ความเหินห่างกลับเป็นใกล้ชิด

1343 คำ
วันนั้น ความสงบที่เคยมีในบ้านกลับถูกทำลายด้วยเสียงคำสั่งที่ดุดันของภาณุ เขายืนเต็มความสูงที่บันไดกลางบ้าน ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่เหล่าคนรับใช้ที่กำลังงุนงงกับคำสั่ง “ย้ายของของคุณผู้หญิงไปไว้ในห้องของผม...ตอนนี้” น้ำเสียงนั้นไม่เปิดโอกาสให้ใครตั้งคำถามได้ แม้แต่เด็กรับใช้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ยังสะดุ้งตัวเล็กน้อย มิรินที่เพิ่งกลับมาจากทำธุระได้ยินเสียงนั้น เธอรีบก้าวเท้าเข้าไปหาเด็กรับใช้ที่กำลังยืนถือกล่องเสื้อผ้าของเธออยู่ “อะ...อะไร? น้อย ทำไมถึงย้ายของฉัน? ใครสั่ง?” น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความสับสนและความไม่เชื่อ เด็กรับใช้ค่อยๆ เงยหน้ามองไปยังร่างสูงที่ยืนมองอยู่ด้านบน ภาณุไม่ได้ตอบคำถามนั้น แต่เพียงเลิกคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉียบ “ผมสั่งเอง คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” มิรินหันไปมองเขา ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ “ทำไม? ทำไมคุณถึงทำแบบนี้?” เธอพยายามทำให้เสียงของตัวเองนิ่ง แต่ไม่สามารถซ่อนความสั่นไหวในน้ำเสียงได้ เขาเดินลงบันไดมาทีละก้าวจนมายืนตรงหน้าเธอ ใกล้จนเธอได้ยินลมหายใจที่หนักแน่นของเขา “เพราะคุณเป็นภรรยาของผม มิริน และผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะอยู่ในห้องเดียวกับสามีของคุณ” คำพูดนั้นเย็นชา แต่สายตาของเขากลับแฝงไปด้วยความเด็ดขาดที่ทำให้เธอรู้ว่าคำสั่งนี้ไม่อาจปฏิเสธได้ “ฉันไม่ต้องการ...” เธอเอ่ยเสียงเบา พยายามดึงตัวเองกลับมา แต่เขาเพียงยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เธอสะอึก “คุณไม่มีสิทธิ์เลือก มิริน ของของคุณจะถูกย้ายเข้าไปในห้องของผม และคุณจะต้องอยู่ที่นั่น เพราะผมบอกแล้วว่าเราเป็นสามีภรรยากัน” เธอมองเขาด้วยความโกรธและความสับสน แต่ไม่มีคำพูดใดที่เธอสามารถใช้โต้แย้งเขาได้ น้อยและคนรับใช้คนอื่นๆ ยังคงย้ายของของเธอเข้าไปในห้องนอนใหญ่ขณะที่ภาณุเดินกลับขึ้นไปอย่างสง่างาม ทิ้งเธอไว้กับความรู้สึกที่ทั้งอึดอัดและไม่อาจหนีพ้น ภาณุนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ มือหนาซ้อนรองศีรษะขณะที่ดวงตาคมกริบมองเพดานอย่างสบายใจ ราวกับการบังคับให้มิรินเข้ามานอนร่วมในห้องเดียวกันเป็นเรื่องปกติที่ไม่ต้องเสียเวลาคิดหรือกังวล แต่สำหรับมิริน การยอมรับสถานการณ์นี้กลับเป็นเรื่องที่ทั้งอึดอัดและน่าหงุดหงิด เธอเปิดตู้เสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกย้ายมาไว้ในห้องนี้ และพบว่าชุดนอนที่เธอเคยใส่ปกติ ซึ่งมักจะเป็นชุดนอนเซ็กซี่ลูกไม้เนื้อบาง กลับไม่ใช่สิ่งที่เธออยากใส่ในคืนนี้ เธอไม่ต้องการให้เขาได้เห็นอะไรที่ทำให้เขาคิดว่าเธอ "อ่อนแอ" หรือ "ยอมจำนน" แต่เมื่อลองค้นดู ชุดนอนธรรมดายาวๆ กลับหาไม่เจอ มิรินถอนหายใจยาวก่อนสายตาจะไปหยุดที่เสื้อเชิ้ตสีขาวของภาณุที่แขวนไว้อย่างเรียบร้อยในตู้เสื้อผ้าร่วม เธอหยิบมันขึ้นมาและตัดสินใจใส่มันแทน ชุดที่ใหญ่เกินตัวและยาวเกือบถึงเข่า ทำให้เธอดูเหมือนเด็กที่ใส่เสื้อผู้ใหญ่ เธอเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เมื่อเห็นภาณุนอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทีสบายใจยิ่งกว่าเดิม ดวงตาคมของเขาเหลือบมองเธอแค่เสี้ยววินาที ก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อย ราวกับกำลังสนใจสิ่งที่เขาเห็น "พอใจรึยัง?" มิรินถาม น้ำเสียงของเธอประชดประชันพร้อมกับยืนกอดอกตรงหน้าเขา ภาณุไม่ได้ตอบในทันที เขาเพียงยิ้มมุมปากเล็กน้อย ราวกับรู้ดีว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไร "คุณใส่ชุดของผม ดูดีกว่าที่คิดไว้เสียอีก" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่สายตาของเขาที่กวาดมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ากลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนอ่านความลับที่เธอพยายามซ่อน "ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณคิดแบบนั้น" เธอโต้กลับทันที แต่ใบหน้าของเธอที่แดงขึ้นเล็กน้อยกลับทำให้เขายิ้มอย่างพึงพอใจมากขึ้น "ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ คุณก็ดูดีอยู่ดี" เขาตอบก่อนจะเอนตัวกลับไปนอนในท่าเดิม ราวกับไม่สนใจคำตอบของเธออีก มิรินเม้มปากแน่น ความรู้สึกที่ปะปนระหว่างความหงุดหงิดและความเขินทำให้เธอหันหลังเดินกลับไปยังอีกฝั่งของเตียงอย่างรวดเร็ว เธอพยายามล้มตัวลงนอนและหลับตา แต่หัวใจของเธอกลับเต้นแรงขึ้นทุกครั้งที่นึกถึงคำพูดและสายตาของเขา กลางดึกในห้องนอนที่เงียบงัน มิรินพยายามข่มตาให้หลับแต่หัวใจของเธอยังคงเต้นระส่ำ สถานการณ์แปลกๆ ที่บีบบังคับให้เธอต้องมาอยู่ในห้องเดียวกับภาณุยังคงทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและหวาดระแวง เธอพลิกตัวหันหลังให้เขา หวังจะหาที่หลบในมุมเล็กๆ ของเตียง แต่ไม่นานนัก เธอกลับรู้สึกถึงแรงกดเบาๆ จากด้านหลัง ร่างสูงใหญ่ของภาณุขยับเข้ามาใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากตัวเขา “คุณทำอะไร?” เธอถามเสียงเบา พยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนที่โอบรอบเอวของเธออย่างแน่นหนา “นอนเฉยๆ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยอำนาจ เธอดิ้นหนักขึ้น แต่แรงทั้งหมดที่มีไม่อาจสู้กับแรงของเขาได้เลย ยิ่งเธอพยายาม เขายิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นกว่าเดิมจนเธอเริ่มเหนื่อยและยอมสงบ “ภาณุ...” เธอเอ่ยชื่อเขาเสียงสั่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัย “วันนี้คุณเป็นอะไร? ปกติคุณไม่เคยทำแบบนี้” เขาไม่ได้ตอบในทันที แต่ขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะพลิกร่างเธอให้นอนหงาย เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกใจ ร่างสูงโน้มตัวมาคร่อมเธอ ใบหน้าคมกริบจ้องลึกลงไปในดวงตาของเธอ สายตาที่เคยเย็นชาในยามปกติกับมีบางอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน “คุณยิ้ม?” เธอพูดเบาๆ ด้วยความไม่เชื่อ ภาณุยิ้มมุมปากเล็กน้อย ดวงตาที่ฉายแววบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกตรึงอยู่กับที่ “คุณคิดว่าผมยิ้มให้ใครบ่อยๆ หรือ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มขึ้นกว่าที่เคย แต่กลับทำให้เธอขนลุก “คุณเป็นอะไรเนี่ย?” มิรินถามเสียงเบา ใบหน้าของเธอแดงขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ แต่ยังคงมองเขาด้วยความสงสัย เขาไม่ตอบ แต่ค่อยๆ โน้มหน้าเข้ามาใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่แตะเบาๆ บนใบหน้า ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะกดลงบนริมฝีปากของเธออย่างแนบแน่น จูบร้อนแรงที่มาพร้อมกับความเรียกร้องและครอบครอง ทำให้เธอตกใจจนหลุดเสียงครางในลำคอ “อื้อ...” เธอดิ้นพยายามจะหลบเลี่ยง แต่สองมือของเขากลับประคองใบหน้าของเธอไว้อย่างมั่นคง ไม่เปิดโอกาสให้เธอเคลื่อนไหว ริมฝีปากของเขาบดเบียดหนักหน่วงและเร่าร้อน ยิ่งเธอต่อต้าน เขากลับยิ่งจูบลึกลงไปอีก ลิ้นร้อนของเขาแทรกผ่านริมฝีปากของเธอที่เปิดออกด้วยความไม่ตั้งใจ สัมผัสที่รุกล้ำตวัดเกี่ยวพัน เรียกร้องทุกความรู้สึกจนเธอแทบหายใจไม่ออก “ภาณุ...หยุด...” เธอพูดเบาๆ ระหว่างจังหวะที่เขาถอนริมฝีปากออกชั่วขณะ แต่เขาเพียงจ้องเธอด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนา ก่อนจะก้มลงมาอีกครั้ง คราวนี้จูบของเขายิ่งลึกซึ้งและเร่าร้อนยิ่งกว่าเดิม อ้อมแขนที่เคยเย็นชาของเขากลับให้ความรู้สึกร้อนแรงจนเธอไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป และในคืนนั้น หัวใจของเธอที่เคยต้านทานเขากลับสั่นไหวอย่างที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม