“ ทะ ทำไม “
“ พี่หวง “
ฉ่าาาาาาา
จู่ๆก็รู้สึกหน้าร้อน
พอเขาพูดประโยคนั้นแล้วก็เดินหนีฉันไปเลย
ฉันได้แต่มองตามหลังเขาตาปริบๆ แล้วใจที่ยังเต้น ตึกตัก ตึกตัก อย่างรัวๆ
นี่เขาทำให้ฉันเสียอาการทั้งที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ
วันต่อมา
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
08.32 น.
“ เอวา มาแต่เช้าเชียว “ ฉันเดินเข้าเห็นเอวานั่งอยู่คนเดียวก็เดินไปทักทันที
“ ฉันพึ่งมาถึง ยัยเดียร์ล่ะ “ เอวาเงยหน้าจากโทรศักพท์ขึ้นมาตอบแล้วชะโงกไปทางด้านหลังฉันเพื่อมองหาเดียร์
“ ยังไม่มามั้ง มาสายนั่นคือเรื่องปกติ “ ฉันบอกเพื่อนไปแล้วนั่งลง ยัยเดียร์น่ะ ครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับผับ เลยทำให้ยัยนั่นต้องสลับกับพี่ดีน พี่ชายของยัยเดียร์นั่นแหละ แล้วได้ยินว่าพี่ดีนไปต่างประเทศทั้งอาทิตย์ ยัยนั่นเลยต้องเข้าผับทุกวัน
อย่าดราม่าเรื่องอายุไม่ถึงนะ
เพราะเพื่อนฉันคนนี้น่ะ เข้าผับตั้งแต่เด็ก
“ เมื่อวานเห็นรูปที่ฉันส่งเข้ากลุ่มป่ะ “ เอวาหันหน้ามาคุยกับฉันตรงๆอย่างจริงๆจังๆ
“ ห่ะ “ ฉันทำหน้าเหลอหลา เพราะไม่เข้าใจว่ารูปอะไร แถมทำไมเพื่อนฉันต้องจริงจังขนาดนี้
“ เอ่า ก็รูปกลุ่มพี่ว๊ากไง “ เอวาขยายความ ทำให้ฉันนึกออกว่าเมื่อวานเพื่อนส่งรูปแก๊งค์พี่ว๊ากเข้ากลุ่ม
“ อ๋อ เห็นแล้ว “ ฉันพยักหน้าแล้วฉีกยิ้มให้เพื่อนเล็กน้อย
“ งานดีป่ะ “
“ เอ่ออ พูดเรื่องอะไร “ ฉันงง หมายถึงใคร
“ โอ้ย ฉันหมายถึงหน้าตาดีกันทั้งแก๊งค์เลยป่ะ “ เอวาทำหน้าหงุดหงิดฉันแล้วถามซ้ำ
“ กะ ก็ดี “ ฉันคิดไปถึงคนหน้านิ่งเมื่อวานที่นั่งกินข้าวด้วยแล้วรู้สึกหน้าร้อน
“ หื้มมม ทำไมหน้าแดงอ่ะ “ เอวาจ้องหน้าฉันอย่างจับผิด
“ ปะ ป่าว “ ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“ คุยไรกันอ่ะ “ แล้วก็มีเสียงสวรรค์ดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะถูกเอวาจับผิด
“ อ้าว เดียร์มาพอดีเลย “ ฉันหันไปฉีกยิ้มแห้งให้เดียร์
“ หวัดดีแก “ เอวาเลิกสนใจฉันแล้วหันไปทักเดียร์
ปรี๊ดดดดด
“ น้องๆคะ รวมค่ะ “
แกยังไม่ทันที่เดียร์จะได้นั่งก็มีเสียงนกหวีดที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงประกาศของพี่อิงฟ้าคนสวยตามมา
“ เฮ้อ ยังไม่ทันได้นั่งพักเลยอ่า “ เดียร์หันมาบ่นกับพวกฉันอย่างอิดออด
“ หึ ใครบอกแกมาสายล่ะ “ เอวาหัวเราะเล็กน้อย
“ ก็รถมันติด “ แล้วยัยเดียร์ก็ยังเถียงต่อ
“ อย่าพึ่งตีกัน ไปกันก่อน “ ฉันรีบห้ามทัพแล้วเดินไปจูงมือเพื่อนทั้งสองไปนั่ง
พอเดินมานั่งพี่ๆก็เริ่มแจกใบกิจกรรม
“ ที่พี่ให้น้องไปนั้นคือใบขอลายเซ็นรุ่นพี่นะคะ “
ฉันหยิบสมุดขึ้นมาเปิดดูคร่าวๆ
“ ให้น้องๆขอลายเซ็นรุ่นพี่ในมหาลัย ไม่จำกัดนะคะว่าต้องเป็นคณะเราเท่านั้น จำนวน 100 คน ใครจะเกินก็ไม่ว่านะคะ เพราะถือว่าเราได้ทำความรู้จักรุ่นพี่ “ พี่กอหญ้า เพื่อนพี่อิงฟ้าเสริมขึ้นมา
แล้วจากนั้นพี่ก็ให้ทำกิจกรรมกันต่อ
“ เหนื่อยชิปหาย “ เดียร์บ่นขณะที่เรากำลังจะเดินไปโรงอาหารกัน
“ เออ ให้ออกไปเต้นอะไรก็ไม่รู้ จะมีคลิปหลุดมั้ยเนี่ย “ เอวาก็บ่นบ้าง เพราะสองคนนั้นนั่งคุยกันคิกคักๆ เลยทำให้ถูกจับไปลงโทษ ฉันก็ได้แต่นั่งหัวเราะ เพราะสองคนนี้เต้นได้ตลกจริงๆ เรียกได้ว่าไม่ห่วงภาพลักษณ์กันเลยทีเดียว
“ คิกๆ “ นึกถึงแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้จริงๆ
“ หัวเราะอะไรย่ะ “ แล้วสองสาวก็แปลงร่างเป็นมารหันหน้ามามองจิกฉันทันที
“ ปะ ป่าว ไปกินข้าวกันเถอะ “ ฉันรีบปฏิเสธแล้วเดินนำหน้าทั้งสองคนไปทันที
“ กินไรดี “ เมื่อเข้ามาแล้วฉันก็มองหาของกินทันที
“ ก่อนจะหาอะไรกิน หาโต๊ะก่อนมั้ย “ นาเดียร์ถามขึ้นทำให้ฉันหันไปมองรอบๆแล้วต้องทำหน้าเศร้า เพราะเวลานี้คือรุ่นพี่เปิดเทอมแล้ว มีแค่พวกฉันที่อีก 3 วันจะเปิด ทำให้คนเยอะมาก แล้วสถาปัตย์ก็คนค่อนข้างน้อย จึงไม่มีแคนทีนของคณะ เลยได้มาทานที่แคนทีนของมหาลัย
“ ไปข้าวก่อนเหอะ เดี๋ยวก็ว่างเองแหละ “ เอวาพูดขึ้น ทำให้ฉันหันไปพยักหน้ากับเธอทันที
“ หึ เรื่องกินนี่คือเรื่องใหญ่เลยนะยัยนีน “ นาเดียร์คงอดแขวะฉันไม่ได้
“ ก็หิวอ่าาา “ ฉันเดินไปเกาะแขนนาเดียร์แล้วทำเสียงงอแง
“ หึ งั้นก็ไปกันเถอะ “ แล้วเราทั้งสามคนก็แยกย้ายกันไปหาข้าวกิน ซึ่งฉันเลือกที่จะเดินไปทางร้านอาหารตามสั่ง วันนี้อยากกินกระเพราไก่ไข่ดาว
ร้านไก่จ๋าาา
“ ข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวค่ะ / ข้าวผัดปู 1 เจ้ “
ขวับ
ฉันหันขวับไปมองคนข้างๆที่สั่งพร้อมกันทันที
แล้วพอคนข้างๆหันมาก็ทำให้ฉันเบิกตากว้าง
“ พะ พี่ “ ฉันกระพริบตาปริบๆแล้วหันหน้าหนีเขา
“ หึ “ ได้ยินเสียงคนข้างๆหัวเราะในลำคอเล็กน้อย
หึ้ยยยย
เกลียดที่สุดเลยเสียงแบบนี้
“ อ้าว เทล มากินข้าวหรอ “ แล้วเสียงจากข้างหลังที่ทักขึ้นเสียงดังทำให้ฉันแล้วคนข้างๆหันไปมอง
ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากๆ ผมบรอนซ์ดัดรอนเป็นทรง พร้อมกับหน้ารูปไข่ที่เนียนกริบ
“ อืม “ คนข้างๆฉันพูดตอบในลำคอ
อะไรกัน ตอบแค่เนี่ย
“ แหม่ วันนี้มีอะไรที่พิเศษรึป่าวนะ ทำให้พ่อเดือนวิศวะมากินข้าวที่โรงอาหารกลางเนี่ย “ พี่ผู้หญิงคนนั้นพูดยิ้มๆ
“ ป่าว ตอนบ่ายมีรับน้อง “ คนข้างๆที่ฉันได้ยินว่าชื่อเทลตอบ
“ อ๋อ เทลมากับใครหรอ ไปกินที่โต๊ะโรสได้นะ “
“ ไม่เป็นไร “ แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันอึ้งคือการตัดบทแบบไร้เยื่อใยของพี่เทล ฉันอ้าปากค้างมองพี่ผู้หญิงคนนั้นที่เดินหนีไปแบบไม่สบอารมณ์ แล้วหันมามองคนข้างๆ
กึก
“ โอ้ย “ จะอะไรซะอีกล่ะ ก็จู่ๆพี่เทลก็เอามือมาแตะคางฉันเบาๆ ทำให้ฉันรีบงับปากทันที ฟันหน้าสะเทือนเล็กน้อยถึงปานกลาง
“ แมลงวันจะเข้าไปอยู่แล้ว “ ฉันก้มหน้าหงุดทันทีที่เขาพูดขึ้นอย่างงั้น
“ ได้แล้วจ้า “ ประมาณ 5 นาที ข้าวที่ฉันแล้วสั่งก็มาพร้อมกัน เพราะร้านนี้มีแม่ครัวสองคน เลยทำให้ได้เร็ว
“ นี่ครับ ทั้งสองจาน “ อีกแล้ว ยังไม่ทันที่ฉันจะได้จ่ายตังค์ พี่เขาก็จ่ายตัดหน้าฉันอีกแล้ว
“ พี่คะ จ่ายให้หนูอีกแล้วนะ “ ฉันรีบเดินตามคนที่ถือจานข้าวฉันออกมาแล้วพูดกับเขาหน้ามุ่ย
“ หึ อารมณ์เสียอะไร “ ถามมาได้เนอะ
“ พี่เป็นใครหนูก็ไม่รู้จัก จู่ๆก็มาเลี้ยงข้าว มันไม่แปลกๆไปหรอคะ “ ฉันว่าเสียงเครียด
ส่วนเขาก็ได้แต่มองหน้าฉันนิ่งๆ
“ พี่ชื่อเทล “ อะไรกัน จู่ๆก็พูดชื่อตัวเอง
“ ค่ะ พึ่งรู้ตะกี้นี่แหละค่ะ “
“ เราชื่อนีน่า “ รู้จักฉันด้วย
“ ค่ะ แล้วไงคะ “ ฉันถามเขางงๆ
“ เรารู้จักกันแล้ว “ ห๊ะ อย่างงี้ก็ได้หรอ
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ฉันอ้าปากเหวออีกแล้ว
“ หึ นั่งตรงไหน “ พี่เทลหัวเราะในลำคอ แล้วจู่ๆเขาก็ถามขึ้น
ฉันไม่ตอบอะไร ได้แต่ชะโงกหน้ามองหาเพื่อนๆ
“ หาเพื่อนไม่เจอค่ะ “ ฉันหันมาส่ายหน้าให้เขา
“ งั้นไปซื้อน้ำก่อน “ เขาแล้วก็พยักเพยิดหน้าไปทางร้านน้ำ
ฉันจึงเดินนำเขาไปอย่างว่าง่าย
“ เอานมสดค่ะ “ ฉันสั่งพี่คนขายน้ำ
“ พี่เอาอะไร “ แล้วหันหน้ามาถามคนข้างหลัง
“ น้ำเปล่า 2 ขวด “ พี่เทลสั่งแล้วฉันก็หยิบน้ำเปล่าขึ้นมาจากถังแล้วว่างไว้ให้แม่ค้ามาใส่ถุงให้
คนอะไรกินน้ำตั้ง 2 ขวด
ระหว่างรอน้ำฉันมองชะโงกหน้าหาเพื่อนต่อ
“ โอ๊ะ นั่นไงเพื่อนหนู “ ฉันมองไปเห็นนาเดียร์กับเอวาที่นั่งกับเพื่อนผู้ชายในคณะแล้วหันมาชี้ให้พี่เทลดูอย่างดีใจ
“ ได้แล้วจ้า “ แล้วเสียงแม่ค้าก็ทำให้ฉันรีบเดินไปหยิบเอาน้ำแล้วจ่ายเงินเองทันที เพราะพี่เทลถือจานข้าวอยู่ ทำให้หยิบเงินไม่ถนัด
“ ไม่ทันหนูหรอก “ ฉันหันมายิ้มตาหยีให้เขาอย่างผู้ชนะ
“ ขอข้าวหนูด้วย “ ฉันยื่นถุงน้ำให้เขาแล้วขอจานข้าวตังเองคืน
“ เดี๋ยวเดินไปส่ง “ พี่เทลเบี่ยงตัวหนีมือฉันแล้วบอก
ฉันจึงได้แต่เดินนำเขาไปที่โต๊ะ
“ อ้าว นึกว่าไปไหนแล้ว กำลังจะโทรตาม “ เมื่อเดินมาถึงโต๊ะเพื่อนๆก็หันมามองทันที
“ ไหนข้าวแก “ เอวาถามแล้วมองแก้วในมือฉัน
“ จะนั่งตรงไหน “ แล้วเสียงดุๆจากคนข้างหลังก็เรียกสายตาจากเพื่อนๆไปทั้งโต๊ะ
“ สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ “ ทุกคนรีบกุลีกุจอยกมือไหว้เขาทันที คงเพราะเขาใส่เสื้อช็อปเลยทำให้รู้ว่าเขาคือรุ่นพี่
“ ครับ จะนั่งไหน มันไม่มีที่นั่ง “ เขาพยักหน้ารับไหว้แล้วหันมามองหน้าฉัน
ฉันจึงมองไปที่โต๊ะก็เห็นว่าเต็มแล้ว
“ มานั่งข้างเราก็ได้นีน่า “ แล้วก็มีเพื่อนผู้ชายคนนึงพูดขึ้นแล้วขยับให้ฉัน
ฉันจึงยิ้มให้เขาแล้วหันไปจะหยิบเอาจานจากคนตัวโต แต่สายตาของพี่เทลที่มองมาทำให้ฉันชะงัก
“ จะให้นั่งเบียดกันอย่างงั้นหรอ “ เขาพูดขึ้นนิ่งๆพร้อมหันไปมองเพื่อนคนนั้นตาขวาง
“ เอ่อ ก็มันไม่มีที่นั่ง “ ฉันตอบไป
“ ไปนั่งกับพี่ “
“ ห๊ะ เดี๋ยวๆ “ ฉันรีบเรียกคนถือจานข้าวที่เดินออกไป
“ รีบมานีน่า ก่อนที่พี่จะโมโห “
เอือก