วิธีพิสูจน์

1214 คำ
ชารัณ เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มและดูน่าเกรงขาม แถมเจ้าตัวยังมีรูปงามตรงตามสเปคในแบบที่หญิงสาวทั้งหลายเฝ้าไฝ่ฝัน เจ้าของร่างใหญ่ไม่ใช่ลุงพุงพลุ้ยหัวล้าน รูปร่างเตี้ยล่ำอย่างที่ขวัญยิหวาคาดเดานั่นเลยสักนิด หากดูไม่ผิดอายุของเขาน่าจะยังไม่เกินสามสิบปี และที่สำคัญกว่านั้นในความหล่อนั่นมันยังดูดุดันอยู่ในที เขาจ้องมองขวัญยิหวาด้วยนัยน์ตาที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ แต่สายตาของเขามันทำให้คนถูกมอง ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะเจ้าของร่างใหญ่เอาแต่มองสบตากับอีกฝ่ายอย่างที่ไม่ยอมละสายตา แล้วเมื่อกุลธิดาเห็นอย่างนั้นเธอถึงกับอุทานออกมาทันที “อุ้ยดูสิ คุณชารัณคงจะถูกใจกับสินค้าของธิดามากเลยใช่ไหมคะ ธิดาขอรับประกันเลยค่ะว่า ขวัญยิหวาคือของใหม่แกะกล่อง ที่ยังไม่เคยผ่านมือของใครมาทั้งนั้น” ขวัญยิหวาถึงกับหน้าม้าน เมื่อได้ยินกุลธิดาพูดถึงเธอราวกับว่า เธอเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งชารัณก็ไม่ได้สนใจฟังคำสาธยายของคนเป็นนายหน้า เพราะสายตาของเขามัวแต่จับจ้องมองอีกคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลัง ถึงแม้ขวัญยิหวาจะมีอาการตื่นกลัวเขาอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยหญิงสาวก็ยังสามารถควบคุมสติของตัวเองได้ดี “หมดธุระของเธอแล้ว เพราะงั้นออกไปได้!” ชารัณออกคำสั่งกับกุลธิดาด้วยน้ำเสียงห้วนดัง ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งร่างอย่างรู้สึกตกใจ เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มเป็นถึงเจ้าของธุรกิจมากมาย ที่มีทั้งขาวและดำอยู่ในกำมือ ซึ่งต้นตระกูลของเขาก็คือพวกของมาเฟียนั่นเอง “ฉันสั่งให้ไสหัวออกไปไง!” เขาย้ำคำ และทำตาแข็งใส่อีกฝ่าย ขณะที่น้ำเสียงก็เริ่มจะกระด้างขึ้นไปอีกเท่าตัว “ให้ไปเดี๋ยวนี้เลยเหรอคะ?” กุลธิดาเอ่ยถามขณะทำท่าทางเลิ่กลั่ก เพราะคาดหวังเอาไว้ว่าเธอจะได้ค่าขนม หลังจากที่ส่งของให้เขาเสร็จเรียบร้อย “เออสิวะ...ค่าขนมไม่มี มีแต่ลูกปืน!” กุลธิดาทำหน้าตาตื่นกลัว ก่อนพาตัวเองก้าวเท้าวิ่งออกมาจากห้องนั้นทันที หลังจากที่ได้ฟังประโยคนั่นจบลง โดยปล่อยให้ขวัญยิหวายืนงง แต่ก็ยังคงทำใจสั่นสู้กับคนตรงหน้า ที่ทำท่าเดินวนไปวนมาอยู่เพียงลำพัง และหลังจากที่เขาไล่กุลธิดาออกไปจากห้อง เจ้าของร่างใหญ่ก็เดินออกไปสูบบุหรี่ตรงระเบียงที่อยู่ทางด้านหลัง โดยไม่ได้สนใจหันมองคนที่ยังอยู่ในห้องด้วยกัน ขวัญยิหวาจึงอาศัยจังหวะนั้นเดินมานั่งลงบนโซฟา และพยายามถามตัวเองอีกครั้งว่า หากต้องการเปลี่ยนใจเอาตอนนี้ เธอยังทำได้อยู่ใช่ไหม? ได้...หรือ...ไม่ได้...ยังไงก็ต้องลองดู... ไวเท่าความคิดเมื่ออยู่ ๆ ชารันก็เดินกลับเข้ามาด้านใน ชายหนุ่มทิ้งก้นลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน จากนั้นจึงเอ่ยถามหญิงสาวออกมาตามตรง “ขวัญยิหวา...เธอซิงแน่เหรอ?” “ห่ะ!?” ชายหนุ่มตีสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่าย ทำหน้าคล้ายกับไม่เข้าใจในประโยคคำถามง่ายๆ ของเขา “อย่าทำมาเป็นตลกหน่อยเลย ฉันยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนในยุคนี้ ที่ยังคงรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้ได้ หึ...แต่ยายนั่นกลับกล้ามาการันตีให้ แถมยังเรียกเงินค่าตัวของตัวเธอไปจากฉันเสียตั้งเยอะแยะ หากกล้ามาย้อมแมวกันรู้ใช่ไหม ว่าฉันคงไม่เอาเธอทั้งสองคนไว้แน่” ขวัญยิหวารู้สึกอับอาย เมื่อคุณค่าของความเป็นคนถูกตีราคาจนไม่เหลือดี เลือดรักศักดิ์ศรีจึงทำให้ขวัญยิหวารู้สึกโกรธขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ได้ฟังเขาว่าตัวเองอยู่ข้างเดียว ยิ่งได้ยินว่ากุลธิดารับเงินค่าตัวของเธอไปเยอะกว่าที่คุยกัน มันก็ยิ่งทำให้หญิงสาวโกรธอีกคนจนลมออกหู “ดูคุณเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างฉลาดและน่าจะช่ำชองพอตัว แล้วทำไมคุณถึงไม่ใช้หัวสมองคิดบ้าง ว่าเรื่องที่ฟังมามันคือเรื่องจริงหรือว่าย้อมแมว อีกอย่าง...หากคุณต้องการความมั่นใจ จะให้หมอตรวจฉันดูก่อนก็ได้นี่คะ” “ไม่จำเป็น เพราะฉันมีวิธีที่จะพิสูจน์เองได้” “ไม่ค่ะ...เพราะฉันเปลี่ยนใจไม่ทำ!...” ว่าแล้วขวัญยิหวาก็เปิดกระเป๋าสะพาย แล้วล้วงหยิบเอาเงินที่ได้รับมาจากกุลธิดา ยื่นส่งคืนให้กับชารัณทันทีหลังจากที่พูดจบ “นี่คือเงินสองหมื่นห้าครึ่งหนึ่งที่ฉันได้รับมาจากยายนั่น...ฉันคืนให้คุณเลยแล้วกัน ในส่วนที่เหลือคุณก็ไปตามเอาคืนจากยายนั่นเอง...ฉันไปละ” แต่ก่อนที่ขวัญยิหวาจะทันได้ก้าวออกไปจากห้อง ร่างของเธอก็ถูกอีกคนช้อนอุ้มขึ้นพาดบ่า ราวกับว่าเธอไม่มีน้ำหนักตัว “คุณจะทำอะไร? ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ทำ!” “รับเงินไปแล้วนั่นถือว่าเธอคือของฉัน” หญิงสาวโวยวายเสียงดังพลางเอากำปั้นทุบไปที่หลังของเขา ส่วนเจ้าของร่างใหญ่ก็ได้ฟาดฝ่ามือหนา ลงมาบนแก้มก้นของเธอหลายครั้ง อย่างที่ต้องการเอาคืน ขวัญยิหวาพยายามดิ้นรนขัดขืนและต่อสู้ทุกวิถีทาง จนกระทั่งถูกอีกคนโยนร่างของเธอลงไปบนที่นอน ก่อนที่เขาจะตามลงมา “กรี้ดดดด...อย่านะ!” เสียงหวีดร้องอย่างตื่นกลัว เมื่อเห็นคนตัวใหญ่กว่าไม่มีทีท่าว่าจะหยุดให้ และยิ่งเสียขวัญจนแทบจะบ้าตาย เมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ของอีกฝ่าย รุกล้ำเข้ามาด้านในของกระโปรงตัวสั้น ก่อนจะขยำเข้าไปที่บั้นท้ายของเธอ “หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันบอกให้ปล่อยไง” “อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้นได้ไหม หากเธอยอมให้ฉันพิสูจน์ฉันจะยอมจ่าย...” “ไม่เอา!” “ฉันยังพูดไม่จบ!” “เท่าไหร่ก็ไม่เอา...ปล่อยฉันนะ!” เมื่อถูกลงมืออย่างแข็งกร้าว กลายเป็นว่าทั้งเข่าและศอกของหญิงสาว ต่างประเคนเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างที่ไม่ยอมออมมือ แต่มีหรือที่เรี่ยวแรงของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างขวัญยิหวา จะสามารถต่อสู้กับผู้ชายที่มีตัวโตกว่าได้ เพราะในที่สุดแพนตี้สีหวาน ก็ถูกมือของอีกฝ่ายกระชากให้หลุดออกมาจากบั้นท้ายของเธอ “กรี้ดดดด...ไอ้ชาติหมา!ไอ้หน้าตัวเมีย!” ขวัญยิหวาทั้งกร่นด่าทั้งหวีดร้อง ด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น แต่ชารัณก็ไม่ยอมละเว้น เพราะเขาคิดว่าเธอเป็นสินค้า ที่เขามีสิทธิ์ตรวจทานเธอได้ในเบื้องต้น... ยิ่งเธอดิ้นรนขัดขืน มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น!... “อย่านะ! ช่วยด้วย! หยุดเดี๋ยวนี้!” แคว่ก! “กรี้ดดดดดดด” !!! !! !
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม