หลังปล่อยให้ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านสงบลง ครามลุกขึ้นจากที่นอน เขาเดินไปหยิบผ้าขาวม้าที่พาดอยู่ข้างฝามาสวมแทนกางเกง ก่อนจะเดินไปที่ครัวเล็กๆ ที่อยู่ในกระท่อม เขาคุ้นเคยกับความมืดในครัวเป็นอย่างดี
เขาจุดไฟในเตาถ่านที่ก่อเอาไว้แล้ว ค่อยๆ ใช้ปากเป่าเบาๆ ให้เปลวไฟลุกโชนขึ้นมาอย่างช้าๆ แสงสีส้มอ่อนๆ จากกองไฟส่องกระทบใบหน้าของเขาจนดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
ครามหยิบหม้ออะลูมิเนียมเก่าๆ ขึ้นมา แล้วเทข้าวสารลงไปในหม้อ ก่อนจะตักน้ำจากตุ่มมารินใส่แล้วนำไปตั้งบนเตา เขาใช้ทัพพีคนข้าวไปมาเล็กน้อย แล้วปิดฝา รอให้ข้าวสุก จากนั้นก็เดินไปที่ขยุ้มเก็บผักเล็กๆ ข้างกระท่อม ครามเด็ดผักบุ้งจีนสดๆ ขึ้นมาหนึ่งกำมือ แล้วนำไปล้างในขัน ก่อนจะหั่นพอประมาณ
เมื่อข้าวเริ่มเดือด ครามก็เดินกลับมาที่เตา หยิบกระทะเล็กๆ อีกใบมาตั้ง แล้วใส่น้ำมันหมูลงไปเล็กน้อยตามด้วยกระเทียมที่บุบไว้แล้ว เมื่อกระเทียมเริ่มส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ครามก็ใส่ผักบุ้งที่หั่นไว้ลงไปผัดอย่างรวดเร็ว ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย ผัดให้เข้ากันแล้วตักใส่จาน
เพียงไม่นาน อาหารเย็นมื้อเล็กๆ ของเขาก็พร้อม ข้าวสวยร้อนๆ กับผัดผักบุ้งไฟแดงที่ส่งกลิ่นหอมฉุย เพียงแค่นี้ก็เพียงพอสำหรับชายหนุ่มชาวนาที่ทำงานหนักมาทั้งวันแล้ว
ในขณะที่ครามกำลังนั่งกินอย่างสบายใจ จู่ๆ ก็มีเสียงหวานๆ ดังขึ้นจากหัวบันไดกระท่อม
"พี่ครามจ๊ะ"
ครามเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับ สาลี่ หญิงสาวชาวบ้านในชุดเสื้อผ้าฝ้ายและผ้าถุง สาลี่เป็นหญิงสาวหน้าตาดีแต่ก็แอบเป็นคนเจ้าชู้ชอบยั่วยวน ครามรับรู้ถึงความเจ้าชู้ของเธอมานานแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
"อ้าว สาลี่ มีอะไรเหรอ" ครามเอ่ยถาม
สาลี่เดินยิ้มเข้ามาในบ้าน ในมือถือปิ่นโตเล็กๆ "สาลี่ไปตลาดมาค่ะ เห็นปลาช่อนตัวใหญ่ เลยทำขนมจีนน้ำยามาฝากพี่คราม"
ครามกำลังจะปฏิเสธ แต่สาลี่ก็เดินเข้ามาในครัวแล้วเปิดปิ่นโตทันที กลิ่นน้ำยาปลาช่อนหอมกรุ่นลอยฟุ้งไปทั่ว "อ้าว พี่ครามกำลังทานข้าวอยู่พอดีเลย" เธอยิ้มหวาน ก่อนจะตักขนมจีนน้ำยาใส่จาน แล้วยื่นให้คราม "กินกับของสาลี่ไหมคะ"
ครามมองขนมจีนน้ำยาตรงหน้าสลับกับสายตาที่เจ้าเล่ห์ของสาลี่ เขาทำหน้าอึดอัดใจเล็กน้อย แต่ก็รับจานขนมจีนมาอย่างเสียไม่ได้
"ขอบใจมากนะสาลี่"
สาลี่ไม่ตอบ เธอเพียงแค่ยิ้ม แล้วนั่งลงข้างๆ คราม เอนกายเข้ามาใกล้ๆ จนเขาได้กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายของเธอ สาลี่จ้องมองครามไม่วางตา และเริ่มพูดจาชวนคุยอย่างยั่วยวนมากขึ้น
"เหนื่อยไหมคะพี่คราม ทำงานทั้งวัน" เธอพูดพลางยื่นมือไปสัมผัสที่แขนของเขาอย่างแผ่วเบา "สาลี่อยากไปนวดให้พี่ครามจังเลย..."
เมื่อสัมผัสแผ่วเบาของสาลี่ที่แขน ครามก็ชะงักไปเล็กน้อย เขารู้สึกไม่สบายใจกับท่าทีที่เกินเลยของเธอ และพยายามดึงแขนออกอย่างสุภาพ "ไม่เป็นไรหรอกสาลี่ พี่ไม่เหนื่อยเท่าไหร่"
สาลี่ไม่สนใจ เธอยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเลื่อนมือมาลูบไล้ที่ต้นแขนของเขาเบาๆ "เหนื่อยก็พักบ้างสิคะ อย่าทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเอง"
ครามเริ่มทำตัวไม่ถูก เขาพยายามหันไปสนใจขนมจีนในจาน "พี่กินก่อนนะ สาลี่กลับไปก่อนเถอะ"
"ไม่เอาค่ะ สาลี่อยากนั่งเป็นเพื่อนพี่คราม" เธอว่าพลางเอนตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นจนแทบจะแนบชิด พยายามชวนคุยเรื่องอื่นๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของเขา "เย็นนี้พระจันทร์สวยจังนะคะ ถ้ามีใครนั่งดูด้วยกันก็คงจะดี"
ครามเงียบ เขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงขึ้นด้วยความอึดอัดใจ เขาไม่ชอบให้ใครมาทำแบบนี้ และการที่สาลี่พยายามเข้าใกล้เขาขนาดนี้ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ลงไปอีก เขาจึงวางช้อนลงแล้วหันไปเผชิญหน้ากับเธอตรงๆ "สาลี่..."
น้ำเสียงของครามที่จริงจังทำให้สาลี่หยุดชะงัก เธอจ้องมองเขาด้วยสายตาที่สงสัย "อะไรคะพี่คราม"
"พี่ไม่ชอบให้ใครมาทำแบบนี้" ครามพูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด "อย่ามาหาพี่อีกเลยนะ"
สาลี่อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย เธอไม่ได้ลุกไปไหน ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ คราม เอนกายเข้ามาใกล้จนเขาได้กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายของเธอ สาลี่จ้องมองครามไม่วางตาเธอยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเลื่อนมือมาลูบไล้ต้นแขนของเขาเบาๆ
"พี่ครามรีบกินเถอะค่ะ เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นหมด"
ครามก้มหน้าก้มตากินข้าวไปเงียบๆ โดยไม่ปริปากพูดอะไรอีก สาลี่นั่งมองเขากินอย่างไม่ละสายตา พอครามวางช้อนลง เธอก็ลุกขึ้นหยิบจานข้าวที่ยังกินไม่หมดของเขาไปในครัว
"ไม่ต้องหรอกสาลี่ เดี๋ยวพี่จัดการเอง" ครามรีบลุกขึ้นห้าม
แต่สาลี่ไม่ฟัง เธอยิ้มหวานแล้วหันมาพูดว่า "ไม่เป็นไรค่ะ สาลี่อยากช่วย"
ครามยืนมองเธอทำความสะอาดถ้วยชามอย่างคล่องแคล่ว แล้วเก็บครัวให้เรียบร้อยเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง ก่อนจะเดินกลับมาหาเขาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง "เรียบร้อยแล้วค่ะพี่คราม"
ครามถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่รู้จะจัดการกับผู้หญิงตรงหน้าอย่างไรดี เมื่อเห็นท่าทางที่เฉยชาของเขา สาลี่ก็เริ่มยั่วยวนอีกครั้ง เธอขยับเข้ามาใกล้ แล้วโน้มตัวลงกระซิบเบาๆ "สาลี่กลับไปแล้ว พี่ครามนอนคนเดียวไม่เหงาเหรอคะ..."
เมื่อเห็นท่าทีเฉยชาของคราม สาลี่ก็เริ่มยั่วยวนอีกครั้ง เธอขยับเข้ามาใกล้ แล้วโน้มตัวลงกระซิบเบาๆ "สาลี่กลับไปแล้ว พี่ครามนอนคนเดียวไม่เหงาเหรอคะ..."
ครามยังคงทำหน้าอึดอัดใจ เขาพยายามถอยห่าง แต่สาลี่กลับเดินตามเข้ามาใกล้ "สาลี่บอกพี่แล้วไงคะ ว่าสาลี่อยากอยู่เป็นเพื่อน..."
ครามถอนหายใจเฮือกใหญ่ "สาลี่กลับไปเถอะ พี่อยากพักผ่อนแล้ว"
คำพูดของครามทำเอาสาลี่นิ่งไปเล็กน้อย แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เธอยื่นมือมาปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นร่องอกที่ขาวเนียน ครามเบิกตากว้างด้วยความตกใจและรีบหันหน้าหนี
"พี่ครามจะหันหน้าหนีสาลี่ทำไมคะ" เธอพูดเสียงยั่วยวน "สาลี่ไม่อายเลยนะคะ ถ้าจะให้ดูมากกว่านี้"
สาลี่เดินเข้ามาชิดตัวครามมากขึ้น แล้วปลดกระดุมเสื้อผ้าฝ้ายของเธอออกจนหมด เผยให้เห็นเรือนร่างที่ขาวผ่องและเย้ายวนภายใต้แสงไฟสลัวๆ ของตะเกียง ผิวขาวเนียนราวกับน้ำนม ร่องอกที่อวบอิ่มชวนให้หลงใหล
ครามยังคงยืนนิ่งอึ้ง เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต และความรู้สึกที่ผสมปนเประหว่างความตกใจและความปรารถนาบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ
"พี่ครามไม่ชอบเหรอคะ" สาลี่ถามเสียงหวาน พลางปลดผ้าถุงของตัวเองออกจนเหลือเพียงแค่เรือนร่างเปลือยเปล่า สัดส่วนที่เย้ายวนปรากฏอยู่ตรงหน้า คล้ายดอกไม้แรกแย้มที่กำลังจะผลิบานอย่างสมบูรณ์แบบ
"สาลี่..." ครามครางเสียงต่ำ เขาหลับตาลง พยายามควบคุมอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในร่างกายที่กำลังตอบสนองต่อภาพตรงหน้าอย่างรุนแรง
แต่สาลี่ไม่สนใจ เธอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และเริ่มเข้าใกล้เขามากขึ้นไปอีก...
ในความมืดสลัวของกระท่อม สาลี่ที่เปลือยเปล่าเริ่มขยับเข้ามาใกล้ครามทีละนิด เธอจงใจใช้ส่วนโค้งเว้าที่ยั่วยวนเบียดเข้ากับแผงอกของเขาอย่างช้าๆ เธอยิ้มอย่างมีชัยเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างกายของครามเริ่มสั่นเทิ้ม
"พี่ครามไม่ชอบเหรอคะ... สาลี่อุตส่าห์ตั้งใจมาหาพี่นะ" เธอเอ่ยเสียงกระเส่า คล้ายกระซิบอ้อนวอนแต่ก็แฝงไปด้วยการท้าทาย
ครามยังคงยืนนิ่งราวกับถูกสาป แต่จิตใจของเขากลับสับสนวุ่นวาย เขาพยายามจะผลักเธอออกแต่ร่างกายกลับไม่ยอมทำตาม สิ่งที่น่าตกใจคือร่างกายของเขาเองก็เริ่มมีการตอบสนองอย่างรุนแรงต่อภาพที่เห็นตรงหน้า
สาลี่รู้ดีว่าเธอได้เปรียบ เธอโอบแขนรอบคอคราม และในวินาทีต่อมา เธอก็โน้มตัวเขาให้ก้มลงไปจูบกับเธออย่างร้อนแรง...