ติ๊งงง~ ติ๊งงง~
อยู่ดีๆ เสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น หน้าจอขึ้นว่า...พี่ซุ้ย
“พี่ซุ้ย! จะโทรหาผมทำไม” และช่วงจังหวะนั้น เขาเลยหันใบหน้าตัวเอง เพื่อไปเจอกับคนที่นั่งอยู่ในรถกับเขา พอเขาเห็นคนที่นั่งอยู่ในรถเท่านั้นแหละ ใบหน้าเขาก็นิ่ง และมองไปยังคนคนนั้น อย่างตาไม่กระพริบ
ติ๊งงง~ ติ๊งงง~
เสียงโทรศัพท์ยังคงดังต่อเนื่อง พี่ซุ้ยผู้จัดการส่วนตัวของเขายังคงโทรหา เขาเลยกดรับสาย แต่เขาก็ยังคงจ้องมองคนที่อยู่ในรถกับเขาอยู่
(“น้องตองอยู่ไหนค่ะ! คงไม่โดนแฟนคลับรุมทำร้ายนะ”)
“ไม่ครับ ผมโอเคดี”
(“รีบมาขึ้นรถสิค่ะ เดี๋ยวเขาก็เห็นเราอีกหรอก”)
“ครับ”
เขากดวางสาย แต่เขาก็ยังไม่ละสายตาไปจากคนที่อยู่ตรงหน้าเขา เธอเป็นผู้หญิงร่างเล็ก โครงหน้าสวย ดวงตาเล็ก ผมยาวลอน ตัดหน้าม้าบางๆ จมูกอันได้รูป และริมฝีปากชมพูอ่อน ผิวขาวอมชมพู ใบหน้าสวยๆ นี่...เขาจำได้ขึ้นใจ และเขาก็จำเธอได้ดี พอเขาเห็นเธอเขาก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ” เขาเลือกที่จะทักทายเธอก่อน และก็ยังคงยิ้มให้กับคนตรงหน้า ใบหน้าสวยนี่ เด็กผู้หญิงตอนเขาอายุ 6 ขวบเราเคยพูดคุยกันถึงอนาคตข้างหน้าของตัวเอง ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร คำตอบของเด็กผู้หญิงคนนั้น คืออยากเป็นนางแบบ และเธอ...ก็ได้เป็นจริงๆ
“เธอทำความฝันตัวเองในวัยเด็กสำเร็จด้วยนี่ ดีใจด้วยนะ” เธอเป็นนางแบบที่ได้โกอินเตอร์ ได้เดินเชิดชายในเวทีระดับโลก เธอประสบความสำเร็จกับการทำงานด้านนี่ และเธอก็เลือกที่จะเดินทางกลับมาบ้านเกิดตัวเอง เพื่อมาเดินตามความฝันตัวเองอีกครั้ง
“ขอบคุณนะ ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอตอง ในสภาพแบบนี่”
“เหนื่อยใช่เล่นเลยละ กับการวิ่งหนีแฟนคลับเนี่ย”
“เราติดตามผลงานเธออยู่นะ เด็กเรียบร้อยคนนั้น กลายมาเป็นผู้หญิงเซ็กซี่คนนี่”
“เราก็ยังเรียบร้อยเหมือนเดิมนะ ก็อยากจะทำให้มันเต็มทีก็เท่านั้น”
“เธอโชคดีจังที่ทำความฝันของตัวเองสำเร็จ เรายัง...ไม่สำเร็จเลย” เขาพูดก่อนจะยิ้มให้คนตรงหน้าอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี่ไม่เคยที่จะหายไปจากความทรงจำเขาได้เลย
“ตองอยากเป็นอะไร ตอนนั้นเราก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน”
“เรา...อยากแต่งงานกับเธอยังไงละ”