CHAPTER 6

1963 คำ
CHAPTER 6 PORSHE TALK ผมไม่พอใจมากที่เธอยังทำงานที่ร้านกาแฟอยู่แบบนี้ ทำไมต้องทำให้ตัวเองเหนื่อยด้วย แล้วผมก็เคยบอกว่าให้ลาออกจากงานอื่นทำไมไม่ทำตามคำสั่ง เธอจะหาเงินอะไรของเธอนักหนาผมไม่เข้าใจ ตำแหน่งเลขาที่เธอเป็นมันขึ้นตรงกับผมคนเดียว ผมรับเธอเอง เงินเดือนเธอคือเงินผมคนเดียวไม่ใช่เงินบริษัท นี่ผมจริงจังกับเธอนะดูสิใช้เงินกระเป๋าเดียวกันด้วย ถึงเธอจะไม่รู้ก็ตามแต่ “เรียบร้อยค่ะคุณพอร์ช แล้วจะไปเที่ยวไหนคะหยาเอารถมานะ โน่นค่ะจอดอยู่โน่น” เธอชี้ไปทางมอเตอร์ไซค์สีชมพูคนหนึ่งที่จอดหน้าร้าน ผมคว้ามือเธอเดินมาที่รถของผมก่อนจะดันตัวเธอให้เข้าไปนั่ง วันนี้ผมขับรถออกมาเองเพราะแม่ไปบ่อนและเดี๋ยวอาทิตย์หน้าแม่ก็ไม่อยู่ซึ่งมันก็ดีผมจะได้ไปไหนกับเธอแบบไม่ต้องกังวลหากจะกลับดึก “ไปหาแม่กัน” “แม่กันคือใครคะ?” ซื่อบื้อจริงๆเธอนี่นะ ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่ขับรถออกไปเงียบๆส่วนเธอเองก็ได้แต่ทำหน้าตาตื่นตลอดเวลา หันซ้ายหันขวาล่อกแล่ก นี่คิดว่าผมจะพาเธอไปฆ่าหรือไง? ถ้าพาไปปล้ำทำเมียก็ว่าไปอย่าง ผมไม่คิดหรอกว่าจะเจอเธอวันนี้แต่ก่อนหน้าที่ผมจะออกมานั่งดื่มกาแฟผมเพิ่งอ่านประวัติเธอที่ให้คนไปสืบมาให้ ผมอยากรู้ว่าเธอพักอยู่แถวไหนกับใครและผมก็พอจะจำได้บ้างว่าแมนชั่นที่เธอพักอยู่ไหน ก็แค่...อยากไปหาแม่ยาย ไปบอกว่าชอบลูกสาวเขา “ตึกไหน?” ผมเอ่ยถามเธอที่ตอนนี้หลับอยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเผลอหลับไปตอนไหนเพราะผมก็คิดอะไรของผมเพลินเลยไม่ทันหันไปมอง “คะ? นี่มันที่หยาอยู่นี่คะ!! คุณพอร์ชรู้ได้ยังไงว่าหยาอยู่ที่นี่แล้วพาหยามาทำไมคะ ไหนบอกว่าไปเที่ยวไงแล้วพาหยากลับบ้านแบบนี้หยาก็ต้องกลับไปเอามอเตอร์ไซค์อีกรอบน่ะสิ จอดตึกซ้ายมือนี่แหละค่ะ” “พาไปหาแม่หน่อย” “หยาไม่เข้าใจคุณพอร์ชเลยค่ะทำแบบนี้ทำไม แล้วจะมาเจอแม่ของหยาทำไม? ที่นี่มันคับแคบเดี๋ยวคุณพอร์ชจะอึดอัดเอานะคะ” มัวฟังที่เธอพูดผมก็หูชาก่อนพอดี วันนี้ผมไม่ได้มาในฐานะเจ้านายเธอแต่ผมมาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นเอง การแต่งตัวก็แค่เสื้อโปโลกางเกงยีนส์สบายๆไม่ได้ใส่สูทผูกไทน์อะไรเลย ก็แค่อยากจะมาเจอมาคุยทำความรู้จักครอบครัวเธอบ้างเท่านั้นเอง จนกว่าแล้วยังไง รวยก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความสุขนะ “อยู่ชั้นไหน” “คุณพอร์ชไม่ฟังหยาเลยเหรอคะ ที่นี่มันไม่มีแอร์ให้คุณนั่งเย็นๆหรอกนะคะมีแต่พัดลมเท่านั้นเอง หยาไม่อยากให้คุณมาลำบากค่ะ นี่มันนโยบายบริษัทเหรอคะที่ให้เจ้านายตามติดขนาดนี้” “ว่าผมเสือกเหรอ?” “อุ้ย หยาเปล่านะคะไม่ได้หมายความหยาบคายแบบนั้น แต่..” “เดินนำไปเดี๋ยวนี้” เธอถอนหายใจและเดินคอตกนำผมไปอย่างจำใจ ก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องจีบเธอให้ติดภายในสามเดือนผมเลยต้องรุกให้หนักเข้าไว้ ยิ่งเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าต่อต้านผมแบบนี้ยิ่งดี วันนี้ต้องเข้าทางแม่ แมนชั่นที่เธออยู่โทรมพอสมควร ผู้คนค่อนข้างแออัดอย่างที่เธอบอกจริงๆนั่นแหละ ห้องนึงอยู่กันตั้งหลายคน ผมเดินตามเธอมาเรื่อยๆจนเธอมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องหนึ่งแล้วไขกุญแจเข้าไป “เอ่ออ แม่คือว่า..” “กลับมาไวจังลูก ลืมอะไรหรือเปล่า” เสียงผู้หญิงดังมาจากข้างในห้อง ผมขยับมายืนซ้อนตัวเธอจากด้านหลังเพื่อจะสอดส่องดูในห้องว่าเธออยู่กินยังไง “คุณพอร์ชเจ้านายหนูเขามาหาแม่อ่ะ คือเขาอยู่ข้างหลังหนูเนี่ย” “ตายจริง!! เชิญเข้ามาดื่มน้ำดื่มท่าก่อนค่ะคุณ” เธอเบี่ยงตัวหลบให้ผมเดินเข้าไปข้างใน ผมจัดการถอดรองเท้าก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปด้านใน ที่นี่คือห้องสี่เหลี่ยมไม่กว้างมาก มีโซนครัวเล็กๆก็มีแค่ถังแก๊สกับชั้นจานเท่านั้น ถัดมาเป็นฟูกนอนคาดว่าเธอกับแม่คงจะนอนด้วยกัน ชิดผนังห้องมีโซฟาสีดำสภาพไม่ได้ใหม่แต่ยังคงหุ้มพลาสติกคลุมอยู่ ผมเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา “น้ำค่ะคุณพอร์ช หยาบอกแล้วว่าร้อนคุณก็ไม่เชื่อดูสิคะเหงื่อออกใหญ่เลย แม่หยาตกใจหมดแล้วเห็นไหมคะ” “แม่ครับ ผมหิว” คือผมจะพูดยังไงดี ผมอยากมากินแกงเขียวหวานฝีมือแม่เธอด้วยเพราะวันก่อนเผลอพูดไม่ดีเรื่องนี้ไปเลยอยากจะแก้ตัวใหม่ แต่เมื่อผมพูดแบบนั้นไปทั้งเธอและแม่เธอก็หน้าเหวอไปเลย “คุณอยากทานอะไรคะ ฉันผัดผักให้ปั้นหยาเพิ่งเสร็จคุณทานได้ไหม? หรือคุณอยากทานอะไรเดี๋ยวฉันทำให้ค่ะ” “แกงเขียวหวานครับ” “ไปตักให้คุณเขาหน่อยลูก แม่แบ่งไว้ในตู้ลืมบอกหนู” ทำไมทุกคนดูเกร็งๆเครียดๆที่ผมมา ไม่อยากให้ผมมาเหรอ? แต่ผมอยากมานะและตอนนี้ผมก็แฮปปี้ดีถึงหน้าผมมันจะไม่ยิ้มแต่ผมยิ้มในใจอยู่ แม่ของเธอเป็นคนที่ท่าทางใจดี ผิวขาว สูงสมส่วน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงสวย นี่สวยเหมือนแม่ไม่มีผิด “ที่นี่ไม่มีโต๊ะอาหารนะคะคุณพอร์ช มีแต่โต๊ะญี่ปุ่นแล้วก็นั่งพื้น จะไหวไหมคะเนี่ยคุณเหงื่อแตกใหญ่แล้วนะคะ นี่ก็จ่อพัดลมตั้งสองตัว” ก็ที่นี่มันร้อน ผมไม่ได้สนใจที่เธอพูดแต่สนใจอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะมากกว่า ที่บอกว่าหิวผมหิวจริงๆ สายตาของเธอและแม่มองผมตลอดเวลาเหมือนลุ้นว่าผมจะกินได้ไหม ทำไมเหรอ? ผมก็เป็นคนที่กินข้าวเหมือนกันไม่ได้เกิดมากินเพชรกินพลอยเป็นอาหารซะเมื่อไหร่ เธอและแม่ไม่ได้กินด้วยแต่มานั่งล้อมโต๊ะแทน หลังจากตักอาหารเข้าปากคำแรกและได้สัมผัสกับรสชาติมันทำให้ผมอยากจะขอโทษเธอที่ว่าอาหารแม่เธอสกปรกวันนั้นเป็นร้อยเป็นพันรอบ แกงเขียวหวานอร่อยมาก ไม่ได้บรรจุในถ้วยหรูหราเหมือนร้านที่ผมไปกินแต่เพียงแค่ใส่ในชามพลาสติกธรรมดา รสชาติกลับอร่อยเกินคาด ของอร่อยไม่จำเป็นต้องดูดีมีราคาอะไรเลย อร่อยก็คืออร่อย “อร่อยมากครับ” “ฉันโล่งอกไปทีนึกว่าคุณจะทานไม่ได้ นี่ก็วัสถุดิบตลาดทั่วไปไม่ได้ของดีของแพงอะไรเลย” “พูดธรรมดาเถอะครับ คุณแม่” “หยายังไม่เข้าใจเลยนะคะว่าคุณพอร์ชมาทำไม” นั่งกินข้าวจนหมดจานท่ามกลางสายตาสองแม่ลูกที่มองผมไม่วางตา ผมว่ามันถึงเวลาที่จะพูดถึงประเด็นที่ผมมาวันนี้แล้วล่ะ “แม่ครับ ผมชอบหยา” “คุณพอร์ช!!! คุณพูดอะไรคะเนี่ย เอ่อ แม่คือ” “หึๆ ปั้นหยาก็เหมือนจะชอบคุณค่ะ พูดถึงคุณให้ฉันฟังทุกวัน” “แม่!! แม่ไปบอกเขาทำไมว่าหนูพูดถึงเขา” “หยาออกไปก่อน” ผมบอกให้เธอออกไปเพราะจะได้คุยกับแม่เธอได้สะดวกๆ ผมมีเวลาไม่มากนักหรอกสำหรับเรื่องของเธอ อย่างน้อยมันต้องชัดเจนก่อนที่แม่ผมจะหาผู้หญิงอื่นมาให้ผมแล้วจับผมแต่งงาน วันนี้เลยต้องรีบ เพราะคนที่ตรงตามทฤษฎีรักของผมมันมีแค่เธอ และผมก็ชอบเธอมากด้วย เหมือนผมรอเจอคนๆนี้มานานคนในทฤษฎีน่ะนะ พอได้เจอแล้วผมก็รู้สึกว่าคนนี้ใช่ ไม่รู้สิ ปั้นหยาน่ารัก นิสัยดี เธอควรเป็นเมียผม “ยัยหนูออกไปแล้วคุณมีอะไรจะพูดกับฉันเหรอคะ” “ผมชอบปั้นหยาจริงๆ” “คุณไม่อายเขาเหรอคะถ้าจะคบกับคนแบบเราๆ คุณน่ะระดับมหาเศรษฐีเลยนะซึ่งต่างกับเราสิ้นเชิง” “ผมไม่อาย” “ยัยหนูน่ะชอบคุณล่ะค่ะฉันคิดว่าอย่างงั้น แต่ฉันสอนลูกให้เจียมเนื้อเจียมตัวเสมอ อย่าตีตัวเสมอนาย เพราะงั้นฉันคิดว่าความสัมพันธ์ของคุณกับปั้นหยาอาจไม่ราบรื่นเพราะเราต่างกัน” ผมคิดตามที่แม่เธอพูดทุกคำและผมเข้าใจทุกอย่างดี ผมอยากได้ปั้นหยามาเป็นเมียผมถึงต้องมาขอกับแม่เธอ ไม่รู้สิ ผมชอบเธอมากและเพิ่งรู้วันนี้เองว่าเธอก็มีทีท่าจะชอบผมเหมือนกัน แค่ชอบนิดหน่อยก็ยังดีเพราะผมทำให้เธอชอบได้มากกว่านี้อีกเชื่อสิ “ผมจริงจังกับเธอ” “ฉันพูดตรงๆนะคะ ด้วยความที่เราต่างกันมากเกินถ้าหากวันหนึ่งมีปัญหาอะไรขึ้นมาคนที่เสียใจคือยัยหนู ฉันไม่อยากเห็นลูกเสียใจ” “ผมไม่มีวันทิ้งเธอ” “คุณนี่ดื้อจังนะ อ่ะๆ ถ้ายืนยันว่าชอบยัยหนูจริงๆก็ลองศึกษากันไปดูก็ได้ค่ะ ฉันคงไม่ห้ามอะไรคุณไม่ได้หรอก แล้วยัยหนูทำงานเป็นไงบ้างคะ?” “แย่มาก” ผมโกหกออกไปเพราะเมื่อกี้นึกแผนอะไรบางอย่างออกเลยตีเนียนไปก่อน อ่า แผนนี้มันก็เข้าท่าดีนี่นะ “แย่ยังไงเหรอคะ แล้วทำยังไงดี? ถ้าปั้นหยาทำงานคุณเสียก็ไล่ออกเลยได้นะคะจะได้ไม่เสียสิทธิคนที่ทำงานดีคนอื่น ฉันเกรงใจคุณ” ถึงเวลาที่ผมต้องพูดยาวๆแล้วสินะ อะแฮ่มๆ “ยิ่งอาทิตย์หน้าจะต้องเคลียร์เอกสารสาขาใหม่พร้อมทั้งประชุมบอร์ด เราต้องทำงานกันอย่างหนัก ผมต้องเอางานกลับไปทำที่บ้านแต่ปั้นหยาต้องอยู่ช่วยผมไม่งั้นงานคงไม่เสร็จ ถ้าผมจะให้ปั้นหยานอนที่บ้านจะเป็นอะไรไหมครับ? เพื่องาน” แม่ของเธอเงียบทันทีที่ผมพูดจบ มันลำบากใจใช่ไหมล่ะผมรู้ แต่ว่าอาทิตย์หน้าแม่ผมจะไม่อยู่ บ้านก็จะไม่มีใครมาบงการผมเลยอยากพาปั้นหยาไปที่บ้านผม งานสาขาใหม่อ่ะมีจริงๆและเยอะด้วยแต่ถ้าจัดสรรเวลาได้ก็ไม่ต้องเอากลับมาทำที่บ้านหรอก “นอนยังไงคะ กับคุณเหรอ?” “ห้องแขกสิครับ” “ถ้าเพื่องานฉันอนุญาตค่ะแต่คุณห้ามล่วงเกินอะไรลูกสาวฉันนะคะ ยัยหนูน่ะซื่อบื้อไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมใครเขาหรอก” ผมอธิบายไปซะยาวจนน้ำลายแห้ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันเกินคุ้ม ต่อให้เธอปฎิเสธที่จะไม่ยอมไปนอนค้างบ้านผมก็ช่างยังไงแม่เธอก็ต้องให้เธอไปอยู่ดี แล้วคนหัวอ่อนอย่างปั้นหยาจะกล้าขัดใจแม่ตัวเองเหรอ? END TALK
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม