บทที่ 9

1609 คำ
"อะไรนะคะสิงห์?" อัญญารีบเดินตามนรสิงห์เข้าไปในห้องทำงาน "ผมยังพูดไม่ชัดอีกเหรอ" "ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่อัญอยากให้คุณคิดดูดีๆ ค่ะ ขนาดเลขาที่ทำงานมาด้วยกันตั้งหลายปียังไว้ใจไม่ได้ แล้วผู้หญิงคนนี้คุณจะไว้ใจให้มาเป็นเลขาส่วนตัวได้ยังไงคะ" "เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง คุณก็กลับไปทำงานได้แล้ว" ทีแรกไอรีสก็ตกใจที่เขาสั่งให้เธอไปนั่งตำแหน่งเลขา แต่พอเห็นท่าทีของคุณผู้จัดการแล้วเธอเลยคิดว่าเล่นกับเขาสักยกก็ดีเหมือนกัน​ "เดี๋ยวพี่ช่วย" สิธารีบเข้าไปช่วยไอรีสเก็บของจากโต๊ะเดิมมาไว้ที่โต๊ะเลขา ..ทำงานที่นี่มาเกือบทั้งชีวิต ไม่สิ ต้องเรียกว่าทำงานมาตั้งแต่รุ่นแม่ เพิ่งเคยเจอคนนี้คนแรกที่กล้าต่อกรกับคนพวกนี้ "ขอบคุณพี่มากนะคะที่ช่วย" "ต่อไปนี้ไม่ต้องขอบคุณพี่แล้วนะมันเป็นหน้าที่" "ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ก็ต้องขอบคุณค่ะ" สิธามองเด็กคนนี้ไม่ผิดจริงๆ เธอต้องก้าวหน้าในหน้าที่การงานแน่ น้อยครั้งมากที่จะได้ยินคำว่าขอบคุณจากคนที่ทำงานบนชั้นนี้ เพราะทุกคนคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของแม่บ้าน ตอนที่ไอรีสกำลังจัดโต๊ะประตูห้องท่านรองประธานก็เปิดออกมา พร้อมกับใบหน้าที่บึ้งตึงของคุณผู้จัดการ "เข้าไปชาร์จแบตตั้งนานยังไม่พออีกเหรอ" "อะไรคือเข้าไปชาร์จแบต" สิธาอดถามไม่ได้ "ก็เห็นหายเข้าไปตั้งนานสองนาน" "เราอย่าพูดแบบนี้อีกนะ ทั้งสองท่านเป็นแฟนกัน" "เป็นแฟน?" "ใช่" "พี่รู้ได้ยังไง" "พี่ก็ได้ยินมาอีกที แต่เท่าที่มองอยู่มันก็เป็นแบบนั้น" สิธากลัวว่าไอรีสจะทำเกินหน้าที่ เดี๋ยวก็มีเรื่องกับผู้จัดการทั่วไป "พวกเขาคบกันมานานหรือยังคะ" สิธาไม่ได้ตอบหรอกเพียงแค่มองหน้าคนที่ถาม ดูเธอคนนี้จะสนใจท่านรองมากเลย หรือว่าตัวเองจะมองคนผิดไป ขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลยเสียดายความสวยและความสามารถ ถ้าจะเข้ามาเป็นน้อยคนอื่นมันน่าเสียดาย "ถ้าจัดโต๊ะเสร็จแล้วเข้ามาข้างในหน่อยนะ" เสียงดังผ่านเครื่องสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ก๊อกๆ "เข้ามา" "มีธุระอะไรคะ" "ยืนคุยกันไกลขนาดนั้นจะรู้เรื่องกันไหม" ไอรีสปิดประตูแล้วก็เดินเข้าไปใกล้ๆ "ไฟล์งานที่ติดไวรัสเธอเป็นคนแก้จริงเหรอ" "คุณไม่เชื่อนิทานที่ฉันเล่าเหรอคะ" "ฉันจะให้เธอแก้ไฟล์ที่สอง" "ค่ะ" หญิงสาวกำลังจะหมุนตัวกลับออกไปแต่เขาขยับเก้าอี้ออกจากโต๊ะทำงานก่อน เธอเลยหยุดแล้วหันกลับไปมอง "เลื่อนเก้าอี้เข้ามานั่งแก้ที่เครื่องของฉันเลย" "ฉันแก้เครื่องข้างนอกแล้วส่งอีเมลมาให้ได้ค่ะ" "ตอนนี้เครื่องในสำนักงานใช้ได้แค่เครื่องของฉัน" ฝ่ายไอทีกำลังล็อกเครื่องเพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นหนอนบ่อนไส้ ตามคำสั่งที่ได้รับมาจากท่านรองประธาน เพราะคำพูดของเธอนั่นแหละเขาจึงให้รื้อระบบใหม่ทั้งหมด ไอรีสเลยเดินไปดึงเอาเก้าอี้อีกตัวมานั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์ ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก หญิงสาวสัมผัสคีย์บอร์ดไม่กี่ครั้ง ก็ดึงข้อมูลที่ถูกไวรัสทำลายกลับคืนมาได้ เขาที่นั่งมองอยู่ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ "ฉันแนะนำว่าให้ฝ่ายไอทีของคุณล็อกระบบของแต่ละชั้นไว้ด้วย" "ทำไม" "เครื่องที่ทำการ Hack อยู่ในสำนักงานของคุณ" "คุณรู้ได้ยังไง" "ข้อมูลนี้ต้องใช้เครือข่ายเดียวกัน ถ้าเขาอยู่นอกสำนักงานก็ไม่สามารถดึงออกไปได้ แต่ฉันบอกไม่ได้หรอกนะว่าอยู่ชั้นไหน" ตอนที่เธอกำลังพูดไม่ได้มองดูคู่สนทนาหรอก แต่พอพูดจบเธอถึงได้หันมองไปดูหน้าเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ และสายตาของเธอก็ประสานกับสายตาเขาเข้า "หมดธุระของฉันแล้วขอตัวนะคะ" หญิงสาวรีบขยับเก้าอี้ออกห่างก่อนจะลุกขึ้น "คุณพ่อกำลังบินกลับมา​ เย็นนี้คงถึง" เขารีบพูดตอนที่เธอกำลังจะเดินออกจากห้อง "ท่านจะกลับมาเหรอคะ" "ใช่" "แล้วไงคะ" ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องบอกเธอด้วย เพราะแต่ก่อนมีอะไรก็ไม่เห็นเขาเคยบอก "ตอนเย็นท่านชวนไปทานข้าวด้วยกัน" "ทานที่บ้านก็ได้นี่" "คุณก็คุยกับท่านเองสิ" หญิงสาวออกจากห้องโดยที่ไม่ได้หันมาพูดกับเขาอีก จะให้เธอไปพูดกับท่านยังไงล่ะ บอกไม่ไปกินข้าวด้วยงั้นเหรอ หลังจากที่ไอรีสออกมาจากห้องของท่านรองประธาน สายตาของพนักงานที่ทำงานอยู่แทบจะทุกคู่เลยมั้งหันมามองเธอเป็นตาเดียว แต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจ กลับออกมาก็ไปนั่งทำงานต่อ เย็นวันนั้นที่บ้านดำรงฤทธิ์ "ทำไมต้องไปกินข้าวนอกบ้านด้วย แล้วเราต้องแต่งตัวยังไงเนี่ย" นี่แหละคือปัญหา เธอไม่ชอบการแต่งตัวถ้าออกไปทานข้าวข้างนอกจะไปชุดสบายๆ ก็ไม่ได้ ไอรีสเปิดดูตู้เสื้อผ้า มองดูก็มีแต่ชุดเดิมๆ ถ้าใส่แบบนี้ไปเดี๋ยวก็ดูไม่ให้เกียรติท่านอีก ก๊อกๆ "เสร็จหรือยัง" "ยัง คุณไปก่อนเถอะเดี๋ยวฉันตามไปที่โรงแรม" "ถ้าคุณพ่อรู้ว่าไปรถคนละคันเดี๋ยวงานก็เข้าหรอก เปิดประตู" "ฉันยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย" "แล้วทำอะไรอยู่" แกร็ก.. ไอรีสเดินมาเปิดประตูให้เขาดูว่าเธอยังอยู่ในชุดทำงาน "เอาความจริงไหมล่ะ" "อืม" "ไม่มีผ้าใส่" "ตามออกมา" "คุณจะให้ฉันใส่ชุดนี้ไปเหรอ" หญิงสาวรีบเดินกลับไปหยิบกระเป๋าแล้วก็เดินตามเขาลงมาข้างล่าง [ร้านจิรดา] "สวัสดีค่ะคุณสิงห์" "สวัสดีคุณจิ" "วันนี้พาใครมาแปลงโฉมอีกคะเนี่ย" คงพาสาวๆ มาบ่อยล่ะสิจนสนิทกับเจ้าของร้าน "ช่วยหน่อยนะครับ ผมต้องไปทานข้าวกับผู้ใหญ่" "ได้เลยค่ะขอเวลา.." มองดูใบหน้าและการแต่งตัวของเธอแล้ว ทีแรกว่าจะขอเวลา 10 นาทีแต่เปลี่ยนเป็นครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นนรสิงห์ก็นั่งรอ จนเวลาผ่านไปตามกำหนดที่ทางร้านขอไว้ หญิงสาวเดินออกมาจากห้องเสริมสวยของทางร้าน แล้วก็เดินมาหยิบเอากระเป๋าที่ฝากเขาไว้ก่อนหน้า ..ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่เหลือบมองไปดูมือของคนที่หยิบเอากระเป๋า ทีแรกเขาก็สงสัยผู้หญิงคนนี้เป็นใครทำไมอยู่ดีๆ มาหยิบเอากระเป๋าของคนอื่น "ไปกันได้หรือยังคะ" "......" เขามองดูหน้าเธออีกครั้งก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าของร้านที่เพิ่งจะเดินตามออกมา "วันนี้เวลามีไม่มากค่ะ วันหลังจิขอแก้ตัวใหม่นะคะ" ชายหนุ่มล้วงเอาบัตรเครดิตส่งให้กับทางเจ้าของร้าน ตอนที่ส่งบัตรเครดิตสายตาเขายังคงมองที่เธอ "เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่คิดถึงร้านจิรดา" ทางร้านจัดหาชุดและรองเท้าที่เข้ากับบุคลิกของลูกค้าให้ด้วย [โรงแรม] "ว้าว.. สวยจังเลย" พอรถจอดลงเธอก็มองดูบรรยากาศรอบๆ ข้าง เพราะโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา "ตามเข้ามา" "ท่านนัดทานข้าวที่โรงแรมนี้เหรอคะ" "ใช่" ไอรีสรีบเดินตามหลังเขาไป แต่ด้วยชุดและรองเท้าที่เธอใส่ก้าวแต่ละทีก็ไม่ค่อยสะดวก "จะรีบไปไหนนักหนาเดินก็ไม่รอ" เธอพูดออกมาเพียงแค่เบาๆ แต่ก็สามารถหยุดคนที่เดินนำหน้าไปได้ "ก็เดินให้มันไวกว่านี้หน่อยสิ" "ถ้าฉันสะดุดล้มลงไปล่ะจะทำไง เจ็บไม่เท่าไรหรอกแต่อายนี่สิ" นรสิงห์ตัดปัญหาโดยการจับมือของเธอมาคล้องแขนเขาไว้ แล้วก็พาเดินไปที่ห้องจัดเลี้ยง "ไหนคุณบอกแค่มาทานข้าวเย็นไง" หญิงสาวถึงกับก้าวขาต่อไม่ได้ เพราะเธอไม่ชอบงานเลี้ยงสังคมแบบนี้มาก ถึงแม้จะเป็นงานไม่ใหญ่ "อ้าวมานั่นแล้ว" "คุณพ่อ?" พอเห็นว่าเป็นพ่อของเธอ ไอรีสก็หันมามองหน้าคนที่เธอคล้องแขนอยู่ "พาน้องมาทางนี้สิ" อีกคนก็คืออิทธิฤทธิ์พ่อของเขา "......." แต่พอก้าวมาอีกหน่อยก็เห็นว่าหนึ่งในคนที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นมีน้องสาวต่างมารดาของเธออยู่ด้วย "วันนี้หนูสวยมากเลยนะ" อิทธิฤทธิ์กล่าวชมลูกสะใภ้ก่อนเลย "ขอบคุณมากค่ะ" หลังจากที่กล่าวขอบคุณแล้วสายตาเธอก็มองไปที่พ่อกับน้องสาว ทางนั้นยกยิ้มมุมปากแล้วมองดูผู้ชายที่เพิ่งจะนั่งลงข้างๆ พี่สาว "สวัสดีค่ะคุณสิงห์" "ครับ?" นรสิงห์หันไปมองคนที่ทักเขา แต่เขาก็ไม่เคยเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ "ฉันชื่อไอด้าค่ะ เป็นน้องสาวของพี่ไอรีส" "ครับ" "จริงๆ คนที่หมั้นกับคุณก็คือ.." "ไอด้า!" คนเป็นพ่อรีบตำหนิลูกสาวคนเล็ก เพราะรู้ว่าลูกสาวกำลังจะพูดอะไร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม