นั่งอยู่ด้วยกันภายในห้องเช่นเดียวกับขวัญจิรา “มาแล้วเหรอลูกชุบ…คนนี้นะเหรอที่บอกว่าสนใจ” “ใช่ค่ะพี่เชน นี่เพื่อนลูกชุบเอง” “ชื่ออะไรละเรา”คนที่ลูกชุบเรียกว่าพี่เชนหันมาถามขวัญจิราที่ยืนนิ่งไม่ขยับ ตอนนั้นเองทำให้เธอรู้ตัวเผลอว่ายืนจ้องอีกคนไม่วางตา “ขวัญจิราค่ะ” “แค่ชื่อเล่นก็พอ” “อ่อ ไข่หวานค่ะ” “พี่ชื่อเชนนะเป็นผู้จัดการที่นี่ ส่วนนี่เจ๊พายเป็นเจ้าของร้าน” “ค่ะ” “ลูกชุบคนนี้เหรอตัวท็อปของเรานะ” “ใช่ครับเจ๊ น้องลูกชุบตกคุณธามซะอยู่หมัด ไม่รู้ว่าทำบุญด้วยอะไร” “ไม่ขนาดนั้นหรอกพี่เชน คุณธาม เขาก็สนใจคนอื่นด้วยไม่ใช่แค่ลูกชุบสักหน่อย” “หึ! อย่างธาม มันไม่ค่อยสนใจอะไรง่ายๆหรอกนะ สิ่งที่มันสนใจก็คงจะเป็นเลือดสดหรือศพตรงหน้า”เจ้าของร้านหน้าสวยที่รู้จักลูกค้าหนุ่มรายนี้ดี เอ่ยบอกเด็กสาวที่ขึ้นมาเป็นตัวท็อปของร้านอย่างลูกชุบด้วยรอยยิ้ม ให้ตายเถอะ! นี่มันเรื่องอะไรกัน หนูกำลังยืนงงกับเรื่องที่พวกเขาทั้งหมดคุยกัน “เดี๋ยวฉันสัมภาษณ์เด็กใหม่เองพวกเธอสองคนไปทำงานซะ แล้วก็เธอ…”พระพายหันไปมองเด็กสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่ค่อนข้างเป็นห่วง “คะ??”ชิรญาหันไปมองหน้าเจ้าของร้านด้วยความสงสัย “อย่าขัดใจธาม ถ้าไม่อยากตายฉันเตือนด้วยความหวังดี” “ค่ะเจ๊”ช่างเป็นคำบอกที่เสียวสันหลังวาบอย่างบอกไม่ถูก บทสนทนาทั้งหมดสิ้นสุดลง เหลือเพียงพระพายและขวัญจิราอยู่ในห้องที่เงียบสงัด ขวัญจิราไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว บางครั้งเธอก็ไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำ “มานั่งสิ” “ค่ะ” “เคยทำงานมาก่อนมั้ย” “ไข่หวานปั่นจักรยานขายบัวลอยค่ะ”ถึงแม้ก่อนหน้านี้ขวัญจิราจะพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม แต่ตอนนี้เธอกลับประหม่าอย่างเห็นได้ชัด “มองอะไร ชอบฉันเหรอ”พระพายละสายตาจากเอกสารในมือมองตรงไปยังขวัญจิราที่นั่งตัวสั่นอยู่ หัวใจดวงน้อยของขวัญจิรากระตุกขึ้นทันที นี่ถ้าเธอเป็นผู้ชายคงตกหลุมรักคนตรงหน้าไปแล้ว เพราะคนตรงหน้าช่างละมุนชวนฝัน ยิ่งมองใบหน้าสวยนั้น ยิ่งชวนให้จินตนาการไปไกล แต่ทว่าเธอในตอนนี้กลับชื่นชมในความสวยนั้นอย่างหลงใหลไม่ต่างกัน “ว่าไงชอบเจ๊เหรอคะ”เธอขยับใบหน้าที่ได้รูปเข้าหาขวัญจิราที่นั่งตัวเกร็งราวกับโดนสะกด “เปล่าค่ะ ไข่หวานแค่ชื่นชมความสวยของเจ๊”ขวัญจิราแกล้งหัวเราะเบาๆกลบเกลื่อน ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทางด้วยความเขินอายอย่างบอกไม่ถูก “แบบนี้นี่เอง เธอก็ดูสวยน่ารักดีออก เอามาปรับแต่งนิดหน่อยคงจะเรียกบรรดาหนุ่มๆให้เข้าหาได้ไม่ยาก” “จริงเหรอคะ” “กินเหล้ารึเปล่า” “นิดหน่อยค่ะ”เหมือนความกังวลก่อนหน้าค่อยๆจางหายไป “ชงให้เจ๊ชิมหน่อยสิ” เสียงหวานออดอ้อนชวนฝันเอ่ยสั่ง ขนาดเธอที่เป็นผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกละลายขนาดนี้ ผู้ชายคนอื่นก็คงไม่เหลือ “ได้ค่ะเจ๊”ขวัญจิราตั้งใจชงน้ำอำพันสีเข้มแบบเดียวกับที่เธอกิน ไม่รู้ว่าจะโดนใจอีกฝ่ายไหมเพราะเธอก็กินแต่แบบนี้มาตลอด “นี่ค่ะ” พระพายเลิกคิ้วขึ้นสูง มองแก้วเหล้าที่เต็มเปี่ยม ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจใส่ให้มันล้นหรือเพราะความผิดพลาดกันแน่ “ขอบใจจ้ะ”แต่เธอก็ยอมรับแก้วเหล้านั้นมาแต่โดยดี “เป็นไงคะเจ๊ นี่สูตรของไข่หวานเลยนะ ไม่ขมบาดคอมากบวกกับความหวานหน่อยๆของลูกอม” “ก็หวานอมขมดี”รอยยิ้มกว้างฉีกขึ้นบนใบหน้าสวย ทำเอาคนที่นั่งมองอยู่กลั้นหายใจไปหลายวินาที เชื่อเถอะว่าตอนนี้ไข่หวานหัวใจจะวายกับรอยยิ้มนั้น ใครก็ได้ช่วยมาเก็บศพหนูที แต่เดี๋ยวก่อนนะ! นี่เรากำลังสัมภาษณ์งานกันอยู่ใช่มั้ย ทำไมเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกลากมาฆ่าตาย ด้วยความสวยมีเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหลของผู้หญิงตรงหน้ายังไงก็ไม่รู้ “เอ่อ…เจ๊ค่ะ จะสัมภาษณ์ไข่หวานตอนไหนเหรอคะ” “ก็กำลังสัมภาษณ์อยู่นี่ไง” “ยังไงคะ” “ลูกชุบไม่ได้แจ้งลักษณะงานเธอเหรอ” “มีบ้างค่ะ แต่ไข่หวานก็ไม่ค่อยเข้าใจ”ขวัญจิรามึนงงการกระทำของคนตรงหน้า “งานของเด็กนั่งดริ้งค์ คือการต้อนรับลูกค้า ทำให้ลูกค้าสนุกที่สุด ชวนคุย ชงเหล้า คอยบริการต่างๆที่ลูกค้าต้องการ แต่ละคนก็มีวิธีการที่ต่างกันออกไป แล้วไข่หวานล่ะมีวิธียังไงที่จะทำให้ลูกค้าติดใจได้บ้าง” “ไข่หวานไม่ถนัดเอาใจใครเลยค่ะเจ๊ ก็เลยไม่รู้วิธี” “จะว่าไปงานนี้ก็ไม่เหมาะกับเธอเท่าไหร่เลย ดูจากท่าทางเธอคงโดนลูกค้าหลอกหรือไม่ก็ลวนลามแน่” “ไข่หวานจะพยายามค่ะ เจ๊ช่วยสอนหนูหน่อยได้ไหมคะ” “งั้นคืนนี้ก็มาฝึกงานกับเจ๊ เดี๋ยวเจ๊จ่ายค่าขนมให้เอง”ด้วยความที่พระพายเห็นคนตรงหน้าดูใสซื่อเอามากๆจึงอดไม่ได้ที่จะสงสาร “จริงเหรอคะ เจ๊ใจดีจังเลย”ขวัญจิราดีใจยกใหญ่ โดยไม่รู้เลยว่าเธอกำลังเดินไปติดกับดักที่คนตรงหน้าวางไว้อย่างแนบเนียนความไร้เดียงสาของขวัญจิราช่างยั่วใจคนเจ้าเล่ห์อยู่ไม่น้อย ไม่บ่อยนักที่จะเจอเด็กที่ไร้เดียงสาขนาดนี้มาสมัครทำงานในที่แบบนี้ เห็นทีเธอคงต้องเก็บไว้ดูเล่นสักหน่อยพระพายกระดกเหล้าที่อยู่ในแก้วจนหมด ปรายตามองคนตรงหน้าด้วยความสนใจ ก่อนจะชวนอีกฝ่ายคุยไปเรื่อย เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไรไม่รู้ขวัญจิรายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูพบว่าเวลาล่วงเลยมาถึงตีหนึ่งแล้ว นี่คนตรงหน้าชวนเธอคุยนานขนาดนี้เลยเหรอ “ง่วงแล้วเหรอ” “นิดหน่อยค่ะ พอดีวันนี้ไข่หวานมีเรียนเช้าด้วย” “ขยันจัง”พระพายขยับริมฝีปากเข้าหาอีกฝ่าย จนขวัญจิรานิ่งชะงักไม่มีทีท่าจะถอยห่าง “ขอบคุณค่ะ”เสียงอึกอักในลำคอ เหมือนตอนนี้เธอกำลังหายใจไม่ออกเข้าไปทุกที “เอาเป็นว่าเจ๊ให้ไข่หวานผ่านก็แล้วกัน พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้” “จริงเหรอคะ”ขวัญจิราเผลอดีใจแรงไปหน่อย จนทำให้โผเข้าไปกอดคนตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อได้สติเธอรีบถอยห่างออกมาทันที ก่อนที่จะขอตัวกลับไปด้วยความเขินอาย “ขอบคุณนะคะ ไข่หวานขอกลับก่อนพรุ่งนี้เจอกันค่ะ”ขวัญจิรายกมือพนมขึ้นไหว้อีกฝ่าย ก่อนจะเปิดประตูเดินออกจากห้องไป ไม่กล้าหันกลับไปมองใบหน้าสวยนั้นอีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม