อายตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวและพะอึดพะอมคลื่นไส้ เธอลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้าก่อนจะพยายามลุกขึ้นนั่งด้วยอาการงัวเงียแต่สิ่งแรกที่เธอสัมผัสได้คือบรรยากาศรอบตัวเธอที่ไม่คุ้นเคย
เธอกวาดตามองรอบ ๆ ห้อง ข้าวของในห้องถูกจัดวางอย่างมีระเบียบ มีสูทพาดอยู่บนเก้าอี้ ตู้เสื้อผ้าที่เปิดแง้มเผยให้เห็นเสื้อผ้าของผู้ชายที่แขวนเป็นระเบียบบ่งบอกอย่างชัดเจนเลยว่าที่นี่คือห้องของผู้ชาย
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ย??” อายพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะตกใจจนแทบหยุดหายใจให้เมื่อก้มลงมองตัวเองก็เห็นว่าเธอไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้นก่อนจะรีบคว้าผ้าห่มที่ร่วงลงไปกองอยู่ที่เอวขึ้นมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองไว้ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
“เฮ้ย!! เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย” ตอนนี้ไม่มีเวลาให้อายคิดอะไรมากมายก่อนจะหันซ้ายมองขวาหาเสื้อผ้าของตัวเองแต่กลับไม่เจอแม้สักชิ้นเดียว เธอไม่รอช้ารีบลุกขึ้นเดินหอบผ้าห่มตรงไปยังตู้เสื้อผ้าเลือกหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเข้มกับกางเกงขาสั้นที่คาดว่าเธอพอจะใส่ได้รวมทั้งเสื้อแขนยาวมีฮูดตัวใหญ่แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
หลังจากจัดการกับตัวเองเรียบร้อยอายก็เดินออกมาห้องน้ำความรู้สึกโล่ง ๆ ชอบกล ก็จะไม่ให้โล่งได้ยังไงเพราะเธอไม่ได้ใสชุดชั้นใน แต่อย่างน้อยก็ยังมีเสื้อผ้าให้ใส่ดีกว่าเดินโล่ง ๆ ออกไปก็แล้วกัน
อายค่อย ๆ แงมเปิดประตูทีละนิดแล้วชะโงกหน้าออกมาดูว่าด้านนอกมีใครอยู่หรือเปล่า แต่พอไม่เห็นว่าเป็นใครก็รีบออกจากห้องด้วยความเร็ว พอลงมาด้านล่างก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่คอนโดของตัวเองทันที
พอกลับถึงคอนโดก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาพร้อมความรู้สึกหนักอึ้ง เธอพยายามสูดหายใจลึก ๆ เพื่อสงบสติ พร้อมกับทบทวนความทรงจำและเธอก็จำได้เพียงว่าอยู่ในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะของโปรดแล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้ เพราะเธอจำอะไรไม่ได้เลยภาพตัดไปตั้งแต่อยู่ที่ร้าน
"เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วฉันไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง แล้วห้องนั่นห้องใคร โอ๊ย…” เธอพึมพำพลางขยี้ผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด การนอนจมอยู่กับความคิดทั้งวันทำให้เธอรู้สึกหมดพลังมากขึ้นทุกที และทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แทรกเข้ามาในหัว
“กลับบ้านดีกว่า...” อายลุกขึ้นจากโซฟาก่อนคว้ากระเป๋าสะพายและออกจากห้องไปทันที
เมื่อขับรถมาถึงบ้าน เสียงหัวเราะของพ่อกับแม่ที่กำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นทำให้เธอรู้สึกคลายกังวลเล็กน้อย
“อ้าว อาย!!! กลับมาไม่บอกล่วงหน้าเลยลูก” เสียงของแม่ดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นอายเดินเข้ามาในบ้าน อายไม่ตอบอะไรนอกจากเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มท่านทั้งสองข้างด้วยท่าทางออดอ้อนออเซาะ
“คิดถึงแม่ค่ะ เลยกลับมา”
“หึหึ ปากหวานไม่เปลี่ยน” แม่พูดพลางส่ายหัวเล็กน้อยแต่สายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความรัก
“อายพูดจริงนะคะ” อายพูดเสียงหนักแน่นพร้อมทำแก้มป่องเหมือนเด็กที่กำลังงอน
“จ้า ๆ แม่เชื่อ” แต่ยังไม่ทันที่อายจะได้พูดอะไรต่อเสียงพ่อที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ดังขึ้นแทรกบทสนทนา
“คิดถึงแต่แม่ไม่คิดถึงพ่อบ้างเหรอ”
“คิดถึงสิคะ” อายรีบหันไปกอดพ่อพร้อมกับยืนหน้าไปหอมแก้มท่านด้วยความคิดถึง ทำให้พ่อยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดูมือใหญ่ของท่านยกขึ้นลูบหัวเธอเบา ๆ
เพียงแค่นี้แหละความรู้สึกสับสนวุ่นวายในใจก็คลายลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่ได้รับเห็นรอยยิ้มกับความรักและห่วงใยของพวกท่าน
อายได้แต่มองนามิกับโปรดพูดจาหยอกล้อกันด้วยรอยยิ้มดีใจไปกับเพื่อนด้วยที่มีคนรักดีดีอย่างโปรด แต่หันกลับมามองตัวเองก็ได้แต่สะท้อนในใจผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์แล้วแบบเธอจะมีโอกาสเจอกับความรักดีดีแบบนี้บ้างหรือเปล่า ถ้าผู้ชายเขารู้ว่าเธอผ่านเรื่องนั้นมาแล้วยังจะสนใจเธออยู่อีกไหม แต่ความคิดฟุ้งซ่านของอายก็ต้องหยุดลงเมื่อมีคนมาสะกิดเธออยู่ด้านหลัง พออายหันไปก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความงุนงงสงสัยว่ามอสมายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
“พี่มอส!!”
“พี่มีเรื่องจะคุยด้วยไปกับพี่หน่อย”
“เรื่องอะไรเหรอคะ!?” อายเอียงหน้ามองมอสด้วยสายตาสงสัยและอยากรู้ เธอไม่รู้ว่าเขามีเรื่องอะไรจะคุยแต่อายก็ลุกขึ้นเดินตามมอสไปแต่โดยดีก่อนจะเดินไปยังไม่วายหันมาบอกนามิกับโปรดที่นั่งอยู่
“นามิ พี่โปรด เดี๋ยวอายไปคุยกับพี่มอสเสร็จอายกลับเลยนะ เจอกันพรุ่งนี้นะ บาย”
“จ๊ะ บายบาย”
มอสที่เดินนำอายมายังรถของตัวเองที่จอดอยู่ก็เปิดประตูรถให้เธอขึ้นไปนั่งก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปขึ้นด้านแล้วขับรถออกไปจากมหาลัยทันทีโดยที่เขาไม่ได้บอกอายว่าจะพาไปไหนทำให้อายได้แต่นั่งมองเขาสลับกับมองทาง จนกระทั่งมอสขับรถพาอายมาที่สนามแข่งรถพอจอดรถก็หันมาพูดกับอายแล้วเดินนำหน้าอายเข้าไปในออฟฟิศ
“เข้าข้างในกัน”
“ค่ะ” ทันทีที่เข้ามาด้านในออฟฟิศมอสก็พาอายไปนั่งลงที่โซฟาก่อนจะเริ่มพูดในสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ทั้งเขาและเธอให้ชัดเจนและเคลียร์
“พี่มีเรื่องจะถามอายต้องตอบพี่ตรง ๆ นะ”
“ค่ะ”
“อายรู้ไหมว่าคืนงานเลี้ยงใครไปส่งอาย”
“ไม่รู้ค่ะ” อายส่ายหัวปฏิเสธเพราะคืนนั้นเธอเมามากจริง ๆ เลยไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่พาเธอกลับ จนทำให้มอสที่มองอยู่ต้องคิ้วขมวดขึ้นมาทันทีพร้อมกับถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“จำไม่ได้!?”
“ค่ะ”
“เฮ้อ.... คืนนั้นพี่เป็นคนพาอายกลับเอง” มอสถอนหายใจยาวออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจแล้วบอกออกมา ทันทีที่ได้ยินคำพูดจากปากของมอสอายรีบหันไปมองหน้าเขาด้วยสายตาตกใจ แต่ยังไม่ทันที่อายจะได้เอ่ยปากพูดอะไรขึ้นก็โดนมอสพูดเบรกไม่ก่อน
“พี่มอส!!!”
“หยุด!!! อย่าเพิ่งพูดอะไรออกมาทั้งนั้นฟังพี่ให้จบก่อน” มอสยกมือขึ้นชี้หน้าอายทำให้ปากที่กำลังจะอ้าเพื่อต่อว่ามอสต้องหุบลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงเข้มติดดุของมอสดังมา อายได้แต่กัดปากด้วยความขัดใจจ้องมองหน้ามอสด้วยสายตาดุดัน
“ค่ะ”
“คิดไปถึงไหนแล้วเรานะ อย่าบอกว่าที่ตื่นมาแล้วเห็นตัวเองไม่ใส่เสื้อผ้าเลยคิดว่าเสียตัวให้คนอื่นไปแล้ว” มอสยื่นมือไปดีดหน้าผากอายเมื่อเห็นสายตาดุดันที่เธอใช้มองเขา
“โอ๊ยยย เจ็บนะ แล้วพี่จะให้อายคิดว่ายังไงละคะ ตื่นมาในห้องใครก็ไม่รู้แถมเสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่” ใครที่อยู่ในสถานการณ์แบบเธอก็คิดทั้งนั้นแหละว่าตัวเองเสียตัวไปแล้ว
“แล้วตอนตื่นมารู้สึกว่าร่างกายมีอะไรแปลกไปบ้างไหมเจ็บตรงไหนหรือเปล่าหรือตกใจจนลืมสังเกตตัวเอง”
“พี่มอส!!!”
“ก็พี่พูดความจริงถ้าพี่ทำนะวันนั้นเราไม่มีแรงลุกออกจากเตียงได้หรอก หึหึ”
“ไอ้พี่มอส!!!” อายร้องเรียกมอสเสียงดังด้วยความตกใจและคาดไม่ถึงว่าคนเฉย ๆ นิ่ง ๆ อย่างมอสจะกล้าพูดอะไรแบบนี้
“หึหึ ทีนี้สบายใจแล้วนะ”
“ว่าแต่พี่มอสรู้ได้ไงว่าอายไม่สบายใจคิดมากเรื่องนี้”
“ก็โปรดมาถามพี่ว่าคืนนั้นใครไปส่งเราพี่ก็บอกว่าพี่เอง โปรดเลยถามอีกว่าพี่ทำอะไรเราหรือเปล่าเพราะเรามีท่าทางแปลกไป พี่บอกว่าเปล่าพี่ไม่ได้แตะต้องตัวเราเลย แล้วที่เราไม่ใส่เสื้อผ้าก็เพราะเราอ้วกเปื้อนไปหมดพี่เลยตามแม่บ้านของคอนโดมาเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพราะเสื้อผ้าเราเปื้อนแม่บ้านเลยไม่ได้ใส่ให้ก็แค่นั้น อ้อ... อีกอย่างเรานอนในห้องพี่นอนที่โซฟาโคตรปวดหลัง”
“แล้วเช้าวันนั้นพี่หายไปไหน อายตื่นมาก็ไม่เห็นใครในห้อง”
“พี่ออกไปซื้ออาหารกับซื้อเสื้อผ้าให้เรานั่นแหละกลับมาก็ไม่เจอคิดว่าเรากลับไปแล้วแต่ไม่คิดว่าเราจะคิดมากจนกู่ไม่กลับแบบนั้น”
“เฮ้อ...” อายยิ้มกว้างพร้อมกับถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอกที่ความสาวของตัวเองยังอยู่รอดปลอดภัยดีไม่ได้โดนใครพรากมันไปอย่างที่คิด
“ว่าแต่เราเคยมีแฟนมาบ้างหรือเปล่า”
“พี่มอสถามทำไม” อายเอียงคอมองหน้ามอสด้วยความสงสัยว่าเขาจะถามเธอเรื่องแฟนทำไมมันเกี่ยวอะไรด้วย
“แค่อยากรู้”
“แล้วพี่เคยมีแฟนมาบ้างหรือเปล่า”
“ไม่”
“อายก็ไม่”
“ถึงว่า”
“ว่าอะไร”
“ยังซิงไงเลยไม่รู้ว่าคนโดนเปิดซิงเป็นยังไง”
“ไอ้พี่มอส”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ พี่พูดเรื่องจริง”
“แต่ก็ไม่ควรพูดไหม ใครที่ไหนเขาพูดเรื่องนี้กัน”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” มอสไม่ตอบแต่กลับหัวเราะออกมาเสียงดังยิ่งได้เห็นใบหน้าบูดบึ้งของอายก็ยิ่งชอบใจ เขาชอบจริง ๆ เวลาเธอทำหน้าบึ้ง ๆ เขามองว่ามันน่ารักดี
“พี่มอส อายขอเบอร์พี่หน่อยได้ไหม”
“เอาไปทำไม”
“อายอยากเลี้ยงข้าวตอบแทนพี่”
“ได้สิ”