Lose love-5

@มหาวิทยาลัย R [คณะบริหารธุรกิจ]
>>>เวลา 7.30น.
น้ำขิงอยู่ในชุดนักศึกษากระโปรงพีทตัวยาวทรงเอ เดินเข้ามาในโรงอาหารในคณะด้วยสีหน้าเพลีย เพราะเมื่อคืนกว่ากลับถึงบ้านก็ปาไปสองยามแล้ว
"ขิงโทรไปทำไม ไม่รับ"เสียงของแผ่นดินแทรกมาจากด้านหลัง ในมือถือจานอาหารส่งให้หญิงสาว
แผ่นดินเป็นชายหนุ่มน่าตาหล่อเหล่า ฉลาด สุขุม ต่างจากอัคนีที่เป็นดูเป็นโผกผาง ใจร้อน แม้ปีนี้แผ่นดินจะอายุยี่สิบสี่ แต่ก็กลมกลื่นเข้ากับนักศึกษาในรั่วมหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี ที่เขาต้องกลับมาเรียน เพราะต้องการใบปริญญาสองใบ เพื่อสานต่อธุรกิจในครอบครัวเพิ่ม
"ขอโทษจริงๆดิน เมื่อคืนโทรศัพท์ขิงแบตหมด"น้ำขิงตอบแผ่นดินด้วยรอยยิ้มบางๆ
"บอกกี่ครั้งแล้ว ถ้าดึกมากให้โทรบอก ดินจะให้ไอ้ไฟไปส่ง" น้ำเสียงนิ่งเรียบเอ่ย สำหรับแผ่นดินแล้ว เขารักและเอ็นดูน้ำขิงเหมือนน้องสาวอีกคนเลยพร้อมช่วยเหลือทุกอย่าง
"อย่าดีกว่าดิน ไฟคงไม่ชอบใจเท่าไหร่"น้ำขิงว่าขึ้น ถ้าอัคนีต้องไปส่ง คงจะต้องมีคำพูดแดกดันใส่เธอทุกครั้งแน่
"เฮ้อ มันก็สันดานเสียจริงๆ รีบกินข้าวเถอะ ต้องเข้าคลาสแปดโมงตรงนะ"แผ่นดินเอ่ยขึ้นพลางยกนาฬิกาขึ้นมาดู
"เฮ้ย ไอ้ดิน"น้ำเสียงห้าวของไฟเดินเข้ามานั่งข้างๆผู้เป็นพี่ น้ำขิงที่ก้มหน้าก้มตาฝืนกินข้าวอยู่ เงยหน้ามองอัคนี พอเจอสายตาเข้ม เลยรีบก้มลงกินข้าวต่อเงียบๆ
"หึ.. กินดีอยู่ดี" อัคนีพูดแดกดัน
"...."
"มึงมีอะไรวะ"แผ่นดินรีบเอ่ยตัดบท อย่างสงสารหญิงสาว ยังไงน้ำขิงก็ไม่กล้าต่อร้องต่อเถียงกับคนอย่างอัคนีอยู่แล้ว
"ฝากบอกม๊ากับป๊าหน่อย พรุ่งนี้กูกลับบ้านไม่ได้" อัคนีบอกแผ่นดินเสร็จหมายจะลุกออกจากโต๊ะ
"ทำไมมึงไม่บอกเองวะ"แผ่นดินถามอัคนี ด้วยใบหน้าเซ็งๆ เพราะรู้ดีว่าผู้เป็นแม่ค่อนข้างดุ และ ตรงฉิน ขนาดตอนที่อัคนีจะขอเปิดผับยังเลือดตาแทบกระเด็นเลย
"ก็มึงเป็นพี่คนโตของบ้าน มึงต้องพูดให้กูโอเค"
"มึงนี่มันจริงๆ แล้วนี่ ทำไมมึงถึงกลับไม่ได้ว่ะ"แผ่นดินขมวดคิ้วถาม
"กูกำลังเปิดผับอีกที่ ปลีกตัวไม่ได้เลยว่ะ"ใบหน้าที่ดูจริงจังของอัคนี ทำให้แผ่นดินยอมพยักหน้าให้
"ก็แค่นั้น"อัคนีพูดกวนๆใส่ผู้เป็นพี่แล้วเดินออกไปด้วยความไว มีแต่น้ำขิงที่นั่งมองตามหลังแกร่งไปอย่างนิ่งงัน
"ยังมีเยื่อใยให้มัน?" แผ่นดินที่เห็นอาการของหญิงสาว ถามขึ้น
"..." น้ำขิงไม่ตอบคำถามแผ่นดิน สำหรับเธอยังคงมีความเป็นห่วงใยอัคนีเหมือนเดิม ในฐานะเพื่อน แต่แม้คำว่าเพื่อนอัคนีก็ดูเหมือนจะไม่อยากให้เธอเลยด้วยซ้ำ
แผ่นดินเดินกอดคอน้ำขิงเดินเข้าห้องเรียนไปด้วยกัน สำหรับเธอแผ่นดินเป็นเหมือนพี่ชายคนนึ่ง ไม่มีอะไรไปมากกว่านี้ ด้วยความเคยชินปากมาตั้งแต่เด็ก เลยติดเรียกแผ่นดินโดยไม่มีคำนำหน้า ซึ่งแผ่นดินก็ไม่ได้ถือสาอะไร
"อาจารย์ชอบเข้าคลาสเลทตลอด"แผ่นดินบ่น เขาเป็นคนที่ไม่ชอบคนไม่ตรงเวลาสุดๆ แถมยังเป็นคนที่ระเบียบจัดมากกว่าผู้หญิงเสียอีก
"บ่นมากเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก^^"น้ำขิงว่ายิ้มๆ แผ่นดินที่เกิดความหมั่นเขี้ยว เลยหันมาขยี้หัวหญิงสาว
"ดิน พอแล้วๆ"น้ำขิงพยายามจับมือแผนดินออก สองหนุ่มสาวส่งเสียงหัวเราะกันอยู่สองคนอย่างไม่ทันสังเกตว่าอาจารย์ผู้สอนเดินเข้ามาโดยมีรุ่นน้องปีหนึ่งตามหลังมาด้วย
"เหอะ ออเซาะไปทั่ว"อัคนีที่เห็นภาพตรงหน้าก็เอ่ยแขวะ มาร์คที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยินคำพูดของอัคนีเลยหันมาแสยะยิ้มเย้ยหยันใส่
"ยิ้มเหี้ยอะไร" อัคนีสบถคำหยาบ ใบหน้าสากไม่สบอารมณ์ เมื่อถูกเพื่อนกวนประสาท
"เอ๊ะ ตรงนั้นเหลืออยู่สี่ที่พอดี ไปนั้งตรงนั้นกันเหอะ"หลินว่าจบ ดึงมือลินินไปนั่งแถวโซนข้างหลังแผ่นดินกับน้ำขิงทันที ทิ้งให้อัคนีกับมาร์คมองตาม
"ที่อื่นก็มีไม่นั่ง"อัคนีพำเบาๆ เดินเข้าไปนั่งตรงหลังของน้ำขิง มาร์คได้แต่ยืนเลิ่กหน้าใส่ เพราะเว้นที่เก้าอี้ว่างระหว่างกลางที่ติดกับหลิน
"สวัสดี นักศึกษาปีหนึ่งและนักศึกษาปีสอง วันนี้ที่ให้ทั้งสองรุ่นมาจอกัน เพราะวันที่25 เดือนพฤษภาคม ทางคณะจะมีการจัดมูลนิธิอาสา แล้วรอบนี้จะมีแค่ปีหนึ่งกับปีสองที่ไปค่ายต่างจังหวัด แล้วอีกเรื่องหนึ่งคือ ให้จับกลุ่มรุ่นน้องและรุ่นพี่ให้กระจายอยู่ด้วยกัน
กึก..
กึก! กึก!ๆ รองเท้าผ้าใบอาดิดาสรุ่นหายากทั้งสองข้างของอัดนี ถีบไปที่เก้าอี้ของน้ำขิงนั่ง
"..!." ใบหน้าหวานหันมาด้านหลัง แต่พอเห็นว่าคนทำเป็นอัคนีเลยหันกลับไป ลินินที่เหลือบมาเห็นอาการของคนทั้งสองพอดี ใบหน้าตุ๊กตามองงงๆ แต่ด้วยนิสัยที่เป็นคนไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น เลยหันกลับไปทางที่อาจารย์ผู้สอนที่กำลังอธิบาย
"หึ"อัคนีหัวเราะในลำคอเบาๆ พร้อมยกเท้าทั้งสองข้างดันไปที่เก้าอี้หญิงสาวอีกครั้ง
กึก!
"..." น้ำขิงหันมามองอีกรอบ อัคนียกไหล่ใส่น้ำขิง ประมาณว่ากล้ามีปัญหาอะไรกับเขาไหม แต่ด้วยนิสัยไม่สู้คนเลยจำยอมหันกลับไปอย่างอึดอัด
"เป็นอะไรขิง ไอ้ไฟมันแกล้งใช่ไหม"แผ่นดินกระซิบหูถามน้ำขิง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร
กึก!! กึก!! คราวนี้เท้าทั้งสองข้างของอัคนีดันถีบเข้าไปเก้าอี้ของคนทั้งสอง
"โทษที พอดีกูอยากยีดเส้นยีดสายว่ะ"อัคนีตอบแผ่นดินที่หันมาจ้องหน้าเขม็งอย่างเอาเรื่อง คนอย่างอัคนีมีเหรอจะกลัวต่อให้เป็นพี่ชายเขาก็ไม่กลัว
"ไอ้สันดานหมา" แผ่นดินสบถคำหยาบใส่น้องชาย แล้วขยับตัวให้ห่างกับน้ำขิง
"ปีหนึ่งเข้ามาหยิบกระดาษม้วนในโหลสีฟ้าได้เลยนะครับ" เสียงอาจารย์ในคลาสสั่งการ
"ลุกไปสิวะ เด็กโข่ง"แผ่นดินหันมาพูดกับอัคนีใบหน้ากวน ตามจริงอายุของอัคนีต้องขึ้นปีสองปีสามแล้วด้วยซ้ำ แต่ความเกเรเป็นเหตุเลยต้องเสียเวลากลับมาเรียนใหม่ ด้วยคำสั่งอันเด็ดขาดของคุณหญิงธาราผู้เป็นแม่
"ไฟนายได้สีอะไร"น้ำเสียงใสของหลินถามด้วยความอยากรู้
"สีชมพูอ่อน"อัคนีตอบสั้นๆ
"แล้วนินกับมาร์คล่ะ"หลินหันไปถามเพื่อนทั้งสองที่เดินกลับมา
"ฉันกับนินได้สีฟ้า"มารค์ชูกระดาษขึ้นด้วยใบหน้าเฉยๆ
"เยส เย้ เราสามคนอยู่กลุ่มเดียวกัน ว้ายนายไม่ได้อยู่กับพวกเราไฟ"เสียงดี๊ด๊าของหลินดังขึ้นด้วยความดีใจ จนอัคนีถึงกับส่ายหน้าเอื่อมๆ
"พี่น้ำขิงขาได้สีอะไรคะ^^"หลินถามน้ำขิงที่เดินเข้ามากับแผ่นดิน
"สีชมพูอ่อนจ้ะ"คำตอบของน้ำขิง ทำให้อัคนียิ้มร้ายออกมา
"มึงอะได้สีอะไร"เสียงห้าวของอัคนีถามขึ้น
"ชมพูเข้ม"แผ่นดินทำสีหน้ารำคาญแต่ก็ตอบน้องชาย
"หึ.."
"..."
@The blaze ผับ
[Part.น้ำขิง] เวลาเกือบจะตีหนึ่ง ฉันกำลังเตรียมตัวจะกลับแล้ว ฉันทำงานกลางคืนมาจนชินแล้วล่ะ ถ้าทำงานตอนกลางวันคงไม่มีเงินพอค่าใช้จ่ายแน่นอน
"น้ำขิงเธอช่วยอะไรฉันหน่อยสิ"มะลิเดินเข้ามา จ้องหน้าฉันตรงหน้ากระจก ปกติเธอไม่ค่อยอยากจะพูดคุยกับฉันหรอก ความรู้สึกเธอดูไม่ชอบฉันยังไงก็ไม่รู้
"เธอมีอะไรจะให้ฉันช่วยหรอมะลิ"
"พรุ่งนี้ฉันรับงานเอ็นเตอร์เทนข้างนอกไว้ พอดีแม่ฉันเข้าโรงพยาบาลด่วน เลยอยากขอให้เธอช่วยหน่อย ฉันยกเลิกเสี่ยไม่ได้"
"แต่กฎของที่นี่ห้ามรับงานเอ็นนเตอร์เทนจากข้างนอกนะ"ฉันแย้งมะลิเบาๆ กลัวคนข้างนอกจะมาได้ยิน
"ฉันกับเธอต้องรู้เรื่องนี้กันสองคน เธอช่วยฉันหน่อย ฉันมีแม่ต้องดูแล เธอยังดีไม่มีพ่อมีแม่ให้ดูแล"
"..." ฉันรู้สึกจุกแน่นในอกเลย ก็จริงยังที่มะลิพูดฉันไม่มีพ่อแม่จริงๆ
"อุ้ย น้ำขิงฉันขอโทษนะ ที่เผลอพูดจาตรงๆกับเธอ แต่พรุ่งนี้เงินครึ่งนึงเป็นของเธอเลยนะ เสี่ยเขาจ่ายเยอะจริงๆนะ"
"...."
"เอาเป็นว่าเธอตกลงนะ น้ำขิง เพราะฉันส่งรูปเธอให้เสี่ยไปแล้ว"มะลิพูดเสร็จ ก็เดินเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเลย แต่คงจะไม่มีอะไรหรอกมั้งคงแค่ไปกินข้าวอย่างเดียว
[ร้านอาหารแถวสุขุมวิท] สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจรับงานนี้ เมื่อเช้ามะลิโทรมาย้ำมากเลยค่ะ จนฉันใจอ่อนเพราะเธอมีแม่ต้องดูแล อีกอย่างวันนี้ตารางเรียนฉันว่าง
"อ้าวสวัสดีหนูน้ำขิงใช่ไหม"เสียงชายสูงวัยถามฉัน แต่สายตาเขามองมาที่ร่างกายฉัน จนหน้าอึดอัดจนฉันรู้สึกกลัว
"ค่ะ"
"มานั่งก่อนสิหนู"เขาเดินอ้อมเลื่อนเก้าอี้ออกให้ แล้วโอบฉันให้นั่งลง
"อะ..เออ หนูนั่งเองได้ค่ะ"ฉันตอบคนที่นั่งลงข้างๆ แต่สายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นน้องลินินกับผู้ชายรูปร่างสูง ดูดุๆหน่อย น่าจะเป็นแฟนน้องถ้าจำไม่ผิด
"อ้าว..คุณโรม" เสี่ยทักแฟนน้องลินิน ส่วนฉันที่เห็นน้องลินินเลยก้มหน้าข่มความอายไว้
"อ้าวแม่หนูคนนี้คือใครเหรอครับคุณโรม"
"นี่ลินินครับลูกสาวคนเดียวของคุณทินกรเสี่ยน่าจะรู้จักคุณทินกรดีนะครับ" แฟนน้องลินินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความเย็น
"อ่อ. ลูกสาวมหาเศรษฐีซะด้วย" เสี่ยพูดพร้อมมองน้องลินินตาลุกวาวทันที ทำให้น้องลินินดูเริ่มอึดอัดกับสายตาของเสี่ย ฉันแอบเหลือบมองอยู่
"ผมขอตัวก่อนนะครับ" แฟนน้องลินินพูดเสร็จ ก็จูงมือน้องออกไปทันที
ลานจอดรถ สองหนุ่มสาวที่จูงมือเดินออกมาจากร้านอาหารกำลังพูดคุยกันตามภาษาคู่รักเพลินๆ
ปึก!!
"เดินยังไงวะคนยิ่งรีบ"
ลินินโดนคนที่รีบวิ่งเข้ามาชนอย่างจังทำให้จนเกือบล้มลงดีที่โรมคว้าร่างไว้ทัน แต่ชายที่รีบวิ่งเข้ามาเป็นฝ่ายล้มซะเองเขาค่อยๆลุกขึ้นมองหน้าลินิน ก็ต้องชะงักเพราะเป็นอัคนีที่ดูเหมือนรีบร้อนจะเข้าไปในร้านอาหาร
"เฮ้ย..นินโทษนะโว้ย" อัคนีพูดเสร็จรีบวิ่งเข้าไปในร้าน ด้วยใบหน้าโมโหสุดขีดที่เขารู้ เพราะผู้จัดการผับดันไปได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสอง ตอนเขารู้ถึงกับขบกร้ามแน่น เพราะกฎของผับเขาเป็นคนตั้งไว้
"หนูน้ำขิงเช็ดปากให้เสี่ยหน่อยสิคะ"น้ำเสียงหวานของชายสูงวัยออดอ้อนน้ำขิง อัคนียังคงยืนจ้องมองเสี่ยแก่ที่กำลังลวนลามหญิงสาวอยู่จนสุดท้าย
"อะ..เออ สะ..เสี่ยคะ ปล่อยขิงก่อนนะคะ"
ปึก!! ร้องเท้าผ้าใบหรูเขวี้ยงประทับใบหน้าชายแก่เต็มๆ น้ำขิงถึงกับสดุ้งตกใจกับภาพตรงหน้า เมื่อเห็นอัคนีเดินเข้ามา
"ขอโทษครับลุง ตีนผมมันลั่น"น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แววตากับไม่นิ่งเลยสักนิด อัคนีหยิบรองเท้าใส่ด้วยทาทีใจเย็น
"มึงเป็นใครว่ะ! ไอ้เด็กนรก"เสี่ยแก่ด่าอัคนี พลางเช็ดเลือดกำเดาบนใบหน้าอย่างโมโห
"หึ"อัคนีแสยะยิ้ม ยกทั้งสองเท้าพุ่งประทับหน้าจนเสี่ยแก่หงายหลังลงไปที่พื้น
ตุบ!! "โอ๊ย ชะ..ช่วยด้วย"
อัคนีกำมือหมายจะเข้าไปกระทืบซ้ำอย่างอารมณ์เดือด แต่มือเล็กดึงแขนไว้ก่อน ใบหน้าเกรี้ยวกาจหันมาจ้องหญิงสาว
"เธอนี่ดูกระหายมากเลยนะ"อัคนีว่าน้ำขิงด้วยใบหน้าเยือกเย็น พร้อมกำแขนเรียวบางแน่นลากออกจากร้านอาหารด้วยอารมณ์ที่ยังไม่คงที่
"ไฟ นายกำลังเข้าใจฉันผิด"น้ำขิงพยายามพูดกับอัคนี ที่ลากตัวเองอยู่แถมมือหนาของอัคนียังบีบข้อมือเธอแน่นจนแถบจะแหลกสลาย
"อยากมากเหรอไงวะ!"
"...."
_____________________