คณะวิศวะกรรมศาสตร์
ห้องประธานสโมสรนักศึกษา
ปัง
“ ไอ้เทล!!! “ เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกนั้นทำให้ผมลืมตาขึ้นมามองไปที่บุคคลที่เข้ามานิ่งๆ
“ มือไม่มี?? “ ผมถามอย่างไม่สบอารมณ์ เกลียดที่สุดก็พวกไม่เคาะประตูนี่แหละ
“ เออ โทษๆ “ ไอ้ไทม์ยกมือขึ้นทำท่ายอมแล้วเดินมาหาผม
“ มีอะไร “ ผมเอ่ยถามมันแล้วหลับตาลง
“ ไปหาไอ้ราชากัน “ ไอ้ไทม์ว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ ไปทำไม “
“ เอ้า ก็ไปหาเพื่อนไง เปิดเทอมทั้งที จะไม่ไปเจอพวกมันหน่อยรึไง “ ไอ้ไทม์ว่าขึ้น
“ ขอสาระไทม์ “ ผมพูดนิ่งๆ เพราะคำว่าคิดถึงของมันนี่โครตจะปลอม จะบอกให้นะว่าพวกมันน่ะเจอกันทุกวัน ไม่มีวันหยุดหรอก คงไม่ต้องเดาให้ยากว่าพวกมันไปเจอกันที่ไหน ถ้าไม่ใช่ร้านเหล้า
“ เออ ไปเปิดหูเปิดตาไง เห็นไอ้พาสมันว่าเด็กคณะมันมีแต่คนเด็ดๆ “ นั่นไง ผมว่าแล้ว คนอย่างไอ้ไทม์นี่หัวสมองมันไม่มีหรอกเรื่องอื่นน่ะ
“ กูไม่ไป “ ผมพูดปฏิเสธไปเพราะขี้เกียจ
“ ไม่ได้ มึงต้องไป “ ไอ้ไทม์ว่าขึ้นเสียงแข็ง
“ มึงต้องการอะไร “ ผมลืมตาขึ้นมองหน้ามันทันที
“ กูก็แค่อยากให้มึงไปเปิดหูเปิดตา นะ นะ เทลนะ ไปด้วยกัน “ ไอ้ไทม์ทำหน้าอ้อนซะผมขนลุกเลย
“ ขนลุกสัสไทม์ “ ผมทำหน้าขยะแขยงมัน
“ ไปด้วยกันดิว่ะ นะ “ ไอ้ไทม์ว่าแล้วก็เดินมาดึงผมให้ลุก
“ อย่ามาจับกู “ ผมว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนทันที
“ มึงจะไปกะกูแล้วใช่ม้ะ “
“ เออ “ ผมตอบรับอย่างไม่สบอารมณ์
“ ต้องอย่างงี้ดิว่ะเพื่อน “ ไอ้ไทม์ยกมือขึ้นมากอดคอผมแล้วออกแรงลากคอผมออกมาห้องทันที
“ กูเดินเองได้สัสไทม์ “ ผมว่าแล้วก็เอาแขนมันออกแล้วเดินนำไปหาเพื่อนคนอื่นที่ยืนรออยู่
ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวก่อนก็แล้วกันนะ
สวัสดีครับ ผมรีเทล หรือเทล เรียนวิศวะการบิน ปี 3 ครอบครัวผมทำธุรกิจเกี่ยวกับสนามบินทำให้ผมเลือกเรียนสายนี้
ผมมีเพื่อนสนิทอยู่ 3 คน คนแรกก็ไอ้ที่มาลากผมไปสถาปัตย์นี่แหละ มันเรียนคณะเดียวกันกับผม แต่คนล่ะสาขา ชื่อไอ้ไทม์ ส่วนอีกสองคนเรียนสถาปัตย์ คือไอ้ราชา และไอ้พาสต้า ผมกับพวกมันเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เด็ก ส่วนเพื่อนคนอื่นๆอยู่ไปเดี๋ยวพวกคุณก็รู้จักพวกมัน
ผมเดินเข้ามาในคณะสถาปัตย์พร้อมไอ้ไทม์และเพื่อนอีก 3 คน ตลอดทางก็ได้รับความสนใจพอสมควรเพราะกลุ่มพวกผมค่อนข้างที่จะดัง และยังใส่เสื้อช็อปเข้ามาอีก ทำให้มันดูน่าสนใจ
เมื่อเดินเข้ามาในลานรับน้องของคณะนี้แล้วก็เห็นว่าไอ้ราชา ไอ้พาส และเพื่อนอีก 3 คน ยืนอยู่ด้านหน้า แถมน้องยังคงคุยกันจ้อแจ้ไม่สนใจพวกมันเลย
“ ปีหนึ่ง เงียบ!!! “ พอไอ้ราชาตะโกนขึ้นมาเท่านั้นแหละ เงียบกริบเลย
แล้วสายตาผมก็ไปสะดุดกับคนหนึ่งที่นั่งเกือบข้างหน้า พอได้ยินไอ้ราชาตะโกนเท่านั้นแหละ ถึงกับสะดุ้งเลย ผมแอบเห็นผู้หญิงข้างหลังหัวเราะเธอด้วย ซึ่งเธอก็น่าจะรู้ เพราะก้มหน้างุดเลย
หึ น่ารักดี
พอไอ้พวกนั้นแนะนำตัวเสร็จมันก็เดินออกมาทันที
ทำให้ผมเห็นหน้าของเด็กคนนั้นชัดๆ
เชี่ยยย น่ารักสัส
ผมมองหน้าเหวอๆของเธอแล้วอยากหัวเราะดังๆ เธอคงงงกับเพื่อนผมที่จู่ๆก็เดินออกมา
แล้วพอพวกปีสองที่เป็นสันทนาการออกมาแจกป้ายชื่อเธอก็หันไปพูดกับเพื่อนข้างหลัง
“ ไงว่ะ ไปไงมาไง “ ไอ้ราชาที่เดินเข้ามาหาพวกผมพูดขึ้น
“ แม่ง เด็กคณะมึงมีแต่คนน่ารัก “ ไอ้ไทม์ที่ยืนดูสาวๆอยู่พูดขึ้น
“ คณะมึงไม่มี?? “ เพื่อนที่เป็นพี่ว๊ากคณะนี้ถามขึ้น
“ เหอะ มึงถามมาได้ไง คณะวิศวะนะเว้ย ผู้หญิงนี่คือของแรร์ไอเทม “ ไอ้ไทม์ตอบกลับไปอย่างหัวเสีย หึ ก็จริงนะ คณะผมผู้หญิงน้อยมาก อย่างสาขาผมก็มีแค่ 2 คนเอง แล้วยิ่งไอ้ไทม์มันเรียนเครื่องกล ไม่มีผู้หญิงเลยครับ
“ หึ สมน้ำหน้า ใครบอกมึงอยากเท่ห์ “ ไอ้พาสว่าขึ้นอย่างสะใจ
“ ฮ่าๆๆๆ “
แล้วเพื่อนคนอื่นๆก็หัวเราะชอบใจ เพราะที่ไอ้ไทม์มันเลือกเรียนเครื่องกล เพราะตอนจะจบมอหก ที่โรงเรียนมีการสำรวจว่าเรียนอะไรถึงจะเท่ห์และเป็นขวัญใจสาวๆ ซึ่งส่วนใหญ่โหวตวิศวะ แล้วก็สาขาเครื่องกล ทำให้ไอ้ไทม์มันเลือกเรียน เหตุผลโครตปัญญาอ่อนเลยไม่รู้มันคิดได้ยังไง
“ แล้วมึงอ่ะ ทำไมมาได้ว่ะ “ พอหัวเราะจนเหนื่อยแล้วไอ้พาสมันก็หันมาถามผม
“ ไอ้นี่หรอ กูไปลากมันมาจากห้องสโมเอง “ ผมไม่ได้ตอบอะไรไปเพราะไอ้ไทม์มันแย่งตอบเรียบร้อย
ไอ้พาสพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปชี้สาวๆให้ไอ้ไทม์ดู
ผมจึงหันไปสนใจน้องคนนั้นต่อ
ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอ่านหนังสือคู่มือของมหาลัยอยู่ ซึ่งท่าทางของเธอนั้นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา ท่าทางขมวดคิ้วสงสัยนั้นน่ารักสัส
ปากสีเชอรี่นั้นทำมุบมิบๆ คงจะอ่านเพลงมหาลัยหรือคณะอยู่ แล้วไหนจะทำตามองบนอย่างเอือมๆนั่นอีก
และดูเหมือนว่าผมจะมองเธอมากเกินไปเพราะเธอรู้สึกตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมามองรอบๆทันที
แล้วผมและเธอก็สบสายตากัน น้องทำท่าสงสัยว่าผมมองอะไรและก็ผมไม่คิดจะล่ะสายตาออกจากเธอ แล้วท่าเอียงคอสงสัยนั่นทำให้ผมใจละลาย
แม่ง ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้ว่ะ
ผมและเธอมองกันอยู่นานจนเพื่อนข้างหลังเธอสะกิด ทำให้เธอละสายตาไป พอคุยกับเพื่อนเสร็จก็มีชำเลืองตามามองผมแล้วก้มหน้างุด หึ ที่ตะกี้นี้ยังมองผมอย่างสงสัยอยู่เลย
“ มองตาไม่กระพริบเลยนะมึง “ เสียงทุ้มที่ดังข้างๆทำให้ผมละสายตาจากร่างบางที่นั่งอยู่
ผมหันไปมองไอ้ราชาที่เป็นคนพูดนิ่งๆ
“ ใครมองใครว่ะ “ ไอ้พาสที่นั่งคุยกันกับเพื่อนคนอื่นอยู่หันมาถามทันที
“ เสือก “ ผมพูดแล้วก็เดินไปนั่งลงข้างๆไอ้ราชา
“ อ้าว ไอ้ห่านี่ กูไม่รู้ก็ได้ “ ไอ้พาสทำท่างอนเป็นตุ๊ดแล้วหันไปคุยเรื่องหญิงกับไอ้พวกนั้นต่อ
ผมจึงหันไปมองร่างบางต่อ ผมไม่เคยมองใครแล้วไม่เคยเบื่อเหมือนเธอเลย
“ สนใจหรอว่ะ “ ไอ้ราชาถามขึ้นนิ่งๆ
“ หึ “ ผมไม่ตอบอะไรไป ถึงปฏิเสธไปมันก็คงไม่เชื่อ
เพราะผมไม่ค่อยยุ่งกับผู้หญิง
แล้วกับคนนี้ ผมสนใจมากๆ