CHAPTER 7

2171 คำ
CHAPTER 7 PUNYAH TALK อกฉันจะระเบิด วันนี้มีแต่เรื่องน่าตกใจจริงๆ ทั้งเจอคุณพอร์ชที่ร้านกาแฟและไหนจะดั้นด้นมาหาที่ห้องฉันอีก เขาเป็นคนที่น่ากลัวยังไงชอบกลอาจเพราะฉันเดาไม่ถูกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ แล้วนี่ไล่ฉันออกมาข้างนอกแบบนี้มีอะไรจะคุยกับแม่ฉันเหรอ? เจอกันครั้งแรกแม่ฉันต้องตกใจกับการพูดน้อยของเขาแน่ๆ โอ้ยยยยยย ปั้นหยาเครียด ฉันเดินลงมานั่งคอยข้างล่างเพราะให้ยืนรอหน้าห้องก็ไม่รู้จะทำอะไร จนตอนนี้ผ่านไปสิบนาทีแล้วแม่ยังไม่โทรเรียกฉันขึ้นไปอีก ฉันกลัวอ่ะ คุณพอร์ชยิ่งชอบพูดว่าชอบฉันอยากได้ฉันนักหนาอยู่ด้วย แม่ฉันคงช็อคน่าดูเลยสิมีผู้ชายมาบอกชอบลูกสาวตัวเอง เอ๊ะ นั่นมันมอเตอร์ไซค์ฉันนี่!! มีรถกระบะสีดำคันหนึ่งมาจอดเยื้องกับตึกที่ฉันอยู่ หลังรถกระบะคันนั้นบรรทุกมอเตอร์ไซค์ของฉันและขณะนี้มีผู้ชายร่างบึกบึนเดินลงมายกรถของฉัน ทว่าสองขาฉันรีบวิ่งเข้าไปหาทันที “นี่รถฉันเองค่ะ” “คุณพอร์ชให้ผมเอารถมาจอดที่นี่ครับ” “คุณพอร์ชจัดการเหรอคะ? แล้วค่าจ้างเท่าไหร่คะเดี๋ยวฉันจ่ายเองเพราะตอนนี้คุณพอร์ชอยู่ข้างบนค่ะ” “ไม่ต้องหรอกครับคุณ ผมก็กินเงินเดือนคุณพอร์ชอยู่แล้ว” “ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวพี่อย่าเพิ่งไปค่ะรอแป๊บนึง” ฉันปล่อยให้พี่กล้ามบึกสองคนยืนทำหน้างงอยู่ตรงนั้นแล้วตัวฉันเองก็วิ่งมาร้านขายของชำ คือฉันเกรงใจเขาน่ะเงินก็ไม่ได้ให้เลยจะซื้อของให้นิดหน่อยเป็นสินน้ำใจแทนเงิน “อาแปะ กระทิงแดงสองขวดค่ะ” “ลื้อกินกระทิงแดงด้วยเหรออาหยา” “เปล่าจ่ะแปะ หนูจะซื้อไปให้พี่สองคนนั้น นี่เงินนะแปะ” “เออ ลื้อนี่มันเด็กดีจริงๆอาหยาเอ้ย” แหม ก็ไม่ได้ดีอะไรนักหรอกฉันเป็นคนแบบนี้แหละขี้เกรงใจ ขี้กลัว บางทีทำปากเก่งแต่ในใจกลัวมากก็มี ฉันวิ่งถือกระทิงแดงสองขวดกลับมายังรถกระบะที่พี่สองคนนั้นยืนพิงประตูอยู่ “นี่ค่ะพี่ หนูไม่มีอะไรจะตอบแทนหนูมีให้แค่นี้นะคะ” “โถ่คุณ ไม่น่าล่ะคุณพอร์ชถึงเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ ขอบคุณครับ” เอ๊ะ พูดถึงคุณพอร์ชป่านนี้จะเป็นไงบ้างเนี่ย ฉันไม่รอให้แม่โทรมาตามแล้วล่ะฉันว่าฉันขึ้นไปเลยดีกว่า [ย้าส์ อ้ากกกก] นี่มันเสียงคุณพอร์ชนี่!! ฉันรีบเปิดประตูออกอย่างรวดเร็วด้วยความสงสัยและเป็นห่วงทั้งคู่ ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำฉันโล่งอกแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ คุณพอร์ชนอนคว่ำหน้าอยู่บนที่ฟูกที่ฉันกับแม่นอนและที่นั่งข้างๆตัวคุณพอร์ชนั้นคือแม่ฉันเอง แม่ฉันกำลังนวดหลังให้คุณพอร์ช “ค่ำแล้วนะคะคุณพอร์ช ไม่รีบกลับบ้านเหรอคะ” เขาค่อยๆลุกขึ้นนั่งก่อนจะช้อนตาคมมองฉันอยู่ตรงนั้น “ไม่อยากให้อยู่เหรอ?” “นั่นสิลูก แม่ยังนวดให้คุณเขาไม่เสร็จเลยนะ” “อ้าว ทำไมแม่เข้าข้างเขาอย่างนั้นล่ะเนี่ย” “ใครรักลูกแม่แม่ก็รักด้วยทั้งนั้นแหละ” คุณพอร์ชลุกขึ้นเดินไปหยิบสูทตัวนอกมาใส่แล้วหันไปบอกขอบคุณแม่ฉันจากนั้นก็เดินออกจากห้องไปเลย แต่ตอนเดินออกไปทำตาขวางใส่ฉันด้วยหนึ่งที นี่เขางอนอะไรฉันอีกเนี่ย!! “แม่ เขาโกรธอะไรหนูหรือเปล่าทำไมมองหนูแบบนั้น” “ไม่รู้สิ วัยรุ่นนี่เข้าใจยากจริงๆแต่ว่าเขาก็จริงใจดีนะ พูดตรงดี ไม่ได้อวยหยาจนเกินจริงและรู้จุดดีจุดด้อยของลูกแม่ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรับได้ที่เราเป็นแบบนี้ อืม แม่ชอบ” “หนูว่าหนูไปส่งเขาดีกว่าเนอะ” หูฉันฟังที่แม่พูดก็จริงแต่ในหัวฉันกลับนึกถึงสายตาตัดพ้อที่เขาส่งมาให้เมื่อครู่ เป็นอะไรของเขากันนะ ฉันวิ่งออกจากห้องตามคุณพอร์ชออกมาแต่ก็มาเจอคุณพอร์ชอยู่ชั้นล่างกำลังเดินไปที่รถแล้ว เดินไปจริงๆ ฉันวิ่งไปดักหน้าไม่ให้เขาเดินต่อไปได้อีก “มีอะไร” “เอ่อ ขอบคุณเรื่องรถนะคะอุตส่าห์หาคนมาส่งให้หยา” “อืม” เขาตอบมาแค่นั้นแล้วเบี่ยงตัวเดินผ่านฉันไปเลย ฉันรู้สึกไม่ดีชะมัด ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยเมินเฉยฉันแบบนี้ “เดี๋ยวค่ะคุณพอร์ช หยุดก่อน” “อะไรอีก” “คุณโกรธอะไรหยาเหรอคะหยาจะได้ขอโทษถูก” “ไม่อยากให้อยู่ก็จะกลับ” อะไรของเขาเนี่ย! นี่ยังงอนเรื่องนี้อีกเหรอ? ฉันก็ไม่ได้ไล่สักหน่อยเห็นว่าค่ำแล้วเลยไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวมากนัก วันนี้วันหยุดเขาควรมีเวลาพักผ่อนไม่ใช่เหรอ? “หยาไม่ได้ไล่คุณสักหน่อยนะคะ คุณคิดไปเอง แต่ถ้าคุณไม่พอใจเรื่องนี้หยาก็ต้องขอโทษจริงๆค่ะ หยาไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณคิดมาก อย่าโกรธหยาเลยนะคะ” “มีข้อแลกเปลี่ยน” “อะไรคะ? พรุ่งนี้จะสั่งงานหยาเพิ่มก็ได้นะคะเป็นการไถ่โทษ” ฟอดดดดดด แม่เจ้าโว้ยยย ไม่น่าก้มหน้าก้มตารู้สึกผิดเลย ลืมไปว่าคุณพอร์ชน่ะมือไว เขาดึงตัวฉันเข้าไปกอดก่อนจะกดจูบที่หน้าผากค้างไว้อย่างนั้นและฉันพยายามจะดันตัวเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล “อ้าวปั้นหยา นั่นผัวเหรอลูก” เสียงคุณป้าที่รู้จักกันดังแทรกขึ้นมาทำให้ทั้งฉันและคุณพอร์ชผละออกจากกันทันที เขินอ่ะ นี่ก็ที่สาธารณะมาทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง “คือว่าเขาเป็น..” “เป็นผัวครับ” “คุณพอร์ช!!!” กลับมารับผิดชอบคำพูดตัวเองก่อนได้ไหม? นี่เขาพูดแบบนั้นแล้วเดินไปเลย ส่วนป้าคนที่ทักก็ยิ้มกรุ้มกริ่มให้ฉันแล้วก็เดินไปอีกทาง ทิ้งฉันให้ยืนจมกับความมึนงงและหน้าแดงอยู่ที่เดิม บ้าจริง คุณพอร์ชนะคุณพอร์ช!! แล้วฉันจะยืนเขินอยู่ทำไมเนี่ย รีบขึ้นห้องดีกว่า “คุณพอร์ชว่าไงบ้างลูก” “แหม ถามหาเขาก่อนเลยนะแม่ ก็ไม่เป็นยังไงหรอก เขางอนที่หนูบอกให้เขากลับบ้าน เขาคิดว่าหนูไล่เขาไม่อยากให้เขาอยู่มั้ง” “น่ารักดีเนอะ หล่อ รวย พูดเก่ง ถ้าได้ลงเอยกับหยาจริงๆลูกสาวแม่คงสบายไม่ต้องลำบากเหมือนทุกวันนี้” “หนูก็ไม่ได้ลำบากสักหน่อย แล้วเมื่อกี้แม่บอกคุณพอร์ชพูดเก่งเหรอ?? คุณพอร์ชเนี่ยนะ?? พูดน้อยจนหนูจับใจความไม่ได้ด้วยซ้ำ” ฉันถือจานที่คุณพอร์ชกินข้าวมาล้าง ในหัวก็นึกตามที่แม่พูดไปด้วย ใช่ที่ว่าเขาหล่อ เขารวย เพราะหน้าตาของเขานั่นล่ะทำให้ฉันลืมหายใจนับครั้งไม่ถ้วน ฉันชักจะต้านทานหัวใจตัวเองไม่ไหวแล้วนะ “เขาคุยกับแม่เยอะเลยนะ คุยเก่งเชียวล่ะ อย่าว่าแต่หยาเลยแม่เองนั่งมองหน้าเขายังหลงไหลแทบแย่ หล๊อหล่อว่าที่ลูกเขยแม่” “คุณพอร์ชจ้างแม่มาพูดแบบนี้กี่บาทเนี่ย อวยจังเลย” แม่ฉันหัวเราะร่า ฉันกับแม่เราไม่ได้ใช่คำพูดสวยหรูหรือไพเราะอะไรแต่เราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องจริงๆเพราะเรามีกันแค่นี้ แม่คือทุกอย่างของฉัน เป็นสิ่งสำคัญอย่างเดียวในโลกใบนี้ “เขาบอกว่าจะหาที่ให้แม่เข้าไปขายข้าวในบริษัท” “จริงเหรอแม่? ก็ดีน่ะสิ ที่บริษัทคนเยอะต้องขายดีแน่ๆเลย ยิ่งฝีมือแม่แล้วนะลูกค้าติดตรึมเลยล่ะเชื่อหนูสิ ดีเหมือนกันถ้าแม่ได้ไปขายหนูจะได้ลงมาช่วยแม่ได้ไง” “เลขาประธานบริษัทที่ไหนเขามาขายกับช้าวกันล่ะ ขายหน้าขายตาเจ้านายเราหมดสิ เออ แล้วมอเตอร์ไซค์น่ะเลิกขี่ไปทำงานได้แล้วนะแม่ว่าคนอื่นจะมองหยาไม่ดี ตำแหน่งเรามีหน้ามีตานะลูก” “แม่คิดอย่างงั้นเหรอ? แต่หนูไม่อายนะแม่” “ตั้งแต่พรุ่งนี้นั่งแท็กซี่ซะ เงินเก็บยังพอดีก็ใข้ไปก่อนเดี๋ยวเงินเดือนออกค่อยเอามาโปะก็ได้ คุณพอร์ชเขาให้เกียรติเรา เราก็ควรให้เกียรติเขานะแม่ว่า ไม่รู้สิ ดูเขาเป็นคนดี๊ดีอ่ะ เขาชอบลูกสาวแม่มาก” แม่ฉันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เวลาพูดถึงคุณพอร์ช คุยกันไม่กี่นาทีอะไรจะถูกอกถูกใจกันขนาดนั้น วันรุ่งขึ้น “แม่จ๋าหนูไปทำงานก่อนนะ” “เอานี่ไปด้วย ฝากให้คุณพอร์ชนะเขาบอกให้แม่ทำให้” “ห่อข้าวไปให้เนี่ยนะ?” “อืม ตั้งใจทำงานล่ะ อย่าทำผิดพลาดบ่อยนัก” ผิดพลาดอะไรเหรอนี่ฉันยังไม่เคยทำงานพลาดเลยนะ... วันนี้ฉันนั่งแท็กซี่ไปทำงานซึ่งมันสบายกว่าขี่มอเตอร์ไซค์เป็นไหนๆ ไม่ต้องมีลมตีหน้ามีแต่แอร์เย็นฉ่ำ ไม่ค่อยชินเลยแหะ ฉันค่อนข้างมาช้ากว่าทุกวัน ปกติแล้วจะมาถึงที่ทำงานก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงแต่วันนี้มาก่อนเวลางานห้านาทีเองเพราะนั่งแท็กซี่มันขี่ซิกแซ็กไม่ได้เหมือนมอเตอร์ไซค์นี่เนอะ เอ๊ะ... คุณพอร์ชยังไม่มาอีกเหรอ? ฉันรีบดูเอกสารที่แต่ละแผนกมาวางไว้บนโต๊ะฉันเพราะต้องรายงานให้คุณพอร์ชทราบ มีรายงานหลายเรื่องเลยที่เป็นเรื่องใหม่ซึ่งฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยต้องทำความเข้าใจเป็นพิเศษ “ตอนทำงานสวยจัง” “เย้ยยยยย คุณพอร์ช” “ครับ พอร์ชแฟนหยา” “เอ่อ ขี้ตู่จริงๆเลยนะคะ รายงานตารางงานวันนี้นะคะ มี..” “ไปคุยในห้องกัน” สายตาแบบนั้น องศาหน้าแบบนั้น ให้เดายังถูกเลยว่าคิดทะลึ่งกับฉันอยู่แน่ๆ ถ้าฉันบอกว่าไม่เข้าไปในห้องเขาก็คงไม่ยอมอยู่ดีแล้วลูกน้องอย่างฉันจะทำอะไรได้ล่ะนอกจากทำตามคำสั่งและระวังตัว ทุกทีก็ระวังตัวตลอดนะแต่ก็พลาดท่าทุกครั้งเลย... “วันนี้ไม่มีงานข้างนอกค่ะแต่เอกสารค่อนข้างเยอะ มีเรื่อง...” “อืมมม พูดต่อสิครับ” เสียงหายลงไปในคอทันทีที่ร่างสูงสวมกอดฉันจากด้านหลังแล้วเอาคางเกยไหล่ไว้ เมื่อฉันจะเดินหนีเขาก็รั้งไม่ให้ไปไหน ตายๆๆ เสียงก็หายขาก็ก้าวไม่ออก ฉันสูดหายใจลึกๆแล้วพูดต่อเพื่อให้เสร็จไวๆ “มีเรื่องอนุมัติเครื่องจักรที่โรงงาน สั่งซ่อมและปรับปรุงเครื่องจักร รายงานการสรุปยอดต้นทุนและกำไรของเดือนที่แล้ว สัญญาเช่า...” “ตัวหอมจัง” “สัญญา อ๊ะ กัดคอหยาทำไมคะ!!” “อยากกัด” นั่นเรียกเหตุผลหรือเปล่าทำไมสั้นจัง เขาผละออกจากกอดแล้วยกมือลูบหัวฉันเบาๆแล้วโน้มหน้าลงมาใกล้ๆฉันเลยก้าวถอยหลังเพื่อหนีแต่มือใหญ่คว้าไหล่ฉันไว้ซะก่อน “หยาขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ วันนี้งานเย๊อะเยอะค่ะ” จุ๊บ เขากระชากตัวฉันเข้าไปจูบด้วยความรุนแรง เรียวลิ้นเข้าซุกไซร้เข้ามาในโพรงปาก มันอุ่น มันนุ่ม รสชาติจูบที่เขามอบให้ฉันจำได้เสมอเพราะนี่มันไม่ใช่ครั้งแรก เขารุกฉันหนักมาตลอดนั่นแหละ เสียงหัวใจดังโครมครามประท้วงความรู้สึกของตัวเองว่าห้ามใจอ่อน แต่ความรู้สึกฉันมันทรยศสิ้นดี ทั้งใจอ่อน ทั้งรู้สึกดีที่เขาทำแบบนี้ นี่ฉันชักจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่แล้วนะ หรือบอกไปเลยดีว่าชอบ โอ้ยยยย คิดอย่างนั้นก็ไม่กล้าบอกหรอกใครจะกล้าล่ะ ถ้าบอกก็เข้าทางเขาเลยสิ “จูบตอบด้วย” “คะ?” ฉันจูบตอบไปด้วยเหรอ? ทำไมไม่รู้ตัวเลยอ่ะ “หวานดี ผมชอบ” “อะไรหวานเหรอคะ?” “น้ำลายหยา ผมชอบ” “ขอตัวทำงานดีกว่าค่ะ อ่อ วันนี้แม่ฝากกับข้าวมาให้คุณด้วยนะคะเดี๋ยวตอนเที่ยงหยาจะเอาเข้ามาให้ค่ะ แล้วเดี๋ยวหยาอ่านรายงานให้ดีก่อนจะเอาเข้ามาให้เซ็นต์นะคะ เอ่อ น้ำลายคุณก็หวานนะคะ” ฉันวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ให้ตายเถอะกะว่าจะลองตอบโต้ดูเวลาเขารุกแต่มันตื่นเต้นซะจนไม่กล้าสบตาเลยอ่ะ แต่ฉันก็พูดจริงๆนะที่ว่าน้ำลายเขาหวาน อืมมม ก็หวานจริงๆนี่นาเลยอยากบอก >//< END TALK
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม