แม้ภายในใจของผ้าแพรจะมีไฟร้อนแห่งความแค้นสุมอัดแน่นอยู่ แต่ยามเมื่อเธอต้องอยู่ต่อหน้าคนชั่วทั้งสามเธอกลับต้องพยายามฝืนยิ้มแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวที่พวกเขาวางแผนคิดจะลอบฆ่าเธอ
"ทานข้าวเยอะ ๆ นะครับที่รัก คุณจะได้หายไว ๆ "ดนัยพูดกับผ้าแพรอย่างเอาอกเอาใจ ในขณะที่พ่อแม่ของเขาก็ทำเช่นเดียวกันราวกับนัดแนะกันมา
"นี่คือผลไม้ที่พ่อกับแม่ตั้งใจปอกเอาไว้ให้ รสชาติหวานชื่นใจหนูผ้าแพรทานสักนิดสิจ๊ะ"
"พ่อกับแม่ตั้งใจตื่นตั้งแต่เช้าไปเลือกซื้อผลไม้พวกนี้มาให้หนูแพรเลยนะ ทานเยอะ ๆ นะลูก"
"ขอบคุณนะคะ พ่อแม่"แม้ไม่อยากจะหยิบของพวกนั้นเข้าปาก แต่สุดท้ายเธอก็ยอมหยิบแอปเปิลหนึ่งชิ้นเข้าใส่ปาก พยายามฝืนเคี้ยวทั้งที่ใจอยากจะคายทิ้งเสียตรงนั้น
"เป็นอะไรไปครับ ไม่ถูกใจเหรอ"ดนัยถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของผ้าแพร
"เปล่าค่ะ แพรก็แค่คิดถึงลูก"หญิงสาวตอบเสียงเศร้าก้มหน้ามองหน้าท้องแบนราบซึ่งตอนนี้ไม่มีแล้วลูกน้อยที่เธอเฝ้ารอคอยมานานแสนนาน
"ถ้าไม่ใช่เพราะแพรประมาท ลูกคงจะยังอยู่กับเรา"เธอยังคงพูดเสียงเศร้า มีบางครั้งที่สายตาหันเหลือบไปมองหน้าคนชั่วทั้งสามด้วยแววตาอาฆาตแค้นอยากจะฆ่าคนทั้งสามให้ตายคามือ
"ที่รักอย่าคิดมากเรื่องลูกเลยนะ ถือซะว่าลูกหมดบุญกับเราสองคนแค่เพียงแค่นี้ เอาไว้ที่รักหายดีเมื่อไหร่เราค่อยมาทำลูกกันใหม่นะ"ชายหนุ่มคว้าร่างอ่อนแรงในชุดโรงพยาบาลของภรรยาสาวเข้าไปกอดปลอบใจ ในขณะที่คนชั่วทั้งสามหันไปมองหน้ากัน
ผ้าแพรกัดฟันกรอด ฝ่ามือกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ เธออยากจะฆ่าคนทั้งสามให้ตายคามือให้มันสมกับที่คนสารเลวพวกนี้ได้ทำเอาไว้ ความรักฝันหวานที่เธอวาดไว้พังทลายเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นอัดแน่นเต็มหัวใจ ยากที่จะลบมันได้ถ้าคนพวกนี้ไม่ตายด้วยฝีมือของเธอ
'ความเจ็บปวดของเธอในครั้งนี้มีราคามากมายคนที่พวกนี้จะต้องชดใช้ เธอจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองจะต้องเป็นฝ่ายสูญเสียแค่เพียงคนเดียว'
"ทำไมไม่นอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านก่อนล่ะครับ จะรีบไปทำงานทำไม"นี่คือคำพูดของผู้เป็นสามีทันทีเมื่อเขาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าภรรยาคนสวยกำลังยืนแต่งหน้าอยู่ตรงหน้าโต๊ะกระจก
"แพรนอนพักอยู่บ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ ให้แพรได้ออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างเถอะค่ะ แพรอยากทำงาน"หญิงสาวพูดในขณะที่เธอเติมแต่งลิปสติกสีแดงสดลงบนริมฝีปากหวาน ก่อนจะหันมาถามสามีที่ยังคงนั่งมองเธออยู่บนเตียง
"สวยไหมคะ"
"สวยครับ แต่ว่ามันจะไม่แดงเกิดไปใช่ไหมครับ"
"ไม่หรอกค่ะ มันเข้ากับชุดที่แพรจะใส่ในวันนี้"หญิงสาวเดินไปยังตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบชุดเดรสสีดำสายเดี่ยวขึ้นมาโชว์ให้สามีได้ดู
"แพรซื้อชุดนี้มานานแล้วค่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ใส่ วันนี้แพรว่าจะใส่ชุดนี้ไปทำงาน"
"มันไม่โป๊ใช่ไหมครับ ปกติแพรไม่ชอบใส่ชุดอะไรแบบนี้นี่"
"แต่ตอนนี้แพรคิดว่าชุดพวกนี้มันก็สวยดีนะคะดนัย แพรอยากใส่"หญิงสาวตอบออกมาด้วยสีหน้ามีรอยยิ้ม
"ให้แพรใส่นะคะ"
"ครับ ผมตามใจแพร"
"สามีของแพรน่ารักที่สุดเลยค่ะ"ผ้าแพรยิ้มออกมา เธอเดินเข้ามาสวมกอดร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นสามี
"แพรรักคุณมากนะคะดนัย"
"ครับ ผมก็รักแพร"ชายหนุ่มกดปลายจมูกโด่งลงบนแก้มขาวของหญิงสาว ก่อนที่ผ้าแพรจะคล้ายอ้อมแขนออกจากชายหนุ่มบนใบหน้าของเธอยังคงมีรอยยิ้มหวานส่งไปให้
"ถ้าอย่างนั้นแพรขอเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ เดี๋ยวจะไปทำงานสาย"
"เดี๋ยวครับ แล้วแพรจะไปทำงานกับรถอะไร"ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะรถของผ้าแพรยังอยู่ที่อู่
"แพรไปแท็กซี่ได้ค่ะ"
"ให้ผมไปส่งดีกว่าครับ ผมไม่อยากให้แพรไปแท็กซี่มันอันตราย"ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร่งรีบโดยมีสายตาของผ้าแพรคอยมองตามไป
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะตกอยู่ในอาการปลาบปลื้มและยินดีกับการที่ถูกสามีคอยเอาอกเอาใจแบบนี้ แต่ทันทีเมื่อเธอได้รู้ว่าคนที่เธอรักและไว้ใจเป็นคนที่ร้ายมากที่สุดสำหรับเธอ อาการปลาบปลื้มเหล่านั้นมันก็ได้หายไปทันทีราวกับว่ามันไม่เคยมีความรู้สึกดี ๆ เกิดขึ้นกับเธอ
"ดนัยคิดว่า แพรควรจะซื้อรถคันใหม่ดีไหมคะเพราะรถที่เกิดอุบัติเหตุแล้วเอามาขับต่อแบบนี้ คุณพ่อเคยบอกแพรว่ามันไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่"
"แพรอยากซื้อรถใหม่เหรอครับ"
"ค่ะ แพรอยากได้ได้รถใหม่ รถคันนั้นที่แพรขับอยู่มันก็หลายปีแล้วด้วย"ผ้าแพรหันมามองหน้าสามี
"ดนัยคิดว่ายังไงคะ"
"ถ้าแพรอยากจะซื้อ ผมก็แล้วแต่แพรเลยครับ ส่วนรถคันเก่าของแพร ถ้าซ่อมเสร็จแล้วผมขอได้ไหม บังเอิญว่ารุ่นน้องที่ทำงานของผมไม่มีรถขับ แต่ถ้าจะให้ซื้อต่อจากแพรเลยก็คงมีเงินไม่พอ ผมเลยอยากจะขอรถจากแพรไปให้รุ่นน้องได้ขับมาทำงาน เอาไว้ถ้าเขามีเงินเมื่อไรก็..."
"ได้สิคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้แพรจะเข้าไปดูรถที่อู่ให้ว่าซ่อมเสร็จไปถึงไหนแล้ว ส่วนเรื่องเงินแพรไม่มีปัญหาหรอกค่ะ อะไรที่แบ่งกันได้ก็แบ่งกันไป แพรไม่ซีเรียสอะไรอยู่แล้ว"
"ขอบคุณนะครับ ที่รักของผมใจดีจัง"ชายหนุ่มเอ่ยชมด้วยความดีใจ จนไม่ทันได้สังเกตเห็นแววตาของหญิงสาวซึ่งกำลังมองมาที่เขาด้วยเล่ห์ร้าย
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะเอารถของเธอไปให้ใคร แต่ก็เอาเถอะ เธอจะยอมแกล้งโง่ให้คนพวกนี้ตายใจไปเสียก่อน เพื่อรอวันที่เธอจะได้เอาคืนอย่างสาสม
"ผมไปทำงานก่อนนะครับ แล้วเย็นนี้แพรจะให้ผมมารับที่นี่ไหม"
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เดี๋ยวแพรให้เลขาไปส่ง แพรไปทำงานก่อนนะคะ"
"ครับ ไว้เจอกันที่บ้านตอนเย็นนะครับ"
"ค่ะ ขับรถดี ๆ นะคะ"ผ้าแพรยืนโบกมือเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังขับรถเคลื่อนตัวออกไปจากหน้าบริษัทของเธอ
ใบหน้าสวยที่มีรอยยิ้มหวานเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง แม้แต่แววตาที่แสดงออกมาในตอนนี้มันช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟแค้นที่ลุกโชนอยู่ภายใน
ร่างสวยในชุดเดรสสีดำสนิทเดินก้าวเข้ามาภายในบริษัทยักษ์ใหญ่ของตัวเอง ซึ่งในระหว่างทางนั้นเหล่าพนักงานคนอื่น ๆ ต่างพากันสวัสดีทักทายท่านประธานใหญ่ตามปกติ แต่ที่ผิดแปลกไปในวันนี้ก็คงเป็นรังสีอันตรายที่แผ่ออกมาจากดวงตาของผ้าแพร
"สวัสดีค่ะคุณผ้าแพร"
"เรื่องที่แพรสั่ง ไปถึงไหนแล้วคะ"
"อีกครึ่งชั่วโมง คนที่คุณผ้าแพรต้องการพบตัวจะเดินทางมาถึงค่ะ"
"ขอบคุณมากนะคะ"
"เอสการทั้งหมดที่คุณผ้าแพรต้องเซ็นดิฉันวางไว้บนโต๊ะทำงานแล้วนะคะ"
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณกิ่งกาญจน์ จริงสิ คุณกิ่งกาญจน์ช่วยหาข้อมูลของผู้ชายที่ชื่อขุนพลให้แพรหน่อยนะคะ"
"ขุนพลเหรอคะ ใช่คุณขุนพลที่เป็นเจ้าของกาสิโนหรือเปล่าคะ"
"ใช่ค่ะ ขอแบบด่วนนะคะ แพรต้องการข้อมูลของเขา"
"ได้ค่ะ ดิฉันจะรีบจัดการหามาให้"