ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...แมน
“มึงไม่รับเหรออีเพื่อน”
“ไม่อ่ะ มึงจะคุยไหมล่ะ”
“ว้าย! ไม่กี่วันจะยกผัวให้เพื่อนแล้วเหรอคะหญิง”
“อีสันต์”
“แซนดี้!”
“มึงพูดดี ๆ ก่อนไม่งั้นกูจะเรียกมึงว่าไอ้สันต์จนวันตาย”
“โอ้ย! ฤทธิ์เยอะ! เออ ๆ ขอโทษแซวเล่นนิดเดียวเอง”
“อย่าพูดอีกไม่งั้นคนทั้งมหาลัยรู้จักไอ้สันต์แน่กูสาบาน”
“ขอสุมาเต๊อะเจ้าแม่นาย”
“หึ! เอาไปรับให้หน่อยบอกว่ากูไปไหนก็ได้ ไปดาวอังคารยิ่งดี”
จะเทแล้วเหรอ จริง ๆ ไอ้แมนนี่ก็งานดีนะไม่คบจริงจังไปเลยล่ะ”
“งานดีแค่ไหนแต่ถ้าต้องกินต่ออีแพงเพื่อนก็ไม่เอาหรอกค่ะสันต์”
“แซนดี้!”
“รับสาย” ฉันไม่สนเสียงแหลมที่วีนใส่ของมันนอกจากสั่งด้วยคำพูดและมองกดดันด้วยสายตา
“อีชะนีตัวร้าย มึงไม่เคยเป็นคนดีแม้แต่กับเพื่อนตุ๊ดอย่างกูเลย”
“รับสายมันเร็ว ๆ”
“เออ ๆ รับแล้วค่ะ! ว่าแต่เปิดลำโพงไหม”
“ไม่ต้องไม่อยากฟัง” ไม่ได้พิศวาสมันด้วย ผู้ชายบ้าอะไรวัน ๆ คิดแต่อยากพาไปฟัน น่ารำคาญ รู้แบบนี้ไม่แย่งอีนั่นมาหรอกจะปล่อยให้มันฟันกันจนอุปกรณ์ชำรุดเลย
ฉันนั่งดูดน้ำหวานมองซ้ายมองขวาฆ่าเวลาระหว่างที่อีแซนดี้เพื่อนตุ๊ดคนสนิทกำลังคุยกับแมนแฟนคนล่าสุดที่เป็นคนที่เท่าไหร่ของฉันก็ไม่รู้อยู่ แต่คุยว่าอะไรก็ไม่ได้สนใจฟังหรอก
อย่าไปใส่ใจเลยค่ะไม่ได้สำคัญหรอกเพราะไอ้แมนอะไรนี่ไม่ใช่ตัวละครหลัก ไม่สิ เรียกว่าเคยเป็นตัวละครหลักในหนึ่งเรื่องสั้นดีกว่าและตอนนี้เรื่องสั้นเรื่องนั้นมันจบไปแล้วเพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจอะไร ไอ้แมนผัวเก่าอีแพงไม่น่าสนใจเท่าฉันคนนี้หรอกเชื่อสิ
สวัสดีค่ะฉันชื่อพระเพื่อน มีอริที่คิดว่าชาตินี้ถ้าไม่มีใครตายก็คงไม่หยุดเกลียดชื่อว่า อีแพง หรือ พระแพงที่ใคร ๆ ก็รู้จัก แต่! ไม่ต้องคิดว่าฉันกับมันเป็นพี่น้องอะไรกันหรอกนะคะ ไม่ได้เป็น ที่ชื่อคล้ายกันเพราะความอุบาทว์บางเรื่องก็แค่นั้นเอง
ฉันเรียนปีสามค่ะ มหาลัยดังที่ค่าเทอมแพงหูฉี่ เป็นคนสวยนะแต่ไม่ใช่ดาวมหาลัยเพราะว่าดาวมหาลัยมันมีคนที่ชื่อ อีแพง เป็นไปแล้ว แต่ก็เป็นดาวนะคะ เป็นดาวร้ายที่ใครต่อใครต่างก็รู้จัก แต่แล้วไงใครแคร์ คนอย่างพระเพื่อนไม่ได้แคร์สายตาหรือขี้ปากของพวกที่มันแค่‘ได้ยินเขาเล่ามา’ หรอก
“เฮ้อ!”
“ถอนหายใจเพื่อน” ฉันหันกลับไปมองอีแซนดี้ที่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความสงสัย
“จะไม่ให้ถอนได้ยังไงก็ไอ้แมนมันถามหามึงจนวุ่นวายกูตอบจนปากแทบฉีกว่ามึงไม่ว่างมันก็วนถามอยู่นั่นว่ามึงมีคนใหม่เหรอ”
“แล้วทำไมมึงไม่บอกไปเลยว่ากูมีผัวใหม่แล้ว”
“เอ้า! กูจะกล้าเหรอพวกมึงเพิ่งคบกันได้ยังไม่ถึงอาทิตย์เลย”
“ไม่เป็นงาน” ฉันเหน็บใส่อีแซนดี้แล้วคว้าโทรศัพท์ของฉันในมือมันมากดส่งข้อความหาแมนซะ
Phrapuen : ไม่ต้องโทรมานะ อยู่กับผัว
ติ๊ด!
“จบ”
“เดี๋ยวก็เป็นเรื่องนะอีเพื่อน” เสียงเตือนดังมาจากอีคนที่มองการกระทำของฉันตลอดเวลาและมันรู้ดีว่าฉํนส่งข้อความอะไรไป
“มีคนกล้ากับลูกสาวมาเฟียด้วยเหรอจ้ะสันต์จ๋า”
“กูนี่แหละที่กล้า เรียกอีกทีกูจะตบปากให้” อีแซนดี้พูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาทำท่าแกล้งจะตบปากฉันเข้าให้
“ฮ่า ๆๆ ขอโทษค่ะแม่ดี้ ไป ๆ ไปหาส้มตำแซ่บ ๆ กินดีกว่า” ฉันหัวเราะอารมณ์ดีแล้วลุกขึ้นพร้อมกับดึงแขนใหญ่ ๆ ของมันให้ลุกตามซึ่งอีตุ๊ดเพื่อนรักก็ไม่อิดออดหรอกเพราเป็นของชอบของเราสองคน
-เวลาต่อมา-
“อีเพื่อน”
“ว่า”
“แล้วพี่กายว่าอะไรอีกไหม”
“ต้องถามด้วยเหรอ” ฉันที่กำลังโซ้ยส้มตำตอบออกไปด้วยท่าทางโคตรชิลเพราะมันเป็นเรื่องที่เรียกได้ว่า ‘เป็นปกติ’ ไปแล้ว
“พี่กายกูเจ็บช้ำใจมากแล้วมั้ง”
“ช้ำเพื่อ? ช้ำที่เมียเก่าโดนแย่งผัวใหม่เหรอ”
“อีบ้า! ช้ำที่เมียเที่ยวไปแย่งผัวคนอื่นไม่หยุดนี่แหละ!”
“อีสันต์” กำลังอร่อยเจอคำนี้เข้าไปไม่อร่อยแล้ว แล้วอีแซนดี้ก็ต้องรู้ดีว่ามันทำให้ปาร์ตี้ส้มตำในวันนี้อวสานไปแล้วมันถึงได้คว้ากระเป๋าตังค์ขึ้นมา
“เฮ้อ! บางทีกูก็อยากให้มึงหยุดแล้วแคร์พี่กายบ้างนะอีเพื่อน แต่ตอนนี้คงไม่ทันหรอกเพราะผัวมึงเขาคิดว่ามึงนอนกับผัวอีแพงทุกคนไปนานแล้ว...มึงกลับไปหาเขาไม่ได้แล้วอีเพื่อน”