1 พะเพื่อน พะแพง พะพาย

1294 คำ
"สัญญากับพ่อว่าพวกเราจะรักและดูแลกันและกันเมื่อพ่อกับแม่ไม่อยู่" "ค่ะ/ครับ" "แม่รักพวกเราสามคนมากนะ" มันเป็นประโยคสุดท้าย ก่อนที่พวกเราสามพี่น้องจะพบกับข่าวร้ายของคนสำคัญที่สุดในชีวิตลาจากโดยไม่มีวันกลับ ปัง ปัง!! "เฮือก!!" ฉันหอบหายใจอย่างแรง เด้งตัวลุกจากฟูกนอนด้วยเหงื่อที่ชุ่มตัวไปหมด "ฝันร้ายเหรอแพง" คะนิ้ง รูมเมทของฉัน ซึ่งเธอเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันเพียงคนเดียวด้วยเช่นกัน เธอกำลังเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำด้วยเนื้อตัวที่เปียกแฉะ "อืม...เหมือนเดิมเลย" ฉันยกนาฬิกาข้อมือราคาถูกขึ้นมาดู ซึ่งกำลังบอกเวลาเที่ยงคืนเริ่มเข้าเวลาของวันใหม่ ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาคนสำคัญที่อยู่ต่างแดนทันที; รอไม่นานปลายสายก็กดรับโทรศัพท์ฉัน ด้วยเสียงที่สดใสเมื่อเดิมทุกครั้ง (ว่าไงแพง) "แฮปปี้เบิร์ดเดย์พี่เพื่อน" (ขอบใจนะ..แล้วนี่ทำไมยังไม่นอนล่ะ..ฝันร้ายอีกแล้วใช่ไหม) "อืม..ใช่" (จุดอโรมาแล้วนอนซะแพง พักผ่อนเถอะนะ อาทิตย์หน้าเจอกันจ้ะ) "ค่ะ" (ฝากบอกพะพายด้วยนะ) "ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่เพื่อน" พี่ พะเพื่อน เป็นพี่สาวเพียงคนเดียวของฉัน เราห่างกันแค่ปีเดียว เธอฉลาดและเก่งไปซะทุกเรื่อง จนกระทั่งได้รับทุนไปเรียนต่อนอกและทำงานส่งเงินมาให้ฉันกับน้องชายเรียน ส่วน พะพาย น้องชายของฉันอีกคน เรียนอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่พ่อแม่จากพวกเราไป ฉันกับน้องชายจึงไม่ได้พักอยู่ด้วยกัน แต่อีกไม่กี่เดือน เราก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เพราะพี่พะเพื่อน ได้เงินโบนัสมาก้อนใหญ่พอที่จะตั้งตัวได้ พี่สาวฉันจึงตัดสินใจกลับมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เราเหลือกันอยู่สามคนพี่น้อง เพราะเหตุการณ์วันนั้น มันเป็นจุดเปลี่ยนของครอบครัวเราและเป็นเหตุการณ์ที่ฉันจำฝังใจอยู่ทุกวันนี้ พ่อ ฆ่าแม่ฉันตาย..ส่วนแม่ฉัน ก็ฆ่าพ่อฉันตาย พวกท่านยิงกันตายภายในห้องนอน ต่อหน้าต่อตาฉัน หรือจะเรียกให้ถูกคือ ฉันบังเอิญไปเจอฉากการตายของบุพการีในตอนนั้นมากกว่า ฉันก็เลยจำฝังใจ ติดตาและแสดงอาการที่มันคั่งค้างมากกว่าพี่น้องอีกสองคน ก่อนพวกท่านจะจากไป พวกท่านทิ้งจดหมายไว้ให้ มีข้อความเพียงแค่ว่า ใช้เงินประกันก้อนสุดท้ายให้เป็นประโยชน์ที่สุด ซึ่งหลังจากที่อ่านมันเสร็จพี่เพื่อนก็รีบเผากระดาษแผ่นนั้นทิ้งทันที มันเป็นความลับของเรา สามคนพี่น้อง เสมอมา ส่วนสาเหตุการตายของพ่อและแม่ เรามารู้ทีหลังว่า บ้านฉัน..ล้มละลายพวกท่านจึงตัดสินใจคิดสั้น ด้วยการยิงกันตายเพื่อเอาเงินประกันมาเลี้ยงพวกฉัน "จงมีชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีเพื่อพ่อกับแม่นะ" ประโยคเฮือกสุดท้ายของพ่อที่บอกลาฉันเมื่อวันนั้น เนื่องจากเราไม่มีญาติที่ไหนนอกจากป้า พวกเราจึงตกอยู่ในการดูแลของญาติเพียงคนเดียว เราแยกกันนับจากนั้นเพราะป้าไม่สามารถเลี้ยงพวกเราไหว พวกเราเจอกันแนบนับครั้งได้ พะพายต้องไปอยู่โรงเรียนประจำชายล้วน ส่วนฉันอยู่โรงเรียนประจำหญิงล้วน แต่เนื่องจากพี่สาวฉันเป็นคนฉลาดมาก จึงมีผู้อุปถัมภ์ส่งเสียงให้เรียนในโรงเรียนเอกชนชื่อดัง มีที่พักและค่ากินค่าอยู่ให้ พี่พะเพื่อนจึงเลือกไปเพื่อจะส่งเงินส่วนนั้นที่ได้มาช่วยเหลือจุนเจือฉันกับพะพาย "แล้วนี่แกจะไปไหนคะนิ้ง" "เหมือนเดิม อ้อร้อผัวซิ" ฉันกลอกตามองบนให้เพื่อนสนิทที่กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับตัวเอง ซึ่งแฟชั่นของเพื่อนสนิทมันโป๊มากสำหรับฉัน แต่ดูยังไงเพื่อนฉันดูแรงไม่เข้ากับใบหน้าที่อ่อนหวานของตัวเองเลย คะนิ้ง กับฉันเราคบกันตั้งแต่อยู่มัธยมต้นจนถึงทุกวันนี้ เราค่อยช่วยเหลือกันมาตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร จะลำบากจะทุกข์จะสุขเรามีกันและกันเสมอ ถึงแม้ว่าเพื่อนฉันจะติดแฟนก็ตาม แต่พอมีปัญหาทีไรคะนิ้งนี่แหละที่ยื่นมือมาหาฉันก่อนเสมอ "แล้ววันนี้จะกลับห้องไหม" "ไม่จ้ะ แกอยู่ได้นะ" "ทำมาเป็นถาม..แกทิ้งฉันนอนเหงาคนเดียวก็ตั้งหลายครั้งแล้ว" "เหอๆ ก็จริง" คะนิ้งยักไหล่ หยิบมาสคาร่าขึ้นมาปัดขนตา และทาลิปสติกสีแดงสดบนริมฝีปากอวบ ไม่ลืมที่จะลุกขึ้นพลิกตัวไปมาหมุนตัวโชว์ฉันเหมือนเดิมทุกครั้งก่อนออกห้อง ซึ่งฉันก็ยกนิ้วโอเคส่งกลับไปทุกครั้ง "จุดอโรม่าแล้วนอนซะแก" "อืม" ••••• "พี่แพง! ทางนี้" พะพาย น้องชายตัวดีของฉันยืนโบกไม้โบกมือไปมากลางสนามบินที่มีคนพลุกพล่านเต็มไปหมดจนตาลาย "มานานแล้วเหรอ" "อืม..พี่รู้ปะว่าพี่เพื่อนมาไฟท์ไหน" "เห็นส่งเมลมาบอกว่าถึงเที่ยงนะ" "พายเช็กแล้วนะ ไฟล์เที่ยงมาถึงแล้ว ตอนนี้น่ากำลังจะรอโหลดกระเป๋า แต่พายไปยืนรอตรงประตูไม่เห็นพี่เพื่อนเลยนะพี่แพง" ฉันกับน้องชายมองไปรอบๆ จนสะดุดตากับผู้หญิงเอเชียคนหนึ่งที่ใส่แมส สวมแว่นตากันแดด มองมาที่เราสองคน แต่พอเธอถอดแว่นกันแดดออกเท่านั้นแหละ คนที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวราวยังกะฝาแฝดของฉัน "พี่เพื่อน!!!" ฉันกับพะพายกรีดร้องออกมาพร้อมกันอย่างดีใจ วิ่งตรงปรี่ไปหาพี่สาวของเรา ซึ่งพี่พะเพื่อนก็ยิ้มกว้างกางแขนออกเพื่อรอรับอ้อมกอดของเราทันที "คิดถึงจังเลย ไม่เจอกันตั้งสองปี" พะพายจับพี่สาวหมุนตัวไปมาด้วยความตื่นเต้น "เกเรป่าวเราอะ" "ไม่เกเลย..สักนิด!" พะพายพูดเสียงสูงแล้วหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อน "แล้วนี่ ยืนยิ้มอยู่ได้ ไม่คิดจะพูดจากับพี่เลย" พี่พะเพื่อนหันมามองฉันด้วยรอยยิ้ม "คิดถึง!" ฉันพูดเสียงดังฟังชัดและโผล่เข้ากอดพี่สาวอีกครั้งแน่นๆ "ยังกะแฝด" พะแพงกอดอกยืนมองเรา มือจับกระเป๋าใบใหญ่ของพี่สาวและลากเดินนำหน้า "รีบไปไหน" "ก็อยากให้พี่ได้พัก" "ไปดูบ้านของเรากันไหม" พี่พะเพื่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม มองหน้าฉันกับพะแพงที่ยืนอ้าปากค้างด้วยความตกใจสลับกันไปมา "บะ..บ้าน?!" "ไหนบอกหาเช่า" "ซื้อจ๊ะ...เซอร์ไพรส์!!!" พี่พะเพื่อนไม่ได้โกหกฉันกับพะพายจริงๆ บ้านหลังเล็กชั้นเดียวที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเรา รถมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน รถจักรยาน และรถอีโคคาร์หนึ่งคัน "บะ..โบนัสพี่ได้เยอะขนาดนี้เชียวพี่เพื่อน!" ฉันยังตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า "เราจะได้อยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม" พะพายหันมาด้วยใบหน้าที่ยังซีดตะลึงงัน พี่พะเพื่อนจับมือฉันทั้งสองคน และมองไปยังบ้านที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ปล่อยมือฉันและหยิบกุญแจออกจากเสื้อสูทตัวนอกชูขึ้นมา "จากนี้เราจะกลับมาอยู่ด้วยกัน สามคนพี่น้องนะ" "อืม!!!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม