บทนำ

1267 คำ
(ปราง)          สวัสดีฉันชื่อปราง ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปี4 วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของฉันเดือนหน้าฉันก็ต้องไปฝึกงานแล้ว ฉันมีเวลาพักผ่อนสมองหนึ่งเดือนหลังจากสอบเสร็จ แต่พักแค่สมองแหละนะเพราะฉันยังต้องไปทำงานอยู่เหมือนเดิม ฉันทำงานส่งตัวเองเรียนตั้งแต่เรียนจบมัธยมช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับฉันเลยล่ะ เพราะหลังจากที่เรียนจบพ่อกับแม่ก็จากฉันไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้ฉันต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองส่งตัวเองเรียน แต่ก็ยังดีที่ทิ้งบ้านไว้ให้ฉันเป็นบ้านที่เราเคยอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก แต่ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่อยู่บ้านหลังนี้และเงินประกันหนึ่งก้อนเอาไว้ให้ฉันแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้นั่งกินนอนกินเงินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้หรอกนะ เพราะถ้าฉันทำอย่างนั้นสักวันเงินก้อนนั้นก็คงไม่เหลือ ฉันจึงเก็บเงินก้อนนี้ไว้ในยามฉุกเฉินและเป็นค่าเทอมเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นที่ต้องใช้จ่ายฉันก็หาเอาโดยการทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียนและวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่ในเรื่องแย่ๆก็ยังมีเรื่องดีๆอยู่บ้างทำให้ฉันได้พบกับมีนเรารู้จักกันตอนปีหนึ่ง เราเรียนสาขาเดียวกันและมีนก็เป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันสนิทด้วย ฐานะของมีนกับฉันต่างกันมากแต่มีนก็ไม่เคยรังเกียจกับรวมถึงพ่อแม่ของมีนท่านก็เอ็นดูฉันเหมือนลูกของพวกท่านอีกด้วย และคืนนี้ฉันก็มีนัดกับมีนที่ผับแห่งเพื่อฉลองสอบเสร็จและได้ที่ฝึกงานแต่เป็นคนละที่กัน ตึกๆ ตึกๆตึกๆ     “ปรางงงงงง” เสียงมีนเพื่อนของหญิงสาวตะโกนเรียนเพื่อนมาแต่ไกลจนทำให้นักศึกษาที่อยู่บริเวณรอบๆหันไปมองตามเสียงของมีน     “มีอะไรมีน แล้วแกจะตะโกนเสียงดังทำเนี้ย อายคนอื่นเขา” หญิงสาวถามเพื่อนที่มาแต่ไกลปรางพูดปรามเพื่อนให้เบาเสียงเพราะรู้สึกเขินอายกับสายตาที่ผู้คนมองมา     “โอเค ขอพักหายใจก่อนเหนื่อย” มีนหอบหายใจ หลังจากวิ่งมาหยุดอยู่บริเวณที่เพื่อนเธออยู่     “แล้วใครบอกให้แกวิ่งมาล่ะ เดินมาก็ได้ไหม” หญิงสาวเอ็ดเพื่อนน้อยๆ      “ฉันหายเหนื่อยละ คือฉันจะบอกว่าอย่าลืมนะคืนนี้ที่นัดกันไว้” มีนพูดเตือนความจำหญิงสาวไม่ใช่ว่าเพื่อนขี้ลืมแต่เพราะเพื่อนของเธอนั้นมักจะเบี้ยวนัดเธอเสมอถ้าหากช่วยไปสถานที่เที่ยวกลางคืน     “ไม่ลืมๆ สองทุ่มเจอกัน งั้นฉันไปและแกก็กลับคอนโดดีๆล่ะ” หญิงสาวกล่าวลาเพื่อนก่อนทั้งสองจะแยกกันกลับบ้านเพื่อไปเตรียมตัวสำหรับการฉลองคืนนี้     “โอเค คืนนี้เจอกัน ถ้าเทฉันละคอยดู จะตามถึงบ้านเลย” ก่อนแยกกันมีนไม่วายพูดคาดโทษเพื่อนตัวเองเพราะกลัวว่าจะโดนเทอีกเหมือนครั้งก่อนๆที่ผ่านมา  (ปวีร์)      สวัสดีครับทุกคนผมชื่อปวีร์หรือวีร์แต่วีร์ชื่อเล่นผมจะให้แค่คนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทเท่านั้นที่เรียกได้ส่วนคนอื่นไม่มีสิทธิเรียกชื่อนี้ของผมตอนนี้ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับตกแต่งภายในซึ่งธุรกิจนี้เป็นของผมเองไม่เกี่ยวกับที่บ้านผมเริ่มทำตั้งแต่ผมยังเรียนไม่จบทำมาเรื่อยๆควบคู่กับการดูแลกิจการของที่บ้าน      จนตอนนี้ธุรกิจของผมเป็นบริษัทออกแบบภายในระดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ใช่ว่าจะง่ายกว่าจะเป็นยอมรับของลูกค้าก็ต้องใช้เวลาร่วมปี ผมทำงานเยอะมากจนเพื่อนๆและครอบครัวก็ต่างว่าผมบ้างานซึ่งผมก็ไม่เถียงหรอกครับเพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมทุ่มเทให้กับงานมากจนพ่อแม่กลัวว่าผมจะไม่มีเมียมีลูกเพราะอายุของผมก็เข้าเลยสามไปแล้วผมยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนสักที จะมีก็แต่ปลดปล่อยบ้างตามภาษาหนุ่มโสดแต่ก็นั้นแหละครับความสัมพันธ์จบที่เตียงจ่ายเงินแล้วก็แยกย้าย ส่วนเพื่อนของผมพวกนั้นก็มีลูกมีเมียกันหมดแล้วก็จะเหลือแต่ผมนี่แหละที่ยังไม่มีกับเขาแต่ผมก็ไม่ได้เดือนร้อนอะไร และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมมาทำงานตามปกติทุกวันที่ทำงานเสร็จแล้วก็กลับคอนโดน้อยครั้งที่จะกลับไปนอนบ้านเพราะบ้านกับที่ทำงานไกลกันพอสมควร     แต่วันนี้เป้าหมายของผมหลังจากที่ทำงานไม่ใช่คอนโดแต่เป็นสถานบันเทิงแห่งหนึ่งเพราะเมื่อสามวันที่แล้วไอซ์เพื่อนในกลุ่มสมัยเรียนมหาลัยโทรมานัดให้ไปฉลองให้กลับลูกคนที่สามของมัน และคิดว่าอีกไม่นานก็น่าจะโทรมาย้ำผมอีกรอบแน่ๆ 5นาทีผ่านไป กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ     “ฮาโหล เพื่อนรัก คืนนี้มึงอย่าลืมนัดกูนะเว้ย” ไอซ์เพื่อนของประธานหนุ่มเพื่อนนัดเขาอีกครั้ง     “เออๆกูไม่ลืมหรอกน่า มึงนี่ก็ย้ำจัง” ประธานหนุ่มตอบกลับเพื่อนไปด้วยน้ำเสียงปนรำคาญนิดหน่อยเพราะเพื่อนของเขาโทรมาย้ำเขาทุกวัน     “ก็กูกลัวมึงไม่มานี่หว่า ครั้งที่แล้วมึงก็ไม่มา” เพื่อนของประธานหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดกับเพื่อน     “เออน่ากูไปแน่ๆแหละ มึงนี่นะทำอย่างกับผู้หญิง” ประธานหนุ่มเอ็ดเพื่อนไม่จริงจังมากเพราะเขารู้นิสัยของเพื่อนเป็นอย่างดีว่าเพื่อนเป็นคนขี้เล่น     “แค่นี้ก็ต้องดุด้วยหรอคะท่านประธานขา” ไอซ์พูดจีบปากจีบคอผ่านทางโทรศัพท์ให้เพื่อนตนได้หมั่นไส้เล่น “ไร้สาระ แค่นี้นะกูจะทำงานต่อ” ประธานหนุ่มตัดบทเพื่อนตัวเองด้วยการวางสายแต่ก่อนวางก็มิวายที่เพื่อนตนนั้นจะกำชับนัดคืนนี้     “มาด้วยนะมึง ลูกคนที่สามของกูเลยนะเว้ย” ว่าเสร็จประธานหนุ่มก็กดวางสายทันที และก็อดขำกับการอวดลูกของเพื่อนไม่ได้ที่เพื่อนของเขามีลูกเข้าไปคนที่สามแล้วแต่เขาไม่แม้แต่จะมีแฟนกับเขาเลยสักคนเพราะวันๆมันแต่ทำงานจนไม่มีเวลาที่จะไปสนใจใครนอกจากงานของตนเยอะจนทำคนเดียวแทบไม่ไหว จะให้เอาเวลาที่ไหนไปมีแฟนแค่มีเวลานอนกับกินข้าวก็ดีแค่ไหนแล้ว     ก็อย่างว่าเป็นลูกคนโตจะพูดอะไรได้ส่วนน้องชายก็จะให้ขึ้นมาบริหารช่วยก็ไม่ยอมบอกอยากเป็นเลขาช่วยงานพี่เขาก็จบไม่รู้จะพูดยังไงแล้วจึงได้แต่ยอมแต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเมื่อไหร่ไม่ว่าจะยกเหตุผลอะไรมาอ้างเขาก็จะไม่ยอม เลขาเขาหาใหม่ได้ไม่มีปัญหาหรอกแต่จะให้รู้ในเท่าน้องชายก็คงยากแต่คนเราฝึกกันได้เขาเชื่ออย่างนั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม