"ไอ้คนไร้ค่าจางเสี่ยวหนิง! เจ้ากล้าผลักข้าหรือ? รอข้าไปฟ้องท่านพี่ก่อนเถอะ! พี่เจ้าไปขโมยปลาของใครมา อาหารมากมายขนาดนี้ต้องเอามาจากที่ใด" ชาวบ้านทุกคนต่างพากันเบิกตาโตเมื่อเห็นอาหารที่แต่ละบ้านอยากจะแย่งชิงมาเป็นของตนเอง
"ข้าจะเอามาจากที่ใด มันก็เรื่องของข้า แต่พวกเจ้าบังอาจมาแตะต้องหนิงเอ๋อของข้าได้เช่นไร! ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!" จางเสี่ยวหนิงตะคอก
"พวกข้าก็ไม่ได้อยากจะยุ่งนักหรอก แต่อาหารมากมายเช่นนี้ พวกเจ้าจะเก็บไว้กินเองคนเดียวก็ไม่ถูก! ชาวบ้านทุกคนก็อดอยาก ทำไมถึงไม่แบ่งพวกเราบ้านละตัวล่ะ?" ป้าฉิงอี้พูดขึ้น ทำให้ชาวบ้านที่ยืนมุงอยู่ต่างพากันเห็นด้วย
"ใช่ ๆ พวกเราก็อดอยาก เจ้าต้องแบ่งพวกเราบ้างสิ!" ชาวบ้านที่เห็นแก่ตัวเหล่านี้พูดขึ้นมาสนับสนุนป้าฉิงอี้
"ทำไมข้าจะต้องแบ่งพวกเจ้าด้วย? บ้านข้าเองยังไม่อิ่มท้องเลย! พวกเจ้าอยากได้ก็ไปหาเอาเอง!" พูดจบ จางเสี่ยวหนิงก็ปิดประตูบ้านลงกลอน และประคองหนิงเอ๋อกลับเข้าไปในบ้าน
"ไอ้คนเห็นแก่ตัว! ไอ้คนไร้ค่าจางเสี่ยวหนิง! พวกเราอดจะตายอยู่แล้ว แต่เจ้ามันเห็นแก่ตัว!" เสียงของป้าฉิงอี้ดังขึ้นด่าทอตามหลังมา
"หนิงเอ๋อ เจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่?" คำพูดที่อ่อนโยนของจางเสี่ยวหนิงทำให้หนิงเอ๋อรู้สึกแปลก ๆ เหตุใดท่านพี่ก่อนหน้านี้ไม่เคยอ่อนโยนเช่นนี้เลย? นางคิดในใจ
"น้องไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะท่านพี่ แต่ว่าปลาพวกนี้ท่านพี่ไม่ได้ขโมยใครมาใช่หรือไม่เจ้าคะ?" หนิงเอ๋อถาม
"ข้าไม่ได้ขโมยใครมาหรอก จากหมู่บ้านห่างไกลไปอีกห้ากิโลเมตร มีน้ำตกอยู่ ที่นั่นมีปลาชุกชุม ข้ามีวิธีการหาปลา ข้าก็เลยได้มาเยอะ เพราะว่าระยะทางห้ากิโลเมตรนี้ ชาวบ้านคงไม่มีใครเข้าไปถึงน่ะ มันก็เลยยังอุดมสมบูรณ์อยู่อย่างที่เจ้าเห็น"
จางเสี่ยวหนิงพูดเรื่องจริง เพราะเขาได้ให้ระบบช่วยหาระบบอาหารในรัศมีห้ากิโลเมตร แม้จะต้องเดินไกลไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้ไกลมากจนทำให้เขาถอดใจ
"จริงหรือเจ้าคะท่านพี่! แปลว่าเราจะมีปลากินกันทุกวัน!" หนิงเอ๋อกล่าวด้วยความดีใจ เธอเผลอกอดไปที่แขนของจางเสี่ยวหนิงอย่างไม่ตั้งใจ
จางเสี่ยวหนิงมองการกระทำเล็ก ๆ ของภรรยาเจ้าของร่าง ก็อดเอ็นดูไม่ได้ เขาใช้มือหนาลูบไปที่ใบหน้าสวย แต่เธอกลับผวาและถอยหลังไปด้วยความตกใจ
"ท่านพี่ค่ะ ขอโทษ! อย่าตีข้านะ!" หนิงเอ๋อยกมือปัดป้องที่ใบหน้า
เด็ก ๆ ที่เห็นไกล ๆ ก็คิดว่าผู้เป็นบิดาจะตบตีมารดาของตน จึงรีบวิ่งออกมาปกป้องมารดาอีกครั้ง "ท่านพ่อ! อย่าตีท่านแม่นะ!" เสียงของน้องรองและลูกชายคนโตดังขึ้น
"เด็ก ๆ ข้าเป็นสามีของนาง ข้าจะตีนางได้อย่างไรเล่า?" หนิงเอ๋อที่ได้ยินคำพูดของสามีก็ยิ่งประหลาดใจไปกันใหญ่ การกระทำที่อ่อนโยนเมื่อครู่ทำให้หัวใจของหนิงเอ๋อมีความสุขเปี่ยมล้นเต็มหัวใจ
"ท่านพ่อไม่ได้ตีท่านแม่จริง ๆ ใช่ไหมเจ้าคะ?" เด็กหญิงตัวเล็กที่น้ำตาเต็มทั้งสองแก้ม จับไปที่มือหนาของผู้เป็นบิดา
เขาย่อตัวลงเล็กน้อยแล้วยื่นปลาให้กับหนิงเอ๋อ ก่อนจะอุ้มลูกสาวและลูกชายไว้ในอ้อมกอด เด็ก ๆ แม้จะกลัวแต่ก็ยอมให้จางเสี่ยวหนิงผู้เป็นพ่ออุ้ม ตั้งแต่เกิดมาทั้งสองไม่เคยได้รับความอบอุ่นเช่นนี้จากบิดา จึงซบไปที่อกแกร่งของบิดาด้วยความโหยหา
"เอาล่ะ ต่อไปนี้ก่อนที่เราจะกินข้าว เรามาทำความเข้าใจกันใหม่นะ ต่อไปนี้ข้าจะไม่ตบตีแม่ของเจ้าและเจ้าทั้งสองอีกเป็นอันขาด ข้าจะดูแลเจ้าทุกคนเป็นอย่างดี"จางเสี่ยวหนิงพูดกับลูกสาวและลูกชาย
และหันมาพูดกับบิดาของเจ้าของร่างเดิมว่า "ท่านพ่อ ลูกคนนี้อกตัญญูยิ่งนัก ท่านอายุมากขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ได้พักผ่อน ต่อไปนี้ท่านพ่อไม่ต้องไปเก็บฟืนมาเผาถ่านอีกแล้วนะ ข้าจะทำแทนท่านเอง" จางเสี่ยวหนิงพูดกับทุกคน
"เจ้าพูดจริงหรือลูกของข้า?" ผู้เฒ่าจางหันมองลูกชายด้วยความประหลาดใจ
"จริงสิท่านพ่อ! เอาล่ะทุกคนกินเถอะ กับข้าวเย็นหมดแล้ว วันนี้เราน่าจะได้กินแต่เนื้อ ถึงแม้ข้าวจะไม่มีเต็มหม้อ ก็กินกันไปก่อนนะทุกคน" จางเสี่ยวหนิงที่เห็นเพียงกับข้าวแต่ไม่มีข้าวเลย
"ในช่วงวิกฤตที่อาหารขาดแคลน มีเท่านี้ทุกคนก็ดีใจมากแล้วเจ้าค่ะท่านพี่" หนิงเอ๋อกล่าวกับผู้เป็นสามี
หลังจากมื้อเย็นผ่านไป ทุกคนแยกย้ายกันพักผ่อน สภาพบ้านที่ทรุดโทรมของตระกูลจางมันช่างจะกันความหนาวเย็นในฤดูหนาวแทบจะไม่ได้เลย หนิงเอ๋อที่นำฟางปูไว้บนพื้น ในห้องนอนของทั้งสองมีเตียงเพียงเดียว แต่หนิงเอ๋อเลือกที่จะลงไปนอนที่พื้นฟาง
"เจ้าทำอะไรหนิงเอ๋อ?" จางเสี่ยวหนิงถามภรรยาของเจ้าของร่าง
"ข้าจะนอนเจ้าค่ะท่านพี่ ท่านพี่ขึ้นไปนอนเตียงเถอะเจ้าค่ะ ดึกมากแล้ว วันนี้ท่านพี่เหนื่อยมาทั้งวัน" หนิงเอ๋อกล่าว
"นี่เจ้าของร่างเดิมให้เมียนอนที่พื้น ทั้งหนาวเย็นและแข็งกระด้างเช่นนี้ทุกคืนเลยหรือ?" เซียวอ้าวในร่างของจางเสี่ยวหนิงเห็นก็ช่างเวทนา
"ต่อไปนี้เจ้าขึ้นมานอนกับข้าที่บนเตียง ไม่ต้องลงไปนอนแบบนั้นอีกแล้ว" จางเสี่ยวหนิงกล่าว
"แต่ว่าท่านพี่บอกว่าอึดอัด ไม่อยากเห็นหน้าข้าบนเตียงนะ" หนิงเอ๋อกล่าวอีกครั้ง
"มาเถอะ ต่อไปนี้ข้าจะดูแลเจ้าจริง ๆ ไม่ตบตีเจ้า ไม่ทำให้เจ้าจะต้องเสียใจ" จางเสี่ยวหนิงย่อตัวลงไปประคองหนิงเอ๋อขึ้นมาบนเตียง แล้วให้เธอนอนหลับในอ้อมกอดของเจ้าของร่าง
หนิงเอ๋อยิ่งประหลาดใจ เมื่อสามีโอบกอดเธอด้วยความอบอุ่นที่เธอไม่ได้รับมาเนิ่นนาน แม้ในหัวใจจะเต้นผิดจังหวะไปบ้างกับความอบอุ่นนี้ เธอกลัวเหลือเกินว่าจางเสี่ยวหนิงจะมีแผนอะไรหรือไม่
เช้าวันรุ่งขึ้น จางเสี่ยวหนิงตื่นแต่เช้า ทำให้ทุกคนในบ้านยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่ เพราะเขาตื่นก่อนทุกคน และนำปลาที่ได้มาเมื่อวานทำอาหารรอให้ทุกคนตื่นในตอนเช้าเพื่อมากิน
"ท่านพ่อตื่นแล้วหรือขอรับ? ลูกทำเมนูปลาเอาไว้ให้ท่านพ่อบำรุง ท่านพ่อทานเยอะ ๆ นะ" จางเสี่ยวหนิงกล่าวกับผู้เฒ่าจาง
"ลูกพ่อ เจ้าเปลี่ยนไปจริง ๆ แล้วใช่ไหม?" พ่อเฒ่าจางก็ยังคงไม่เชื่อใจลูกชายอยู่ดี
"ข้าเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ท่านพ่อเชื่อใจข้านะ ข้าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดี" จางเสี่ยวหนิงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
เด็กสองคนที่เดินออกมาจากห้อง เห็นภาพที่บิดาเข้าครัวทำอาหาร ทุกคนก็แปลกใจและวิ่งไปปลุกท่านแม่ของตนเองที่ยังหลับอยู่ในฝันหวาน
"ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ!" เด็กสองคนพากันไปปลุกหนิงเอ๋อถึงข้างเตียง
"เจ้าสองคนมาปลุกแม่แต่เช้า มีอะไรหรือ?" หนิงเอ๋อลุกขึ้นขยับปัดผมอะไรจนเรียบร้อย จึงได้อุ้มเด็กทั้งสองมาไว้ในอ้อมกอดด้วยความรัก
"ท่านพ่อเข้าครัวทำอาหาร! ลูกเห็นกับตาท่านแม่! ท่านพ่อไม่สบายหรือเปล่า?" ลูกชายคนโตถาม
หนิงเอ๋อเมื่อได้ยินคำพูดของลูกชายก็ยิ่งประหลาดใจเข้าไปอีก เธอรีบพาเด็ก ๆ ไปล้างหน้าล้างตาและเดินไปหาสามีของเธอที่ตื่นเช้ากว่าเธอ ทั้ง ๆ ที่ปกติหากตะวันยังไม่ตรงหัว จางเสี่ยวหนิงไม่มีทาตื่นออกมาจากบ้าน....