ท่านทูต หวงเมีย

2221 คำ
เช้าวันนั้นบรรยากาศในบ้านที่เคยเย็นชากลับร้อนระอุขึ้นอย่างไม่คาดคิด มิรินยืนอยู่กลางห้องรับประทานอาหารด้วยโทรศัพท์ในมือ เสียงหัวเราะเบาๆ ของเธอดังขึ้นขณะที่พูดคุยกับ ทศพล คู่สนทนาทางโทรศัพท์ “ฮัลโหลค่ะ คุณทศพล” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสดใส ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มทำให้เธอดูผ่อนคลายกว่าปกติ สายตาคมของ ภาณุ ที่กำลังนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะอาหารกว้างภายใต้แสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่าง มองไปที่เธอทันที ความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนคลื่นน้ำวนในอกเริ่มแผ่ซ่าน ความหึงหวง แล่นผ่านหัวใจอย่างรวดเร็วโดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เขาวางแก้วกาแฟลงอย่างแรงพอที่จะทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย หลังจากวางสาย เธอเดินผ่านเขาไปโดยไม่ได้สนใจท่าทีเย็นชาและตึงเครียดที่เขาแสดงออก “คุณจะไปชุดนั้นเหรอ?” เสียงของเขาดังขึ้นเรียบแต่หนักแน่น เธอหันกลับมามอง สายตาของเขาไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเปิดเผย ชุดกระโปรงพอดีตัวที่เปิดไหล่เล็กน้อย เผยให้เห็นผิวขาวเนียน ดูเรียบง่ายแต่กลับดึงดูดสายตาได้มากกว่าที่เธอคิด “ทำไมคะ ชุดนี้มันยังไง?” เธอถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เริ่มมีแววขัดใจ “ไม่ได้” เขาตอบสั้นๆ ไม่มีคำอธิบายใดๆ เพิ่มเติม “ไปเปลี่ยน” เธอยืนจ้องเขาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนเพื่อตามคำสั่ง แต่เมื่อเธอกลับลงมาพร้อมชุดใหม่ที่ดูสุภาพขึ้นเล็กน้อย เขากลับพูดคำเดิม “ไม่ได้ ไปเปลี่ยน” ความอดทนของเธอเริ่มหมดลงเมื่อครั้งที่สาม เธอกอดอกยืนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “แล้วจะเอายังไงดีคะ ท่านทูต?” น้ำเสียงประชดประชันของเธอทำให้บรรยากาศในห้องตึงเครียดยิ่งขึ้น เขาไม่ตอบคำถาม แต่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินตรงเข้ามาหาเธอ ร่างสูงใหญ่จับต้นแขนของเธอเบาๆ แต่แน่นพอที่จะดึงเธอให้เดินตามไป เขานั่งลงที่เก้าอี้ตัวใหญ่กลางห้อง ก่อนจะดึงเธอให้นั่งลงบนตัก “นี่คุณทำอะไร?!” เธอร้องเสียงหลง พยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนที่โอบรอบเอวของเธอ เขาไม่พูดอะไร สายตาคมมองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้ ริมฝีปากของเขากดลงบนริมฝีปากของเธออย่างแนบแน่นและเร่าร้อน ความประหลาดใจทำให้เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ แต่ไม่นานเธอก็ดิ้นรนอีกครั้ง “ภาณุ! ปล่อยฉัน!” เสียงของเธอถูกกลืนหายไปในจูบที่เต็มไปด้วยแรงครอบครอง มือหนาของเขาประคองใบหน้าของเธอไว้แน่น ไม่ให้เธอเบือนหน้าหนี เขาถอนริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อย มองเธอด้วยสายตาที่ทั้งดุและแฝงไปด้วยแรงปรารถนา “คุณจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าผมไม่พอใจ” คำพูดของเขานิ่งเรียบ แต่กลับทำให้เธอขนลุก “คุณไม่มีสิทธิ์มาบังคับฉันแบบนี้!” เธอตอบกลับ น้ำเสียงสั่นด้วยความโกรธและความตกใจ เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่ไม่มีความอ่อนโยนในรอยยิ้มนั้น “ผมมีสิทธิ์ทุกอย่าง... เพราะคุณเป็นภรรยาของผม” มิรินดิ้นรนอีกครั้ง แต่มือของเขากลับรัดแน่นขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเขาที่ล้อมรอบตัวเธอ ใบหน้าของเขายังโน้มลงมาใกล้จนเธอแทบหายใจไม่ออก ความเร่าร้อนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงกลับทวีความรุนแรงขึ้นทุกวินาที ราวกับว่าเขาตั้งใจทำให้เธอไม่มีทางหนีพ้น ภาณุถอนริมฝีปากออกช้าๆ ทิ้งระยะห่างเพียงเล็กน้อยจนลมหายใจร้อนยังสัมผัสได้บนผิวแก้มของเธอ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในดวงตาที่สั่นไหวของมิริน ใบหน้าของเขายังคงนิ่งสนิท แต่เสียงของเขากลับทุ้มต่ำและเข้มขึ้นจนเธอสะดุ้ง “ไปเปลี่ยนชุด” เขาเอ่ยคำสั่งชัดเจน น้ำเสียงนั้นไม่มีพื้นที่ให้เธอปฏิเสธ “ทำไมต้องเปลี่ยน?” เธอพยายามตั้งคำถาม แม้เสียงจะเบาและขาดความมั่นใจ “ชุดนี้มันก็ไม่ได้โป๊อะไรเลย” เขามองเธอจากศีรษะจรดเท้าอีกครั้ง ดวงตาคมที่แฝงความดุดันทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกดดันอย่างหนัก “ผมไม่สนว่าคุณจะคิดยังไง” เขาตอบทันที เสียงของเขาเยือกเย็นและหนักแน่น “ผมไม่ต้องการให้ใครเห็นคุณแบบนั้น” มิรินอ้าปากจะพูดแต่กลับพูดไม่ออก เธอพยายามดิ้นอีกครั้ง แต่การที่เขากอดเอวเธอไว้แน่น ทำให้เธอขยับตัวไม่ได้ “คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันแบบนี้! ฉันจะใส่อะไรก็เรื่องของฉัน!” ภาณุยิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่แววตาของเขากลับไม่มีความใจดีเลยสักนิด “ผมมีสิทธิ์... และผมจะใช้มัน” เขากระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม “ไปเปลี่ยนชุด... ให้มิดชิด ห้ามให้โป๊” เขาปล่อยเธอลงจากตักในที่สุด แต่ดวงตาที่จับจ้องเธอเหมือนคอยบังคับให้เธอทำตามคำสั่งนั้นทำให้เธอรู้สึกหมดหนทาง เธอยืนนิ่ง มองเขาด้วยแววตาขุ่นเคืองและหัวใจที่เต้นแรง “นี่มันเกินไปแล้วนะภาณุ!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามคุมให้หนักแน่น เขายังคงนั่งเอกเขนกอยู่ที่เก้าอี้หัวโต๊ะอาหาร ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบหรูที่พร้อมจะออกไปทำงาน ดูสง่างามเกินกว่าจะเข้ากับท่าทางที่แสดงออกถึงความเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ “เกินไป?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ผมคิดว่าคุณยังไม่รู้ว่าผมจะเกินกว่านี้ได้อีกแค่ไหน ถ้าคุณไม่ทำตาม” คำพูดนั้นทำให้เธอจุกจนเถียงไม่ออก มิรินกัดริมฝีปากตัวเองแน่นก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องแต่งตัวอย่างหงุดหงิด ทิ้งเขาไว้กับสายตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างที่เขาต้องการ เมื่อมิรินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว ประตูปิดดังเบาๆ ตามแรงอารมณ์ที่เธอพยายามเก็บไว้ เธอหันไปมองตัวเองในกระจก ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและโกรธจัด เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมภาณุถึงกลายเป็นคนแบบนี้ จากคนที่เคยเย็นชาและเมินเฉยต่อเธอ กลับแสดงท่าทางครอบงำและหวงแหนจนเกินเหตุ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่...” เธอกระซิบกับตัวเอง พลางปลดกระดุมชุดที่เขาบังคับให้เธอเปลี่ยน แม้เธอจะรู้สึกไม่พอใจ แต่ความกดดันจากสายตาและคำพูดของเขายังฝังลึกในใจ ทำให้เธอไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามคำสั่ง เธอเลือกชุดที่ดูเรียบร้อยที่สุดในตู้ เสื้อสีขาวและกระโปรงยาวที่ปิดทุกส่วนของร่างกาย เมื่อแต่งตัวเสร็จ เธอสูดลมหายใจลึกและพยายามควบคุมอารมณ์ ก่อนจะเดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยท่าทางที่สง่างาม แต่ภายในใจกลับปั่นป่วนไปหมด ภาณุนั่งอยู่ที่เดิมที่หัวโต๊ะอาหาร มือหนากำลังเปิดแฟ้มเอกสารบางอย่าง แต่สายตาคมของเขาเงยขึ้นมองเธอทันทีที่เธอเดินเข้ามาในสายตา สายตานั้นไล่มองเธออีกครั้ง ราวกับตรวจสอบว่าชุดที่เธอเปลี่ยนตรงตามความต้องการของเขาหรือไม่ “พอใจรึยัง?” เธอถาม น้ำเสียงประชดประชันเล็กน้อย ขณะที่ยืนกอดอกมองเขา ภาณุพับแฟ้มเอกสารในมืออย่างเรียบร้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาก้าวเข้ามาหาเธอ ใบหน้าของเขายังคงนิ่งสนิท แต่ดวงตากลับฉายแววพึงพอใจ “ใช่” เขาตอบเรียบๆ แต่คำพูดนั้นกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกควบคุม “คุณทำแบบนี้ทำไม?” เธอถามต่อ น้ำเสียงที่เคยแข็งกร้าวเริ่มสั่นเล็กน้อย เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขา “เพราะผมไม่ชอบให้ใครมองคุณในแบบที่ผมเท่านั้นควรจะมอง” เขาตอบช้าๆ แต่น้ำเสียงหนักแน่นจนเธอพูดไม่ออก มิรินจ้องมองเขา ความสงสัยและความสับสนปนเปในดวงตาของเธอ “นี่มันไม่ใช่เรื่องของการมองหรือไม่มอง ฉันมีสิทธิ์จะใส่อะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ” เขายิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นดูเย้ยหยันแต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ “คุณคิดแบบนั้นได้... แต่ในฐานะสามีของคุณ ผมก็มีสิทธิ์ที่จะหวงคุณ” คำพูดนั้นเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมาในใจของเธอ เธอจ้องมองเขาด้วยความไม่อยากเชื่อ “หวง? คุณหวงฉันงั้นเหรอ?” “ใช่” เขาตอบสั้นๆ ดวงตาของเขาจ้องลึกลงไปในดวงตาของเธอ ราวกับต้องการให้เธอรับรู้ถึงทุกความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ “คุณไม่มีสิทธิ์...” เธอพยายามพูด แต่เสียงของเธอกลับแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน เขาก้าวเข้ามาใกล้จนเธอถอยหลังไปติดกำแพง สองมือของเขาเท้าอยู่ข้างตัวเธอ ล็อกเธอไว้ในพื้นที่เล็กๆ ที่ไม่มีทางหนี “สิทธิ์ของผมคือทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณ จำไว้ให้ดี มิริน” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน เธอเบือนหน้าหนี ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก แต่เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนเธอไม่สามารถหลบสายตาได้อีก “และถ้าคุณคิดจะลองต่อต้าน ผมก็จะทำให้คุณรู้ว่า... ผมเอาจริงแค่ไหน” คำพูดนั้นหนักแน่นและเต็มไปด้วยความตั้งใจที่ทำให้เธอทั้งกลัวและสั่นไหวไปพร้อมกัน ……………………………… ในร้านอาหารสุดหรูบนยอดโรงแรมที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้กว้างไกล สองสาวเพื่อนรัก มิริน และ แอนนี่ นั่งจิบกาแฟและทานของหวานกันอย่างอารมณ์ดี แต่บรรยากาศที่ควรจะผ่อนคลายกลับเต็มไปด้วยเสียงวี๊ดว๊ายของแอนนี่ที่ดูจะตื่นเต้นเกินเหตุ “อะไรนะ?! เขาบังคับให้เธอเปลี่ยนชุดสามรอบเนี่ยนะ!” แอนนี่แทบจะหลุดเสียงหัวเราะดังลั่น พลางทำหน้าเหมือนเจอเรื่องน่าตกใจที่สุดในชีวิต “ใช่ สามรอบ” มิรินตอบด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ ก่อนจะตักเค้กคำเล็กๆ เข้าปาก แต่สีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นั้นชัดเจนจนแอนนี่ต้องยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ “ยัยมิริน ฉันว่าหล่อนควรไปหาชุดเรียบร้อยเพิ่มสักหน่อยแล้วล่ะ” แอนนี่พูดติดตลกก่อนจะตักเค้กช็อกโกแลตเข้าปากอย่างสบายใจ “ไม่มีทาง!” มิรินตอบทันควัน ก่อนจะถอนหายใจยาว “ฉันไม่คิดจะทำตามที่เขาสั่งแบบนั้นแน่” แอนนี่วางช้อนลงทันที มองเพื่อนรักด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “แล้วเธอคิดยังไงกับเขา? หมายถึง...เขาบังคับเธอแบบนี้ แต่ก็เหมือนจะสนใจเธออยู่นะ” “เขาก็แค่หวงสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นของเขา” มิรินตอบพร้อมกับกลอกตา “อย่าคิดว่าเป็นเรื่องโรแมนติกอะไรเลย” แอนนี่ยักไหล่ก่อนจะยิ้มมุมปาก “เอาจริงๆ นะ ฉันว่ามันก็โรแมนติกอยู่หน่อยๆ นะ ไม่ใช่ทุกคนจะยอมทำขนาดนี้หรอก” “แอนนี่!” มิรินเรียกชื่อเพื่อนเสียงดัง พร้อมกับวางส้อมลงอย่างแรง “นี่เธอเข้าข้างเขาเหรอ!” แอนนี่หัวเราะคิกคักจนคนที่โต๊ะข้างๆ หันมามอง เธอยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “เปล่าสักหน่อย ฉันแค่บอกว่าเขาอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิด” ครึ่งชั่วโมงต่อมา สองสาวเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าหรูในห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆ แอนนี่หยิบชุดเดรสยาวสีเขียวเข้มที่ดูเรียบร้อยแต่แอบเก๋ด้วยดีไซน์เปิดไหล่เล็กน้อยขึ้นมาวางแนบตัวมิริน “ฉันว่านี่ก็มิดชิดดีนะ ว่ามั้ย?” มิรินมองชุดในกระจกก่อนจะหันไปมองแอนนี่ด้วยสายตาที่เหมือนไม่อยากจะเชื่อ “นี่เธอเรียกว่ามิดชิดเหรอ? มันเปิดไหล่!” “แหม เปิดนิดหน่อยเอง ดูสิ มันเรียบร้อยกว่าเดิมเยอะนะ” แอนนี่พูดพร้อมกับหมุนตัวโชว์ท่าทางตลกๆ มิรินส่ายหน้า “ฉันว่าเขาคงบังคับให้ฉันไปเปลี่ยนอีกแน่” “งั้นเอานี่!” แอนนี่หยิบเสื้อเชิ้ตผ้าลินินตัวใหญ่ขึ้นมาโชว์ “ใส่นี่ทับไปเลย รับรองปิดมิดยันคอ” ทั้งสองคนหัวเราะกันจนคนในร้านหันมามอง มิรินพยายามดึงชุดจากมือแอนนี่ แต่แอนนี่ไม่ยอมปล่อย “เฮ้! ฉันไม่ได้มาซื้อเสื้อคลุมคนแก่!” “แต่ฉันอยากเห็นเขาหน้าซีดตอนเธอใส่!” แอนนี่พูดพร้อมหัวเราะจนต้องพิงชั้นวางเสื้อผ้า สุดท้าย มิรินเลือกชุดเดรสที่เรียบร้อยสมใจ แต่แอนนี่ยังไม่วายแซว “เธอรู้มั้ยว่าตอนนี้เธอกำลังทำตัวเหมือนภรรยาที่เชื่อฟังสามีสุดๆ เลยนะ” “หยุดเลย แอนนี่!” มิรินตอบพร้อมกับทำท่าจะเขวี้ยงกระเป๋าใส่เพื่อนรัก ทั้งสองหัวเราะกันเสียงดัง ขณะที่แอนนี่ยังคงยิ้มเยาะอย่างมีความสุขในความสนุกของสถานการณ์นี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม