ตอนที่ 7 แทบคลั่ง

1851 คำ
บนโต๊ะอาหารมื้อเย็นของคฤหาสน์หลังใหญ่ ทิศเหนือเอาแต่คอยเหลือบมองใบหน้าสวยหวานของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างคาดโทษในใจ กลางดึกคืนนั้น เขานอนพลิกกายไปมาบนเตียง หันมองไม้หมอนที่หลับสนิทไม่รู้เรื่องแล้วถอนหายใจ ก่อนค่อย ๆ ย่องออกมาจากห้อง ประตูห้องที่อยู่อีกฝั่งคือเป้าหมาย แต่เมื่อคว้าลูกบิดกลับต้องหงุดหงิดเมื่อมันถูกล็อก จึงรีบกดโทรหาเจ้าของห้องทันที มุกไหมลืมตาขึ้นมาเมื่อโทรศัพท์มือถือสั่นรบกวนการนอน เธอกดรับสายอย่างหัวเสีย “โทรมาทำไม” “เปิดประตูให้ผมหน่อย” “อย่าให้มันมากไปนะเหนือ พี่บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับพี่อีก” “แต่ว่าเรายังคุยกันไม่จบ เมื่อเย็นไอ้ไม้มันกลับมาก่อน ผมปวดไปทั้งลำแล้ว พี่ไหมต้องเปิดประตูให้ผมเดี๋ยวนี้” “นายไม่ได้จะคุยกับพี่ แต่นายจะปล้ำพี่ต่างหาก หยุดคิดเรื่องนี้ไปได้เลย แล้วรีบกลับเข้าห้อง อย่าให้ไม้รู้เรื่องนี้เด็ดขาด ไม่งั้นพี่เอานายตายแน่” “ไม่อยากให้ไอ้ไม้รู้ พี่ก็เปิดประตูให้ผมสิ” “นี่นายบ้าหรือเปล่า เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะ อีกอย่างถ้าไม้ตื่นมาแล้วไม่เจอนายจะว่ายังไง ไม้ไม่ใช่คนโง่นะ อยากมีเรื่องนักเหรอ ถ้าหื่นจนทนไม่ไหวก็รีบไปหาสาว ๆ ของนายสิ จะมาทนปวดอยู่ทำไม” “พี่ไหม ตอนที่ผมทำพี่ พี่ก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอครับ อย่าใจแข็งกับผมนักเลย เปิดประตูให้ผมนะ” เอ่ยออดอ้อนเสียงอ่อย เขามั่นใจว่าเธอเองก็รู้สึกดีกับเขาเหมือนที่เขารู้สึกดีกับเธอ และไม่มีวันที่เธอจะลืมสัมผัสแสนวาบหวามของเขาอย่างแน่นอน “พี่ไม่มีวันเปิดประตูให้นายแน่ กลับไปนอนซะเหนือ แค่นี้นะ” มุกไหมกดวางสายแล้วปิดเครื่องทันที รู้ว่าอย่างไรคืนนี้ทิศเหนือก็ไม่กล้าเคาะประตูหรือกระโตกกระตากเสียงดัง และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เมื่อเธอนอนหลับสบายจนถึงเช้าโดยไม่มีใครมาเคาะประตูรบกวนสักครั้ง ดาราสาวลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงมาในห้องอาหาร น้องชายและเพื่อนที่กำลังกินมื้อเช้าอยู่จึงเงยหน้าขึ้นมอง “พี่ไหม จะเอากระเป๋าไปไหน ไปนอนคอนโดเหรอ” ไม้หมอนเอ่ยถามพี่สาว แม้จะยังไม่อยากให้เธอออกไปอยู่ตามลำพังเหมือนเคยด้วยกลัวว่าอดีตคนรักจะตามมาวุ่นวาย “เปล่า ไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัด” “อ้าว แล้วจะไปงานหมั้นไอ้ลมไหม” “ไปสิ ไปแค่คืนเดียวก็กลับมาแล้ว” “โอเค กลับมานอนบ้านนะ จะได้ออกไปงานหมั้นพร้อมกัน” “อืม พี่ไปนะ” มุกไหมเหลือบมองดวงตาวาววับครู่หนึ่งก่อนจะเชิดหน้าขึ้นแล้วเดินออกจากบ้านไป ที่จริงเธอไม่ได้มีไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัดหรอก แต่จะหนีทิศเหนือไปนอนที่คอนโดมิเนียมมากกว่า เพราะเมื่อวานเธอได้ยินเต็มสองหูว่าเขาจะมานอนที่นี่สองคืน “ไอ้เหนือ บ้านนี้เหลือแค่กูกับมึง คืนนี้จัดปาร์ตี้สละโสดให้ไอ้ลมที่บ้านกูดีไหม เอาสาว ๆ มาด้วยแก้เบื่อ” “อืม เอาสิ” ทิศเหนือตอบรับไปอย่างนั้นเอง ตอนนี้ร่างกายและจิตใจไม่พร้อมรับแรงกระแทกจากสุรานารีอีกแล้ว ************ แล้วงานหมั้นของวายุกับขวัญข้าวก็ถูกจัดขึ้นอย่างอบอุ่นในคฤหาสน์หลังใหญ่ของฝ่ายหญิง มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นที่ได้รับเชิญมาร่วมงาน ทิศเหนือมองหนุ่มสาวสวมแหวนหมั้นให้กันด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุขแล้วอดที่จะยินดีด้วยไม่ได้เพราะเห็นพัฒนาการความรักของทั้งคู่มาตั้งแต่ต้น หลังเสร็จพิธีหมั้น ทุกคนก็กินอาหารมื้อพิเศษซึ่งสั่งตรงมาจากโรงแรมห้าดาวร่วมกัน โต๊ะอาหารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเต็มพื้นที่เรียงกันถึงสองแถวและสถานที่ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวอลังการเต็มสวนหน้าบ้านช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติก เหมือนความรักของคนทั้งคู่ “ไงวะไอ้ลม ยิ้มหน้าบานเลยนะมึง” เวกัสเอ่ยแซว ไม้หมอนกับทิศเหนือก็หัวเราะร่วน พยักพเยิดหน้าแซววายุเช่นกัน “มีความสุขสิวะ ไม่น่าถาม” พูดกลั้วหัวเราะ ดวงตาสุกสกาวจนน่าหมั่นไส้ “อิจฉาโว้ย” เวกัสเบะปาก ยิ่งอิจฉามากขึ้นเมื่อขวัญข้าวเดินมาหาแล้ววายุกอดประคองคนตัวบางด้วยสายตารักใคร่ “อิจฉาก็หมั้นบ้างสิวะ คู่หมั้นก็น่าจะมีแล้วนี่หว่า” วายุหัวเราะร่วน พยักพเยิดหน้าไปยังน้ำอิงเพื่อนสนิทของขวัญข้าวที่กำลังนั่งคุยอยู่กับโมนาและเอมิโยะอย่างออกรส หลังจากวันที่เวกัสลากน้ำอิงมาตกลงกันในหอพัก จากนั้นเขาก็เทียวไปเทียวมาและโมเมขอนอนค้างด้วยเสมอ แม้จะสารภาพไปแล้วว่าชอบ แต่เธอก็ไม่ได้ให้สถานะมากไปกว่าเพื่อนที่มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยน “เหอะ หลอกกินกูอยู่ทุกคืน ให้ความหวังกูไปวัน ๆ” เวกัสแค่นหัวเราะหยันตัวเอง ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเสียท่าให้ผู้หญิงคนไหนได้ขนาดนี้ “มึงมันไม่มีน้ำยาเองหรือเปล่า แค่จีบมาเป็นแฟน มันจะยากอะไรขนาดนั้น หรือมึงทำตัวไม่น่าไว้ใจ อิงเลยไม่ยอมคบ” แม้ว่าเธอจะแสดงออกให้เขารู้บ้างว่าเธอเองก็รู้สึกดีกับเขา แต่ก็ไม่ยอมใช้คำว่าแฟนอยู่ดี แถมยิ่งเธอทำงานกลางคืน ยังดึงดูดหนุ่ม ๆ เข้าหา หลายรายตามตอแยทุกวัน แม้ว่าเขาจะพยายามเขี่ยออกไปก็ไม่เป็นผล เมื่อคนอย่างเขามันไม่มีสถานะพอให้หวงแหน “เออ มึงก็พูดได้ มึงจีบข้าวสำเร็จแล้วนี่” “เคล็ดลับง่าย ๆ ถ้าอยากได้ก็เอาพานมาไหว้กูเป็นครู” “ไอ้เหี้ย มึงนี่มันจริง ๆ เลย” เวกัสส่ายหน้าระอา เหลือบมองน้ำอิง วันนี้เธอสวยจนใจสั่น ชุดเกาะอกสีขาวรัดรูปและเครื่องประดับเพชรชิ้นเล็กที่เขาซื้อให้ช่างเข้ากันได้ดีเหลือกัน เธอจะรู้ตัวไหมว่าทำให้เขาทั้งรักทั้งหลงจนแทบจะโงหัวไม่ขึ้น ยิ่งเธอไม่ยอมเป็นคนรักของเขา ยิ่งได้มายากเท่าไร เขายิ่งอยากจะครอบครองอย่างแรงกล้าเท่านั้น ไม่ต่างจากไม้หมอนที่แอบมองเอมิโยะ ครูสอนภาษาญี่ปุ่นของตัวเองที่วันนี้สวยจนผิดหูผิดตา เขาไม่เคยเห็นเธอใส่ชุดโชว์เนื้อหนังขนาดนี้มาก่อน เพราะเกือบสองเดือนที่เรียนภาษากับเธอทุกเย็น ถ้าไม่ใส่ชุดนักศึกษา เธอก็จะใส่เสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นเท่านั้น เอมิโยะในชุดเดรสสายเดี่ยวเว้าลึกโชว์ความอวบอิ่มของวัยสาวและรัดรูปเผยส่วนเว้าส่วนโค้งชวนน้ำลายสอจนแทบไม่อาจละสายตา ยิ่งเวลาที่เธอยิ้มเต็มใบหน้าและหัวเราะอย่างไม่มีจริต ยิ่งทำให้เธอดูน่ารักจนหัวใจเต้นกระตุก “พี่ยินดีด้วยนะลม ข้าวสวย มีความสุขมาก ๆ นะจ๊ะ” มุกไหมในชุดเดรสสายเดี่ยวยาวกรอมเท้ารัดรูปโชว์เรือนร่างเย้ายวนลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างไม้หมอน นำของขวัญกล่องใหญ่มอบให้คู่รักที่เธอรู้จักมาหลายปี โดยเฉพาะฝ่ายชายที่เป็นเพื่อนสนิทของน้องชายเธอ “ขอบคุณมากครับพี่ไหม” “แต่พี่คงอยู่ร่วมงานด้วยไม่ได้แล้ว พอดีพี่มีงานต่อ” “อ้าว แล้วนี่พี่ไหมมายังไงครับ มากับไอ้ไม้หรือเปล่า จะไปทำงานยังไง” “ผู้จัดการมารับจ้ะ รออยู่หน้าบ้านแล้ว พี่ไปก่อนนะทุกคน” ดาราสาวโบกมือลารุ่นน้องทุกคน ก่อนจะหยิบกระเป๋าใบสวยแล้วเดินจากไป ทิศเหนือก้มหน้านิ่ง กัดกราม แล้วลุกพรวดเดินตามเธอไปแต่ไม่มีใครทันสังเกตเพราะต่างก็กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน “พี่ไหม...” ตรงเข้าคว้าแขนเรียวแล้วรั้งเข้าหา คนตัวบางจึงเซถลากลับมาปะทะอกแกร่ง แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็ขยับถอยหนีราวต้องของร้อน “อะไรอีกล่ะเหนือ นายจะเอาอะไรกับพี่อีก” “พี่ไหมทำไมทำอย่างนี้กับผม เรารู้สึกดีต่อกันไม่ใช่เหรอ” ดวงตาคมกริบฉายแววรวดร้าวจนน่าสงสาร แต่ความสัมพันธ์คืนเดียวกับเพื่อนสนิทของน้องชายไม่ควรเกิดขึ้นอีก ไม่มีอะไรให้สานต่อ เพราะเธออาจทำให้ความสัมพันธ์ของทุกคนไม่เหมือนเดิม แม้ว่าจะรู้สึกดีกับชายหนุ่มขี้อ้อนที่บนเตียงดุดันเร่าร้อนจนไฟแทบลุกคนนี้แค่ไหนก็ตาม “พี่ว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ นายกลับไปอยู่กับเพื่อนเถอะ พี่ต้องไปทำงานแล้ว” “คืนนี้ผมไปหาที่คอนโดนะ” “ไม่ต้องมา พี่ไม่ว่าง” “พี่ไหม...” “อย่างี่เง่าได้ไหม ทำแบบนี้ไม่กลัวคนอื่นรู้หรือไง” “ใครอยากรู้ก็รู้ไปสิ ผมไม่แคร์” “แต่พี่แคร์ อย่างอแง กลับเข้าไปในงานซะ” พูดจบก็เดินไปขึ้นรถของผู้จัดการส่วนตัว ปล่อยให้ทิศเหนือตีอกชกลมด้วยความหงุดหงิดที่ไม่สามารถจัดการอะไรเธอได้เลยแม้แต่น้อย “แม่ง อย่าให้ผมเข้าไปในห้องของพี่ได้อีกครั้งนะพี่ไหม จะเอาให้ร้องเลย” สุดท้ายก็ยอมเดินกลับไปนั่งกินข้าวร่วมกับเพื่อนอีกครั้ง แม้จะไม่ได้อารมณ์ดีเหมือนเดิมก็ตาม “เป็นห่าอะไรวะไอ้เหนือ หน้าบูดเป็นตูดเลย” ไม้หมอนเอ่ยถาม ทิศเหนือหันขวับมองเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์ จะให้เขาบอกได้อย่างไรว่าที่เขาอยู่ในสภาพนี้เพราะพี่สาวของอีกฝ่ายที่ทำเหมือนเขาเป็นกระดาษทิชชู เช็ดแล้วทิ้งไม่มีค่า “ไม่มีอะไร” “เหอะ จะมีอะไรวะ จิตหงุดเงี้ยวอะสิ” เวกัสหัวเราะร่วน “เออ ไม่ได้ปล่อย มีอะไรไหม” “สาวมึงมีตั้งหลายคน เบื่อแล้วหรือไงวะ ก็เรียกมาสักคนสิ เสร็จนี่ก็ว่างแล้วไม่ใช่หรือไง มัวมาปล่อยให้ตัวเองหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ได้ ไหลออกหูให้อายนะมึง” ไม้หมอนพูดกลั้วหัวเราะ แถมยังส่ายหน้าระอา “เออ มีโอกาสกูเอาแน่ จะล่อให้หนักเลย” ทิศเหนือกัดฟันพูด รู้สึกมันเขี้ยวคนตัวบางที่ทำเขาแทบคลั่งจนตัวสั่น ถ้าได้มีโอกาสอีกครั้ง สาบานเลยว่าเธอจะไม่มีวันถีบเขาออกจากชีวิตได้อีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม