Ep.1: มโนไปเอง

1733 คำ
อายตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวและพะอึดพะอมคลื่นไส้ เธอลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้าก่อนจะพยายามลุกขึ้นนั่งด้วยอาการงัวเงียแต่สิ่งแรกที่เธอสัมผัสได้คือบรรยากาศรอบตัวเธอที่ไม่คุ้นเคย เธอกวาดตามองรอบ ๆ ห้อง ข้าวของในห้องถูกจัดวางอย่างมีระเบียบ มีสูทพาดอยู่บนเก้าอี้ ตู้เสื้อผ้าที่เปิดแง้มเผยให้เห็นเสื้อผ้าของผู้ชายที่แขวนเป็นระเบียบบ่งบอกอย่างชัดเจนเลยว่าที่นี่คือห้องของผู้ชาย “ที่นี่ที่ไหนเนี่ย??” อายพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะตกใจจนแทบหยุดหายใจให้เมื่อก้มลงมองตัวเองก็เห็นว่าเธอไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้นก่อนจะรีบคว้าผ้าห่มที่ร่วงลงไปกองอยู่ที่เอวขึ้นมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองไว้ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว “เฮ้ย!! เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย” ตอนนี้ไม่มีเวลาให้อายคิดอะไรมากมายก่อนจะหันซ้ายมองขวาหาเสื้อผ้าของตัวเองแต่กลับไม่เจอแม้สักชิ้นเดียว เธอไม่รอช้ารีบลุกขึ้นเดินหอบผ้าห่มตรงไปยังตู้เสื้อผ้าเลือกหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเข้มกับกางเกงขาสั้นที่คาดว่าเธอพอจะใส่ได้รวมทั้งเสื้อแขนยาวมีฮูดตัวใหญ่แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป หลังจากจัดการกับตัวเองเรียบร้อยอายก็เดินออกมาห้องน้ำความรู้สึกโล่ง ๆ ชอบกล ก็จะไม่ให้โล่งได้ยังไงเพราะเธอไม่ได้ใสชุดชั้นใน แต่อย่างน้อยก็ยังมีเสื้อผ้าให้ใส่ดีกว่าเดินโล่ง ๆ ออกไปก็แล้วกัน อายค่อย ๆ แงมเปิดประตูทีละนิดแล้วชะโงกหน้าออกมาดูว่าด้านนอกมีใครอยู่หรือเปล่า แต่พอไม่เห็นว่าเป็นใครก็รีบออกจากห้องด้วยความเร็ว พอลงมาด้านล่างก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่คอนโดของตัวเองทันที พอกลับถึงคอนโดก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาพร้อมความรู้สึกหนักอึ้ง เธอพยายามสูดหายใจลึก ๆ เพื่อสงบสติ พร้อมกับทบทวนความทรงจำและเธอก็จำได้เพียงว่าอยู่ในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะของโปรดแล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้ เพราะเธอจำอะไรไม่ได้เลยภาพตัดไปตั้งแต่อยู่ที่ร้าน "เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วฉันไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง แล้วห้องนั่นห้องใคร โอ๊ย…” เธอพึมพำพลางขยี้ผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด การนอนจมอยู่กับความคิดทั้งวันทำให้เธอรู้สึกหมดพลังมากขึ้นทุกที และทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แทรกเข้ามาในหัว “กลับบ้านดีกว่า...” อายลุกขึ้นจากโซฟาก่อนคว้ากระเป๋าสะพายและออกจากห้องไปทันที เมื่อขับรถมาถึงบ้าน เสียงหัวเราะของพ่อกับแม่ที่กำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นทำให้เธอรู้สึกคลายกังวลเล็กน้อย “อ้าว อาย!!! กลับมาไม่บอกล่วงหน้าเลยลูก” เสียงของแม่ดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นอายเดินเข้ามาในบ้าน อายไม่ตอบอะไรนอกจากเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มท่านทั้งสองข้างด้วยท่าทางออดอ้อนออเซาะ “คิดถึงแม่ค่ะ เลยกลับมา” “หึหึ ปากหวานไม่เปลี่ยน” แม่พูดพลางส่ายหัวเล็กน้อยแต่สายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความรัก “อายพูดจริงนะคะ” อายพูดเสียงหนักแน่นพร้อมทำแก้มป่องเหมือนเด็กที่กำลังงอน “จ้า ๆ แม่เชื่อ” แต่ยังไม่ทันที่อายจะได้พูดอะไรต่อเสียงพ่อที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ดังขึ้นแทรกบทสนทนา “คิดถึงแต่แม่ไม่คิดถึงพ่อบ้างเหรอ” “คิดถึงสิคะ” อายรีบหันไปกอดพ่อพร้อมกับยืนหน้าไปหอมแก้มท่านด้วยความคิดถึง ทำให้พ่อยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดูมือใหญ่ของท่านยกขึ้นลูบหัวเธอเบา ๆ เพียงแค่นี้แหละความรู้สึกสับสนวุ่นวายในใจก็คลายลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่ได้รับเห็นรอยยิ้มกับความรักและห่วงใยของพวกท่าน อายได้แต่มองนามิกับโปรดพูดจาหยอกล้อกันด้วยรอยยิ้มดีใจไปกับเพื่อนด้วยที่มีคนรักดีดีอย่างโปรด แต่หันกลับมามองตัวเองก็ได้แต่สะท้อนในใจผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์แล้วแบบเธอจะมีโอกาสเจอกับความรักดีดีแบบนี้บ้างหรือเปล่า ถ้าผู้ชายเขารู้ว่าเธอผ่านเรื่องนั้นมาแล้วยังจะสนใจเธออยู่อีกไหม แต่ความคิดฟุ้งซ่านของอายก็ต้องหยุดลงเมื่อมีคนมาสะกิดเธออยู่ด้านหลัง พออายหันไปก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความงุนงงสงสัยว่ามอสมายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง “พี่มอส!!” “พี่มีเรื่องจะคุยด้วยไปกับพี่หน่อย” “เรื่องอะไรเหรอคะ!?” อายเอียงหน้ามองมอสด้วยสายตาสงสัยและอยากรู้ เธอไม่รู้ว่าเขามีเรื่องอะไรจะคุยแต่อายก็ลุกขึ้นเดินตามมอสไปแต่โดยดีก่อนจะเดินไปยังไม่วายหันมาบอกนามิกับโปรดที่นั่งอยู่ “นามิ พี่โปรด เดี๋ยวอายไปคุยกับพี่มอสเสร็จอายกลับเลยนะ เจอกันพรุ่งนี้นะ บาย” “จ๊ะ บายบาย” มอสที่เดินนำอายมายังรถของตัวเองที่จอดอยู่ก็เปิดประตูรถให้เธอขึ้นไปนั่งก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปขึ้นด้านแล้วขับรถออกไปจากมหาลัยทันทีโดยที่เขาไม่ได้บอกอายว่าจะพาไปไหนทำให้อายได้แต่นั่งมองเขาสลับกับมองทาง จนกระทั่งมอสขับรถพาอายมาที่สนามแข่งรถพอจอดรถก็หันมาพูดกับอายแล้วเดินนำหน้าอายเข้าไปในออฟฟิศ “เข้าข้างในกัน” “ค่ะ” ทันทีที่เข้ามาด้านในออฟฟิศมอสก็พาอายไปนั่งลงที่โซฟาก่อนจะเริ่มพูดในสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ทั้งเขาและเธอให้ชัดเจนและเคลียร์ “พี่มีเรื่องจะถามอายต้องตอบพี่ตรง ๆ นะ” “ค่ะ” “อายรู้ไหมว่าคืนงานเลี้ยงใครไปส่งอาย” “ไม่รู้ค่ะ” อายส่ายหัวปฏิเสธเพราะคืนนั้นเธอเมามากจริง ๆ เลยไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่พาเธอกลับ จนทำให้มอสที่มองอยู่ต้องคิ้วขมวดขึ้นมาทันทีพร้อมกับถามย้ำเพื่อความแน่ใจ “จำไม่ได้!?” “ค่ะ” “เฮ้อ.... คืนนั้นพี่เป็นคนพาอายกลับเอง” มอสถอนหายใจยาวออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจแล้วบอกออกมา ทันทีที่ได้ยินคำพูดจากปากของมอสอายรีบหันไปมองหน้าเขาด้วยสายตาตกใจ แต่ยังไม่ทันที่อายจะได้เอ่ยปากพูดอะไรขึ้นก็โดนมอสพูดเบรกไม่ก่อน “พี่มอส!!!” “หยุด!!! อย่าเพิ่งพูดอะไรออกมาทั้งนั้นฟังพี่ให้จบก่อน” มอสยกมือขึ้นชี้หน้าอายทำให้ปากที่กำลังจะอ้าเพื่อต่อว่ามอสต้องหุบลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงเข้มติดดุของมอสดังมา อายได้แต่กัดปากด้วยความขัดใจจ้องมองหน้ามอสด้วยสายตาดุดัน “ค่ะ” “คิดไปถึงไหนแล้วเรานะ อย่าบอกว่าที่ตื่นมาแล้วเห็นตัวเองไม่ใส่เสื้อผ้าเลยคิดว่าเสียตัวให้คนอื่นไปแล้ว” มอสยื่นมือไปดีดหน้าผากอายเมื่อเห็นสายตาดุดันที่เธอใช้มองเขา “โอ๊ยยย เจ็บนะ แล้วพี่จะให้อายคิดว่ายังไงละคะ ตื่นมาในห้องใครก็ไม่รู้แถมเสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่” ใครที่อยู่ในสถานการณ์แบบเธอก็คิดทั้งนั้นแหละว่าตัวเองเสียตัวไปแล้ว “แล้วตอนตื่นมารู้สึกว่าร่างกายมีอะไรแปลกไปบ้างไหมเจ็บตรงไหนหรือเปล่าหรือตกใจจนลืมสังเกตตัวเอง” “พี่มอส!!!” “ก็พี่พูดความจริงถ้าพี่ทำนะวันนั้นเราไม่มีแรงลุกออกจากเตียงได้หรอก หึหึ” “ไอ้พี่มอส!!!” อายร้องเรียกมอสเสียงดังด้วยความตกใจและคาดไม่ถึงว่าคนเฉย ๆ นิ่ง ๆ อย่างมอสจะกล้าพูดอะไรแบบนี้ “หึหึ ทีนี้สบายใจแล้วนะ” “ว่าแต่พี่มอสรู้ได้ไงว่าอายไม่สบายใจคิดมากเรื่องนี้” “ก็โปรดมาถามพี่ว่าคืนนั้นใครไปส่งเราพี่ก็บอกว่าพี่เอง โปรดเลยถามอีกว่าพี่ทำอะไรเราหรือเปล่าเพราะเรามีท่าทางแปลกไป พี่บอกว่าเปล่าพี่ไม่ได้แตะต้องตัวเราเลย แล้วที่เราไม่ใส่เสื้อผ้าก็เพราะเราอ้วกเปื้อนไปหมดพี่เลยตามแม่บ้านของคอนโดมาเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพราะเสื้อผ้าเราเปื้อนแม่บ้านเลยไม่ได้ใส่ให้ก็แค่นั้น อ้อ... อีกอย่างเรานอนในห้องพี่นอนที่โซฟาโคตรปวดหลัง” “แล้วเช้าวันนั้นพี่หายไปไหน อายตื่นมาก็ไม่เห็นใครในห้อง” “พี่ออกไปซื้ออาหารกับซื้อเสื้อผ้าให้เรานั่นแหละกลับมาก็ไม่เจอคิดว่าเรากลับไปแล้วแต่ไม่คิดว่าเราจะคิดมากจนกู่ไม่กลับแบบนั้น” “เฮ้อ...” อายยิ้มกว้างพร้อมกับถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอกที่ความสาวของตัวเองยังอยู่รอดปลอดภัยดีไม่ได้โดนใครพรากมันไปอย่างที่คิด “ว่าแต่เราเคยมีแฟนมาบ้างหรือเปล่า” “พี่มอสถามทำไม” อายเอียงคอมองหน้ามอสด้วยความสงสัยว่าเขาจะถามเธอเรื่องแฟนทำไมมันเกี่ยวอะไรด้วย “แค่อยากรู้” “แล้วพี่เคยมีแฟนมาบ้างหรือเปล่า” “ไม่” “อายก็ไม่” “ถึงว่า” “ว่าอะไร” “ยังซิงไงเลยไม่รู้ว่าคนโดนเปิดซิงเป็นยังไง” “ไอ้พี่มอส” “ฮ่า ๆ ๆ ๆ พี่พูดเรื่องจริง” “แต่ก็ไม่ควรพูดไหม ใครที่ไหนเขาพูดเรื่องนี้กัน” “ฮ่า ๆ ๆ ๆ” มอสไม่ตอบแต่กลับหัวเราะออกมาเสียงดังยิ่งได้เห็นใบหน้าบูดบึ้งของอายก็ยิ่งชอบใจ เขาชอบจริง ๆ เวลาเธอทำหน้าบึ้ง ๆ เขามองว่ามันน่ารักดี “พี่มอส อายขอเบอร์พี่หน่อยได้ไหม” “เอาไปทำไม” “อายอยากเลี้ยงข้าวตอบแทนพี่” “ได้สิ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม