ตอนที่2.single ที่แปลว่าโสด

1519 คำ
@สนามบินไครัต เมื่อล้อเครื่องบินแตะรันเวย์ผู้โดยสารต่างเตรียมตัวจะลงจากเครื่องบิน "คุณ...คุณถึงแล้ว" เสียงทุ้มปลุกเรียกหญิงสาวที่นอนเหยียดยาวซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม "คุณ..." เขาเอื้อมมือไปคิดจะปลุกหญิงสาวเวลานี้จะช้าไม่ได้ "นอนต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอคะ" "ไม่ได้..." เสียงทุ้มพูดใกล้แค่หูได้กลิ่นหอมจางๆจากหญิงสาวแอบเผลอมองผิวเนียนละเอียดริมฝีปากบางดูนุ่มนิ่มสีชมพูระเรื่อน่าจูบนั้นอย่างเผลอไผล น่าจูบชะมัด.......เธอน่ารักกว่าที่คิด ฉันลืมตาตื่นขึ้นกระพริบตาปริบๆไล่ความมึนงง "คุณฮาซัน" "ถึงแล้วเรารีบไปกันเถอะ" ชีคฮาซันเตรียมพร้อมตั้งนานแล้วเขาไม่ได้มีของส่วนตัวมากนักแค่กระเป๋าสะพายหนึ่งใบกับกระเป๋ากิ๊ฟเซ็ทของทางสายการบินอีกหนึ่งใบ "โอเคได้ค่ะ" ฉันตื่นขึ้นมาปรับเก้าอี้นอนให้ตั้งตรงแล้วล้วงเอากระเป๋าสะพายใบเล็กจากช่องเก็บของด้านข้างออกมารูดซิบหยิบหวีเล็กออกมาจัดแต่งทรงผมสำรวจความเรียบร้อยแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ เป็นเวลาพอดีกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสาวสวยเดินออกมากระตุ้นผู้โดยสารอีกครั้ง "มาดาม...เตรียมพร้อมนะคะเครื่องจะลงจอดแล้วค่ะ" "ขอบคุณค่ะ" ฉันนางสาวบาหลีเป็นมาดามไปแล้ว หัวจะปวดเลื่อนสายตาไปทางเขาตีเนียนยิ้มกว้าง "ขอบคุณครับ" กระเป๋าเดินทางของฉันมีด้วยกันสองใบส่วนของเขามีเพียงใบเดียวเล็กๆทั้งสองรับกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปที่ Car Park ทันที เมื่อออกจากสนามบินผิวก็ได้สัมผัสกับอากาศในเดือนตุลาคมอยู่ในฤดูหนาวอากาศเย็นสบายกำลังดี "คนรถผมมารอแล้ว" "ค่ะ" ฉันลากกระเป๋าเดินตามเขาออกไปโดยได้รับความอนุเคราะห์จากเขาไปสองใบส่วนฉันก็ได้กระเป๋าใบเล็กของเขามาแทน ไม่นานรถหรูซุปเปอร์คาร์สีดำมันวาวราคาที่คนธรรมดาอาจจับต้องไม่ถึงก็เข้ามาจอดเทียบ "เชิญครับ" ชีคฮาซันผายมือแล้วเปิดประตูให้หญิงสาวนั่งที่เบาะด้านหลังเพียงคนเดียวส่วนตัวเขานั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ "คุณหิวไหม" เขาหันมาถามทันที่รถออกตัว "ที่อพาร์ทเม้นท์มีของขายไหมคะ" "มีครับ" "งั้นไปกินที่นั่นก็ได้ค่ะจะได้ไม่ต้องแวะกลางทาง" คนไทยเป็นคนขี้เกรงใจไปต่างบ้านต่างเมืองอย่าเรื่องเยอะ ป้าบัวสั่งนักสั่งหนา "ก็ได้ครับ" จากนั้นฉันที่ตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์ข้างทางขณะนี้ก็ใกล้จะค่ำแล้วแต่ผู้คนค่อนข้างหนาตาต่างเดินออกมาเที่ยวเล่นกันเยอะพอสมควร ไครัตเป็นเมืองท่องเที่ยวไม่แปลกที่ข้างทางจะมีผู้คนหลายเชื้อชาติทั้งยุโรปเอเชียและคนท้องถิ่นเดินกันขวักไขว่ไปมาส่วนผู้หญิงเมืองนี้ก็มองไม่ค่อยจะเห็น "ผู้หญิงไครัตเขาไปไหนกันหมดคะ" "อยู่บ้านครับ" อืมพอได้คำตอบก็นึกถึงตัวเองถ้าอยู่กรุงเทพตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับบ้านหรอก บางวันก็ยังอยู่ที่ออฟฟิศหรือไม่ก็บนท้องถนนหรือร้านอาหารที่ไหนซักแห่ง จากนั้นรถยนต์มุ่งหน้าผ่านตึกสูงมากมายรูปร่างแปลกตาจนมาถึงคลองที่มีน้ำใสเปิดไฟสว่างไสวสวยงาม "ถึงแล้วครับ" เขาบอกแล้วลงจากรถทันทีฉันจึงขยับตัวโดยอัตโนมัติทั้งที่ยังดื่มด่ำกับคลองน้ำใสยังไม่จบ "ขอบคุณค่ะ" นี่ฉันมีเจ้าชายมาเปิดประตูรถให้เชียวเหรอนี่ เกรงใจเขาจังจึงรีบไปที่ท้ายรถรับกระเป๋าเดินทางจากคนขับรถฉันเห็นเขาพูดอะไรกับคนขับเป็นภาษาอาหรับที่ฟังไม่รู้เรื่องสองสามคำ แล้วเดินลากกระเป๋าตามฉันมาเหมือนจะนอนที่นี่ ตัวอพาร์ทเม้นท์ที่ดูภายนอกค่อนข้างหรูหราไม่ว่าจะมองไปทางทิศไหนก็ดูสะอาดตาน่ามองไปทุกหนทุกแห่งยกเว้นค่าเช่าที่แพงหูฉี่เฉพาะที่นี่ก็ตกเดือนละแสนบาทไทยเข้าไปแล้วดีที่เขาเป็นคนออกค่าเช่าให้ไม่อย่างนั้นเงินเดือนหนึ่งล้านบาทของที่นี่คงไม่เหลือเพราะยังไม่นับของกินของใช้อย่างอื่นอีก "ไม่ต้องส่งหรอกค่ะบาหลีดูแลตัวเองได้ค่ะ" ใบหน้าหล่อก้มต่ำใกล้แค่คืบสายตาเจ้าเล่ห์ "ผมนอนที่นี่" "แล้วที่บ้านคุณล่ะคะ" ฉันหมายถึงบรรดาเมียของเจ้าชายนะค่ะฉันคิดในใจ "ผมไม่มีบ้านถูกไล่ออกจากบ้านมานานแล้ว" "อ้าวเหรอคะเสียใจด้วยนะคะถ้า อย่างนั้นบ้านที่ให้บาหลีมาตกแต่งเป็นบ้านของคุณใช่ไหมคะ" "ใช่ครับ ผมนอนที่นี่มาหลายปีจนเหมือนบ้านไปแล้ว" "เหรอคะ ฉันรับปากว่าจะทำให้เต็มที่เลยค่ะ" ฉันพกสตอเบอร์รี่มาเยอะยิ้มอ่อนให้เขา "ไปกันเถอะครับ" เราลากกระเป๋าไปคุยกันไปจนถึงโถงชั้นล่างจะมีพนักงานสาวสวยคลุมผมด้วยผ้าคลุมฮิญาบสไตล์ทันสมัยสวยงามด้วยงานปักเปิดเผยใบหน้าสวยหวานคิ้วตาจมูกปากรับกันอย่างเพอร์เฟคสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดเหมือนที่เคยเห็นในทีวีหรือในสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองไทยฉันยืนดูด้วยความทึ่ง นึกในใจว่าถ้าฉันสวยได้แบบนี้ซักครึ่งจะลองลงประกวดนางงามดูสักตั้ง "สวย....เพอร์เฟค" "What..." ฉันเผลอหลุดภาษาไทยออกมาอีกแล้วจนเจ้าชายฮาซันผู้ที่มีหูทิพย์หันมาถาม เมื่อฉันตั้งสติได้จึงพูดกับเขาว่า "สาวๆที่นี่สวยจังค่ะ" "ผู้ชายก็หน้าตาดีนะครับ" แน่ะ!!!! เขาพูดทิ้งท้ายแล้วเดินไปพูดคุยกับพนักงานสองสามคำแล้วรับกุญแจห้องพร้อมคีย์การ์ดแล้วยื่นให้ฉัน "ของคุณ" "ขอบคุณค่ะ" จากนั้นเขาในฐานะเจ้าถิ่นนำขึ้นลิฟต์ที่ข้างในหรูหราอีกเช่นกันทุกที่ของที่นี่ทำให้ฉันรู้ว่าคนไครัตช่างเป็นคนใส่ใจกับทุกรายละเอียดจนถึงชั้นบนสุดชั้นที่สามสิบห้า "ห้องผมอยู่ถัดจากห้องของคุณ" "อ้อ...ค่ะ" ฉันกำลังจะเดินเข้าห้อง "คุณเก็บกระเป๋าเสร็จแล้วลงไปกินข้าวกัน" "ค่ะ...." จากนั้นฉันไขกุญแจห้องเข้าไปด้านในก็ต้องร้อง...ว๊าว...ออกมาดังๆ "นี่มัน....." ฉันถอดรองเท้าไว้หน้าห้องแล้วใส่สลิปเปอร์เนื้อนุ่มเดินเข้าด้านในที่ไม่คิดว่าจะหรูขนาดนี้ ขวามือเป็นห้องน้ำลองเปิดดูพบว่ามันสะอาดจริงๆ ซ้ายมือจะเป็นโซฟาขนาดนั่งได้สองถึงสามคนตั้งอยู่มีทีวีหนึ่งเครื่อง ขวามือเป็นห้องนอนที่มีเตียงกว้างขนาดคิงส์ไซส์ปูด้วยผ้าปูที่นอนเนื้อดีสีสันสดใสและมีห้องน้ำในตัวอีกหนึ่งห้องฉันวางกระเป๋าหน้าตู้เสื้อผ้าที่ยังใหม่เอี่ยมนั้น เปิดห้องนอนออกไปจะมีระเบียงไว้สำหรับพักผ่อนมีเก้าอี้ปรับระดับนั่งได้นอนได้วางไว้หนึ่งตัว ฉันตั้งใจว่าตรงแหละที่จะใช้เป็นที่ทำงานเคลื่อนที่ของฉันตอนนี้อากาศดีมากกลับเข้ามาอีกห้องติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องครัวที่มีตู้เย็นหม้อกระทะเครื่องครัวครบครันเครื่องชงกาแฟก็มีตั้งไว้ และมีเครื่องซักผ้าตั้งไว้อีกมุมหนึ่งข้างกันมีเตารีดวางไว้คู่กับโต๊ะรีดผ้าหนึ่งอันฉันมองรอบห้องอย่างพอใจเป็นที่สุดและที่ดีกว่านั้นคือฉันอยู่ฟรี สัญญาเลยว่าจะทำงานให้คุ้มค่าแรงตอนนี้ฉันรู้สึกเขาสปอตกว่าบอสร้อยเท่า "เหมือนย้ายบ้านเลยไม่แปลกที่ค่าเช่าเป็นแสน" แสนสาหัส ปิ๊งป่อง เสียงอ๋อดหน้าประตูก้องดังขึ้นฉันจึงรีบวิ่งออกไปฉวยกระเป๋าสะพายคล้องไหล่ สงสัยว่าเขาจะมาแล้วเมื่อไปถึงหน้าห้องก็รีบเปิดประตูโดยไม่ได้ส่องให้เสียเวลา เพราะคิดว่าต้องเป็นเขาแน่ๆไม่ใช่ใคร อีกอย่างที่ไครัตกฏหมายเขาแรงจริง เคยศึกษาในยูทูปแล้วว่าที่นี่เขารับรองความปลอดภัยถ้าใครทำผิดจับเป็นจับปรับเป็นปรับ "ไปกันครับ" "ค่ะ" ฉันออกมาแล้วรีบล๊อคห้องทันที เมื่อเดินผ่านหน้าห้องเขาฉันทำท่าชะโงกมองในห้องของเขาสอดรู้สอดเห็นถึงแม้ว่าห้องจะปิดอยู่ "แล้ว...ไม่ชวนไปด้วยกันเหรอคะ" ฉันเห็นเขายิ้มจนเครากระดิกทำหน้าเหมือนฉันเป็นตัวตลกแล้วพูดว่า "I'm single" เขาโสดดดดดด..... โสดแล้วไงก็ฉันไม่ชอบผู้ชายมีหนวดมีเครานี่นาเห็นแล้วมันจั๊กจี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม