มหาวิทยาลัย M
คณะสถาปัตยกรรม
10.12 น.
“ ปีหนึ่งเงียบ!! “ เสียงตะคอกที่ดังมาจากข้างหน้าทำให้ฉันที่นั่งอยู่แถวหน้าถึงกับสะดุ้งเหวอ
แล้วจากที่เสียงคุยกันของเพื่อนๆที่ดังมากตอนนี้กลับเงียบกริบเลย
ฉันมองไปที่รุ่นพี่คนที่ตะคอกก็เห็นว่าพวกพี่ๆเขานิ่งกันมากๆ สายตานี่เอาเรื่องกันสุดๆ
“ คิก “ แล้วเสียงหัวเราะที่ดังมาจากด้านหลังนั่นทำให้ฉันต้องก้มหน้าลงทันที
ผู้หญิงคนข้างหลังนั้นเธอหัวเราะฉันใช่มั้ย
ฮืออออออ เปิ่นตั้งแต่วันแรกเลยนะนีน่า
“ สวัสดีครับ “ รุ่นพี่พูดขึ้นอีกครั้ง แต่น้ำเสียงก็ยังตะคอกเหมือนเดิม
ไม่เจ็บคอรึยังไงนะ
“ สวัสดีครับ / ค่ะ “ ฉันแล้วเพื่อนๆต่างก็ยกมือไหว้สวัสดีพี่เค้ากันหมด
“ เสียงมีแค่นี้รึยังไง เด็กคณะนี้ “ แล้วพี่อีกคนที่ยืนข้างๆพี่คนแรกก็ตะโกนขึ้น สรุปคือจะไม่มีคนพูดเบาๆกันเลยใช่มั้ยนะ
“ สวัสดีครับ / ค่ะ “ แล้วพวกฉันก็ต้องสวัสดีพวกพี่เขาอีกรอบ
“ อืม หนักแน่นขึ้นมานิดนึง สวัสดี ผม ราชา “
“ ผม ... “
แล้วพี่ๆทั้ง 5 คนที่ยืนอยู่ทางด้านหน้าก็แนะนำตัว โดยแต่ล่ะคนหน้านิ่งๆทั้งนั้น
ไม่เคยยิ้มกันเลยรึยังไง
ฉันมองพวกพี่เขางงๆ
แต่เอ๊ะ ฉันลืมแนะนำตัวนี่น่า
สวัสดี มารู้จักกันคร่าวๆพอเนอะ ฉันชื่อนีน่า คนที่สนิทจริงๆถึงจะเรียกนีน เรียนปี 1 คณะสถาปัตถ์ เพราะชอบวาดรูปมาก แล้วครอบครัวฉันก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบด้วย พ่อกับแม่ฉันเลยสนับสนุนใหญ่เลย เพราะเป็นลูกคนเดียว ยังไงท่านก็อยากให้ฉันสืบทอดกิจการอยู่แล้ว
ฉันมีเพื่อนสนิท 1 คน ชื่อว่า นาเดียร์
เดียร์เรียนที่คณะเดียวกันกับฉันนี่แหละ แต่ยัยนั่นไปเข้าห้องน้ำเลยทำให้มาช้า ได้นั่งหลังนู้น แล้วก็ปล่อยให้ฉันมาเผชิญหน้ากับพี่ๆที่น่ากลัวทั้ง 5 คนนี้
เขาเรียกว่าพี่ว๊ากใช่มั้ยนะ
“ เอาล่ะ วันนี้ผมจะปล่อยให้พวกคุณได้สนุกกันไปก่อน แล้วเราค่อยมารู้จักกันให้มากกว่านี้ โชคดี “ พี่ราชาพูดแล้วก็เดินนำทุกคนออกไปทันที ปล่อยให้พวกฉันปีหนึ่งได้แต่นั่งมองตามพวกพี่ๆเค้าไปตาปริบๆ
ส่วนฉันนี่เหวอเลย
งงอ่าาา มากันแค่นี้นี่นะ
“ เอาล่ะค่ะน้องๆ ไหนมีใครยังไม่ได้ป้ายชื่อบ้างคะ “ แล้วก็มีพี่ๆคนอื่นๆเดินเข้ามาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
อันนี้น่าจะเป็นพี่สันทนาการ
บทจะอารมณ์ดีก็ดีเนอะ ทำไมไม่แบ่งความร่าเริงให้พี่ว๊ากบ้างน๊า
แล้วจากนั้นพี่ๆก็แจกป้ายชื่อให้เพื่อนๆคนที่ยังไม่ได้ ส่วนฉันได้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
จึกๆ
แรงสกิดที่เอวทำให้ฉันหันไปมองทันที
“ หวัดดี “ ผู้หญิงที่นั่งด้านหลังฉันพูดทักแล้วยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร
แต่ฉันไม่ลืมหรอกนะว่าก่อนหน้านี้เธอแอบหัวเราะฉันอยู่
“ หวัดดี “ ฉันยิ้มให้เธอเล็กน้อย
“ เราชื่อ เอวานะ “
“ อืม เราชื่อนีน่า “ ฉันแนะนำตัวกลับไปบ้าง
“ มาคนเดียวเหรอ มีเพื่อนรึยัง เราขอเป็นเพื่อนด้วยคนสิ “ เอวาพูดออกมายาวเหยียด
“ ได้สิ เรามากับเพื่อนคนนึง ชื่อนาเดียร์ อยู่ข้างหลังเดี๋ยวแนะนำให้รู้จัก “ ฉันบอกเธอไป พร้อมยิ้มให้กับเพื่อนใหม่อย่างเป็นมิตร
“ ดีเลย อยู่หลายคน สนุกดี “ เธอว่าพร้อมยิ้มกว้าง
เอวานี่คือคนสวยมากๆเลยนะสำหรับฉัน
ตอนแรกที่ฉันเห็นเธอตอนลงทะเบียนเมื่อเช้า เธอหน้านิ่งมาก แต่พอมาตอนนี้เธอยิ้มให้ฉันอย่างน่ารัก
เวลาหน้านิ่งๆก็ดูดุ แต่พอยิ้มแล้วโลกละลายไปเลย
“ น้องๆคะ หันหน้ามาค่ะ “ แล้วเสียงๆพี่ๆที่แจกป้ายเสร็จก็พูดขึ้น
“ เลิกแล้วค่อยคุยกันนะ “ ฉันบอกเอวาไปแล้วหันหน้ากลับมา
จากนั้นพี่ก็แจกสมุดคู่มือของปีหนึ่งมาแล้วให้พวกเราอ่านกฎของมหาลัย คณะ และก็เพลงต่างๆ
“ การรับน้องเราจะได้ร้องทุกเพลงของมหาลัยและคณะของเรานะคะ “ ฮะ ตายแล้ว เยอะขนาดนี้ สมองปลาทองอย่างฉันจะรับได้มั้ยเนี่ย
ฉันขมวดคิ้วเอียงคอมองเนื้อเพลงตาโต
เอ๊ะ ทำไมรู้สึกเหมือนมีคนมอง
เคยเป็นมั้ย ถ้ามีคนจ้องเรามากๆจะรู้สึกอึดอัด ตอนนี้ฉันเป็นอยู่
ฉันเงยหน้าจากสมุดตรงหน้าแล้วมองไปรอบๆว่ามีคนมองฉันอยู่รึป่าว
กึก
แล้วสายตาฉันก็ไปหยุดที่คนกลุ่มนึง
นั่นก็คือกลุ่มพี่ว๊ากที่ยืนมองน้องๆอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
แต่ที่ทำให้ฉันหยุดมองก็คือมีคนในนั้นมองฉันอยู่
เขาไม่ใช่รุ่นพี่คณะฉัน เพราะวันนี้พี่ๆใส่ชุดนักศึกษามากันหมด แต่พี่คนนั้นใส่เสื้อช็อปสีกรม ผมที่ดำสนิทนั้นช่างเจ้ากับใบหน้าที่แสนจะเพอร์เฟค ซึ่งยอมรับเลยว่าเขาหน้าตาดีมากๆ
สายตาที่มองมาทางฉันมันนิ่งๆแต่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง
ฉันเอียงคอมองเขาอย่างสงสัยว่าเขามองอะไร แต่เขาก็ไม่ละสายตาไปจากตรงที่ฉันอยู่ซักที
“ นีน่า อันนี้อ่านว่าเมฆป่ะ เค้าพิมพ์ผิดรึป่าว “ แล้วเสียงจากทางด้านหลังก็ทำให้ฉันหันไปหาเพื่อน
“ ใช่ๆ พิมพ์ผิด “ ฉันหันไปมองหนังสือของเอวาแล้วก็พยักหน้าเออออไปกับเธอเพราะหนังสือพิมพ์ผิด
พอหันหน้ากลับมาแล้วฉันก็แอบชำเลืองมองไปยังกลุ่มพี่ว๊ากเล็กน้อยก็เห็นว่าเขายังมองฉันอยู่
เขามองจนฉันไม่กล้าสบตาเลยแหละ
มันรู้สึกร้อนๆหน้ายังไงก็ไม่รู้
งื้อออ
จะมองอะไรกันนักกันหนา
คนมันเขินนะ