ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากโพสต์ภาพนั้นลงอินสตาแกรม เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมข้อความสั้นๆ ที่ทำให้หัวใจของ มิริน หล่นวูบ
"อยู่ไหน?" – ภาณุ
ข้อความสั้นแต่ชัดเจนจนเธอรู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่าง แอนนี่ที่เห็นสีหน้าของเพื่อนรักเปลี่ยนไปกะทันหันก็อดไม่ได้ที่จะถาม “อะไร? อย่าบอกนะว่าเขาเห็นแล้ว?”
มิรินกดปิดจอทันที “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” เธอพยายามกลบเกลื่อน แต่เสียงลมหายใจที่ติดขัดของเธอมันฟ้องชัดเจน
ไม่กี่นาทีถัดมา ร่างสูงของ ภาณุ ในชุดสูทเนี้ยบเหมือนทุกครั้งก็ปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้าร้านเสื้อผ้า แววตาคมกริบมองตรงมาที่เธออย่างไม่พอใจ ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่กลับดูน่าเกรงขามจนคนในร้านอดไม่ได้ที่จะหันไปมองตาม
“เอ้า... มาไวอะไรขนาดนี้” แอนนี่กระซิบเสียงเบา ขณะที่ยืนดูเหตุการณ์อย่างสนุกสนาน
“ภาณุ?” มิรินอุทานออกมาด้วยความตกใจ ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเขาเดินตรงเข้ามาหา ไม่พูดพร่ำทำเพลง มือหนาคว้ามือเธออย่างมั่นคงแล้วออกแรงดึงเบาๆ ให้เดินตาม
“กลับบ้าน” เสียงทุ้มต่ำของเขาสั่งเรียบๆ แต่เด็ดขาด
“เดี๋ยวสิ! ฉันยังไม่เสร็จเลยนะ!” มิรินพยายามขืนตัวไว้ เธอรู้สึกถึงสายตาของทุกคนที่จ้องมองสถานการณ์ตรงหน้า
“ตอนนี้” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้ขนลุก มือหนาของเขายังคงกุมมือเธอไว้แน่น ไม่ปล่อยให้เธอมีทางปฏิเสธ
แอนนี่ยืนกอดอกมองตามเพื่อนรักที่ถูกกึ่งลากกึ่งเดินออกจากร้านไป รอยยิ้มขบขันปรากฏขึ้นบนใบหน้า “ไม่เท่าไหร่เลยนะ ท่านทูต แค่มารับเมียกลับบ้านด้วยตัวเอง” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพแผ่นหลังของทั้งสองคนที่เดินออกไปพร้อมกัน
ภาณุก้าวยาวๆ อย่างรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่ของเขาดูสง่างามและเต็มไปด้วยแรงกดดัน ขณะที่มิรินต้องเดินตามอย่างช่วยไม่ได้ เธอหันมามองเขาอย่างไม่เข้าใจ “คุณจะบ้าเหรอภาณุ? คนมองกันหมดแล้วนะ!”
“ช่างคนอื่น” เขาพูดโดยไม่แม้แต่จะหันมามองเธอ “ผมไม่ชอบให้คุณแต่งตัวแบบนั้น ไม่ชอบให้ใครมองคุณ”
“นี่มันเรื่องของฉัน!” มิรินสวนกลับด้วยความไม่พอใจ แต่ยิ่งพูด เขากลับยิ่งกระชับมือแน่นขึ้น
“ไม่ใช่เรื่องของคุณคนเดียว จำไว้ว่าคุณเป็นภรรยาของผม” เขาตอบสั้นๆ น้ำเสียงเย็นชาแต่แฝงไปด้วยความหวงแหนที่ทำให้เธอนิ่งอึ้งไป
เมื่อทั้งสองเดินไปถึงรถ ภาณุเปิดประตูให้เธอขึ้นไปนั่งโดยไม่รอฟังคำปฏิเสธ มิรินมองหน้าเขาอย่างขัดใจ แต่สุดท้ายก็ยอมก้าวขึ้นรถไปอย่างจำใจ ก่อนที่ประตูจะปิดลง เธอเห็นแอนนี่ยืนอยู่ไกลๆ โบกมือให้พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความขำขัน
“แล้วเจอกันนะ ยัยเมียสุดที่รักของท่านทูต!” แอนนี่ตะโกนล้อเลียนเสียงดังจนมิรินอยากจะมุดตัวลงกับเบาะรถ แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากกอดอกและหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างอย่างหงุดหงิด
ภาณุขึ้นมานั่งที่ฝั่งคนขับ เขาเหลือบมองเธอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงนิ่ง “ถ้าคุณดื้อแบบนี้อีก ผมจะมารับทุกครั้ง และคราวหน้าผมจะไม่แค่ดึงมือคุณกลับบ้าน”
คำพูดนั้นทำให้เธอหันขวับมามองเขาทันที “คุณขู่ฉันเหรอ?”
เขายิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว “เปล่า ผมแค่เตือนคุณเฉยๆ”
รถค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป ปล่อยให้บรรยากาศภายในเงียบงัน ทว่าในความเงียบนั้น หัวใจของมิรินกลับวุ่นวายไปหมด ทั้งความโกรธ ความอาย และบางอย่างที่เธอไม่อาจอธิบายได้
“คุณเลี้ยวไปไหน?” มิรินเอ่ยถามขึ้นทันทีที่เห็นรถของภาณุหักเลี้ยวผิดทาง ใบหน้าของเธอหันไปมองเขาด้วยความสงสัย
ภาณุยังคงขับรถต่อไปด้วยท่าทางสงบนิ่ง มือหนาจับพวงมาลัยแน่นพลางมองตรงไปข้างหน้า “กลับคอนโด” น้ำเสียงเย็นชาที่ฟังดูราบเรียบแต่กลับเต็มไปด้วยอำนาจ
“อะไรนะ? ฉันจะกลับบ้าน!” มิรินประท้วงทันที เธอหันไปจ้องเขาอย่างไม่เชื่อสายตา “นี่คุณจะทำบ้าอะไรอีก?”
“คุณพูดมากเกินไปแล้ว มิริน” เขาตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูราวกับหมดความอดทน
รถจอดสนิทที่หน้าคอนโดหรู ร่างสูงของภาณุก้าวลงมาอย่างมั่นคง ก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้เธอ มิรินยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเบาะ มองเขาด้วยสายตาดื้อดึง
“ลงมา” เสียงของเขาเรียบแต่หนักแน่นจนมิรินไม่กล้าขัด แม้จะไม่พอใจ เธอก็จำใจยอมก้าวลงจากรถ เดินตามเขาขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดของคอนโด เธอพยายามคิดหาทางหนีหรือโต้กลับ แต่สายตาและท่าทางของภาณุทำให้เธอรู้ว่าไม่มีประโยชน์
ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับแรงดึงจากมือของเขาที่จับข้อมือเธอไว้แน่น ร่างบางถูกพาเข้าไปในห้องกว้าง ก่อนที่ประตูจะปิดลงอย่างแรง เสียงล็อกประตูดังขึ้นทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัว
“ภาณุ! คุณจะทำอะไร?” เธอหันมาประจันหน้าเขา ใบหน้าขึ้นสีแดงจัดด้วยความโกรธและความตกใจ
ภาณุยืนเต็มความสูง ดวงตาคมกริบจับจ้องเธอราวกับเหยื่อที่ไม่มีทางหนี เขาเริ่มปลดกระดุมเสื้อสูทตัวเองออกอย่างใจเย็น ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม “ถอดออก”
“อะไรนะ?” มิรินขมวดคิ้ว มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
เขาก้าวเข้ามาใกล้ขึ้น จนเธอต้องถอยหลังชนกับผนังห้อง ใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้ ริมฝีปากหยักเอ่ยคำสั่งเสียงต่ำ “จะถอดเอง หรือจะให้ผมช่วย?”
“ภาณุ! คุณไม่มีสิทธิ์!” เธอโวยวาย มือยกขึ้นมากอดตัวเองไว้แน่น
เขาไม่ตอบ แต่รอยยิ้มมุมปากที่ดูท้าทายกลับทำให้เธอหวั่นไหว “ผมให้คุณเลือกไง มิริน” มือหนาค่อยๆ เอื้อมมาจับขอบเสื้อคลุมของเธอที่ปิดบังชุดเดรสเรียบร้อยไว้ เธอดิ้นรน พยายามจะผลักเขาออก แต่แรงของเขามีมากเกินไป
“คุณมันบ้า!” เธอตวาด แต่เสียงของเธอกลับสั่นไหว
“ถ้าไม่อยากให้ผมช่วย...” เขากระซิบชิดใบหูเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนทำให้เธอสะดุ้ง “ก็ถอดออกเองซะ”
มิรินยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว หัวใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ มือของเขาที่จับข้อมือเธอไว้แน่นทำให้เธอรู้ว่าเขาเอาจริง เธอเม้มปากแน่น พยายามรวบรวมสติ ขณะที่สายตาคมของเขาจับจ้องเธอไม่วาง สายตาที่ทั้งดุดันและเร่าร้อนราวกับกำลังท้าทายให้เธอทำตาม
“ฉัน...ไม่ทำ” เธอตอบเสียงสั่น พลางเบือนหน้าหนี
ภาณุหัวเราะเบาๆ ราวกับพอใจในความดื้อรั้นของเธอ ก่อนจะกระซิบเสียงต่ำ “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหาว่าผมไม่เตือน...” แล้วเขาก็ค่อยๆ โน้มหน้าลงมาใกล้ ราวกับจะทำให้เธอไม่มีที่ทางให้หลบหนีอีกต่อไป