"สัญญากับพ่อว่าพวกเราจะรักและดูแลกันและกันเมื่อพ่อกับแม่ไม่อยู่"
"ค่ะ/ครับ"
"แม่รักพวกเราสามคนมากนะ"
มันเป็นประโยคสุดท้าย ก่อนที่พวกเราสามพี่น้องจะพบกับข่าวร้ายของคนสำคัญที่สุดในชีวิตลาจากโดยไม่มีวันกลับ
ปัง ปัง!!
"เฮือก!!"
ฉันหอบหายใจอย่างแรง เด้งตัวลุกจากฟูกนอนด้วยเหงื่อที่ชุ่มตัวไปหมด
"ฝันร้ายเหรอแพง"
คะนิ้ง รูมเมทของฉัน ซึ่งเธอเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันเพียงคนเดียวด้วยเช่นกัน เธอกำลังเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำด้วยเนื้อตัวที่เปียกแฉะ
"อืม...เหมือนเดิมเลย"
ฉันยกนาฬิกาข้อมือราคาถูกขึ้นมาดู ซึ่งกำลังบอกเวลาเที่ยงคืนเริ่มเข้าเวลาของวันใหม่ ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาคนสำคัญที่อยู่ต่างแดนทันที;
รอไม่นานปลายสายก็กดรับโทรศัพท์ฉัน ด้วยเสียงที่สดใสเมื่อเดิมทุกครั้ง
(ว่าไงแพง)
"แฮปปี้เบิร์ดเดย์พี่เพื่อน"
(ขอบใจนะ..แล้วนี่ทำไมยังไม่นอนล่ะ..ฝันร้ายอีกแล้วใช่ไหม)
"อืม..ใช่"
(จุดอโรมาแล้วนอนซะแพง พักผ่อนเถอะนะ อาทิตย์หน้าเจอกันจ้ะ)
"ค่ะ"
(ฝากบอกพะพายด้วยนะ)
"ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่เพื่อน"
พี่ พะเพื่อน เป็นพี่สาวเพียงคนเดียวของฉัน เราห่างกันแค่ปีเดียว เธอฉลาดและเก่งไปซะทุกเรื่อง จนกระทั่งได้รับทุนไปเรียนต่อนอกและทำงานส่งเงินมาให้ฉันกับน้องชายเรียน
ส่วน พะพาย น้องชายของฉันอีกคน เรียนอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่พ่อแม่จากพวกเราไป ฉันกับน้องชายจึงไม่ได้พักอยู่ด้วยกัน
แต่อีกไม่กี่เดือน เราก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เพราะพี่พะเพื่อน ได้เงินโบนัสมาก้อนใหญ่พอที่จะตั้งตัวได้ พี่สาวฉันจึงตัดสินใจกลับมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
เราเหลือกันอยู่สามคนพี่น้อง เพราะเหตุการณ์วันนั้น มันเป็นจุดเปลี่ยนของครอบครัวเราและเป็นเหตุการณ์ที่ฉันจำฝังใจอยู่ทุกวันนี้
พ่อ ฆ่าแม่ฉันตาย..ส่วนแม่ฉัน ก็ฆ่าพ่อฉันตาย
พวกท่านยิงกันตายภายในห้องนอน ต่อหน้าต่อตาฉัน หรือจะเรียกให้ถูกคือ ฉันบังเอิญไปเจอฉากการตายของบุพการีในตอนนั้นมากกว่า ฉันก็เลยจำฝังใจ ติดตาและแสดงอาการที่มันคั่งค้างมากกว่าพี่น้องอีกสองคน
ก่อนพวกท่านจะจากไป พวกท่านทิ้งจดหมายไว้ให้ มีข้อความเพียงแค่ว่า ใช้เงินประกันก้อนสุดท้ายให้เป็นประโยชน์ที่สุด ซึ่งหลังจากที่อ่านมันเสร็จพี่เพื่อนก็รีบเผากระดาษแผ่นนั้นทิ้งทันที
มันเป็นความลับของเรา สามคนพี่น้อง เสมอมา
ส่วนสาเหตุการตายของพ่อและแม่ เรามารู้ทีหลังว่า บ้านฉัน..ล้มละลายพวกท่านจึงตัดสินใจคิดสั้น ด้วยการยิงกันตายเพื่อเอาเงินประกันมาเลี้ยงพวกฉัน
"จงมีชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีเพื่อพ่อกับแม่นะ"
ประโยคเฮือกสุดท้ายของพ่อที่บอกลาฉันเมื่อวันนั้น
เนื่องจากเราไม่มีญาติที่ไหนนอกจากป้า พวกเราจึงตกอยู่ในการดูแลของญาติเพียงคนเดียว เราแยกกันนับจากนั้นเพราะป้าไม่สามารถเลี้ยงพวกเราไหว พวกเราเจอกันแนบนับครั้งได้ พะพายต้องไปอยู่โรงเรียนประจำชายล้วน ส่วนฉันอยู่โรงเรียนประจำหญิงล้วน แต่เนื่องจากพี่สาวฉันเป็นคนฉลาดมาก จึงมีผู้อุปถัมภ์ส่งเสียงให้เรียนในโรงเรียนเอกชนชื่อดัง มีที่พักและค่ากินค่าอยู่ให้ พี่พะเพื่อนจึงเลือกไปเพื่อจะส่งเงินส่วนนั้นที่ได้มาช่วยเหลือจุนเจือฉันกับพะพาย
"แล้วนี่แกจะไปไหนคะนิ้ง"
"เหมือนเดิม อ้อร้อผัวซิ"
ฉันกลอกตามองบนให้เพื่อนสนิทที่กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับตัวเอง ซึ่งแฟชั่นของเพื่อนสนิทมันโป๊มากสำหรับฉัน แต่ดูยังไงเพื่อนฉันดูแรงไม่เข้ากับใบหน้าที่อ่อนหวานของตัวเองเลย
คะนิ้ง กับฉันเราคบกันตั้งแต่อยู่มัธยมต้นจนถึงทุกวันนี้ เราค่อยช่วยเหลือกันมาตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร จะลำบากจะทุกข์จะสุขเรามีกันและกันเสมอ ถึงแม้ว่าเพื่อนฉันจะติดแฟนก็ตาม แต่พอมีปัญหาทีไรคะนิ้งนี่แหละที่ยื่นมือมาหาฉันก่อนเสมอ
"แล้ววันนี้จะกลับห้องไหม"
"ไม่จ้ะ แกอยู่ได้นะ"
"ทำมาเป็นถาม..แกทิ้งฉันนอนเหงาคนเดียวก็ตั้งหลายครั้งแล้ว"
"เหอๆ ก็จริง"
คะนิ้งยักไหล่ หยิบมาสคาร่าขึ้นมาปัดขนตา และทาลิปสติกสีแดงสดบนริมฝีปากอวบ ไม่ลืมที่จะลุกขึ้นพลิกตัวไปมาหมุนตัวโชว์ฉันเหมือนเดิมทุกครั้งก่อนออกห้อง
ซึ่งฉันก็ยกนิ้วโอเคส่งกลับไปทุกครั้ง
"จุดอโรม่าแล้วนอนซะแก"
"อืม"
•••••
"พี่แพง! ทางนี้"
พะพาย น้องชายตัวดีของฉันยืนโบกไม้โบกมือไปมากลางสนามบินที่มีคนพลุกพล่านเต็มไปหมดจนตาลาย
"มานานแล้วเหรอ"
"อืม..พี่รู้ปะว่าพี่เพื่อนมาไฟท์ไหน"
"เห็นส่งเมลมาบอกว่าถึงเที่ยงนะ"
"พายเช็กแล้วนะ ไฟล์เที่ยงมาถึงแล้ว ตอนนี้น่ากำลังจะรอโหลดกระเป๋า แต่พายไปยืนรอตรงประตูไม่เห็นพี่เพื่อนเลยนะพี่แพง"
ฉันกับน้องชายมองไปรอบๆ จนสะดุดตากับผู้หญิงเอเชียคนหนึ่งที่ใส่แมส สวมแว่นตากันแดด มองมาที่เราสองคน แต่พอเธอถอดแว่นกันแดดออกเท่านั้นแหละ
คนที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวราวยังกะฝาแฝดของฉัน
"พี่เพื่อน!!!"
ฉันกับพะพายกรีดร้องออกมาพร้อมกันอย่างดีใจ วิ่งตรงปรี่ไปหาพี่สาวของเรา ซึ่งพี่พะเพื่อนก็ยิ้มกว้างกางแขนออกเพื่อรอรับอ้อมกอดของเราทันที
"คิดถึงจังเลย ไม่เจอกันตั้งสองปี"
พะพายจับพี่สาวหมุนตัวไปมาด้วยความตื่นเต้น
"เกเรป่าวเราอะ"
"ไม่เกเลย..สักนิด!"
พะพายพูดเสียงสูงแล้วหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อน
"แล้วนี่ ยืนยิ้มอยู่ได้ ไม่คิดจะพูดจากับพี่เลย"
พี่พะเพื่อนหันมามองฉันด้วยรอยยิ้ม
"คิดถึง!"
ฉันพูดเสียงดังฟังชัดและโผล่เข้ากอดพี่สาวอีกครั้งแน่นๆ
"ยังกะแฝด"
พะแพงกอดอกยืนมองเรา มือจับกระเป๋าใบใหญ่ของพี่สาวและลากเดินนำหน้า
"รีบไปไหน"
"ก็อยากให้พี่ได้พัก"
"ไปดูบ้านของเรากันไหม"
พี่พะเพื่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม มองหน้าฉันกับพะแพงที่ยืนอ้าปากค้างด้วยความตกใจสลับกันไปมา
"บะ..บ้าน?!"
"ไหนบอกหาเช่า"
"ซื้อจ๊ะ...เซอร์ไพรส์!!!"
พี่พะเพื่อนไม่ได้โกหกฉันกับพะพายจริงๆ บ้านหลังเล็กชั้นเดียวที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเรา รถมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน รถจักรยาน และรถอีโคคาร์หนึ่งคัน
"บะ..โบนัสพี่ได้เยอะขนาดนี้เชียวพี่เพื่อน!"
ฉันยังตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
"เราจะได้อยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม"
พะพายหันมาด้วยใบหน้าที่ยังซีดตะลึงงัน
พี่พะเพื่อนจับมือฉันทั้งสองคน และมองไปยังบ้านที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ปล่อยมือฉันและหยิบกุญแจออกจากเสื้อสูทตัวนอกชูขึ้นมา
"จากนี้เราจะกลับมาอยู่ด้วยกัน สามคนพี่น้องนะ"
"อืม!!!"