ตอนที่ 5 หลงเสน่ห์แม่นักร้องสาว

2192 คำ
          ในรถแท็กซี่เพลงทิสานั่งมองออกไปทางนอกหน้าต่างดูรถหลายคันแล่นสวนกันไปมาและไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกสายตาอันหื่นกระหายมองผ่านกระจกหน้ารถ       ชายหนุ่มเพิ่งดูคลิปวิดีโอสาวสวยที่เพื่อนในกลุ่มไลน์ส่งต่อกันมาจนเกิดความต้องการปลดปล่อยอารมณ์บางอย่าง ยิ่งผู้โดยสารรายนี้เป็นผู้หญิงอีกด้วย ความสวยของเธอทำให้เขาไม่อาจหักห้ามใจได้อีกต่อไป        เพลงทิสารู้เหมือนกำลังถูกจู่โจมด้วยสายตาอันหื่นกระหายจากหนุ่มคนขับรถแท็กซี่ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองชนิดตาไม่กระพริบพอเธอมองตอบสายตาคู่นั้นรีบหลบมองทางข้างหน้า มือบางรีบกระซับเสื้อปกปิด นั่งตัวตรงระวังตัวเองมากขึ้น มองซ้ายมองขวาหาทางหนีรอด       อีกด้านคาร์ลรีฟกำลังขับรถตามมาห่างๆ ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในหัวใจทันทีที่ได้สบตากับแม่นักร้องสาวคนนั้น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองตารถแท็กซี่ขับทิ้งระยะห่างอยู่เบื้องหน้า       จู่ๆความคิดนั่นก็มลายหายไป รถแท็กซี่หักเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูดกระทันหัน     “เฮ้ย” เขาสบถเสียงดัง มือรีบหักพวงมาลัยตามรถแท็กซี่อย่างรวดเร็วไม่รู้ว่าทำไมต้องตามเข้ามา     “บ้าฉิบ ฉันจะเข้าไปทำไม เอ๊ะ หรือว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย”คาร์ลรีฟนั่งบ่นเพียงลำพัง สายตามองรถแท็กซี่ขับเข้าไปจอดในช่องว่างก่อนจะมีพนักงานวิ่งมารูดม่านปิดลง         ชายหนุ่มรีบขับรถตามไปจอดในช่องว่างถัดไป พนักงานตามมาปิดม่านไว้เหมือนลูกค้าคนอื่น       ภายในรถหญิงสาวนั่งหน้าตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก ทันทีถูกพาเข้าโรงแรม รถจอดนิ่งสนิทหนุ่มขับรถแท็กซี่หันมองสายตาหื่นกระหาย ความหวาดกลัวกำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจอีกครั้ง อดีตอันเลวร้ายกำลังหวนกลับมาเล่นงาน       เพลงทิสาหวาดกลัวควบคุมสติ เอาไว้ไม่อยู่ ร้องโวยวายเสียงดังลั่น       “แกจะทำอะไร ช่วยด้วย ช่วยด้วย อย่าๆ อย่าเข้ามา ออกไป ออกไป”    เพลงทิสาดิ้นพล่านมือบางรีบเปิดประตูจะลงจากรถ       หนุ่มขับรถแท็กซี่รีบข้ามไปยังด้านหลังเบาะ มือหนาดึงร่างบางกดลงนอนลงบนเบาะหลัง ความคับ   แคบกลับทำให้ชายหนุ่มทำอะไรไม่ถนัด       “อย่าดิ้น ฉันทนไม่ไหวแล้วแม่สาวน้อย ขอเถอะนะ” น้ำเสียงหื่นกระหายออกปากขออย่างหน้าด้านๆ แววตาช่างน่ากลัวเหลือเกิน ดวงตาคู่นั่นช่างไม่ต่างอะไรกับซาตานร้ายในอดีตนั่นเลย     “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย”  เพลงทิสาดิ้นสุดแรงเกิด เสียงร้องตะโกนดังลั่น เรียกหาคนเข้ามาช่วย  คาร์ลรีฟได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือรีบวิ่งพรวดพราดเข้ามา       ชายคนขับรถแท็กซี่รีบปลดกระดุมเสื้ออย่างรวดเร็ว ร่างบางดิ้นรน ภายในรถคับแคบ จนทำอะไรไม่ถนัด ความหงุดหงิดบังเกิดขึ้น กำปั้นใหญ่ชกท้องเต็มแรง       อั๊ก       เพลงทิสานอนจุกจนหมดสติ เขารีบอุ้มร่างหญิงสาวออกจากรถมุ่งตรงเข้าไปในห้อง       อยู่ๆก็โดนหมัดใหญ่ไม่รู้ทิศทางกระทบลงบนใบหน้าเต็มแรง ชายขับรถแท็กซี่ทรงตัวไม่อยู่ล้มลงพร้อมกับร่างบางของเพลงทิสา     คาร์ลรีฟตามมากระทืบหนุ่มหื่นซ้ำไม่มีทีท่าจะหยุด จนหนุ่มหื่นร้องหวาดกลัวรีบยกมือไหว้ขอร้องชีวิต     “ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนนี้แล้ว” เขายกมือไหว้สั่นเทาตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำเลือดดำเขียว ตามเนื้อตัวมีแต่รอยเท้าเต็มไปหมด     “ไปซะ แล้วอย่าทำแบบนี้อีก”   คาร์ลรีฟตวาดเสียงดังลั่น เขาปล่อยตัวหนุ่มหื่นอย่างรวดเร็ว รถแท็กซี่รีบถอยรถออกจากโรงแรมไป           ทันทีรถแท็กซี่ ขับรถออกไปแล้ว   เขารีบตรงเข้าไปหาหญิงสาวนอนหมดสติอยู่กับพื้น  เขาเองไม่รู้จะทำยังไงตัดสินใจอุ้มร่างบางเข้าไปพักในห้องของเขาที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้       เพลงทิสานอนอยู่บนเตียงในโรงแรม ภายในห้องเต็มไปด้วยกระจกเงาทั้งสี่ด้าน คาร์ลรีฟนั่งลงเคียงข้างหญิงสาว สายตากวาดมองทั่วตัวความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในหัวใจ       ความปรารถนาอยากครอบครองหญิงสาวเกิดขึ้นในหัวใจยิ่งเห็นผิวขาวเนียนใบหน้าสวยหวานนอนหลับตาพริ้มชวนให้เขาอยากสัมผัส แต่เขาเลือกที่จะหักห้ามใจรอจนกว่าหญิงสาวฟื้นคืนสติ       ชายหนุ่มแห่งตะวันออกกลางนั่งมองเพลงทิสาอย่างกระวนกระวายเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบครึ่งชั่วโมง ทำไมเธอยังไม่ได้สติชะที มือหนาเอื้อมมากุมมือบางมองอย่างเป็นห่วง       ดวงหน้าสวยหวานช่างเย้ายวนชวนหลงใหลเหลือเกิน ชายหนุ่มอดรนทนใจไม่ไหว ก้มหน้าลงเข้าใกล้แก้มเนียนปลายจมูกโด่งสัมผัสผิวแก้มใสกลิ่นหอมติดจมูก       ริมฝีปากหยักได้รูปลงมาทาบทับริมฝีปากบางความหวานละมุนละไมบนริมฝีปากกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างภายในกายลุกโซนจนอยากจะทำมากกว่าสัมผัสภายนอก       “ฉันทนไม่ไหวแล้ว เธอสวยเหลือเกิน” คาร์ลรีฟกระซิบข้างใบหูของเพลงทิสาที่ยังนอนหลับใหลไม่ได้สติ ตอนนี้ลำตัวหนาคร่อมทับร่างบางเอาไว้        ใบหน้าคมเข้มก้มลงซุกไซ้ซอกคอขาวเนียนสูดดมความหอม เพลงทิสาเริ่มได้สติ รู้สึกถึงความหนักหน่วงบนกาย เปลือกตาสวยขยับลืมตาขึ้นเห็นไหล่หนา แล้วกำลังถูกซุกไซร้ซอกคอ       พอได้สติกลับคืนมาหญิงสาวรีบลำดับเหตุการณ์ เธอกำลังถูกข่มขืนจากคนขับรถแท็กซี่คนนั้น     “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปล่อย ปล่อย”เพลงทิสาอ้าปากกรีดร้องเสียงดังลั่นราวกับคนเสียสติ         ร่างบางออกแรงดิ้นรนตามสัญชาติญาณป้องกันตัว มือไม้ปัดป้อง ไปมาสะเปะสะปะคาร์ลรีฟตกใจเสียงร้องดังร่างสูงรีบผละออกจากร่างบางรีบลงจากเตียง       “แกจะทำอะไรฉันนี่แกไม่ใช่….” เพลงทิสารีบยันกายถลาลงจากเตียงและยืนตรงข้ามก่อนจะชะงักลงว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนขับรถแท็กซี่       “ใช่ ฉันไม่ใช่คนขับรถแท็กซี่คนนั้นหรอก  คือ…ว่า….” คาร์ลรัฟปฎิเสธทันควันแล้วทำไมถึงพูดไม่ออกละแล้วไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดีเพราะไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเองแท้ๆ       “คุณมันก็ผู้ชายฉวยโอกาส  ช่วยด้วย ช่วยด้วย” หญิงสาวไม่รอฟังคำตอบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือร่างสูงตกใจรีบวิ่งก้าวข้ามเตียงปะทะกับร่างบาง       “นี่ เธอ ใจเย็นๆก่อนได้ไหม ฟังฉันอธิบายก่อน”     “ไม่ฟัง หลีกไปฉันจะกลับบ้าน”   มือบางผลักอกแกร่งออกพ้นทางแต่ร่างสูงไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด     “นี่ หลีกไปสิ” เธอตะโกนซ้ำ     “ฉันไม่หลีก เธอจะต้องฟังฉันอธิบายก่อน”       คาร์ลรีฟไม่ยอมหลีกทางให้ ร่างสูงเดินเข้าใกล้หญิงสาวจนเธอต้องเป็นฝ่ายเดินถอยหลัง จนขาชิดขอบเตียง ร่างบางทรงตัวไม่อยู่ก่อนจะล้มลงมือบางคว้าคอเสื้อของคาร์ลรีฟยึดไว้จนหงายหลังล้มลงไปบนเตียงด้วยกัน       ใบหน้าของเขาห่างจากใบหน้าหวานแค่คืบ ร่างหนากำลังคร่อมทับร่างหญิงสาวอยู่ด้านบนด้วยความใกล้ชิดและอดใจไม่ไหวตั้งแต่ได้สบตากับแม่นักร้องสาวความปรารถนาบนตัวหญิงสาวก็เกิดขึ้น       “เธอสวยเหลือเกิน ฉันหลงเสน่ห์เธอชะแล้ว แม่นักร้องสาว” คาร์ลรีฟเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนฝ่ามือหนาพยายามสอดนิ้วประสานลงบนฝ่ามือบาง       เพลงทิสามองหน้าชายหนุ่มสไตล์แขกอย่างพินิจใช่แล้วเขาคือคนที่จ้องมองเธอตอนร้องเพลงเธอจำได้ขึ้นใจเลยไม่ว่าจะเคลื่อนตัวไปทางไหน สายตาของเขาตามติดไปทุกที่        เพลงทิสาจะรู้สึกดีมากกว่านี้ถ้าหากเขาไม่ฉวยโอกาสลวนลามเธอก่อน     “คุณช่วยฉันจากคนขับรถแท็กซี่เหรอค่ะ” เพลงทิสาปรับน้ำเสียงอ่อนโยนถามหนุ่มหน้าแขก       “ใช่ ฉันหลงเสน่ห์เธอ ฉันอยากรู้จักกับเธอไง แม่สาวน้อย ฉันชอบเสียงร้องของเธอ เธออยากได้เท่าไหร่ละ” น้ำเสียงอ่อนโยนตอบหญิงสาว แต่ความต้องการในกายกลับมีมากกว่าจนพลั้งปากคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงหาเงินในคราบนักร้องสาวพราวเสน่ห์       “คุณว่าไงนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่า คุณกำลังเข้าใจผิด ปล่อยเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน”   คำกล่าวหาจากชายหนุ่มมองว่าเป็นนักร้องขายตัวเพื่อแลกกับเงิน การกระทำเขามันไม่ต่างอะไรกับคนขับแท็กซี่นั่นเลย เธอมันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ       “อย่าสำออยเลย ค่าตัวเธอเท่าไหร่ว่ามา ฉันยินดีจ่ายให้” คำดูถูกออกจากปากชายหนุ่มอย่างไม่เลิกราเพราะเขาต้องการอะไรแล้วจะต้องได้ แค่ใช้เงินเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น พอได้เงินต่างก็มอบตัวให้กับเขาทั้งนั้น       “อย่ามาดูถูกคนอย่างฉันนะ ฉันไม่ใช่นักร้องในโรงแรมนั้น ฉะนั้นฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คุณคิด” เพลงทิสาดิ้นขลุกขลักอยู่ภายใต้ร่างหนา น้ำตาค่อยไหลอาบแก้ม ความกลัวในอดีตกำลังจะย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง               “ร้องไห้ทำไม กลัวอย่างงั้นเหรอ อย่าเล่นตัวหน่อยเลย ผู้หญิงคนอื่น ต่างก็ยอมตกเป็นของฉันทั้งนั้น” พูดเสร็จใบหน้าคมเข้มก้มลงซุกไซร้ซอกคอหญิงสาว       ร่างหนาบดทับร่างบาง ไม่ให้ดิ้นรนขัดขืน ความต้องการตัวหญิงสาวมันทำให้เขาลืมความถูกต้องไปชั่วขณะกลับกลายเป็น เขาใช้กำลังข่มเหงผู้หญิงไม่มีทางสู้       “ปล่อยฉันนะ ปล่อย ฮื่อๆ ฮื่อๆ ปล่อยยยยยยยย” เสียงร้องไห้หวาดกลัวดังขึ้นร่างกายกำลังถูกจู่โจมจากชายแปลกหน้า       คาร์ลรีฟก้มจูบทั่วใบหน้าสวยหวาน เลื่อนลงมาบนริมฝีปากบางสวย เสียงร้องเหือดหายเข้าไปในลำคอ ปลายลิ้นหนาดันเข้าสำรวจภายในโพรงปากสำรวจหาความหวาน       “อื่อ อื่อ อ่อยอั๋น(ปล่อยฉัน)”       เสียงร้องดังอู๋อี๋ฟังไม่ได้ศัพท์ดังขึ้น ร่างบางสั่นเทาหวาดกลัว ภาพในอดีตกำลังตามมาหลอกหลอน ความกลัวในใจถูกปะทุขึ้นมาจนเกินขีดจำกัด           สติของเพลงทิสาที่พอหลงเหลืออยู่รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายดิ้นสุดแรงข้อมือเล็กหลุดจากฝ่ามือหนามือทั้งสองข้างดันอกแกร่ง คาร์ลรีฟไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงหงายท้องตกเตียง       เพลงทิสาลุกนั่งบนเตียงกอดเข่าตัวเอง ร่างกายสั่นเหมือนลูกนก สายตากวาดมองไปทั่วหวาดระแวง น้ำตารินไหลอาบแก้มเหมือนคนกำลังหวาดกลัวเสียสติ       เหตุการณ์วันนั้นทันทีที่เพลงทิสาได้สติเธอก็กรีดร้องหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา บาดแผลตรงส่วนนั้นที่ซาตานร้ายมอบให้เปรียบเป็นรอยมลทินฝังลึกอยู่ในใจจนถึงทุกวันนี้        ความเจ็บในวันนั้นเธอกำลังจะทำใจได้อยู่แล้ว แต่เขาก็เป็นฝ่ายเข้ามาสะกิดแผลในใจให้เจ็บปวดมากกว่าเดิม       “ฮื่อๆ ฮื่อๆ ฮื่อๆ ฉันเกลียดแก ฉันเกลียดแก” หญิงสาวแผดเสียงด่าทอคาร์ลรีฟอย่างบ้าคลั่ง นั่งตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกสติสตังค์หายไปหมดภาพเหล่านั้นย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง       “เธอเป็นอะไรไป” เขาลุกขึ้นยืนเต็มตัวสูงยืนมองหญิงสาวนั่งร้องไห้ ไม่หลงเหลือมาดนักร้องสาวพราวเสน่ห์นั่นเลย แต่แล้วความรู้สึกผิดหลั่งไหลเข้ามาในจิตใต้สำนึก  คิดได้ดังนั้นเขาก็ใช้กำปันชกเข้าที่ใบหน้าตัวเองเต็มแรง เพราะความหลงเสน่ห์ในตัวหล่อนแท้ๆจนทำสิ่งน่าอายสำหรับตัวเขาเหลือเกิน       ที่ผ่านมาเขาไม่เคยใช้กำลังบังคับผู้หญิงเลย มีแต่ผู้หญิงมาเสนอตัวให้ทั้งนั้น แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้เขากลับต้องการมากเหลือเกินจนเผลอใช้กำลังข่มเหง คำถามต่างเข้าสู่ความคิดจนตัวเขาทำอะไรไม่ถูก       คาร์ลรีฟนั่งลงเคียงข้างเพลงทิสา หญิงสาวรีบเขยิบหนีออกห่าง       “ฉันขอโทษ” น้ำเสียงแห่งความรู้สึกผิดเอ่ยขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแววตาสีน้ำตาลอ่อนทอดมองหญิงสาวนั่งร้องไห้อย่างรู้สึกผิด       ลำแขนแข็งแกร่งโอบกอดร่างบางไว้อยากให้เธอรับรู้ถึงความผิดที่พลั้งมือกระทำลงไป       “ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆนะ”               “ฮื่อๆ ฮื่อๆ ปล่อยฉัน” เพลงทิสาดิ้นอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง ลึกๆกลับรับรู้สึกถึงความอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงยังไงเธอก็หวาดระแวงในตัวเขาอยู่ดี       คาร์ลรีฟกระซับอ้อมแขนแน่น เขาเองก็รู้สึกผิดจนไม่น่าให้อภัยที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้       เขาอยากรู้จักเพลงทิสาให้มากกว่านี้ผู้หญิงคนนี้ช่างน่าค้นหายิ่งนัก ยิ่งเห็นเธอร้องไห้ เขาก็อยากปกป้องดูแล ถ้าเป็นไปได้อยากจะขอดูแลตลอดไป       “เอาละ ฉันจะพาเธอไปส่งที่บ้านนะ ได้โปรด…….”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม