“อา...อูว์...เอมจ๋า...โยกแรงอีก...แรงอีกหน่อย...อา” เอมิกาทำตาม ยกก้นลอยสูง กระแทกลงมาอย่างบ้าคลั่ง “อย่างนั้นแหละดี...อา...เดี๋ยวพี่ช่วย”
ป๊าป ป๊าป ป๊าป...
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังประสานเสียงครางของทั้งคู่ เอมิกากระหน่ำควบขี่คนรัก ภาวินทร์เองก็ไม่ได้นิ่งเฉย สวนใส่กายชายขนาดมหึมาไปด้วย สองแรงแข็งขัน อารมณ์พิศวาสกระเจิดกระเจิง ความสุขสาดใส่เข้าหาร่างสองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันด้วยจังหวะเร่าร้อน
กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง
“พะ...พี่ป้อง...ทะ...โทรศัพท์มา...อ๊า” หล่อนบอกเขา แต่บั้นท้ายก็ไม่หยุดทำงาน
“อยากตื่นเต้นไหม” เอมิกาไม่เข้าใจคำพูดของภาวินทร์ ตอนนี้หล่อนมีแต่ความหฤหรรษ์จากการเสพสังวาส และมารู้คำตอบของคำถาม เมื่อเขาลุกขึ้นยืน ประคองบั้นท้ายหล่อนด้วยลำแขนใหญ่ ก่อนจะก้าวเดินไปยังโต๊ะทำงาน แล้ววางหล่อนลงบนโต๊ะ
เขาทำในสิ่งที่เอมิกาไม่คาดคิด เร่งซอยจังหวะระรัวจนโต๊ะโยก เขาเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ ใช้นิ้วมืออีกข้างวางตรงกลางริมฝีปากสาว เป็นการห้ามหล่อนส่งเสียงใดใดลอดผ่านปาก ทว่ามันทำได้ยากยิ่ง เพราะเขาไม่หยุดกระชั้นท่อนเอ็นใหญ่ใส่โพรงสวาท หนำซ้ำยังใช้นิ้วมือเขี่ยเม็ดทับทิมไปด้วย เอมิกาอยากจะบ้า หล่อนกลั้นเสียงครางเต็มที่ ยกมือขึ้นปิดปากช่วยปิดกลั้นเสียง
ภาวินทร์เก่งเหลือเกิน เขาควบคุมลมหายใจและน้ำเสียงให้เป็นปกติ พูดคุยโทรศัพท์กับต้นสายที่ถูกโอนเข้ามาในห้องได้อย่างดีเยี่ยม ดีที่ว่าธุระของเขาพูดคุยไม่นานการสนทนาก็ยุติลง
“เป็นไงตื่นเต้นไหม” ภาวินทร์ถาม หลังจากวางโทรศัพท์ลงบนแป้น
“ทั้งตื่นเต้น ทั้งเสียว...อา...พี่ป้องขา...จะเสร็จแล้ว”
“เสร็จเลย พี่ก็จะ...อา...จะเสร็จแล้ว...อืม...อูว์”
มือใหญ่เคล้นเต้าทรวงเต็มแรง ซอยรัวตัวตนชายที่วิ่งสู้ฟัดอยู่ในช่องทางสวาท เร่งเครื่องเต็มกำลัง เร่งเร้าความรู้สึกเต็มที่ เพื่อจะส่งเขาและหล่อนไปย้ำเยือนดินแดนมหัศจรรย์
แล้วในที่สุดทั้งคู่ก็เดินทางไปถึง...
“โอ๊ย...มันเป็นบ้า” ภาวินทร์พูดหลังเสร็จสิ้นภารกิจ
“พี่ป้องบ้า คนบ้า” เอมิกาหอบหายใจแรง ตีแขนคนหื่น “ทีหลังอย่าทำอย่างนี้นะพี่ป้อง เกิดเอมกลั้นเสียงไม่อยู่จะแก้ตัวยังไง”
“พี่รู้ว่าเอมทำได้” เขาก้มหน้าจูบปากรูปกระจับ “ชักติดใจแบบนี้ซะแล้วสิ วันหลังทำอย่างนี้อีกนะ”
“ไม่พูดด้วยแล้ว เอาออกไปเลย เอมจะไปแต่งตัวแล้ว”
“เดี๋ยวค่อยแต่ง ขอต่ออีกยก”
เอมิกาไม่มีโอกาสค้าน เพราะเขาปิดปากหล่อนด้วยจุมพิต ไม่กี่นาทีต่อมา คนที่บอกว่าอยากไปแต่งตัวก็ร้องครางกระเส่าบนโต๊ะ โอบกอดร่างคนรักที่นำพาหล่อนไปเยือนสวรรค์ชั้นฟ้า สถานที่ที่ไปกี่ครั้งก็ไม่รู้จักเบื่อ และไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย เพราะมันคือรางวัลอันคุ้มค่า เป็นความสุขตราตรึงในหัวใจ
ภาวินทร์ป้อนความสุขให้เอมิกาเต็มที่ เพราะต่อจากนี้หล่อนจะพบกับความทุกข์ที่เขาหยิบยื่นให้
“หา! ว่าอะไรนะ โรงแรมไฟไหม้งั้นเหรอ” เสียงตกใจของอมรดังไปตามสาย เมื่อรู้ข่าวไม่ดีที่เกิดขึ้นในโรงแรมรอยัลเพลส เขาถึงกับตะลึงค้างไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น “แล้วตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง โรงแรมเสียหายมากไหม มีคนเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ตอนนี้ยังไม่หยุดไหม้เลยครับ เลยยังประเมินความเสียหายไม่ได้ ส่วนคำถามหลัง ไม่มีใครได้รับอันตรายครับ”
สมชาย ผู้จัดการโรงแรมบอกเจ้าของสถานที่ ที่ผ่อนลมออกจากปากอย่างโล่งอกที่รู้ว่า ไม่มีใครเป็นอะไร ไม่เช่นนั้นคงเป็นข่าวร้ายซ้ำซ้อน
“มีอะไรคืบหน้า รายงานฉันด้วยนะ”
“ครับคุณอมร” หลังจากวางสายจากสมชาย อมรรีบโทรศัพท์ไปบอกข่าวนี้กับว่าที่ลูกเขย ที่รีบมาห้องอมรทันทีที่ทราบข่าว มาพร้อมกับเอมิกาที่หน้าตาตื่นกับข่าวร้าย
“โรงแรมไหม้ได้ยังไงคะคุณพ่อ” เอมิกาถามบิดา
“พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน ไฟฟ้าอาจลัดวงจรมั้ง” อมรคาดเดา “ดีนะที่โรงแรมเราปิดปรับปรุงก็เลยไม่มีใครเป็นอะไร ประจวบเหมาะกับพวกคนงานพักเที่ยงด้วย ไม่งั้นคงมีคนบาดเจ็บแน่”
อมรคิดว่าในความโชคร้ายก็มีความโชคดีอยู่บ้าง หากมีคนงานอยู่ในโรงแรมขณะเกิดไฟไหม้ การหนีตายคงเกิดขึ้น และอาจเกิดอุบัติเหตุระหว่างหนีเหตุการณ์
“พี่สมชายบอกหรือเปล่าครับว่า ไฟไหม้ได้ยังไง”
ภาวินทร์ถาม สีหน้ามีความตกใจ หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงบ่ายเขาจะไม่ตกใจเลย แต่นี่มาเกิดก่อนเวลาที่เขาต้องการให้ไฟไหม้โรงแรมแห่งนี้สามชั่วโมง และก่อนหน้าเข้ามาในห้องนี้ เขาได้ส่งข้อความไปถามชาตรีว่า ใช่ฝีมือของคนของเขาหรือไม่ คำตอบที่ได้คือ ไม่ใช่ นั่นหมายความว่า สาเหตุไฟไหม้ไม่ได้มาจากแผนการของเขา
“สมชายยังไม่ได้รายงาน คงต้องรอเพลิงสงบก่อนถึงจะรู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร”
“ตอนนี้ไฟหยุดไหม้หรือยังคะคุณพ่อ”
“เท่าที่พ่อรู้ตอนนี้คือยังไม่หยุด” อมรตอบ สีหน้าหนักใจ
“คุณพ่อทำใจดีๆ นะครับ รอฟังข่าวจากพี่สมชายก่อน บางทีอาจจะไหม้แค่นิดหน่อยครับ” ภาวินทร์แสร้งเป็นห่วงใย
“ใช่ค่ะคุณพ่อ ทำใจเย็นๆ ก่อนนะคะ เครียดไปเดี๋ยวความดันขึ้นอีก”
เอมิกากล่าวด้วยความเป็นห่วงสุขภาพบิดา ในขณะที่ในห้องทำงานของอมรกำลังตึงเครียด ยุวดีเลขาอมรเคาะประตูแล้วก้าวเดินเข้ามาในห้อง
“ท่านประธานคะ เปิดข่าวดูตอนนี้เลยค่ะ” ยุวดีบอกอมร
“ทำไม ข่าวมีอะไร”
“ท่านดูเองดีกว่าค่ะ” เลขาไม่พูดเปล่า เดินไปเปิดทีวีก่อนจะเปลี่ยนช่องที่มีเนื้อข่าวเรื่องเหตุไฟไหม้โรงแรมรอยัลเพลส “ข่าวไฟไหม้โรงแรมค่ะท่าน”