“มึงว่าไงนะ?” น่านน้ำถามแซมซ้ำด้วยความหัวเสีย ตอนแรกยังไม่ได้ขึ้นมึงขึ้นกูกับแซมแต่เมื่อผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า อารมณ์โกรธมันยิ่งปะทุไปกันใหญ่
“คือ... เบบี้รับออร์เดอร์แขกวีไอพีอีกห้องอยู่น่ะครับ ยังไม่น่าจะมาห้องนี้ได้” แซมบอกไปตามตรงด้วยน้ำเสียงเหมือนเกรงกลัวลูกค้าวีไอพีที่นั่งตรงหน้า
เขาเป็นคนให้เบบี้ไปรับออเดอร์แขกวีไอพีห้องหนึ่งเอง พอโผล่หน้าจะเข้าไปตามก็เห็นสาวน้อยนั่งซบอกลูกค้าวีไอพีหนุ่มสุดหล่อด้วยท่าทางที่เธอไม่เคยทำมาก่อน แค่นี้เขาก็ไม่กล้าเข้าไปแกะเอาตัวเบบี้ออกมาประเคนให้คุณไคแล้ว
ปัญหาอยู่ที่แซมได้ข่าวมาว่าคุณไคกำลังจะขึ้นแท่นเป็นเจ้าของคนใหม่ของ Rara น่ะสิ การขัดใจคุณไคก็เหมือนตัดอนาคตการงานของตัวเอง
“แต่ถ้าเบบี้เสร็จงานจากห้องข้าง ๆ ผมจะส่งน้องมาห้องนี้ทันทีเลยนะครับ” แซมรีบเสนอทางออกให้น่านน้ำทันที ทั้ง ๆ ที่ในใจรู้ว่าคุณหมอหนุ่มหล่ออีกห้องต้องไม่ยอมปล่อยกนากานต์ออกจากอ้อมอกง่าย ๆ แน่
แต่ตอนนี้ต้องพยายามไม่ให้คุณไคฆ่าเขาก่อน เรื่องอื่นไว้ค่อยคิดหาทางออกทีหลัง
“เบบี้ทำงานที่นี่มานานแล้วหรือยัง?” น่านน้ำเปลี่ยนเรื่องพูดทันทีเมื่อเห็นว่าโกรธเกรี้ยวไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้น ถ้ากนากานต์รู้ว่าเขาโวยวายฟาดงวงฟาดงากับคนอื่นในที่ทำงานของเธอ สาวน้อยอาจจะยิ่งโกรธเขาหนักกว่าเดิม
“ห้าปีได้แล้วครับ ตอนแรกทำเป็นงานพิเศษ ตอนนี้ทำเป็นงานประจำครับ” แซมตอบทันที
น่านน้ำขมวดคิ้วขึ้นมาทันที...
ห้าปี... ตอนนั้นเบบี้น่าจะเรียนมหาวิทยาลัยปีสองได้ ทำไมต้องมาทำงานพิเศษด้วย? ถึงบ้านเบบี้จะไม่ได้รวยแต่ก็ไม่นับว่าจนนี่นา
“ไอ้กัส... ถ้ากูซื้อผับนี้เบบี้คือลูกน้องกูใช่ไหมวะ?” น่านน้ำหันไปถามเพื่อนที่ตอนนี้เริ่มเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมหญิงสาวที่เขาเชิญมาที่ห้องวีไอพีแล้ว
“เออ สิวะ อย่าบอกนะว่ามึงจะ...”
“กูตกลงซื้อที่นี่ มึงโทรบอกเจ้าของผับเลย”
“เชี่ย! กูยุให้ซื้อตั้งนานไม่ซื้อ เห็นเมียเก่าทำงานที่นี่นิดเดียวแม่งซื้อเลยเหรอวะ? มึงนี่มัน... แล้วมึงกับน้องเลิกกันมาตั้งนานแล้ว เกือบสิบปีเลยนะมึง ก่อนมึงจะไปญี่ปุ่นอีก มึงมีเมียมาแล้วตั้งไม่รู้กี่คน ตอนเลิกกันกูไม่เห็นมึงจะเอ่ยถึงชื่อเขาสักคำ ตอนนี้กลับมาเจอกันแม่งเสือกอยากได้เขาเหรอวะ?” สรัญบ่นเพื่อนไปก็โอบไหล่หญิงสาวสุดเซ็กซี่ข้างกายแล้วคลึงหัวไหล่มนไปมา สาวเจ้าเองก็เล่นด้วยก้มลงซบแผงอกกำยำของตำรวจหนุ่มแล้วส่งมือนิ่ม ๆ เข้าไปลูบคลึงกล้ามแน่นเบา ๆ
“ไอ้ห่ากัส! เกือบสิบปีเหี้ยอะไร! แค่เจ็ดปีโว้ย กูจะเป็นยังไงก็เรื่องของกู แล้วไอ้ที่กูเย่อมาจะกี่คนก็ช่าง แต่กูไม่นับเป็นเมียโว้ย! แล้วอีกอย่างกูไม่ได้อยากได้น้องเขา กูแค่อยาก... ขอโทษ...”
“แม่ง ตอแหลโคตรอะมึง อยากขอโทษเหี้ยไร ทำกับเขาขนาดนั้น แล้วมึงหนีไปอยู่กับพ่อที่ญี่ปุ่นตั้งเจ็ดปี ถึงมึงจะไม่มีเมียใหม่ น้องมันก็ต้องมีผัวใหม่แหละวะ” สรัญพูดแล้วเริ่มหันไปจูบปากแลกลิ้นกับสาวสวยในอ้อมแขน
“เชี่ย! หุบปาก นี่มึงจะเอากันตรงโซฟานี่เลยใช่ไหมเนี่ย? กูจะได้ออกไปก่อน อีกห้านาทีกูจะกลับมา อย่างมึงเล้าโลมบวกเย่อ ห้านาทีก็แตกแล้ว” น่านน้ำถามเพื่อนตามด้วยคำเหยียดหยามก่อนจะหันไปจ้องแซม เขามองป้ายชื่อและตำแหน่งบนหน้าอกของแซมก่อนจะเอ่ยออกมา
“แซม... ต่อไปนี้กูจะเป็นเจ้าของที่นี่ เบบี้ทำงานที่นี่ก็คือกินเงินเดือนกู ดังนั้นหลังจากเบบี้รับออเดอร์ห้องอื่นเสร็จให้เบบี้มาหากูทันที บอกว่าเจ้านายใหม่อยากเจอ กูออกไปก่อนนะไอ้กัส มึงเอากันตามสบาย อีกห้านาทีกูจะกลับมา กูจะมานั่งรอเบบี้”
“เชี่ย! กูไม่ได้กระจอกขนาดห้านาทีแตกเหมือนเมื่อก่อนแล้วโว้ย! กูฝึกฝนมาเป็นอย่างดี น้องไม่ต้องไปฟังไอ้ไคนะจ๊ะคนสวย พี่อึด ได้เป็นชั่วโมง ไม่แตกง่าย ๆ หรอกจ้ะ” สรัญด่าเพื่อนแล้วหันกลับมาบอกคู่ขาคนสวยพลางเริ่มส่งมือไปขยำอกนิ่มทรงโตของเจ้าหล่อน
“เออ กูจะรอดู เสร็จแล้วโทรเรียกกูก็แล้วกัน กูจะลงไปหาอะไรดื่มตรงบาร์น้ำ” น่านน้ำบอกเพื่อนแล้วพยักหน้าส่งสัญญาณให้แซมออกจากห้องไปพร้อมเขา
แซมรีบเดินนำหน้าว่าที่เจ้านายใหม่ไปตรงทางออกแล้วเปิดประตูกว้างให้หนุ่มหล่อลูกครึ่งเดินออกไปก่อน
ในใจของน่านน้ำตอนนี้คิดอยู่แต่ว่าถ้าได้เจอกนากานต์เขาจะเริ่มต้นทักทายอย่างไรดี?
‘เป็นยังไงบ้าง?’ ทักแบบนี้น่าจะโอเคสุด
‘ไม่ได้เจอกันนานนะ’ ก็ฟังดูไม่เลว
‘สบายดีไหม?’ ก็โอเคนะ ฟังดูเหมือนเป็นห่วงเป็นใยน้องเขา
‘พี่กลับมาไทยได้ปีหนึ่งแล้วนะ เบบี้คิดถึงกันบ้างไหม?’ ทักแบบนี้ก็น่าจะดี เบบี้จะได้รู้ว่าเขากลับมาได้สักพักแล้ว
‘เบบี้มีแฟนใหม่หรือยัง?’ ทักแบบนี้อาจจะยังไม่เข้าท่า น่าจะต้องรอคุยกันสักพักแล้วค่อยถาม
หนุ่มหน้าหล่อก้าวขาออกจากห้องไปก็คิดไป คิดเพลินจนเกือบชนเข้ากับชายหญิงคู่หนึ่ง
ผู้ชายตัวสูง น่าจะส่วนสูงไล่เลี่ยกับเขา อุ้มร่างสาวน้อยไว้ในอ้อมกอด ท่าอุ้มเจ้าสาวเสียด้วย...
“ขอโทษ” น่านน้ำเอ่ยสั้น ๆ แล้วหยุดเดินเพื่อปล่อยให้อีกฝ่ายอุ้มหญิงสาวเดินผ่านไปก่อน
ท่าทางจะรีบไปโจ๊ะพรึม ๆ กัน ถึงขนาดอุ้มกันออกมาเลยเชียว
หนุ่มลูกครึ่งคิดในใจจนร่างชายหนุ่มที่อุ้มหญิงสาวเดินเฉียดผ่านหน้าไป แค่แวบเดียวที่น่านน้ำเห็นเสี้ยวหน้าของหญิงสาวในอ้อมกอดของชายร่างสูงหัวใจของหนุ่มหล่อผิวสีแทนก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที
“เบบี้! ไปทำเชี่ยไรอยู่ตรงนั้นวะ?!” น่านน้ำตะคอกออกมาเสียงดัง
แซมที่เดินตามหลังมาชะงักกึกแล้วมองไปที่ชายหนุ่มที่อุ้มหญิงสาวตัวเล็กอยู่ในอ้อมแขน หนุ่มร่างสูงที่เป็นแขกวีไอพีจากห้องหนึ่งหยุดเดินแล้วหันหน้ามามองหนุ่มหล่อที่เพิ่งเรียกชื่อสาวน้อยในอ้อมกอดของเขา
กนากานต์ที่ถูกอุ้มหันกลับมา สาวน้อยมีโอกาสได้มองหน้าเจ้าของเสียงที่เรียกเธอเมื่อครู่ แต่ถึงไม่มองหน้าเธอก็จำได้ดีว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร
ทำไมสาวน้อยจะจำเจ้าของเสียงห้าวทุ้มนั้นไม่ได้กันเล่าในเมื่อเขาเป็นคนที่บดขยี้หัวใจเด็กสาวอายุ 17 อย่างไม่มีชิ้นดี
เขาเป็นรักแรกของเธอ…
เขาเป็นคนสอนให้เธอรู้ว่ารักมันร้าย...
เจ้าของเสียงนั้น... น่านน้ำ ไค ทานากะ...
“พะ... พี่... พี่ไค พี่ไคเหรอ?” เบบี้เรียกชื่อเขาซ้ำเหมือนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าชายที่เคยหักอกเธออย่างจังแล้วหนีไปญี่ปุ่นจะมาปรากฏกายต่อหน้าเธอหลังจากที่ทำเธอเจ็บยาวนานถึงเจ็ดปี
“เออ! พี่เอง! ไอ้หมอนี่ใคร? ลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นไม่มันก็เบบี้ได้เห็นดีกันแน่ เบบี้ก็รู้ว่าพี่ความอดทนต่ำ” น่านน้ำกัดฟันกรอดแล้วพูดออกมาเสียงลอดไรฟัน
ประโยคในหัวที่คิดเอาไว้ว่าจะพูดทักทายสาวน้อยก่อนหน้านี้มันเลือนหายไปหมดเมื่อพบเธออยู่ในอ้อมแขนของไอ้แว่นหน้าหวาน
คำขู่ของน่านน้ำน่ากลัวก็จริงแต่มีหรือกนากานต์จะเชื่อฟัง
ก็แค่แฟนเก่า!
แทนที่สาวน้อยจะปล่อยวงแขนที่โอบรัดรอบลำคอหนาของศึกรบแล้วสลัดตัวออก สาวเจ้ากลับกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นแล้วตอบคำถามของน่านน้ำทันที
“ทำไมเบต้องลง? เบรู้ว่าพี่ความอดทนต่ำ แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเบนี่ แล้ว ‘ไอ้หมอนี่’ เป็นผู้ชายของเบ เบเพิ่งตกได้วันนี้ พี่ไคไม่ต้องมายุ่ง”
ศึกรบที่ตอนแรกทำหน้างุนงงตอนนี้ก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้างแล้ว ที่แท้แม่สาวเบบี้ก็มีคนอื่นมาติดพันด้วย ไม่ใช่เรื่องแปลก แค่เขาเห็นเธอก็ชอบเธอแล้ว ยิ่งได้คุยยิ่งชอบในความฉลาดหัวไว ทันคน ขนาดเขาชอบแล้วคนอื่นจะไม่ชอบได้หรือ?
“เบบี้ขา ผู้ชายที่ดูดุร้ายป่าเถื่อนคนนี้ใครคะ? แค่พี่เห็นพี่ก็เกลียด... เอ๊ย! กลัวแล้ว” ศึกรบทำเป็นเล่นละครสานต่อตามบทที่กนากานต์เริ่มไว้ให้
“โอ๋ โอ๋ พี่โซไม่ต้องกลัวนะคะ แค่แฟนเก่า ไม่ได้เก่าแบบเพิ่งเก่าด้วยค่ะ เก่าจนเบบี้ลืมไปแล้วว่าเคยคบ เก่าแบบ... ฟอสซิลยังเป็นไดโนเสาร์เดินได้อยู่เลยอะค่ะ” กนากานต์ทำเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วลูบใบหน้าสวยหวานของชายที่อุ้มเธอไปมาเบา ๆ ทำเป็นไม่ใส่ใจน่านน้ำ
“เบบี้! พี่รู้ว่าเธอแกล้งทำ ลงมาเดี๋ยวนี้! เธอไม่ใช่พวกแรดร่าน เธอไม่มีทางทำท่าทีแบบนี้กับใครง่าย ๆ” น่านน้ำกำหมัดแน่นแล้วสั่งอีกรอบ
“รู้ก็ดี จะได้รู้ว่าที่เบทำกับพี่โซอยู่นี่ไม่ได้ทำกันง่าย ๆ เบเอาจริง จะเอาพี่โซจริง ๆ ด้วย พี่ไคทำอะไรกับเบไว้บ้างเบก็จะทำแบบนั้น แล้วอีกอย่าง เลิกกันมาตั้ง 7 ปี ถึงไม่ใช่พี่โซเบก็ทำมากกว่านี้กับคนอื่นมาแล้ว คิดบ้างหรือเปล่า? นึกว่าเบอกหักจากพี่แล้วจะบวชเป็นชีไม่ต้องมีแฟนใหม่หรือไง? ผู้หญิงก็หิวน้ำเป็นนะโว้ยไอ้พี่ไค!” กนากานต์ตะโกนออกมาสุดเสียงก่อนที่จะหวนนึกถึงวันเก่า ๆ แล้วมีอันต้องตาร้อนผ่าวคล้ายน้ำตาจะไหลออกมา
สาวน้อยหันหน้ากลับมาซบที่ไหล่กว้างของศึกรบ หนุ่มแว่นหน้าหวานรู้สึกถึงความอุ่นและเปียกชื้นจากหยาดน้ำตาของสาวน้อย เขาจึงหันหลังกลับแล้วทำท่าจะเดินต่อไป
“หยุด! เชี่ย! กูบอกให้มึงหยุด!” น่านน้ำรีบพุ่งตัวตามออกไปแต่ก็โดนแซมรั้งเอาไว้ก่อน
“อย่าตามไปเลยครับคุณไค แขกคนนั้นเป็นลูกค้าวีไอพีของเรา มีเรื่องกันจะลำบากเปล่า ๆ”
“กูไม่สน!”
“นอกจากจะมีเรื่องแล้วเบบี้ก็จะโกรธด้วยนะครับ คุณไคเคยทำอะไรให้เบบี้โกรธก็ตามมันถือเป็นเรื่องในอดีต ยิ่งผ่านมานานความรู้สึกโกรธจะยิ่งจางหาย ขอโทษคงไม่ยาก แต่ถ้าตามพวกเขาไปแล้วมีเรื่องกันตอนนี้รับรองเบบี้โกรธคุณไคมากกว่าเดิมแน่ ๆ ทีนี้ถึงตามง้อขอคืนดีเบบี้ก็อาจไม่ยกโทษให้นะครับ คุณไคเป็นผู้ใหญ่กว่าเบบี้เยอะ ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว คุณไคต้องคิดเยอะ ๆ นะครับ” แซมพยายามเตือนสติว่าที่เจ้านายคนใหม่
น่านน้ำกัดฟันกรอดจนสันกรามนูนขึ้น
จริงเหมือนที่แซมพูด ถ้าเขาใจเย็นกว่านี้ คิดให้รอบคอบกว่านี้ มีสติกว่านี้ และพยายามเข้าใจความเจ็บช้ำของกนากานต์มากกว่านี้ เขาก็คงทำใจเห็นเธอจากไปกับชายคนอื่นได้ไม่ยากนัก
ปัญหาอยู่ที่เขาเย็นไม่พอนี่สิ...
ตอนนั้น... เมื่อ 7 ปีก่อน... เบบี้ทนเห็นกูเย่อผู้หญิงอื่นได้ยังไงวะ? แค่กูเห็นเบบี้โดนผู้ชายคนอื่นอุ้มไปกูก็จะตายห่าแล้วเนี่ย เชี่ย!