ราวกับช่วงเวลาที่แสนอึดอัดได้จบลงเมื่อประตูลิฟต์ชั้นบนสุดเปิดออก ราเชลรีบเดินออกไปด้านนอกในทันที เธอไม่ได้หันมามองหรือว่าสนใจสายตาที่กำลังจ้องมองเธอจากด้านหลังของผู้จัดการมินเลยด้วยซ้ำ
ราเชลถอนหายใจเบาๆเมื่อเธอเดินมาถึงประตูทางเข้าห้องอาหารเลาจน์ระดับห้าดาวของโรงแรมโซล
"กำลังจะบอกว่าผู้จัดการมินกลับมาแล้ว แต่ดูจากสีหน้าลำบากใจของแกแล้ว คงเจอกันแล้วสินะ"
แยมพูดพร้อมกับจูงมือราเชลเข้าไปด้านในห้องส่วนตัวซึ่งมีดารินกำลังตักอาหารใส่ปาก
"ทำไมหน้าเป็นแบบนั้นล่ะราเชล? ไม่สบายรึเปล่าเราจะเขียนใบลาให้"
เธอรีบยกมือห้ามดาริน
"ไม่เป็นไรเลย เราแค่..เจอคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด"
แยมมองราเชลด้วยสายตาเป็นห่วงก่อนที่แยมจะจัดการวางจานและช้อนเบื้องหน้าของราเชล
"กินซะ เวลารู้สึกไม่ดี ก็มีอาหารอร่อยๆพวกนี้แหละที่ช่วยเยียวยาได้"
ไม่จริงหรอก..อาหารน่ะส่วนหนึ่ง แต่เรื่องที่ทำให้เธอยิ้มได้คือความเป็นเพื่อนนี้ต่างหาก บางทีเธอก็คิดนะว่าหากไม่มีใครมาเอาเราทั้งสามคนไปเป็นภรรยาจริงๆเธอก็จะเก็บเงินแล้วพากันไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายสุดท้ายของชีวิต
จะว่าไปเราก็อายุเข้าเลขสามกันแล้ว มันไม่ได้มีตัวเลือกอะไรให้เลือกมากนักหรอกเกี่ยวกับเรื่องของความรักน่ะ
"เออ ขอบใจ ว่าแต่เรื่องคำสั่งย้ายเป็นไงบ้างดา แกไหวใช่ป่าว ท่านประธานจอมเอาแต่ใจคนนั้นน่ะ"
ดารินถึงกับทำหน้าสลดในทันทีที่เธอกล่าวถาม
"ทำยังไงได้ ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละ เราไม่อยากลาออกนี่ บ้านก็ยังผ่อนไม่หมดเลย"
พอพูดถึงเรื่องบ้านก็พากันเงียบไปตามๆกัน เราทุกคนต่างก็มีความฝัน เธออยากจะทำแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองและกำลังพยายามเก็บเงินเพื่อที่จะมีเงินก้อนในการเดินตามความฝันของตัวเอง
เธอมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แม่ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อของเธอเพราะว่าแม่เป็นผู้หญิงกลางคืน และพอเธออายุสิบห้าแม่ก็ตายเพราะโรคติดต่อ
เพราะใบหน้าที่เรียกได้ว่ามันเกินความสวยไปมากกว่าเด็กวัยเดียวกันมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเธอคือลูกครึ่ง อาและลุงจึงแย่งกันเลี้ยงเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะได้ขายเธอให้กับเศรษฐีสักคนที่พร้อมจ่าย แต่โชคดีที่ยายไม่ยอม ยายยอมเลี้ยงเธอมาและเรา..ลำบากกันมาก ชีวิตในวัยเด็กมันเหมือนฝันร้ายเลย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มีความสุขที่ได้อยู่กับยาย
เธอทำงานจนสามารถส่งตัวเองเรียนได้ และพอได้มาพบกับดาริน ดารินเองก็มีชะตากรรมไม่ต่างกันสักเท่าไหร่นั่นก็คือเราจะต้องส่งตัวเองเรียน ในวันที่เธอเข้าทำงานที่นี่ได้ ยายก็จากไป..
มันเหมือนกับว่ายายอดทน รอส่งเธอถึงฝั่งฝันเสียก่อน ยายถึงจากไป.. ชีวิตในตอนนั้นโชคดีที่ได้ดารินกับแยมที่มาคอยอยู่ด้วย และพวกเราก็ตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการเดียวกัน โดยมีไดม่อนน้องชายดารินมาซื้อด้วย
ชีวิตของเธอในตอนนี้จะบอกว่าตัวคนเดียวมันก็ไม่เชิงเพราะว่าเธอมีเพื่อนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกัน..ก็เรามีกันแค่นี้นี่นา
"เอาน่า อดทนอีกไม่นานหรอกเดี๋ยวเราจะได้เดินตามความฝันของตัวเองแล้ว ใครมันอยากจะทำงานที่นี่ไปจนแก่ ว่าไหม"
"แน่ล่ะ เพราะหากว่าแกแก่นะ ไม่มีทางที่แกจะได้เป็นพนักงานต้อนรับคนสวยต่อไปได้หรอก!"
ราเชลยกมือขึ้นมาตีที่แขนแยมเบาๆ
"แล้วแกล่ะ คงไม่คิดทำงานที่เลาจน์นี้ไปตลอดใช่ไหม?"
แยมทำท่าคิดสักพัก
"ก็คงงั้น แต่เราชอบนะการได้พบเจอผู้คนมากมายและ..คนรวยๆที่รวยเปย์ อายุวัยเรามันเลยวัยที่จะคิดถึงเรื่องความรักแล้วป่าววะ จะมาไร้เดียงสาเรื่องความรักอะไรอีก แก่จะตายอยู่ละ"
ราเชลและดารินหัวเราะออกมาพร้อมกันเมื่อแยมพูดออกมาแบบนั้น
"แต่เราอยากแต่งงานนะ อยากเดินจับมือใครสักคนริมหาดทราย จัดงานแต่งเล็กๆที่ริมทะเล และสวมชุดแต่งงานที่ราเชลตัดให้.."
ราเชลดึงดารินเข้ามากอด
"แน่นอน ในพวกเราสามคนมีแกนี่แหละที่พอจะเป็นความหวังเรื่องการแต่งงาน!"
เสียงหัวเราะดังเล็ดลอดออกมาด้านนอกและมินจุงกำลังหยุดยืนอยู่ด้านหน้าห้องนั้น เขามองที่ประตูก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาแล้วหันไปมองหัวหน้าของพนักงานบนเลาจน์แห่งนี้
"จัดเตรียมไวน์ที่แพงที่สุดให้หน่อยสิ.."
"ครับผู้จัดการมิน"
หลังจากการจบมินจูงก็ผลักประตูเข้าไปในทันที
"ขอโทษด้วยนะสาวๆพอดีไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ในห้องนี้.."
ราเชลชะงักเล็กน้อยก่อนที่เธอจะรีบยกน้ำขึ้นมาดื่ม
"สวัสดีค่ะผู้จัดการมิน ตอนแรกไม่รู้แต่ว่าตอนนี้รู้แล้วก็รีบออกไปสิคะ"
แยมกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้กับชายเบื้องหน้าที่ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับคำกล่าวของแยมเลยแม้แต่น้อย เขายังคงเดินเข้ามาด้านในก่อนจะมานั่งลงข้างๆราเชล
เธอลุกขึ้นเพื่อจะเดินหนีแต่ว่ามือของเขากลับจับมือของเธอเอาไว้แน่นเพื่อให้เธอนั่งลงข้างเขา
"ทำไม? กลัวจะตกหลุมรักพี่อีกรอบงั้นเหรอ?"
ราเชลส่งเสียงร้องเหอะออกมา
"มันใกล้จะหมดเวลาพักแล้วค่ะผู้จัดการ ราเชลไม่สามารถพักได้ทั้งวันแบบท่านหรอกนะคะ"
เขาเลิกคิ้วมองหน้าเธอ
"ผู้จัดการดาครับ ช่วยลางานให้ราเชลสักครึ่งวันด้วยนะครับ บอกไปว่าผมให้เธอมาทำงานให้ชั่วคราว..หรือบางทีอาจจะมีค้างคืน"
มือของเธอกำแน่น แต่ถึงจะโกรธแค้นมากแค่ไหนเธอก็ยังคงส่งยิ้มให้เขาอยู่ นี่มันไม่สมเป็นตัวเธอเลยราเชล จะไปมัวจมปลักอยู่กับความรักอะไรนั่นทำไมล่ะ เธอจะมองเขาเหมือนกับผู้ชายทุกคนที่ผ่านมาให้ได้เลย
ราเชลยกมือขึ้นมาไล้ไปตามจมูกที่โด่งเป็นสันของเขา เธอเอียงหน้าเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นมาเท้าคาง ก่อนจะปรายตามองหน้าเขาด้วยสายตาที่แสนเย้ายวน
"พี่คะ ราเชลกำลังทำงานอยู่และหากว่าพี่ต้องการทำเรื่องอย่างอื่นที่นอกเหนือจากทำงานพี่ก็ช่วยหาคนอื่นทำเถอะนะคะ เพราะของที่เคยกินแล้วราเชลจะไม่กลับไปกินอีกเพราะราเชลรู้ว่ามันไม่ได้อร่อยแถมยังรสชาติห่วยอีกต่างหาก.."
มินจูงหัวเราะ สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงถึงแม้ว่าเธอจะกล่าวออกมาเช่นนั้นก็ตาม
"ราเชล ในบางทีหนูอาจจะลืมก็ได้นะ เพราะว่ามันนานมากแล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัวและ..ความทรงจำบางอย่างของหนูมันอาจจะคลาดเคลื่อนเพราะว่าพี่จำได้ดีว่าตอนที่เราอยู่ด้วยกัน.."
เขาก้มหน้าลงไปกระซิบข้างหูของเธออย่างแผ่วเบา
"หนูร้องครางออกมาดังแค่ไหนตอนที่นอนอยู่ใต้ร่างพี่..เห็นทีว่าจะต้องย้ำเตือนความทรงจำกันสักหน่อยแล้ว"