มือทั้งสองข้างของราเชลกำแน่น เธอจ้องมองใบหน้าที่หล่อเหลาและแฝงไปด้วยอันตรายของผู้จัดการมินจุงก่อนจะพยายามถอนหายใจเบาๆแล้วส่งยิ้มให้เขาราวกับว่าคำที่เขากล่าวออกมานั้นมันเป็นเพียงแค่คำพูดลอยลม
"ราเชลยังย้ำกับท่านไม่พอสินะคะเรื่องที่ว่า..หนูจะไม่กลับไปกินของเก่าอย่างแน่นอน"
เธอลุกขึ้น มือของราเชลรีบหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาและในจังหวะที่เธอจะเดินออกมาจากห้องอาหาร มินจุงก็เดินมาประชิดตัวเธอ แยมทำท่าจะเข้าไปขวางแต่ดารินรีบฉุดแขนของแยมเอาไว้
ผู้จัดการมินจุงเขาคืออาแท้ๆของท่านประธานและ..เขาคือคนอันตรายที่ไม่สมควรไปยุ่งด้วย ดารินคิดว่ามันต้องมีทางที่เธอจะสามารถพาเพื่อนทั้งสองคนของเธอออกไปจากห้องนี้ได้
"จะรีบไปไหนล่ะ หนูพึ่งจะมาไม่ใช่เหรอ อยู่ทานมื้อเที่ยงกับพี่ก่อนสิ"
ที่นี่คือห้องส่วนตัวในเลาจน์แน่นอนว่าจะไม่มีใครเข้ามาอย่างแน่นอนเรื่องการขอความช่วยเหลือจากคนนอกเรื่องนั้นลืมไปได้เลย และราเชลกำลังพยายามอย่างมากที่เธอจะไม่ใช้มือซัดไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา..
แค่ทานข้าวเธอก็ไม่อยากจะทานกับเขา ไม่อยากมองหน้าหรือว่าอะไรทั้งนั้น แต่ทว่าเขาคือหนึ่งในผู้บริหาร ส่วนเธอและเพื่อนอีกสองคนคือพนักงานตัวน้อยๆที่เขาแค่เขียนชื่อพวกเธอลงไป ซองสีขาวก็อาจจะถูกส่งมอบมาให้ถึงโต๊ะทำงานของเธอ
การขัดใจเขามันไม่ดีและเธอไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองคนมาเดือดร้อนด้วยเลย
"นั่นนะสิคะ มาเถอะค่ะผู้จัดการ วันนี้มีเมนูที่เป็นที่แนะนำของเลาจน์ด้วยนะคะ เป็นเกียรติจริงๆที่ได้ทานมื้อเที่ยงกับคุณผู้จัดการมิน.."
ดารินพยายามดึงบรรยากาศกลับมาพร้อมทั้งส่งสายตามองหน้าราเชล ดารินกระพริบตาถี่ๆเพื่อจะบอกให้ราเชลใจเย็นๆ คิดจะใจร้อนคิดถึงภาระเอาไว้นะเพื่อน
ราเชลยินยอมนั่งลงข้างผู้จัดการมินพร้อมกับตักอาหารเบื้องหน้าใส่ปาก นี่คงจะเป็นอาหารมื้อแรกที่เธอรีบทานอย่างเร่งด่วนที่สุดเพราะว่าเธอไม่อยากจะเห็นหน้าเขา
ส่วนมินจุงที่ริมฝีปากของเขามีรอยยิ้มจางๆ เขายกมือขึ้นมาเท้าคางเพื่อมองราเชลที่กำลังเคี้ยวอาหารแก้มตุ่ย มันดูน่ารักราวกับหนูตัวน้อยๆที่เขาเคยเลี้ยงเอาไว้..ให้งูกินเลย
นี่คือความสวยงามที่จะเรียกว่ายังไงดีนะ เพราะว่าเธอสวยจนสามารถทำให้เขาลืมไม่ลง ทั้งใบหน้าและร่างกายที่หอมหวานยิ่งกว่าผลไม้ชนิดใดๆที่เขาเคยชิมมา
เรือนผมที่นุ่มรื่นราวกับเส้นไหมที่กำลังเชื้อเชิญให้เขายื่นมือไปสัมผัสและ..หยาดน้ำตาแวววาวที่เธอมักจะร้องไห้ออกมาในยามที่เขาทรมานเธอบนเตียง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นราเชลมันชวนให้ร่างกายของเขาเกิดความคลุ้มคลั่งขึ้นมา
ทว่าสำหรับครั้งแรกในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเรา เจตนาของเธอชัดเจนมากเกินไปว่าเธอต้องการ..ความรัก และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่สามารถให้เธอได้
เขารักใครไม่ได้ เพราะหากจะเดินบนเส้นทางนี้เขาจะมีความรักกับพนักงานธรรมดาๆไม่ได้ ภรรยาของเขาจะต้องเป็นลูกสาวของตระกูลชื่อดังในแวดวงไฮโซเกาหลีหรือไม่ก็ไทย..
เขารับเธอเป็นภรรยาไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ทว่า..ทั้งที่เขาเป็นคนที่สามารถจัดการความคิดของตัวเองได้เป็นอย่างดี เขารู้เสมอว่าสิ่งใดที่ควรกระทำและสิ่งใดที่ไม่ควรก้าวข้ามเส้นไป
แต่ทุกครั้งที่หลับตาลง ภาพความงดงามของใบหน้าเธอมันไม่จางหายไปไหน ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาบนเตียงที่ปลายนิ้วยังรู้สึกอุ่นเหมือนกับว่าเมื่อคืนเขาโอบกอดเธอเอาไว้ อาการมันเริ่มหนักขึ้นจนเขาต้องขอตัวกลับไปเกาหลีเพราะเขาคิดว่าการห่างกันมันจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของเขาและเธอ..มันควรจะเป็นเช่นนั้น
แต่ไม่เลย นอกจากไม่ดีขึ้นแล้ว เขายังนอนไม่หลับอีกด้วยทั้งที่เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้รักเธอแต่ร่างกายกลับทรมานเมื่อไม่ได้สัมผัสเธอ
มันเป็นเพราะอะไรกันนะ เขาจึงคิดจะยื่นข้อเสนอให้เธอใหม่..
เขาสามารถให้เธอได้ทุกอย่างยกเว้นตำแหน่งคนรัก แค่นั้น..เธอจะยินยอมมาอยู่เคียงข้างเขาไหม?
"ราเชลอิ่มแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะท่านผู้จัดการ"
ราเชลกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นยืนและก้มหน้าลงเพื่อเป็นการขอบคุณเขา เธอถอนหายใจเบาๆเมื่อเขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะขัดขวางเธออีกแล้ว
ดารินถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินมาที่ลิฟต์พร้อมกันกับราเชล
"บรรยากาศกดดันอะไรแบบนั้น นึกว่าจะตายซะแล้ว"
"ขอโทษด้วยนะ ไม่ได้ตั้งใจจะลากแกมาซวยด้วยเลย..อยากจะบ้าเลยว่ะ ทั้งที่เขาไปจากที่นี่ตั้งสามปีแล้ว กลับมาทำไมกันวะ!"
ดารินลูบหลังราเชลเบาๆ
"เอาน่า อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้มาร้ายซะทีเดียว ตั้งใจทำงานนะ เจอกันตอนเย็น"
ดารินโบกมือลาเพื่อกลับไปทำงาน ส่วนเธอก็มาที่ห้องทำงานก่อนจะแต่งหน้าและจัดชุดให้เข้าที่เข้าทาง เธอไม่ลืมใช้แป้งปิดรอยที่เขาทำเอาไว้ที่ต้นคอ..
และเมื่อหวนคิดถึงสัมผัสที่แสนวาบหวามของเขา ใบหน้าก็พลันแดงซ่านขึ้นมาอีกครั้ง
ตั้งสติก่อนราเชล แกทำใจมาตั้งนานจะไปหวั่นไหวทันทีที่เห็นหน้าเขาไม่ได้นะ ครั้งที่แล้วที่เราจบกันก็เพราะว่าเขาบอกว่า เขาไม่ต้องการคนรัก หากว่าเธอต้องการคู่นอนหรือว่าเงินเขายินดีมอบให้
แต่หากว่าเธอต้องการความรัก ความสัมพันธ์ของเรามันจะสิ้นสุดตรงนั้น..เขาชัดเจนมาขนาดนั้นแล้วเธอจะยังคาดหวังเรื่องลมๆแล้งๆไปอีกทำไมกัน
"พี่ราเชลคนสวยมาแล้ว นี่ค่ะคุณออสตินเอามาให้พร้อมกับ..บัตรดินเนอร์"
ราเชลรับช่อดอกไม้จากมินมาถือเอาไว้ มันคือช่อดอกยิปโซที่แสนน่ารัก และความหมายของดอกยิปโซก็คือ คุณคือรักแรกพบของฉัน
โรแมนติกจังนะ บางทีเธอก็ควรจะทบทวนเรื่องการออกเดตกับเขาใหม่ซะแล้ว ในเมื่อวันนี้พบเจอแต่เรื่องแย่ๆแบบนั้นไปเจอเรื่องที่ชวนให้ใจสั่นไหวหน่อยน่าจะดี
"ว้าว ช่อดอกไม้ สมเป็นแม่ราเชลจริงๆ"
ราเชลส่งยิ้มให้แยมเมื่อเธอกำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน เราซื้อบ้านแฝดที่อยู่ติดกันและในขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าบ้าน แยมก็แต่งตัวเตรียมจะออกมาข้างนอก
"จะไปไหน?"
"นัดค่ะ มึงยังมีดินเนอร์ได้กูก็มีได้ค่ะเพื่อน พรุ่งนี้มีงานเลี้ยงนะของพี่ธีเจ้าเก่าที่หล่อจืดๆ ไปด้วยนะคะเพราะว่ามีฝ่ายบริหารไปหลายคน..ไปหว่านแหเอาได้เลยค่ะ"
ราเชลหัวเราะเบาๆ
"เออๆพรุ่งนี้เจอกัน บอกไอ้ดายัง"
"ยังเดี๋ยวกูไลน์บอกเอง"
ราเชลจัดการจัดดอกไม้ในมือใส่แจกัน ก่อนจะเตรียมตัวเพื่อออกไปข้างนอก เธอเลือกใส่มินิเดรสสีครีมที่ให้ลุคคุณหนู ส่วนผมก็ดัดเป็นลอนๆให้ดูน่ารัก
และพอถึงเวลาหนึ่งทุ่มก็มีรถยุโรปมาจอดที่หน้าบ้านของเธอ..