“ผมจะไม่มีทางเลี้ยงดูศัตรูเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่...หรือลูกก็ตาม” เสียงเข้มของชายหนุ่มวัยยี่สิบปีบอกกับผู้เป็นพ่อและแม่ของตัวเองด้วยความไม่พอใจกับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะเข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับตัวเองในฐานะที่เปลี่ยนไป ทำให้ฉัตรพลและกานต์พิชชามองหน้ากันอย่างปลงตกเพราะนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่พวกเขามีปากเสียงกับลูกชายคนโตแบบนี้
“แต่เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วนะ ความผิดของพ่อแม่จะเอามารวมกับลูกได้ยังไง หรือว่าแกจะปล่อยให้เด็กผู้หญิงคนนั้นต้องใช้ชีวิตคนเดียวไปจนโต” เพราะในตอนนี้พ่อกับแม่ของเธอก็เสียชีวิตไปทั้งคู่แล้ว
“ใช่ และแม่ก็เห็นว่าหนูเมย์ก็เป็นเด็กนิสัยดี ถึงจะบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันกับสองคนนั้น แต่แม่ก็ไม่เห็นเลยว่าเธอจะได้นิสัยจากพ่อกับแม่มา ทำไมเตไม่ลองเปิดใจให้น้องบ้างล่ะ”
“ผมมีน้องแค่คนเดียวคือไอ้ดิน ถ้าพ่อกับแม่จะรับเด็กคนนั้นมาเลี้ยง ก็ถือว่าพ่อกับแม่เลือกผู้หญิงคนนั้นที่เป็นคนนอกมากกว่าลูกแท้ ๆ อย่างผม”
ชายหนุ่มเอ่ยทิ้งท้ายแล้วสบตากับคนเป็นพ่อและแม่ด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างไม่ปิดบัง สำหรับเขาคนที่ทรยศก็ยังคงเป็นศัตรูอยู่ตลอดและไม่มีความจำเป็นจะต้องเก็บเอาไว้ หากสองคนนั้นไม่รถคว่ำจนเสียชีวิตระหว่างหลบหนี เขานี่แหละที่จะเป็นคนลากตัวคนพวกนั้นมาลงโทษเอง
แปดปีต่อมา
ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงวิ่งดังขึ้นภายในของคฤหาสน์หลังใหญ่ในช่วงเย็นระหว่างที่แม่บ้านทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมอาหารมื้อค่ำ เนื่องจากวันนี้ลูกชายคนโตของคุณท่านเจ้าของบ้านได้กลับมาร่วมโต๊ะอาหารด้วย ดังนั้นทุกอย่างจึงค่อนข้างตึงเครียดกว่าปกติ เพราะจะมีอะไรผิดพลาดไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ขณะเดียวกันก็เป็นเวลาที่ลูกสาวคนเล็กของบ้านก็ได้กลับจากมหาวิทยาลัยพอดี ร่างเล็กในชุดนักศึกษาที่กำลังถือหนังสือและแท็บเล็ตในมือรีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้นบนทันทีเพื่อตรงไปยังห้องของพี่ชายตัวเอง
แกร๊ก
“พี่ดิน~” มือเล็กจัดการเปิดประตูห้องออกอย่างถือวิสาสะโดยไม่ได้มีการขออนุญาตคนด้านในก่อนตามความเคยชิน ก่อนเท้าเล็กที่กำลังเดินเข้าไปจะต้องหยุดชะงักพร้อมกับรอยยิ้มที่หายไปเมื่อเห็นว่าในห้องนั้นไม่ได้มีแค่ ‘แผ่นดิน’ พี่ชายของเธออยู่
“ขะ...ขอโทษค่ะ ลินไม่รู้ว่าคุณเตชินท์อยู่ด้วย” ท่าทีที่มีความสุขเมื่อครู่พลันเปลี่ยนเป็นความประหม่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นสายตาเย็นชาที่มองมา ก่อนเจ้าของใบหน้าคมคายจะเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจเพื่อสั่งสอนเด็กที่ไม่มีมารยาทอย่างเธอ
“ไม่มีใครสอนหรือไงว่าก่อนเข้าห้องคนอื่นต้องรอให้เจ้าของอนุญาตก่อน”
“ขอโทษค่ะ”
“ตอนอยู่ข้างนอกเธอจะเข้าห้องคนอื่นอีกสักกี่คนฉันไม่สน แต่ตอนที่อยู่บ้านหลังนี้อย่างน้อยก็ควรจะเกรงใจเจ้าของบ้านบ้าง”
คุณคนนั้นเป็นคนที่รักความเป็นส่วนตัวยิ่งกว่าอะไร เธอรู้ดี และเขาก็ไม่เคยนับว่าเธอเป็นน้องสาวเลยตั้งแต่ที่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกัน ซึ่งต่างจากแผ่นดินที่เป็นน้องชายอย่างสิ้นเชิง และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอมักจะเรียกแทนเขาว่า ‘คุณ’ เสมอ อย่างรู้สถานะของตัวเอง
“วันหลังสอนคนของมึงให้ดีด้วย” ร่างสูงดันตัวลุกขึ้นพลางหันไปเอ่ยบอกกับน้องชายตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องไป หลังจากที่มีคนนอกเข้ามาทำให้พื้นที่ตรงนี้ไม่เป็นส่วนตัวอีกต่อไป
“เอ่อ...หนูขอโทษนะคะพี่ดิน ต่อไปหนูจะระวังให้มากกว่านี้” ลลินก้มหน้าลงแล้วเอ่ยเสียงเบา สองมือของหญิงสาวกำแน่นและเย็นเฉียบเมื่อโดนตำหนิอย่างไร้เยื่อใย ที่ผ่านมาเธอคงจะเป็นภาระและทำให้ทุกคนรำคาญใจมาก เตชินท์ถึงได้แสดงท่าทีรังเกลียดเธอขนาดนี้ คงเป็นเพราะความเมตตาของประมุขใหญ่ของบ้านจึงทำให้หญิงสาวลืมกำพืดของตัวเองไป...
ทั้ง ๆ ที่เป็นแค่ลูกของคนใช้ที่ถูกรับมาเลี้ยง แต่กลับไม่เจียมตัว ก็สมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้
“ไม่เป็นไร อย่าคิดมากเลย พี่ไม่ถือเรื่องพวกนี้หรอก แค่ต่อไประวังเฮียเตหน่อยก็ดี” แผ่นดินที่เห็นว่าคนตัวเล็กก้มหน้าลงก็เดินเข้ามาแล้วลูบหัวของหญิงสาวเบา ๆ เพื่อปลอบโยน
ถึงแม้แผ่นดินจะมีด้านมืดเหมือนกับพี่ชายของตัวเอง แต่เขากับเตชินท์ไม่เหมือนกันในเรื่องนี้ เพราะเขารู้สึกเอ็นดูลลินเหมือนกับน้องสาวแท้ ๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่ลูกของศัตรูแต่อย่างใด
‘ลลินดา’ ชื่อที่ฉัตรพลและกานต์พิชชาตั้งให้กับเด็กสาวเมื่อแปดปีก่อนเพื่อเป็นการเริ่มต้นใหม่ให้กับชีวิตของเธอ
เธอไม่ใช่ลูกของคนใช้ หรือลูกของคนทรยศ แต่เธอคือ ‘ลลิน’ ลูกสาวและคุณหนูคนเล็กของเทพพิพัฒน์
“สรุปมาหาพี่มีเรื่องอะไร?” เขาชวนอีกคนพูดคุยเพื่อทำลายบรรยากาศชวนอึดอัด ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะได้ผลจากการที่คนตัวเล็กคลี่ยิ้มออกมาราวกับเมื่อครู่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
ลลินดามักเป็นแบบนี้เสมอ เธอเป็นคนที่มีความเป็นเด็กคนหนึ่งค่อนข้างสูง ที่มักจะคิดหรือรู้สึกอะไรก็จะแสดงออกมาแบบนั้น นั่นจึงทำให้ทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่าการกระทำทุกอย่างของหญิงสาวมาจากความจริงใจจริง ๆ และไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรให้ต้องระแวงเหมือนกับคนอื่น ๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกัน
“หนูเรียนจบปีหนึ่งแล้วนะคะ” คนตัวเล็กคลี่ยิ้มกว้างด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ใช่แค่การสอบเสร็จอย่างเดียวแต่เพราะลลินดามั่นใจว่าเทอมนี้เธอจะสามารถเก็บเกรดเอมาฝากทุกคนได้ทุกวิชาแบบเมื่อเทอมก่อน
“แล้ววันนี้หนูก็ทำข้อสอบได้ทุกข้อเลยด้วย มั่นใจว่าได้เอมาฝากทุกคนแน่นอน~”
“เก่งมาก แต่ว่าเราไม่ต้องกดดันตัวเองหรอกนะ ไม่ว่าจะได้เกรดอะไรพวกเราก็ภูมิใจ”
ลลินดาฉีกยิ้มเมื่อได้รับคำชมแล้วก้มหัวให้กับพี่ชายลูบอย่างง่ายดาย
กับคนในบ้านเธอจะชอบแทนตัวเองว่าหนูแบบนี้ทุกครั้งตามความเคยชิน คงจะมีก็แค่เขาเท่านั้นที่หญิงสาวต้องแทนตัวเองว่า ‘ลิน’ เสมอ เพื่อคงสถานะที่แตกต่างกันเอาไว้