บทที่ 6

3892 คำ
หลังจากเมื่อวานนี้ลูกสาวคนสวยของเธอดันพูดไปว่า อยากจะไปเที่ยวสวนสนุกซึ่งเธอก็ไม่แน่ใจว่าเขานั่นมาตีสนิทกับลูกสาวของเธอทำไม และที่สำคัญลูกสาวเธอน้องพลอยตอนนี้ลมหายใจเข้าออกมีแต่น้าฟรานสุดหล่อ “คุณแม่ขา คุณแม่ขา มัดผมให้น้องพลอยสวยๆ หน่อย เดี๋ยวน้าฟรานมารับไปสวนสนุก” แพรววนิตถึงกับส่ายหน้าให้กับลูกสาวเธอทั้งๆที่เมื่อวานเธอปฏิเสธเขาไป เพราะเกรงใจเขา งานที่ทำก็ยุ่งมากพออยู่แล้วยังจะปลีกเวลาพาลูกของเธอไปเที่ยวสวนสนุกอีก ใจจริงเธอไม่อยากจะไปเมื่อวานช่วงที่เธอปฏิเสธก็เกิดดราม่าน้ำตาไหลของลูกสาวที่ดีใจจะได้ไปเที่ยวสวนสนุก แต่พอได้ยินเธอปฏิเสธก็แอบไปซบไหล่เขาแล้วร้องไห้งานนี้กลับกลายว่าเธอเป็นคุณแม่ใจร้ายไปได้ “อีกนานค่ะ น้าฟรานของน้องพลอยเขาไม่มาเร็วแบบนั้นหรอกไม่ต้องรีบก็ได้จ้ะ” “คุณแม่ขา น้าฟรานบอกว่าน้าฟรานเป็นนักธุรกิจคำว่าตรงเวลาต้องมาก่อนค่ะ” ลูกสาวเธอพึ่งจะได้คุยและเจอหน้ากันเมื่อวานนี้แค่นั่นนะ และดูท่าทางตอนนี้จะเชื่อเขาไปทั้งหมด “น้องพลอยค่ะ ทำไมน้องพลอยถึงไว้ใจน้าฟรานแบบนี้ค่ะ น้าฟรานมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น” “เออ...ไม่รู้ค่ะ แต่น้องพลอยชอบน้าฟราน น้าฟรานหล่อดี และใจดีด้วย” แพรววนิตถึงกับถอนหายใจ เธอต้องการจะเอาคำตอบอะไรจากเด็กใกล้จะหกขวบ จึงลงมือมัดผมเกล้าเป็นจุกไว้สองข้างเพื่อที่เวลาอยู่กลางแดดจะได้ไม่ร้อน พอรวบผมเสร็จลูกสาวตัวแสบก็หันมาสั่งเธอ “ขอบคุณคะ คุณแม่ขาคุณแม่ไปแต่งตัวให้สวยๆ ได้แล้วค่ะ น้องพลอยให้เวลาไม่นานนะคะ” “น้องพลอย ขา น้องพลอยสั่งคุณแม่แล้วเหรอคะเดี๋ยวนี้ ชักเอาใหญ่แล้วนะ อยู่กับน้าฟรานได้ไม่นานก็ติดนิสัยมาแล้วนะ” ฟรานเซสโก้ที่เดินเข้ามาภายในบ้านหลังเล็กที่น่ารักดูแล้วน่าอบอุ่น มีสวนหย่อมหน้าบ้าน ซึ่งมันไม่ยากที่จะหาเพราะเขาให้คุณพิมส่งข้อมูลมาให้ทุกอย่างมันก็เลยง่ายนิดหน่อย “อะ แฮ่ม! นิสัยผมมันเป็นแบบไหนเหรอครับ คุณแพรววนิต” แพรววนิตถึงกับตกใจที่เห็นเขายืนอยู่ตรงประตูบ้าน ทำไมเขาหาบ้านเธอได้ง่ายแบบนี้ และดูจากสายตาที่ส่งมาตำหนิเธอ “น้าฟราน น้าฟรานมาตรงเวลาแป๊ะเลยค่ะ เห็นไหมค่ะคุณแม่ น้องพลอยบอกแล้ว” ลูกสาวเธอที่เห็นเขาจึงวิ่งออกไปต้อนรับพร้อมกับยกมือไหว้สวัสดีก่อนเสมอ “คุณอายลูกสาวของคุณไหม เด็กแค่ห้าขวบ น้องพลอยยังรู้เลยว่าผมเป็นคนแบบไหน” แพรววนิตที่ได้ยินถึงกับส่งสายตาดุไปให้พอกันงานนี้เธอต้องลำบากแน่ๆ “โอเค รอแป๊บเดี๋ยวแพรวไปอาบน้ำก่อนค่ะ” ฟรานเซสโก้อุ้มเด็กน้อยขึ้นมา น้องพลอยชี้ให้ไปนั่งตรงโซฟาของบ้านหลังเล็กๆ เล็กมาถ้าเทียบกับห้องที่คอนโดของเขา ฟรานเซสโก้มองสำรวจไปรอบๆ ไม่เห็นรูปภาพครอบครัวเห็นมีแต่รูปของน้องพลอยสะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการตกแต่งภายในบ้านก็น่ารักมาก “น้าฟราน น้าฟรานอยากรู้จักเพื่อนน้องพลอยไหม” ฟรานเซสโก้ทำหน้าตาสนใจและลุ้นไปกับน้องพลอยซึ่งเรียกรอยยิ้มจากเด็กน้อยได้ตลอดเวลา พร้อมกับพยักหน้า “ว้าว! น้าฟรานอยากจะรู้จักจังเลยเพื่อนของน้องพลอยหน้าตาเป็นยังไง” น้องพลอยเห็นว่าน้าฟรานสุดหล่ออยากจะรู้จักจึงรีบวิ่งไปหยิบมาให้ น้าฟรานทำความรู้จัก แพรววริตที่ได้ยินเสียงของสองคนที่พูดคุยกันสนุกสนานสลับกับมีเสียงหัวเราะ ปกติบ้านหลังนี้จะมีก็แต่พิมเพื่อนเธอเท่านั้นที่มา ส่วนใหญ่เธอก็อยู่กับลูกสาวสองคนมันก็รู้สึกแปลกๆ เมื่อฟรานเซสโก้เห็นน้องพลอยวิ่งถือตุ๊กตาหมี ตรงมาที่เขานั่งพร้อมกับหมวกที่เป็นรูปตุ๊กตากระต่ายอีกหนึ่งอัน “พี่หมีคะ สวัสดีน้าฟรานของน้องพลอยหน่อยคะ” ฟรานเซสโก้ส่งเสียงหัวเราะซึ่งเขาไม่เคยคิดว่าเขาจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ “สวัสดีครับ ผมฟรานเซสโก้นะครับเป็นคุณน้าสุดหล่อของสาวน้อยคนนี้ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” น้องพลอยที่ได้ยินน้าฟรานพูดแนะนำตัวเองกับพี่หมีก็รีบพูดขึ้นมา “เห็นไหมพี่หมี น้าฟรานของน้องพลอยใจดีที่สุด” แพรรววนิตที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกมา เห็นภาพลูกสาวของเธอนั่นกำลังนั่งอยู่บนตักแล้วหยิบหมวกกระต่ายใส่ลงบนหัวของเขา มันเป็นภาพที่เธอรู้สึกสงสารลูกสาวมาก น้องพลอยอาจจะคิดถึงคนเป็นพ่อที่ไม่ได้แวะเวียนมาหาลูกเลยตั้งแต่น้องพลอยอายุได้สองขวบ “น้องพลอยคะ อย่าเล่นหัวผู้ใหญ่แบบนั่นค่ะ” แพรววนิตที่ส่งเสียงดุตักเตือนลูกสาวไป น้องพลอยได้ยินก็เลยยกมือขึ้นไหว้ขอโทษน้าฟรานพร้อมกับทำหน้าเศร้าและสำนึกผิดสิ่งที่แม่บอก “คุณจะดุลูกสาวคุณทำไม ผมไม่ถือ” น้าฟรานอุ้มน้องพลอยขึ้นมากอดแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที “ไปเที่ยวกันได้แล้ว คุณแม่แต่งตัวเสร็จล่ะ วันนี้น้องพลอยต้องเป็นไกด์ให้น้า ฟรานนะครับ เพราะน้าฟรานไม่เคยเที่ยวสวนสนุกเลย” แพรววนิตถึงกับน้อยใจที่ถูกลูกสาวเมิน แถมไม่พอโดนเขาดุกลับมาอีกต่างหากงานนี้คนเป็นแม่รู้สึกเหมือนตัวเองนั่นเป็นส่วนเกินของคนทั้งสอง แพรววนิตเดินตามหลังฟรานเซสโก้มาถึงรถที่เขาทำการจอดไว้ตรงหน้าบ้าน จู่ๆ เขาก็หยุดเดินและหันหน้ามาทางเธอ “คุณไปสวนสนุกคุณต้องเป็นคนขับพาเราสองคนไป เพราะผมไม่รู้จักเส้นทาง” แพรววนิตยืนนิ่ง และสองคู่ซี้ต่างวัยพากันขึ้นไปนั่งบนรถกันเรียบร้อยแล้วทิ้งให้เธอยืนงง นี่อะไรเธอจะต้องมาเป็นคนขับรถให้เขาอีกเหรอ ฟรานเซสโก้เปิดกระจกมา พร้อมกับน้องพลอยที่ตะโกนถามเธอ “คุณแม่ค่ะ คุณแม่ไม่มาขับรถละค่ะ” “อ้าว!! คุณ มาทำหน้าที่ของตัวเองหน่อยสิ” แพรววนิตถึงกับพ่นลมหายใจ และก็พูดออกมาดังๆ “ค่ะ!!! เจ้านายทั้งสอง เชิญบัญชามาได้เลยค่ะ” พร้อมกับวิ่งไปยังด้านคนขับทันทีที่ก้าวขึ้นมาบนรถ เธอก็รู้สึกงงลืมดูไปว่ารถของเขาเป็นรถยุโรปราคาแพง ซึ่งต่างจากรถญี่ปุ่นคันเล็กของเธอโดยสิ้นเชิง รู้สึกงงว่าเธอจะเริ่มอะไรจากตรงไหนก่อนดี “อ้าว!! คุณทำไมไม่ขับละครับ เป็นไรอีก” แพรววนิตหันหน้ามาทำเสียงดุ พร้อมกับใช้สายตามองไปยังปุ่มต่างๆ “ใจเย็นๆ สิ ฉันไม่เคยขับรถราคาแพงนิ ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องทำยังไงปุ่มมันเยอะแยะไปหมด” ฟรานเซสโก้ได้ยินแพรววนิตพูดก็รู้สึกขำที่เธอพูด จริงๆ เขารู้สึกชอบที่เธอแต่งตัวแบบนี้มันดูสวยเซ็กซี่ แค่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนรัดรูป โชว์รูปร่างที่สวยไม่น่าเชื่อว่านี่คือคุณแม่ลูกหนึ่ง “คุณก็กดปุ่มสตาร์ทตรงนั้นแค่นั้นเองครับ อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรต้องใช้ หรือว่าคุณเขาเกียร์ไม่เป็นผมจะได้ช่วยเข้าให้” แพรววนิตเห็นสายตาขี้เล่นของเขากับคำพูดที่มันแปลกๆ เธอหันไปต่อว่าเบาๆ “คุณพูดมาก นั่งไปเลยทั้งสองคน” น้องพลอยที่เห็นคุณแม่ดุน้าฟรานก็ก้มไปกระซิบที่ข้างหู “น้าฟราน น้าฟรานคุณแม่โมโหหิวค่ะ อย่าโกรธคุณแม่เลยนะคะ” ลูกสาวของเธอช่างหาคำพูดมาพูดกับเขาจริงๆ และดูท่าทางคนตัวโตก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย จนกระทั่งเธอขับรถมายังสวนสนุกที่ใหญ่ของกรุงเทพ น้องพลอยเห็นคุณแม่ขับรถมาถึงยังสวนสนุกแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ พร้อมกับชี้ให้น้าฟรานดูโน่นดูนี้ไป แพรววนิตรู้สึกว่าเธอไม่น่ามาด้วยกันกับสองคนนี้เลย “เย้ เย้ น้าฟรานดีใจไหมค่ะที่ได้มาสวนสนุก” ฟรานเซสโก้รู้สึกแปลกๆ เขาไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้ ชีวิตเขามีแต่การทำงานและทำงานยุ่งอยู่กับตัวเลขผลกำไรมากกว่ามาทำเรื่องแบบนี้ แต่นี้คือประสบการณ์ชีวิตของเขาที่ถูกเปิดด้วยเด็กน้องน่ารักที่เขาต้องเอาตัวมาพูกพัน “คุณแม่ขา คุณแม่ คุณแม่มาถ่ายรูปกันเร็ว ถ่ายสามคนเลย” แพรววนิตทำหน้าไม่ถูกเธอไม่รู้จะทำตัวแบบไหน กำลังจะอ้าปากปฏิเสธเขาก็ดึงเธอเข้าไปหาแล้วก็กอดตรงไหล่ของเธอให้ขยับเข้ามา แพรววนิตหันหน้าไปหมายจะต่อว่ากลับกลายเป็นว่า รูปที่ออกมาคือการที่เธอจ้องหน้าคนข้างๆ ที่ส่งยิ้มมาให้ จนทั้งสามได้รูปที่พอใจแล้วก็เริ่มเดินเข้าไปซื้อตั๋วค่าเข้า ฟรานเซสโก้ไปยืนข้างๆ แพรววนิตพนักงานขายตั๋วเห็นเขาเป็นชาวต่างชาติเลยพูดภาษาอังกฤษตอบกลับมา เขาไม่รอช้ารีบหยิบบัตรเครดิตยื่นให้ถ้าจะมัวรอคนข้างๆ คงจะไม่ยอมให้เขาออก “คุณจะมาจ่ายให้เราสองคนทำไหม ฉันเกรงใจคุณ” “อะไรงานนี้ผมต้องจ่ายสิ เพราะเป็นความต้องการที่จะมาเที่ยวกัน หรือคุณจะให้น้องพลอยออกเด็กตัวแค่นี้คงจะไม่มีเงินหรอก คุณนี้อายุก็ไม่น่าจะเยอะ เรื่องมากจริงๆ ตั้งแต่ออกบ้าน” ฟรานเซสโก้บ่นเธอเสร็จก้มไปเซ็นชื่อแล้วหยิบบัตรเครดิตคืนจากพนักงานแล้วก็หยิบตั๋วเดินจากไป แพรววนิตอยากจะร้องกรี๊ด ออกมาให้สุดเสียงนี้เธอถูกเขาต่อว่ามาตลอดทางจนถึงสวนสนุก อะไร และนั่นอุ้มลูกสาวเธอเดินหนีไปแล้ว ฟรานเซสโก้รู้สึกมีความสุขมากๆ มากที่สุดก็ว่าได้ที่ได้ถือโอกาสแหย่ พูดคุยกับแพรววนิต เขาชอบที่เธอทำหน้าแบบนั้น ตาโตๆ มันน่าจับมาจูบอีกครั้งจริงๆ ไม่ติดว่ามีน้องพลอยมาด้วยนะ “น้าฟรานนั่งม้าหมุนกันไหมคะ คุณแม่ขา...นั่งมาหมุนกันเถอะค่ะ” แพรววนิตงอนสองคนที่ทำตัวเหมือนเธอเป็นส่วนเกิน หันหน้าไปตอบเบาๆ ว่าไม่ “คุณแม่ท่าทาง จะงอนน้องพลอยกับน้าฟรานแน่ๆ เลยค่ะน้าฟรานง้อคุณแม่หน่อยสิค่ะ” แพรววนิตหูผึ่งขึ้นมาทันใด ไม่ได้ลูกสาวเธอจะบอกให้เขามาง้อเธอได้ไง เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ต้องมาง้อ “น้องพลอยไม่ต้อง คุณแม่ไม่ได้งอนไม่ต้องให้น้าฟรานมาง้อ คุณแม่กับน้า ฟรานไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ เดี๋ยวแฟนน้าฟรานมาได้ยินจะโกรธเอา” “อ้าว! น้าฟรานมีแฟนแล้วเหรอคะ น้องพลอยขอโทษแฟนน้าฟรานจะโกรธน้องพลอยไหม” ฟรานเซสโก้ได้ยินก็รู้สึกสงสารตัวเล็กและคนเป็นแม่นั้นเขาอยากจะจับมาลงโทษจริงๆ ที่ชอบพูดอะไรให้เด็กรู้สึกเสียใจ “น้องพลอยครับ น้าฟรานยังไม่มีแฟนและก็ไม่เคยมีด้วยน้องพลอยไม่ต้องกลัวใครมาโกรธน้องพลอยเลยนะครับ” แพรววนิตทำปากขมุบขมิบบ่นพรึมพร่ำเบาๆ ให้ได้ยินแค่คนเดียว “เชื่อตาย ตัวเองมีข่าวเยอะแยะดันหลอกเด็กว่าไม่มี” ฟรานเซสโก้หันไปมองพร้อมกับส่งสายตาไปยังแพรววนิต หันหน้ามาเจอเขาก็ถึงกับสะดุ้ง “น้องพลอยอยากนั่งมาหมุนใช่ไหมคะ งั้นน้าฟราไปส่งนะ อันนี้เป็นของเล่นสำหรับเด็กเล็กอย่างน้องพลอยเดี๋ยวน้ารอด้านล่างโอเคไหมครับ” ฟรานเซสโก้ที่เดินไปส่งน้องพลอยเลือกม้าหมุนตัวที่จะนั่งเสร็จแล้วก็เดินลงมายืนใกล้ๆ กับแพรววนิตแล้วก็พูดขึ้นมา “คุณข้องใจอะไรเกี่ยวกับผมหรือครับ มีอะไรถามได้เลยนะครับอย่าได้คิดไปเอง” พร้อมกับจับเอวของแพรววนิตเข้ามาใกล้ๆ ช่วงจังหวะที่น้องพลอยหมุนวนมาพอดี ทั้งสองจึงต้องโบกมือตอบน้องพลอย พอพ้นไปแล้วแพรววนิตหันหน้าไปดุ “คุณมาจับเอวของฉันทำไม และฉันไม่มีอะไรข้องใจอะไรเกี่ยวกับคุณด้วย” ฟรานเซสโก้ยังไม่หยุดที่จะแหย่แพรววนิตนี้เขากลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มายืนต่อล้อต่อเถียงผู้หญิงแบบนี้ “ผมยังไม่ได้บอกคุณเลยว่าวันนี้คุณสวยมากนะครับ” แพรววนิตหันหน้ากำลังจะอ้าปากต่อว่าเขา แต่เขานั้นเดินไปรับน้องพลอยที่ครบรอบของม้าหมุนแล้ว “เป็นไงครับสนุกไหม น้าฟรานอิจฉาน้องพลอยจริงๆ ที่ได้นั่งม้าหมุนแบบนี้ แล้วต่อจากนี้น้องพลอยอยากเล่นเครื่องเล่นอะไรต่อค่ะ” น้องพลอยชี้ไปตรงเรือลำใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง แพรววนิตเห็นเธอถึงกับหวาดกลัวเธอเป็นโรคกลัวความสูงแต่ลูกสาวเธอดันอยากจะเล่นเธอถึงกับถอดใจส่ายหน้า “นะคะคุณแม่ น้องพลอยอยากนั่ง นะคะน้าฟราน น้าฟรานนั่งกับน้องพลอยได้ไหม” “ได้สิครับ น้าฟรานไม่ใช่คนใจเสาะที่กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง” “คุณว่าอะไรนะ คุณว่าใครใจเสาะ ฉันไม่ได้ใจเสาะแค่ฉันไม่ชอบเท่านั้นเอง” “ไม่ใจเสาะ ก็ขึ้นไปนั่งกับลูกด้วยกันสิ” ฟรานเซสโก้ที่เขาพูดกับแพรววนิตได้มาอยากเต็มปากว่าลูก ใช่เขารู้สึกรักเด็กคนนี้จริงๆ ตอนแรกเขาคิดว่าอาจจะเพราะตัวของแม่เด็กตอนนี้เขาตอบได้ว่าไม่ใช่ มันคือความรู้สึกของเขาที่มีต่อน้องพลอยเด็กคนนี้ “ได้! ฉันจะขึ้นไปนั่งเอง” ฟรานเซสโก้กับน้องพลอยเห็นต่างอมยิ้มแล้วยกมือขึ้นมาแตะกันแล้วพูดว่า “สำเร็จ!!!” นี้คือการหลอกแพรววนิตให้ขึ้นไปเล่นด้วยซึ่งตัวแพรววนิตเองนั้นแรกรู้สึกโกรธที่ถูกหยามทันทีที่นั่งลงไปความกลัวเธอก็ตีขึ้นมาอีกครั้ง ยิ่งช่วงที่มันเริ่มเหวี่ยงจากเบาเธอก็รู้สึกใจสั่นไปหมด และยิ่งสูงขึ้น สูงขึ้น เธอไม่รู้สึกตัวอีกแล้วเธอเอาแต่กอดคนด้านข้างแน่นหลับตาปี้ ฟรานเซสโก้รู้สึกมีความสุขที่แพรววนิตกอดเขากอดแน่นมาก เหมือนกลัวว่าเขาจะทิ้งเธอไปอย่างนั้นจนถึงเวลาที่เครื่องเล่นหยุดแต่คนข้างๆ ก็ยังไม่ยอมไปทั้งๆ ที่คนอื่นๆ เขาลงไปกันหมดแล้ว “คุณแพรว!! ผมรู้ว่าคุณอยากจะกอดผมต่อ แต่คนอื่นเขาลงกันไปหมดแล้วคุณ” แพรววนิตที่รู้สึกตัวก็ลืมตาขึ้นมาดู ไม่เหลือใครอยู่ตรงนั้นแล้ว และน้องพลอยก็จ้องมองแม่ที่กอดตรงเอว น้าฟราน” “เออ...ทำไมคุณ ไม่บอกเร็วๆ ละ จะนั่งต่อทำไมลุกสิน้องพลอยด้วย” ฟรานเซสโก้เห็นอาการเขินของคนข้างๆ ก็รู้สึกตลก เขาหันมาฉีกยิ้มให้กับน้องพลอย แล้วยักคิ้วให้กัน ทั้งสามต่างพากันผลัดเปลี่ยนเล่นเครื่องเล่นกันไปมาอย่างสนุกสนาน แพรววนิตไม่เคยเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกเธอมีความสุขแบบนี้นานแล้วถึงแม้น้องพลอยจะเป็นเด็กอารมณ์ดีแต่บางครั้งก็แอบเห็นเศร้า เธอก็สงสารลูกที่มาเจอชีวิตที่ไม่สมบูรณ์เหมือนครอบครัวคนอื่นเขา จนกระทั่งถึงช่วงเย็นน้องพลอยที่เล่นสนุกจนตอนนี้ได้นอนหลับไปบนบ่าของเขาซึ่งเธอเห็นเขาอุ้มน้องพลอยแล้วก็เกรงใจวันนี้เธอได้เห็นเขาในมุมอื่นๆ ที่เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นคนที่เขากับเด็กได้ง่ายแบบนี้ “คุณค่ะวางน้องพลอยนอนตรงเบาะหลังก็ได้นะคะ คุณเหมื่อยไหมเห็นอุ้มน้องพลอยตลอดเวลา” “ไม่ครับ ไม่หนักเท่าไหร่น้องพลอยตัวเบากว่าคุณอีก” แพรววนิตได้ยินก็หุบยิ้มทันที เธอรู้สึกกลัวสายตาที่เขาส่งมาให้เธอ เธอกลัวเหลือเกิน กลัวหัวใจของตัวเอง “คุณหิวข้าวหรือเปล่าคะ เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนคุณ ที่คุณพาน้องพลอยมาเที่ยว” “ไม่เป็นไร แต่ผมดีใจนะที่เห็นลูกสาวของคุณมีความสุข คุณควรจะพาแกมาเที่ยวบ่อยๆ บางที่แกอาจจะอยากทำกิจกรรมกับคุณบ้าง” “ฉันก็อยากจะพามาเหมือนกันค่ะ แต่ฉันก็ต้องทำงานกว่าจะกลับบ้านก็อย่างที่คุณเห็น” ฟรานเซสโก้ฟังแล้วก็เงียบ เขาอยากจะถามเหลือเกินว่าพ่อของน้องพลอยไม่มาดูลูกสาวเลยเหรอ น้องพลอยน่ารักแบบนี้ทำไมถึงไม่กลับมาหาลูกสาวบ้าง แพรววนิตขับรถจนมาถึงร้านอาหารตรงหน้าหมู่บ้านที่เธอแวะมาทานข้าวบ่อยๆ กับลูกสาวที่ตอนนี้หลับไปแล้ว “เดี๋ยวปลุกน้องพลอยแป๊บนะคะ คงจะเล่นจนเหนื่อย” ฟรานเซสโก้ดึงมือบอกว่าไม่ต้องปลุก เขาอยากให้น้องพลอยนอนไปก่อน เขาให้เธอขับรถกลับบ้านทันที จนกระทั่งมาถึงบ้านเธอรีบจัดการเปิดประตูบ้านและ รีบวิ่งไปเปิดประตูห้องนอนให้เขาที่อุ้มลูกสาวเธอวางไว้บนเตียงพร้อมกับเดินไปเปิดแอร์ ฟรานเซสโก้วางน้องพลอยบนที่นอนเสร็จก็มองไปรอบๆ ห้องก็ไม่พบรูปอดีตสามีของเธออีกตามเคย คืออะไร ฟรานเซสโก้เดินลงมาด้านล่าง นั่งตรงโซฟารอแพรววนิตที่เอาผ้าเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้น้องพลอยจะได้หลับยาว แพรววนิตที่เดินลงมาจากชั้นบนก็เดินมาหาเขาที่โซฟา “คุณหิวไหมคะ เดี๋ยวฉันทำอะไรให้ทานไหมค่ะ” “ก็ได้ครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณมากนะครับ ผมทานได้หมดครับไม่ต้องทำอะไรให้ยาก ต้มมาม่าให้ผมก็ได้ครับ” แพรววนิตได้ยินก็รู้สึกทึ่งกับอาหารที่เขาบอกให้เธอลงมือทำมาให้เขา “ก็ได้ค่ะ งั้นทานเมนูมาม่าแบบที่น้องพลอยชอบก็แล้วกันคะ” ฟรานเซสโก้ที่พยักหน้าแล้วกลับไปนั่งรอที่โซฟาแล้วเขานั่งพักไปสักครู่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองก็รู้สึกล้าเหมือนกัน ส่วนแพรววนิตที่เดินไปต้มมาม่ามาให้เขาผ่านไปสักพัก เธอต้มมาม่าเสร็จแล้วกำลังจะเดินมาเรียกแต่เห็นเขากอดหมอนแล้วก็หลับ แพรววนิตจ้องมองดูเขาช่างดูเหมือนกับเด็กหนุ่มจริงๆ ไม่เหมือนนักธุรกิจใหญ่เลย “คุณค่ะ คุณ ฉันต้มมาม่าเสร็จแล้วค่ะ” ฟรานเซสโก้เผลอหลับไปถึงกับสะดุ้ง ที่แพรวปลุกเขาให้ตื่น” ฟรานเซสโก้ที่ลุกยืนแล้วสะบัดหน้าให้หายมึน แล้วก็ถามเธอว่าห้องน้ำอยู่ทางไหนเขาขอล้างหน้าสักครู่ แพรววนิตชี้เขาดูแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กติดมือมาให้เขา เมื่อเธอเดินไปถึงก็เห็ยใบหน้าของเขามีหยดน้ำเกาะเต็มไปหมดกับผมที่เปียกชื้น แพรววนิตรู้สึกตกตะลึงกับภาพที่เห็น ทำไมเขาหล่อแบบนี้ตามแบบฉบับหนุ่มต่างชาติ หน้าอกที่เผยเห็นขนตรงหน้าอกร่ำไร ฟรานเซสโก้ที่เห็นแพรววนิตจ้องมองเขาแล้วก็รู้สึกชอบที่เธอจ้องมองเขา “ผมรู้ครับว่าผมหน้าตาดี ลองเอามือจับหน้าผมดูไหมจะได้ไม่ต้องมองอย่างเดียว” “บ้าสิ ใครเขาชมคุณ” แพรววนิตที่กำลังจะเดินหนี ฟรานเซสโก้รู้สึกอยากจะทำตามหัวใจตัวเองอีกครั้งเขาอยากจะรู้ว่าตอนนี้เขารู้แล้วเธอเป็นแม่หม้ายเขายังจะต้องการเธออีกไหม แพรววนิตตกใจที่จู่ๆ เขาก็ดึงเธอเข้าไปกอดแพรววนิตเอามือดันตรงหน้าอกของเขาและผลักเขาให้ออกห่าง แต่แรงเธอน้อยกว่าเขา “คุณ!! ฉันไม่ชอบนะ ที่คุณมาทำแบบนี้กับฉัน” “ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบ คุณผมขอพิสูจน์อะไรอย่างหนึ่งได้ไหม คุณอย่าพึ่งผลัก ผมอยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง” แพรววนิตฟังก็รู้สึกสงสัยว่า เขาต้องการจะพิสูจน์อะไรกับเธอแต่ไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไร เขาก็ประกบริมฝีปากของเขาเข้ากับของเธอ แพรววนิตที่อ้าปากจะต่อว่ากลับกลายเป็นเปิดทางให้เขาเข้ามาคว้านหาความหวานภายในปาก แพรววนิตที่ตอนแรกต่อต้านสักพักก็หลงเข้าไปในวังวนเสน่หาที่ฟรานเซสโก้ได้สร้างไว้ มือก็เริ่มที่ลูบไปยังดอกบัวที่มันช่างเต็มมือของเขาเหลือเกินทั้งสองที่อารมณ์เสน่หามันครอบคลุมไปทั้งหมดจนกระทั่งแพรววนิตเริ่มที่จะมีสติกลับมาอีกครั้งเธอจึงผลักเขาให้ออกห่าง ฟรานเซสโก้ตอนนี้เขาเริ่มรู้แล้วมันไม่ได้เกิดจากความใคร่ แต่มันเกิดจากความรู้สึกภายในใจที่เขารู้สึกดีต่อคนตรงหน้าจริงๆ “ขอบคุณนะครับ ที่ให้ผมได้พิสูจน์บางอย่าง ผมขอโทษคุณด้วยนะครับ ผมไม่มองว่าคุณง่ายหรืออะไร ผมว่าเราสองคนนั้นพอจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในจิตใจของเรา” แพรววนิตที่รู้สึกทำตัวไม่ถูก มันรู้สึกแปลกๆ ขนาดกับอดีตสามี เธอยังไม่เคยรู้สึกแบบนี้ ไม่ได้เธอรู้สึกกลัวใจตัวเองเหลือเกิน “ทานข้าวได้แล้วค่ะ” ทั้งสองต่างพากันกินมาม่า อย่างเงียบๆ แต่ภายในความเงียบนั่นมันมีอะไรซ่อนอยู่ ทั้งแพรววนิตและฟรานเซสโก้ต่างเงยหน้าขึ้นมามองตากัน ทั้งสองต่างจ้องมองจนแพรววนิตต้องหลบสายตา เมื่อทั้งสองกินมาม่าจนหมดเธอก็เดินมาส่งเขาตรงรถ “ขอบคุณนะคะที่พาน้องพลอยไปเที่ยว ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ฉันขอให้คุณลืมมันไปสะ เพราะเราสองคนอย่าได้เริ่มความสัมพันธ์นั้นเลยค่ะ” พูดเสร็จแพรววนิตก็เดินกลับเข้าไปยังภายในบ้าน เธอทรุดนั่งลงกับพื้น ส่วน ฟรานเซสโก้ที่ได้ฟังเขากำลังจะเอ่ยปากพูดแต่เธอเดินจากเขาไปแล้ว เขาได้นั่งภายในรถ เขาได้จับไปตรงอกด้านซ้ายที่มันรู้สึกเจ็บกับคำพูดของแพรววนิตเขาแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดเพราะความรู้สึกของเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม