“เมื่อความไว้ใจไม่สามารถซื้อชีวิตได้มิตรภาพ... ก็กลายเป็นเพียงกลไกหลอกล่อศัตรู”
แสงแดดสายเริ่มแรงขึ้นกลิ่นดินผสมเลือดยังไม่จาง
ผู้เข้าแข่งขันที่รอดชีวิตจากเกมที่สองเหลือเพียง 162 คน
ทุกคนถูกเรียกมารวมตัวในศาลาไม้ใต้ร่มโพธิ์
เจ้าหน้าที่สวมหน้ากากทองแดงเข้ม เดินตรวจตราอย่างเงียบเชียบ
ไม่มีใครพูด ไม่มีใครเถียง
เพราะไม่มีใครรู้ว่า “คำพูดไหน” อาจนำไปสู่ “ความตายโดยไม่ได้ตั้งใจ”
เตชินท์นั่งอยู่ข้างน้ำอ้อย
เขาไม่พูด
น้ำอ้อยเองก็ไม่ถาม
ทั้งคู่เหมือนคนที่ผ่าน “ลมพายุบางอย่าง” มาด้วยกัน...
แต่ไม่มีแรงแม้แต่จะสบตา
เสียงลำโพงจากเบื้องบนดังขึ้นอีกครั้ง
“เพื่อเพิ่มความท้าทาย และทดสอบ ‘สัญชาตญาณเอาตัวรอดของมนุษย์’ ผู้เข้าแข่งขันจะถูกจัด ‘เข้าค่าย’ แยกตามกลุ่ม”
“ทุกกลุ่มจะอยู่ด้วยกัน รับอาหารร่วมกัน และร่วมรับผลลัพธ์ของเกมในอนาคต”
เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นอีกระลอก
“อะไรนะ? แปลว่าเกมต่อไปต้องพึ่งพากันเหรอ?”
“แบบนี้ใครอ่อนก็ฉุดกันตายหมดดิ!”
เสียงระบบประกาศต่อ
“ขอให้ผู้เข้าแข่งขันเดินเข้า ‘ศาลาตัดสิน’ ทีละคน โดยจะต้องเลือกหนึ่งใน 3 ธงที่ตั้งอยู่ตรงหน้า”
“แดง : ผู้กล้า”
“ขาว : ผู้สังเกต”
“ดำ : ผู้ชี้ชะตา”
“การเลือกธงจะเป็นการแบ่งกลุ่มอัตโนมัติ และส่งผลต่อรูปแบบเกมของคุณ”
เตชินท์สบตาน้ำอ้อย
“จะเอายังไงดี?” เสียงเขาเบา แต่จริงจัง
น้ำอ้อยกัดริมฝีปาก
“ฉันไม่อยากอยู่กลุ่มคนบ้าเลือดแต่ก็ไม่อยากถูกลากไปตายเพราะพวกชักช้า”
“นายล่ะ อยากเลือกธงไหน?”
เตชินท์มองไปยังศาลาตัดสิน
มีเจ้าหน้าที่คุมเข้ม
ผู้เล่นคนก่อนหน้าที่หยิบ “ธงดำ” เดินออกมาเงียบๆ ดวงตาไม่แสดงอารมณ์
เขาสูดลมหายใจ
“ฉัน... จะเลือก ‘ธงขาว’”
“ฉันอยากมองภาพรวมก่อนจะเสี่ยงฆ่าใครอีก”
น้ำอ้อยยิ้มมุมปาก
“ดี… ฉันก็เลือกขาวเหมือนกันแต่ถ้ามีใครในกลุ่มทำอะไรพิเรนทร์ ฉันไม่ลังเลจะตัดเชือกมันนะ”
[ผลการเลือกธง]
แดง ผู้กล้า: 46 คน
ขาว ผู้สังเกต: 73 คน
ดำ ผู้ชี้ชะตา: 43 คน
“จากนี้แต่ละกลุ่มจะถูกแยกไปยังพื้นที่พักของตน และจะไม่ได้พบกันจนกว่าจะถึงเกมต่อไป”
“แต่... ผู้ชี้ชะตา (ธงดำ) จะได้รับ ‘สิทธิ์ในการเลือกเกมครั้งต่อไป’ และสามารถตัดสิน ‘ใครควรถูกคัดออก’ หากมีเหตุจำเป็น”
เสียงหลายคนเริ่มโวย
“เฮ้ย แบบนี้ไม่แฟร์!”
“ทำไมกลุ่มนั้นมีอำนาจล่ะ!?”
แต่ระบบไม่ตอบกลับอีก
มีเพียงเสียงเท้าของเจ้าหน้าที่ ที่เดินมาแจก "กล่องไม้ไทย" ให้แต่ละกลุ่ม
ด้านในคือข้าวเหนียวหมูทอดห่อใบตอง กับน้ำเปล่าหนึ่งขวด
คืนนั้น...
กลุ่มของเตชินท์ (กลุ่มธงขาว) ถูกพาไปยังเรือนพักไม้ชั้นเดียว
ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีผ้าห่ม
แต่อย่างน้อยก็ยังอยู่รวมกัน
เตชินท์นั่งพิงผนังน้ำอ้อยนอนข้างๆ
บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงหายใจของผู้คนกว่า 70 คน ที่เต็มไปด้วยความเครียด
ทันใดนั้น...
เสียงกระซิบเบาๆ ดังขึ้นจากเงามืด
“ฉันว่าพวกธงดำมันเริ่มรวมหัวกันแล้ว...”
“ได้ข่าวว่าหนึ่งในนั้นเคยเป็นอดีตนักการเมือง...”
“และอีกคนเคยฆ่าคนตายแล้วหนีรอดจากคดี”
“ถ้าพวกมันได้เลือกเกม...”
“เราทุกคนอาจเป็นแค่หมากบนกระดานของมัน”
เตชินท์ลืมตาน้ำอ้อยกระซิบเบาๆ ข้างหูเขา
“ฉันไม่เชื่อใครอีกแล้ว เตชินท์รวมถึงนาย... อย่าคิดว่าฉันจะช่วยนายตลอด”
เขาไม่ตอบ
เพราะเขาก็เริ่มไม่แน่ใจเหมือนกันว่า...
คนที่อยู่ข้างเขาในคืนนี้
จะยังอยู่ข้างเขาในเกมพรุ่งนี้... หรือไม่