ในรถแท็กซี่เพลงทิสานั่งมองออกไปทางนอกหน้าต่างดูรถหลายคันแล่นสวนกันไปมาและไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกสายตาอันหื่นกระหายมองผ่านกระจกหน้ารถ
ชายหนุ่มเพิ่งดูคลิปวิดีโอสาวสวยที่เพื่อนในกลุ่มไลน์ส่งต่อกันมาจนเกิดความต้องการปลดปล่อยอารมณ์บางอย่าง ยิ่งผู้โดยสารรายนี้เป็นผู้หญิงอีกด้วย ความสวยของเธอทำให้เขาไม่อาจหักห้ามใจได้อีกต่อไป
เพลงทิสารู้เหมือนกำลังถูกจู่โจมด้วยสายตาอันหื่นกระหายจากหนุ่มคนขับรถแท็กซี่ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองชนิดตาไม่กระพริบพอเธอมองตอบสายตาคู่นั้นรีบหลบมองทางข้างหน้า มือบางรีบกระซับเสื้อปกปิด นั่งตัวตรงระวังตัวเองมากขึ้น มองซ้ายมองขวาหาทางหนีรอด
อีกด้านคาร์ลรีฟกำลังขับรถตามมาห่างๆ ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในหัวใจทันทีที่ได้สบตากับแม่นักร้องสาวคนนั้น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองตารถแท็กซี่ขับทิ้งระยะห่างอยู่เบื้องหน้า
จู่ๆความคิดนั่นก็มลายหายไป รถแท็กซี่หักเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูดกระทันหัน
“เฮ้ย” เขาสบถเสียงดัง มือรีบหักพวงมาลัยตามรถแท็กซี่อย่างรวดเร็วไม่รู้ว่าทำไมต้องตามเข้ามา
“บ้าฉิบ ฉันจะเข้าไปทำไม เอ๊ะ หรือว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย”คาร์ลรีฟนั่งบ่นเพียงลำพัง สายตามองรถแท็กซี่ขับเข้าไปจอดในช่องว่างก่อนจะมีพนักงานวิ่งมารูดม่านปิดลง
ชายหนุ่มรีบขับรถตามไปจอดในช่องว่างถัดไป พนักงานตามมาปิดม่านไว้เหมือนลูกค้าคนอื่น
ภายในรถหญิงสาวนั่งหน้าตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก ทันทีถูกพาเข้าโรงแรม รถจอดนิ่งสนิทหนุ่มขับรถแท็กซี่หันมองสายตาหื่นกระหาย ความหวาดกลัวกำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจอีกครั้ง อดีตอันเลวร้ายกำลังหวนกลับมาเล่นงาน
เพลงทิสาหวาดกลัวควบคุมสติ เอาไว้ไม่อยู่ ร้องโวยวายเสียงดังลั่น
“แกจะทำอะไร ช่วยด้วย ช่วยด้วย อย่าๆ อย่าเข้ามา ออกไป ออกไป” เพลงทิสาดิ้นพล่านมือบางรีบเปิดประตูจะลงจากรถ
หนุ่มขับรถแท็กซี่รีบข้ามไปยังด้านหลังเบาะ มือหนาดึงร่างบางกดลงนอนลงบนเบาะหลัง ความคับ แคบกลับทำให้ชายหนุ่มทำอะไรไม่ถนัด
“อย่าดิ้น ฉันทนไม่ไหวแล้วแม่สาวน้อย ขอเถอะนะ” น้ำเสียงหื่นกระหายออกปากขออย่างหน้าด้านๆ แววตาช่างน่ากลัวเหลือเกิน ดวงตาคู่นั่นช่างไม่ต่างอะไรกับซาตานร้ายในอดีตนั่นเลย
“ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เพลงทิสาดิ้นสุดแรงเกิด เสียงร้องตะโกนดังลั่น เรียกหาคนเข้ามาช่วย คาร์ลรีฟได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือรีบวิ่งพรวดพราดเข้ามา
ชายคนขับรถแท็กซี่รีบปลดกระดุมเสื้ออย่างรวดเร็ว ร่างบางดิ้นรน ภายในรถคับแคบ จนทำอะไรไม่ถนัด ความหงุดหงิดบังเกิดขึ้น กำปั้นใหญ่ชกท้องเต็มแรง
อั๊ก
เพลงทิสานอนจุกจนหมดสติ เขารีบอุ้มร่างหญิงสาวออกจากรถมุ่งตรงเข้าไปในห้อง
อยู่ๆก็โดนหมัดใหญ่ไม่รู้ทิศทางกระทบลงบนใบหน้าเต็มแรง ชายขับรถแท็กซี่ทรงตัวไม่อยู่ล้มลงพร้อมกับร่างบางของเพลงทิสา
คาร์ลรีฟตามมากระทืบหนุ่มหื่นซ้ำไม่มีทีท่าจะหยุด จนหนุ่มหื่นร้องหวาดกลัวรีบยกมือไหว้ขอร้องชีวิต
“ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนนี้แล้ว” เขายกมือไหว้สั่นเทาตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำเลือดดำเขียว ตามเนื้อตัวมีแต่รอยเท้าเต็มไปหมด
“ไปซะ แล้วอย่าทำแบบนี้อีก” คาร์ลรีฟตวาดเสียงดังลั่น เขาปล่อยตัวหนุ่มหื่นอย่างรวดเร็ว รถแท็กซี่รีบถอยรถออกจากโรงแรมไป
ทันทีรถแท็กซี่ ขับรถออกไปแล้ว เขารีบตรงเข้าไปหาหญิงสาวนอนหมดสติอยู่กับพื้น เขาเองไม่รู้จะทำยังไงตัดสินใจอุ้มร่างบางเข้าไปพักในห้องของเขาที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้
เพลงทิสานอนอยู่บนเตียงในโรงแรม ภายในห้องเต็มไปด้วยกระจกเงาทั้งสี่ด้าน คาร์ลรีฟนั่งลงเคียงข้างหญิงสาว สายตากวาดมองทั่วตัวความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในหัวใจ
ความปรารถนาอยากครอบครองหญิงสาวเกิดขึ้นในหัวใจยิ่งเห็นผิวขาวเนียนใบหน้าสวยหวานนอนหลับตาพริ้มชวนให้เขาอยากสัมผัส แต่เขาเลือกที่จะหักห้ามใจรอจนกว่าหญิงสาวฟื้นคืนสติ
ชายหนุ่มแห่งตะวันออกกลางนั่งมองเพลงทิสาอย่างกระวนกระวายเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบครึ่งชั่วโมง ทำไมเธอยังไม่ได้สติชะที มือหนาเอื้อมมากุมมือบางมองอย่างเป็นห่วง
ดวงหน้าสวยหวานช่างเย้ายวนชวนหลงใหลเหลือเกิน ชายหนุ่มอดรนทนใจไม่ไหว ก้มหน้าลงเข้าใกล้แก้มเนียนปลายจมูกโด่งสัมผัสผิวแก้มใสกลิ่นหอมติดจมูก
ริมฝีปากหยักได้รูปลงมาทาบทับริมฝีปากบางความหวานละมุนละไมบนริมฝีปากกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างภายในกายลุกโซนจนอยากจะทำมากกว่าสัมผัสภายนอก
“ฉันทนไม่ไหวแล้ว เธอสวยเหลือเกิน” คาร์ลรีฟกระซิบข้างใบหูของเพลงทิสาที่ยังนอนหลับใหลไม่ได้สติ ตอนนี้ลำตัวหนาคร่อมทับร่างบางเอาไว้
ใบหน้าคมเข้มก้มลงซุกไซ้ซอกคอขาวเนียนสูดดมความหอม เพลงทิสาเริ่มได้สติ รู้สึกถึงความหนักหน่วงบนกาย เปลือกตาสวยขยับลืมตาขึ้นเห็นไหล่หนา แล้วกำลังถูกซุกไซร้ซอกคอ
พอได้สติกลับคืนมาหญิงสาวรีบลำดับเหตุการณ์ เธอกำลังถูกข่มขืนจากคนขับรถแท็กซี่คนนั้น
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปล่อย ปล่อย”เพลงทิสาอ้าปากกรีดร้องเสียงดังลั่นราวกับคนเสียสติ
ร่างบางออกแรงดิ้นรนตามสัญชาติญาณป้องกันตัว มือไม้ปัดป้อง ไปมาสะเปะสะปะคาร์ลรีฟตกใจเสียงร้องดังร่างสูงรีบผละออกจากร่างบางรีบลงจากเตียง
“แกจะทำอะไรฉันนี่แกไม่ใช่….” เพลงทิสารีบยันกายถลาลงจากเตียงและยืนตรงข้ามก่อนจะชะงักลงว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนขับรถแท็กซี่
“ใช่ ฉันไม่ใช่คนขับรถแท็กซี่คนนั้นหรอก คือ…ว่า….” คาร์ลรัฟปฎิเสธทันควันแล้วทำไมถึงพูดไม่ออกละแล้วไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดีเพราะไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเองแท้ๆ
“คุณมันก็ผู้ชายฉวยโอกาส ช่วยด้วย ช่วยด้วย” หญิงสาวไม่รอฟังคำตอบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือร่างสูงตกใจรีบวิ่งก้าวข้ามเตียงปะทะกับร่างบาง
“นี่ เธอ ใจเย็นๆก่อนได้ไหม ฟังฉันอธิบายก่อน”
“ไม่ฟัง หลีกไปฉันจะกลับบ้าน” มือบางผลักอกแกร่งออกพ้นทางแต่ร่างสูงไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด
“นี่ หลีกไปสิ” เธอตะโกนซ้ำ
“ฉันไม่หลีก เธอจะต้องฟังฉันอธิบายก่อน”
คาร์ลรีฟไม่ยอมหลีกทางให้ ร่างสูงเดินเข้าใกล้หญิงสาวจนเธอต้องเป็นฝ่ายเดินถอยหลัง จนขาชิดขอบเตียง ร่างบางทรงตัวไม่อยู่ก่อนจะล้มลงมือบางคว้าคอเสื้อของคาร์ลรีฟยึดไว้จนหงายหลังล้มลงไปบนเตียงด้วยกัน
ใบหน้าของเขาห่างจากใบหน้าหวานแค่คืบ ร่างหนากำลังคร่อมทับร่างหญิงสาวอยู่ด้านบนด้วยความใกล้ชิดและอดใจไม่ไหวตั้งแต่ได้สบตากับแม่นักร้องสาวความปรารถนาบนตัวหญิงสาวก็เกิดขึ้น
“เธอสวยเหลือเกิน ฉันหลงเสน่ห์เธอชะแล้ว แม่นักร้องสาว” คาร์ลรีฟเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนฝ่ามือหนาพยายามสอดนิ้วประสานลงบนฝ่ามือบาง
เพลงทิสามองหน้าชายหนุ่มสไตล์แขกอย่างพินิจใช่แล้วเขาคือคนที่จ้องมองเธอตอนร้องเพลงเธอจำได้ขึ้นใจเลยไม่ว่าจะเคลื่อนตัวไปทางไหน สายตาของเขาตามติดไปทุกที่
เพลงทิสาจะรู้สึกดีมากกว่านี้ถ้าหากเขาไม่ฉวยโอกาสลวนลามเธอก่อน
“คุณช่วยฉันจากคนขับรถแท็กซี่เหรอค่ะ” เพลงทิสาปรับน้ำเสียงอ่อนโยนถามหนุ่มหน้าแขก
“ใช่ ฉันหลงเสน่ห์เธอ ฉันอยากรู้จักกับเธอไง แม่สาวน้อย ฉันชอบเสียงร้องของเธอ เธออยากได้เท่าไหร่ละ” น้ำเสียงอ่อนโยนตอบหญิงสาว แต่ความต้องการในกายกลับมีมากกว่าจนพลั้งปากคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงหาเงินในคราบนักร้องสาวพราวเสน่ห์
“คุณว่าไงนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่า คุณกำลังเข้าใจผิด ปล่อยเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน” คำกล่าวหาจากชายหนุ่มมองว่าเป็นนักร้องขายตัวเพื่อแลกกับเงิน การกระทำเขามันไม่ต่างอะไรกับคนขับแท็กซี่นั่นเลย เธอมันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ
“อย่าสำออยเลย ค่าตัวเธอเท่าไหร่ว่ามา ฉันยินดีจ่ายให้” คำดูถูกออกจากปากชายหนุ่มอย่างไม่เลิกราเพราะเขาต้องการอะไรแล้วจะต้องได้ แค่ใช้เงินเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น พอได้เงินต่างก็มอบตัวให้กับเขาทั้งนั้น
“อย่ามาดูถูกคนอย่างฉันนะ ฉันไม่ใช่นักร้องในโรงแรมนั้น ฉะนั้นฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คุณคิด” เพลงทิสาดิ้นขลุกขลักอยู่ภายใต้ร่างหนา น้ำตาค่อยไหลอาบแก้ม ความกลัวในอดีตกำลังจะย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง
“ร้องไห้ทำไม กลัวอย่างงั้นเหรอ อย่าเล่นตัวหน่อยเลย ผู้หญิงคนอื่น ต่างก็ยอมตกเป็นของฉันทั้งนั้น” พูดเสร็จใบหน้าคมเข้มก้มลงซุกไซร้ซอกคอหญิงสาว
ร่างหนาบดทับร่างบาง ไม่ให้ดิ้นรนขัดขืน ความต้องการตัวหญิงสาวมันทำให้เขาลืมความถูกต้องไปชั่วขณะกลับกลายเป็น เขาใช้กำลังข่มเหงผู้หญิงไม่มีทางสู้
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย ฮื่อๆ ฮื่อๆ ปล่อยยยยยยยย” เสียงร้องไห้หวาดกลัวดังขึ้นร่างกายกำลังถูกจู่โจมจากชายแปลกหน้า
คาร์ลรีฟก้มจูบทั่วใบหน้าสวยหวาน เลื่อนลงมาบนริมฝีปากบางสวย เสียงร้องเหือดหายเข้าไปในลำคอ ปลายลิ้นหนาดันเข้าสำรวจภายในโพรงปากสำรวจหาความหวาน
“อื่อ อื่อ อ่อยอั๋น(ปล่อยฉัน)”
เสียงร้องดังอู๋อี๋ฟังไม่ได้ศัพท์ดังขึ้น ร่างบางสั่นเทาหวาดกลัว ภาพในอดีตกำลังตามมาหลอกหลอน ความกลัวในใจถูกปะทุขึ้นมาจนเกินขีดจำกัด
สติของเพลงทิสาที่พอหลงเหลืออยู่รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายดิ้นสุดแรงข้อมือเล็กหลุดจากฝ่ามือหนามือทั้งสองข้างดันอกแกร่ง คาร์ลรีฟไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงหงายท้องตกเตียง
เพลงทิสาลุกนั่งบนเตียงกอดเข่าตัวเอง ร่างกายสั่นเหมือนลูกนก สายตากวาดมองไปทั่วหวาดระแวง น้ำตารินไหลอาบแก้มเหมือนคนกำลังหวาดกลัวเสียสติ
เหตุการณ์วันนั้นทันทีที่เพลงทิสาได้สติเธอก็กรีดร้องหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา บาดแผลตรงส่วนนั้นที่ซาตานร้ายมอบให้เปรียบเป็นรอยมลทินฝังลึกอยู่ในใจจนถึงทุกวันนี้
ความเจ็บในวันนั้นเธอกำลังจะทำใจได้อยู่แล้ว แต่เขาก็เป็นฝ่ายเข้ามาสะกิดแผลในใจให้เจ็บปวดมากกว่าเดิม
“ฮื่อๆ ฮื่อๆ ฮื่อๆ ฉันเกลียดแก ฉันเกลียดแก” หญิงสาวแผดเสียงด่าทอคาร์ลรีฟอย่างบ้าคลั่ง นั่งตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกสติสตังค์หายไปหมดภาพเหล่านั้นย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง
“เธอเป็นอะไรไป” เขาลุกขึ้นยืนเต็มตัวสูงยืนมองหญิงสาวนั่งร้องไห้ ไม่หลงเหลือมาดนักร้องสาวพราวเสน่ห์นั่นเลย แต่แล้วความรู้สึกผิดหลั่งไหลเข้ามาในจิตใต้สำนึก คิดได้ดังนั้นเขาก็ใช้กำปันชกเข้าที่ใบหน้าตัวเองเต็มแรง เพราะความหลงเสน่ห์ในตัวหล่อนแท้ๆจนทำสิ่งน่าอายสำหรับตัวเขาเหลือเกิน
ที่ผ่านมาเขาไม่เคยใช้กำลังบังคับผู้หญิงเลย มีแต่ผู้หญิงมาเสนอตัวให้ทั้งนั้น แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้เขากลับต้องการมากเหลือเกินจนเผลอใช้กำลังข่มเหง คำถามต่างเข้าสู่ความคิดจนตัวเขาทำอะไรไม่ถูก
คาร์ลรีฟนั่งลงเคียงข้างเพลงทิสา หญิงสาวรีบเขยิบหนีออกห่าง
“ฉันขอโทษ” น้ำเสียงแห่งความรู้สึกผิดเอ่ยขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแววตาสีน้ำตาลอ่อนทอดมองหญิงสาวนั่งร้องไห้อย่างรู้สึกผิด
ลำแขนแข็งแกร่งโอบกอดร่างบางไว้อยากให้เธอรับรู้ถึงความผิดที่พลั้งมือกระทำลงไป
“ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆนะ”
“ฮื่อๆ ฮื่อๆ ปล่อยฉัน” เพลงทิสาดิ้นอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง ลึกๆกลับรับรู้สึกถึงความอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงยังไงเธอก็หวาดระแวงในตัวเขาอยู่ดี
คาร์ลรีฟกระซับอ้อมแขนแน่น เขาเองก็รู้สึกผิดจนไม่น่าให้อภัยที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้
เขาอยากรู้จักเพลงทิสาให้มากกว่านี้ผู้หญิงคนนี้ช่างน่าค้นหายิ่งนัก ยิ่งเห็นเธอร้องไห้ เขาก็อยากปกป้องดูแล ถ้าเป็นไปได้อยากจะขอดูแลตลอดไป
“เอาละ ฉันจะพาเธอไปส่งที่บ้านนะ ได้โปรด…….”