EP03 ข้อแม้?
สองสัปดาห์ต่อมา...
“กูไปนะ ไว้เจอกันพวกมึง”
“เดี๋ยวก่อนดิยูเมะ!”
มีนเรียกตามหลังเพื่อนตัวเล็กที่พออาจารย์ปล่อยกูพุ่งตัวออกจากคลาสไปเลยสร้างความแปลกใจให้เพื่อนไม่น้อยเพราะหลายวันมานี้ยูเมะมาเรียนแล้วก็รีบกลับไม่ไปต่อหรือไปทานข้าวกับเพื่อนเหมือนแต่ก่อน โจว์กับมีนว่าจะถามก็ไม่มีโอกาสได้ถามสักที
“รีบไปไหนของมันวะ”
“นั่นดิ ใครทำอะไรให้มันโกรธหรือเปล่า” มีนตั้งข้อสงสัยพร้อมกับปรายตาไปมองโจว์
“ไม่ต้องมามองกู ถามไอ้เจนู่นช่วงนี้ไม่เห็นตัวติดกับยูเมะเลยนะ มึงทะเลาะกันหรือเปล่า”
“ไม่มีใครทะเลาะกับมันทั้งนั้นแหละ มันรีบไปทำงานพิเศษ” คนถูกถามยังไม่ทันได้ตอบนีน่าที่รู้สถานการณ์ของยูเมะดีก็ชิงตอบขึ้นซะก่อน
“งานพิเศษ?” เจวาที่เพิ่งรู้ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ก่อนหน้านี้ที่เขาเผลอไปรู้ความลับของยูเมะเข้าจนทะเลาะกันเรียกว่าทะเลาะกันได้มั้ยนะเพราะก็ไม่ได้มีปากเสียงอะไร พอรู้ว่าเพื่อนตัวดีจะถ่ายคลิปกับผู้ชายเขาก็โกรธจนยึดกล้องและอุปกรณ์ที่ยูเมะเรียกมันว่า ‘เครื่องทำเงิน’ มาไว้กับตัวเองไม่ยอมคืนให้จนโดนยูเมะโกรธ
จนถึงตอนนี้เขากับเธอยังไม่คุยกันเลยเพิ่งรู้จากนีน่านี่แหละว่ายูเมะทำงานพิเศษ ที่ช่วงนี้แอบหลับในคลาสทุกครั้งเพราะเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่านะ
“เออ มันต้องรีบหาเงินมาจ่ายค่าเทอมถ้ามันอ๊องๆ ใส่พวกมึงก็อย่าไปดุมันนะ”
“อ่า อีกแค่ไม่กี่เดือนทำงานแค่นี้จะพอหรอวะ มันทำงานที่ไหนเดี๋ยวกูจะไปหามันให้มันยืมเงินกูไปจ่ายก่อนก็ได้” โจว์เตรียมหยิบกุญแจรถแล้วแต่โดนนีน่าห้ามไว้ซะก่อน
“อย่าแม้แต่จะคิดถ้าไม่อยากโดนมันโกรธ มึงคิดว่ากูไม่เสนอตัวช่วยมันหรือไงกูเคยแล้วแต่มันไม่รับ พวกมึงก็น่าจะรู้ว่ายูเมะเป็นคนยังไง”
ความตั้งใจทั้งของโจว์และมีนที่อยากจะช่วยยูเมะเป็นต้องพับเก็บลงเมื่อนึกถึงเรื่องตอนที่พวกเขาเข้ามาเรียนปีหนึ่งได้
อย่างที่รู้กันว่ามหาลัยและคณะที่พวกเขาเรียนอยู่นั้นค่าเทอมแสนจะแพงและค่าใช้จ่ายเยอะสุดๆ กว่าจะจบแต่ละปีหมดไปไม่ต่ำกว่าล้านซึ่งคนที่เข้าเรียนได้แน่นอนว่านอกจากจะเก่งแล้วยังต้องรวยด้วย พวกเขาทั้งสี่คนไม่ได้มีปัญหาอะไรในเรื่องนี้อยู่แล้วเพราะแต่ละคนมาจากครอบครัวที่มีฐานะและตระกูลที่มีชื่อเสียงทั้งนั้นต่างจากยูเมะที่เข้ามาเรียนที่นี่ด้วยตัวเองแบคกราวด์ครอบครัวก็ไม่มีใครรู้จนถูกพวกลูกคุณหนูคุณนายและไฮโซทั้งหลายนินทาหาว่าเธอเข้ามาเกาะเพื่อนกินอยู่บ่อยครั้ง
‘ยัยลูกครึ่งคนนั้นที่เกาะเพื่อนกินน่ะหรอ’
‘ยูเมะไง ยูเมะที่เอาตัวเข้าแลกนอนกับผู้ชายทั้งกลุ่มเพื่อแลกค่าเทอม’
‘อิจฉากลุ่มนั้นสัส มีลูกครึ่งหุ่นเอ็กส์ให้แดกฟรี’
‘ทำไมแก๊งเทพบุตรของเราต้องหลงกลผู้หญิงคนนั้นด้วยนะ นางมีอะไรดี’
‘บังเอิญเจอนางที่ห้าง แกล้งออเซาะอ้อนเจวาจนเขายอมซื้อของให้ ทุเรศ’
‘ไม่มีเงินเรียนก็ลาออกไปมั้ย จะมาอยู่เป็นภาระคนอื่นทำไม’
และอีกมากมาย...
ปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนพูดอะไรแบบนี้กันอยู่จนภาพลักษณ์ของยูเมะกลายเป็นคนแบบนั้นไปแล้วในสายตาของใครหลายๆ คน ทั้งที่มันไม่ใช่ความจริงและยูเมะก็จะไม่มีวันให้มันเป็นจริงด้วย แต่ต่อให้ไม่มีข่าวลือพวกนี้ออกมายูเมะก็ไม่คิดจะยืมเงินใครหรือให้ใครช่วยเหลืออยู่ดี
ก็จริงอย่างที่คนนั้นว่า ‘ไม่มีเงินก็ไม่ต้องเรียน’ ซึ่งคนอย่างยูเมะถ้าให้เลือกระหว่างยืมเงินเพื่อนกับดรอปเรียนเธอก็คงเลือกที่จะดรอป
@ pick me cafe
รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวมาจอดหน้าคาเฟ่สไตล์มินิมอล หลังจากที่ถามจากนีน่าจนรู้ว่ายูเมะทำงานที่ไหนเจวาก็รีบมาหาทันที ร่างสูงลงจากรถก่อนจะเดินเข้าไปกวาดสายตามองหาเพื่อนสนิทที่ไม่ได้คุยกันมาร่วมสัปดาห์ก็เห็นยูเมะกำลังยืนรับออเดอร์จากลูกค้าอยู่
ก่อนหน้านี้นีน่าแอบมาคุยกับเขาแล้วเพราะเธอรู้ว่าเจวารู้เรื่องที่ยูเมะถ่ายคลิปแล้วถึงได้รู้ว่าที่ยูเมะต้องมาทำงานพิเศษจนไม่มีเวลาว่างแบบนี้เป็นเพราะโดนเขายึดกล้องและของที่ต้องใช้ถ่ายคลิปทำให้เธอขาดรายได้จากตรงนั้นทั้งที่ช่วงนี้มันก็น้อยอยู่แล้วพอไม่มีคลิปใหม่ลงคนที่เคยติดตามก็เลิกติดตามและลดลงไปเรื่อยๆ
ทำเอาเจวาแอบรู้สึกผิด ยูเมะจะดื้อกับเขาก็ได้แต่เธอกลับไม่ทำ ไม่โวยวายไม่ถ่ายคลิปตามที่เขาห้ามแล้วก็...
ไม่คุยกับเขาด้วย
ความเงียบน่ากลัวที่สุดเพิ่งเข้าใจก็วันนี้ถ้าเธอโกรธแล้วมาโวยวายใส่กันยังจะดีซะกว่าทำแบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดที่ไปตัดช่องทางทำมาหากินของเธอ
แต่ทำไงได้ ก็เขาเป็นห่วงไม่อยากให้เธอทำแบบนั้นแล้วนี่นา
เจวาย้ายตัวเองไปนั่งบนโต๊ะที่ว่างรอจนยูเมะมารับออเดอร์ ซึ่งพอเจอหน้าเขาเธอก็รีบก้มลงมองกระดาษจดในมือทันที
“รับอะไรดีคะ”
“เลิกงานกี่โมง ไปทานข้าวกัน” เจวาไม่ได้สนใจสิ่งที่คนตัวเล็กถามจนยูเมะต้องกลอกตามองบนกะแล้วว่าต้องอย่างนี้ เจวาน่ะพอรู้ว่าโดนเธอโกรธก็ชอบมาชวนกินข้าวตลอด เสียใจด้วยที่ครั้งนี้มันใช้ไม่ได้ผลเหมือนที่ผ่านมา
“ไม่ไป ถ้าจะมาป่วนก็กลับไปเลยกูจะทำงาน”
“กูถามดีๆ นะยูเมะ”
“เลิกตอนไหนก็ไปกับมึงไม่ได้อยู่ดี กูมีทำงานต่อ”
“ทำงานอะไรอีกวะ”
“ยุ่ง! ไม่สั่งก็กลับไปเลยไป” ร่างบางสะบัดหน้าเดินหนีเขาเข้าไปหลังร้านแล้วให้คนอื่นมารับออเดอร์แทน ถึงอย่างนั้นเจวาก็ยังไม่ถอดใจนั่งรอจนคนตัวเล็กเลิกงานก็ตามเธอไปต่อถึงได้เห็นว่างานที่ต้องทำต่อของยูเมะคืองานอะไร
เป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านเหล้า... ถามจริงเลยนะ
.
.
“ไม่ต้องมาโกรธกูเลยนะยูเมะ กูทำแบบนี้ก็เพื่อมึงทั้งนั้นจะสอบอยู่แล้วมาทำงานแบบนี้จะเอาเวลาที่ไหนอ่านหนังสือ”
เจวากึ่งเดินกึ่งวิ่งตามร่างบางออกจากร้านเหล้าที่ ‘ก่อนหน้านี้’ คือที่ทำงานของยูเมะแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วเพราะเขาให้เธอลาออกและจ่ายค่าเสียเวลาให้เจ้าของร้านไปแล้วเรียบร้อยจนโดนยูเมะโกรธอยู่นี่ไง
“มึงไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ด้วยซ้ำเจวาและที่กูต้องทำแบบนี้ก็เพราะมึงไม่ให้กูถ่ายคลิปแล้วมั้ยวะ!”
“ไม่ได้ถ่ายคลิปแต่ก็ยังเอาตัวเองมาเสี่ยงทำงานดึกๆ แถมยังโดนลวนลามแบบนี้เนี่ยนะ?”
นี่คือสาเหตุที่ทำให้เจวาทนไม่ได้ เขาตามเธอมาก็จริงแต่ก็ทำเพียงแค่นั่งเงียบๆ คอยสังเกตการณ์ในตอนแรกด้วยความเป็นห่วงแต่ยิ่งดึกคนก็ยิ่งเยอะแล้วลูกค้าในร้านมีทั้งดีและไม่ดีซึ่งยูเมะก็เป็นคนที่ดึงดูดคนไม่ดีซะส่วนมาก ชุดยูนิฟอร์มรัดๆ กระโปรงสั้นๆ ที่เห็นสัดส่วนชัดเจนแล้วหุ่นอย่างยูเมะมีหรือที่ผู้ชายจะไม่มอง มองอย่างเดียวเขาจะไม่ว่าเลยแต่นี่มีทั้งจับทั้งลูบแอบแต๊ะอั๋งเพื่อนของเขาจนเขาทนนิ่งเฉยไม่ได้ ไม่ลุกไปซัดหน้าพวกมันก็ดีเท่าไหร่แล้ว
นั่นเป็นสาเหตุที่เขาให้ยูเมะลาออกเพราะทนไม่ได้จริงๆ ที่ต้องเห็นเธอทำงานที่เปลืองตัวและโดนคุกคามขนาดนี้ถ้าเกิดวันหลังมีมากกว่าการแอบแตะตัวจะทำยังไง
“ถ้าไม่ทำแล้วกูจะไปเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเทอม”
“ก็บอกแล้วไงว่ากูจะออกให้ก่อน”
“หยุดพูดคำนี้ได้แล้วเจวามึงก็รู้ว่ายังไงกูก็ไม่รับ”
“แล้วมึงคิดว่าทำงานแค่นี้มันจะพอหรือไง”
“ถ้าไม่พอก็ดรอปไง”
“ดรอป? ดรอปทั้งๆ ที่อีกปีเดียวก็จะเรียนจบแล้วเนี่ยนะ”
“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง ก็มันไม่มีเงินถ้าไม่อยากให้กูทำงานแบบนี้มึงก็คืนของกูมาสิ”
เจวาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจก่อนจะดึงมือคนตัวเล็กให้ตามไปคุยกันในรถเพราะไม่อยากให้ใครมาได้ยินเรื่องที่เราคุยกัน
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ถ้ามึงไม่อยากให้กูช่วยก็คิดซะว่ายืมกูก่อนก็ได้ บอกแล้วไงว่ามีแล้วค่อยคืน”
ยูเมะตวัดหางตามองเพื่อนสนิทที่แสนจะเอาใจด้วยความไม่พอใจ ไม่ว่าจะพูดอีกกี่ครั้งเจวาก็ไม่ยอมเข้าใจสักที
“มึงไม่เข้าใจอะเจ กูตัดสินใจออกมาใช้ชีวิตคนเดียวก็เพราะกูไม่อยากเป็นภาระใครแล้วมึงจะให้กูไปเป็นภาระมึงหรอ มันไม่ใช่หน้าที่อะไรของมึงที่ต้องมาช่วยกูด้วยซ้ำ”
“แต่มึงเป็นเพื่อนกูไง เพื่อนช่วยเพื่อนไม่ได้หรอวะทำไมต้องคิดว่าเป็นภาระ มึงไม่เคยเป็นภาระสำหรับกู”
“ช่วยได้แต่กูไม่รับ”
“มึงก็เป็นแบบนี้อะยู”
ถ้าเขาเอาแต่ใจยูเมะก็เป็นคนที่ดื้อและหยิ่งผยองในตัวเองมากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เขาเคยเจอมาเลยก็ว่าได้ ในสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดนี้ยังไม่คิดแม้แต่จะขอความช่วยเหลือ เขารู้นะว่าที่เธอทำงานแบบนี้ไม่ใช่เพราะต้องการจะหาค่าเทอมอย่างเดียวแต่ต้องการกดดันให้เขาคืนของของเธอเพื่อที่จะเอาไปถ่ายคลิปเพื่อหาเงินจากช่องทางนั้นต่อ
โอเค เขายอมรับว่าที่ทำอยู่มันเป็นการก้าวก่ายเกินไปแต่ถ้าคืนให้เธอก็จะเอาไปถ่ายคลิปแบบนั้นรวมถึงทั้งถ่ายตอนที่มีอะไรกับผู้ชายลงให้คนอื่นดูซึ่งเขายอมไม่ได้จริงๆ
ยังยืนยันคำเดิมว่าเหตุผลที่ทำแบบนี้ก็เพราะเขาเป็นห่วงเธอ คิดดูเถอะโดนเขายึดของตัดช่องทางหารายได้ขนาดนี้ยูเมะยังไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากใครเลย
ดื้อ!
“เปิดประตู กูจะลง” คนตัวเล็กสั่งหลังจากที่ปล่อยให้บรรยากาศในรถเงียบอยู่นาน ตอนนี้ทั้งเขาและเธอต่างคนก็ต่างร้อนถ้าอยู่ด้วยกันต่อก็คงไม่พ้นทะเลาะกันอีกอยู่ดี
“กูจะไปส่ง”
“ไม่ต้องอะ กูไม่อยากเห็นหน้ามึงแล้วเปิดประตูให้กูลงกูจะกลับเอง”
“อยากได้ของคืนไม่ใช่หรอ ไปเอาดิถ้าอยากได้คืนนักกูก็จะคืนให้!”
.
.
สุดท้ายยูเมะก็ยอมนั่งรถมากับเจวาแม้ว่าตอนนี้จะไม่อยากเห็นหน้าเขามากแค่ไหนก็ตามแต่ของของเธอที่เขายึดไปก็ยังอยากได้คืน
ถึงรายได้จากการทำคลิปจะลดลงแต่อย่างน้อยมันก็ยังได้เยอะกว่าการที่เธอไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ได้ค่าแรงชั่วโมงละไม่กี่สิบบาท ทำมาสองสัปดาห์ยังได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์จากการไลฟ์ครั้งก่อนเลยด้วยซ้ำ
ยูเมะเดินตามเจ้าของห้องเข้าไปในคอนโดหรูใจกลางเมืองที่เธอไม่ได้มาเหยียบนานแล้ว คนตัวสูงเดินแยกเข้าไปในห้องนอนปล่อยให้เธอนั่งรออยู่บนโซฟาไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องที่คุ้นตาในมือ
กล่องเก็บความลับของยูเมะที่ตอนนี้ไม่ลับอีกต่อไปแล้ว...
“เอามาดิ” คนตัวเล็กยื่นมือไปตรงหน้าเพื่อขอของเธอคืนแต่เจวากลับเบี่ยงตัวหลบซ่อนของไว้ด้านหลังไม่ยอมส่งมันให้เธอสักที
“กูมีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไรอีก”
“กูจะคืนของให้มึงแต่กูไม่ให้มึงเอาไปถ่ายกับผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น!”
“…”
“ถ้าจะเอาก็มาเอากับกู กูจะเป็นคู่ให้มึงเอง”