ไคโรลงมาถึงห้องชั้นล่างแล้วแยกกันสำรวจกับกวีเพื่อจะได้พาลูกสาวของเพื่อนพ่อออกจากเกาะส่วนตัวนี้สักที เขาเดินมาถึงห้องหนึ่งที่ปิดประตูล็อกอยู่ ไม่ว่าจะหาทางเปิดเท่าไรก็ไม่ได้ รหัสที่พ่อบอกก็เปิดไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือลายนิ้วมือและม่านตาเท่านั้น ห้องนี้มีความลับอะไรซ่อนอยู่ก็ไม่มั่นใจแล้วจะโทรถามพ่อก็ไม่ได้เพราะชั้นใต้ดินไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หรือไม่ก็อาจจะมีใครบางคนตัดสัญญาณ
ตั้งแต่มาที่คฤหาสน์โทรศัพท์ก็ไร้ประโยชน์
ยัยเด็กวาเลนกุมความลับอะไรไว้
กึก
ปืนจ่อกล่องหัวเขา
“อยากตายนักรึไง?”
“เป็นเด็กเป็นเล็กพูดแบบนี้กับผู้ใหญ่ไม่เพราะเลยนะ”
“คนของไอ้แก่นั่นสินะ!”
“ไอ้แก่ที่ว่าชื่อเอเธนส์รึเปล่าล่ะ พ่อฉันสั่งให้มาเอาตัวเธอไป วางปืนลงได้แล้ว”
ผลัวะ!!
ตุบ!!
“โอ๊ย!! ยัยเด็กเปรต” เขาถูกปืนฟาดหัวแถมถูกถีบหลังจนตัวกระแทกประตูห้อง หันหน้ามาอีกทีก็เจอกระบอกปืนจ่อหน้าโดยคนตัวเล็กสูงเท่าหัวไหล่ แต่งชุดสีดำสนิททั้งตัว ปิดบังใบหน้าและแววตาดุมาก ท่าทางนี้ไม่ใช่เด็กเล่นๆแล้ว ดูทรงว่าเขาจะเจองานยากและถ้าจะคุยอะไรตอนนี้คงยากแล้วแหละ
ปรกติชอบทำร้ายผู้หญิงด้วยดาบส่วนตัว
แต่ยัยเด็กนี้ต้องโดนมากกว่านั้น
ผลัวะ!!
“หลบได้น่าหนู เรามันคนละชั้นกัน”
“ใครจ้างแกมากันแน่!?”
“ฉันมาช่วย!”
“โกหก!”
“ฟังกันก่อนดิวะ!”
เท้าเล็กตวัดถีบเข้ากลางหน้าอกอีกฝ่ายก่อนจะเอียงตัวหลบมือใหญ่ที่ฟาดกลับมา เราปะทะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เขาโดนทั้งมือทั้งเท้าไม่หยุด เขาปัดป้องมากกว่าต่อสู้ จนกระทั่งเธอหยิบมีดคู่ขึ้นมาเพราะใช้ปืนยิงจนกระสุนหมดก็ยังไม่โดนจังๆสักนิด โดนมาสุดคือที่ไหล่และแขน
เราปะทะกันอย่างจริงจังและเธอถูกเขาฟาดข้อมือจนมีดร่วงลง มืออีกข้างถูกจับเอาไว้แล้วหักข้อมือก่อนจะมีดจะร่วงลงพื้น เขาเหวี้ยงเธอไปกระแทกประตูแรงมากก่อนจะเข้ามาประชิดตัวแล้วรวบมือเอาไว้พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
“ดูหน้าหน่อยสิ!” เขาจับผ้าปิดหน้ากระชากออกทันทีและสวยจังเลยวะ ดุดันเกินเด็ก แววตาเด็ดขาดเกินวัย น่ารักฉิบหาย น่ารักจนอยากนอนด้วย ใบหน้าบึ้งตึงด้วยความหงุดหงิดแบบนี้แหละถูกใจสุดๆ ไหนๆเขาก็โดนยัยเด็กน่ารักต่อยและถีบ แถมโดนยิงจนเลือดไหลอาบแล้วขอเอาคืนสักทีหน่อยเถอะ
ฟอด…
“แก้มนุ่มจัง ตัวก็หอมมากด้วยนะ”
“ไอ้โรคจิต!!”
“พ่อฉันให้มารับเธอออกจากที่นี่”
“คนเมื่อวานก็พูดแบบนี้!”
“คนเมื่อวานอะไรห่ะ ฉันพึ่งมาถึงวันนี้!”
“ลุงเอเธนส์บอกอะไรบ้าง?”
“เธอเป็นลูกสาวของอาฟีนิกซ์แค่นั้น”
“ประโยคเดิมๆ”
“ฉันจะโทรหาพ่อให้ทันทีที่มีสัญญาณโทรศัพท์จะได้คุยให้เคลียร์แล้วไปด้วยกัน ตกลงไหม?”
“ไม่!”
“ทำไมดื้อจังวะวาเลน!”
“ปล่อยฉัน!!”
“ขอจูบสักทีดิ แล้วพี่จะปล่อยมือ”
ในขณะที่กวีเดินกลับมาหานายน้อยไคโรเพื่อจะรายงานว่าทางนั้นไม่เจอใครเลย แต่กลับเห็นภาพที่ทำให้รู้สึกเป็นห่วงและแอบขำเบาๆ เลือดไหลขนาดนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าบาดเจ็บ ส่วนใครเป็นคนทำก็คงไม่ต้องบอกเพราะตอนนี้ถูกจับมัดมือเอาไว้อยู่ เขาเดินไปหาแล้วมองรูปถ่ายที่ได้มาสลับกับเด็กคนนี้พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
ในที่สุดก็เจอตัวสักที
อยากกลับบ้านไปนอนพักแล้ว
“คุณวาเลนตัวเล็กกว่าที่คิดนะครับ”
“ดุเกินเด็กด้วย!”
“คุยกันเข้าใจรึยังครับนายน้อย?”
“ถ้าเข้าใจจะมัดไว้แบบนี้รึไงวะ!”
“เรารีบออกไปเถอะครับ อีกไม่นานพายุจะมาแล้วถ้าช้าคงต้องติดอยู่ที่นี่”
“ได้ยินไหมยัยเด็กบ้า!” ไคโรหันไปถามเสียงแข็งใส่เล็กที่เอาหัวโขลกหน้าเขาเพราะไม่อยากโดนจูบ ผลมันเลยออกมาว่าเขาปากแตกจนเลือดออกอยู่นี่ไง เด็กบ้าอะไรสวยฉิบหาย น่ารักสุดๆ แต่ก็ดุเหมือนเลี้ยงอยู่ในกรงเสืองั้นแหละ นี่ถ้าไม่มัดมือเอาไว้คงจะหาทางฆ่าเขาแน่นอน
อยากเห็นวาเลนยิ้มจังเลยวะ
เมื่อไรจะอารมณ์ดีเนี่ย
ไคโรดันตัววาเลนเดินไปขึ้นบันได แต่ยัยเด็กบ้าปรายตามองเหมือนเขาเป็นคนโง่ เธอเดินไปขึ้นลิฟต์แล้วกดไปชั้นบนทันที จากนั้นก็เปิดประตูออกมาอยู่ห้องเก็บไวน์ เขาเดินออกมาพร้อมกับกวีด้วยความระมัดระวังมากเพราะมันเงียบเกินไป เรามากันหกคนและแยกออกสามทีมเพื่อจะได้ง่ายต่อการค้นหา
ด้านนอกเต็มไปด้วยเลือด
พวกมันวนกลับมา
“ด้านนอกมีพวกมันมากกว่ายี่สิบครับนายน้อย พวกนั้นอยู่เต็มไปหมดเลย”
“มันคงรอเรามาแล้วตามมาตลบหลังอีกที”
“ไปชั้นใต้ดินดีกว่าน่าจะปลอดภัยกว่าที่นี่”
ไคโรจำใจต้องพายัยเด็กแสบกลับไปที่ห้องใต้ดินดังเดิมเพราะออกไปตอนนี้มีแต่จะปะทะกัน แถมคนของเราก็น้อยกว่ามาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลืมจะหยิบไวน์ลงไปด้วยเผื่อว่าคอแห้งจะได้มีอะไรดื่ม แล้วต้องปรับความเข้าใจกันวาเลนก่อนที่เธอจะอาละวาดอีกครั้ง เราลงมาถึงชั้นล่างที่ดูไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากเท่าไร จนกระทั่งวาเลนเปิดประตูห้องที่เขาพยายามเปิดแล้วเดินนำเข้าไป
ที่นี่มีครบทุกอย่างที่ต้องการ
“พวกมันไม่ไปง่ายๆหรอก”
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“ไหนว่าจะโทรหาลุงเอเธนส์ให้ไง?”
“ก็ที่นี่มัน…มีสัญญาณแล้ว!”
“มีเฉพาะห้องนี้ห้องเดียว”
“ถ้าบอกตั้งแต่ทีแรกคงได้คุยนานแล้ว”
“หน้าตาอย่างกับโรคจิตใครจะกล้าไว้ใจ!”
“ถ้าพี่โรคจิตเธอก็มาจากนรก!”
กวีถอนหายใจด้วยความเหนื่อยมากจริงๆเพราะสถานการณ์ตอนนี้ชวนอึดอัดมาก นายน้อยไคโรหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว ส่วนคุณวาเลนก็ยังโมโหไม่หาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะแรกเจอกันก็อยู่ในสถานการณ์เสี่ยงชีวิตแบบนี้ นายน้อยไคโรโทรหาไม่กี่นาทีคุณท่านก็รับสาย จากนั้นพูดคุยไม่กี่คำถึงส่งให้คุณวาเลนคุยต่อเพื่อจะได้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง รวมถึงพวกเราจะได้ไว้ใจกันมากขึ้นด้วย
นายน้อยไคโรบาดเจ็บยังไม่ทำแผล
พลาดได้ยังไงนะ
“คุยจบแล้วใช้ไหมห่ะ?”
“อืม”
“งั้นไปหาอะไรก็ได้มาทำแผลให้พี่เดี๋ยวนี้เลย”
“พี่กวีก็อยู่”
“ก็เธอไหมล่ะที่ยิงพี่อะ!”
“ทำก็ได้!”
ไคโรมองตามเด็กที่เดินไปเปิดตู้แล้วหยิบอุปกรณ์แผลออกมา ที่นี่สามารถอยู่ได้อย่างสบายเป็นเดือนก็ไม่มีปัญหาอะไร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ขนมค่อนข้างเยอะ ไฟฟ้าสำรองและที่นอนให้พักสำหรับหนึ่งคน ห้องนี้มีหนังสืออยู่ไม่เยอะเท่าไรแต่ส่วนใหญ่จะเป็นนิยายไซไฟ เขาถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดออกด้วยความหนักใจ แล้วมองไปทางวาเลนที่เดินหน้าตึงมาหาเพื่อจะทำแผลให้
ใบหน้าสวยปนดื้อแบบนี้โคตรน่ารัก
เขาอยากได้เธอจังเลย
“โอ๊ย! ทำเบาๆไม่เป็นรึไง?”
“ตัวใหญ่ขนาดนี้ไม่คิดว่าจะเจ็บง่าย”
“แล้วช่วงที่คนอื่นหนีทำไมไม่หนีไปด้วย”
“ยังหนีไม่ได้ไง ต้องทำตามที่พ่อสั่งเอาไว้ก่อน”
“ทำอะไร?”
“ลุงเอเธนส์ไม่ได้สั่งว่าให้บอกพี่ไคโร”
“ยังไงซะพ่อก็ต้องบอกพี่เองอยู่แล้ว!”
“ถ้างั้นก็รอรู้จากปากลุงเอเธนส์เองแล้วกัน”
“เฮ้อ…พอมีชุดให้พี่เปลี่ยนไหม?”
“ชุดพ่อได้ไหม?”
“ได้ดิ แล้วอยู่ที่ไหน?”
“ชั้นบน เดี๋ยวค่ำๆจะไปเอามาให้ ตอนนั้นพวกเขาก็น่าจะไปก่อนพายุจะเข้าแล้วแหละ”
“งั้นคืนนี้เรากลับกันเลย”
“ไม่ทันหรอก”
“ทำไมจะไม่ทันในเมื่อพายุเข้าวันมะรือ”
“น่าจะมาคืนนี้แหละ ที่นี่มักจะโดนพายุก่อนตลอด แล้วอีกอย่างแถวนี้ก็มีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นตลอดเวลาจนเป็นเรื่องปรกติแล้ว ช่วงนั้นลมจะกรรโชกแรงมากทำให้คลื่นสูงจนสามารถล่มเรือเล็กๆอย่างสปีดโบ๊ทได้เลย เดินทางคืนนี้ยังไงก็ไม่ปลอดภัยไม่ว่าจะทางน้ำหรือทางอากาศ แถวนี้เลยไม่ค่อยมีคนอยู่”
“คิดว่าเราจะต้องติดไปอีกกี่วัน”
“พายุน่าจะเข้าสี่ห้าวันถึงอ่อนกำลังลง บางทีถ้าเอาเฮลิคอปเตอร์มารับตอนกลางวันช่วงที่ฟ้ายังสงบอยู่น่าจะไม่มีปัญหาอะไรมาก”
“กวีติดต่อพ่อกูได้เลย”
“ครับนายน้อย”
เขามองเด็กที่ไม่ยิ้มออกมาเลยสักนิด เธอซ่อนความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้และอยู่ที่นี่เพื่อทำตามคำสั่งของพ่อตัวเอง เขาไม่มั่นใจว่าเธอรู้รึเปล่าว่าอาฟีนิกซ์ถูกลอบทำร้ายอาการสาหัสกำลังรักษาตัวอยู่ พวกนั้นต้องการอะไรบางอย่างที่สำคัญมากชนิดที่พ่อไม่ยอมบอกเขาก่อนจะได้ตัววาเลนไป ธุรกิจของพ่อที่ร่วมกับอาฟีนิกซ์ค่อนข้างเทามากและอาจจะเหยียบเท้าใครสักคนเข้าอย่างจังจนมันทนไม่ไหว
พ่อบอกว่าวาเลนกุมความลับเอาไว้
อยากรู้ความลับแล้วสิ
“แล้วสองสามวันที่อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอ?”
“ก็มีหนังสืออยู่ไง ชั้นล่างนี้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ปรกติทุกอย่างต่อให้ชั้นบนจะถูกตัดสัญญาณ”
“แล้วกินอะไรยังไง?”
“ช่วงที่พวกนั้นไปก็ออกไปเก็บบ้านแล้วทำอะไรกินเงียบๆ จากนั้นก็ลงมาซ่อนตัวรอคนมารับ แต่ว่าเมื่อวานมีคนมาแล้วบอกว่ามาจากลุงเอเธนส์ เขาเกือบจะจับตัวฉันไปฆ่าได้แล้วแหละ แต่คำพูดแปลกๆทำให้ไหวตัวทันแล้วหนีรอดมาได้อีกครั้ง สงสัยพวกนั้นรู้ว่าพวกพี่มาก็เลยส่งคนมาเพิ่มเพื่อตามหาและเอาตัวไป”
“รู้ใช่ไหมว่ามันเป็นใคร?”
“ส่งข้อมูลให้ลุงเอเธนส์แล้ว”
“วาเลน…บอกพี่ไม่ได้เหรอ?”
“คนใกล้ตัวของพ่อกับลุง”
“ใกล้ตัวอีกแล้ว! ไม่ต้องกลัวนะพี่จะพาออกไปอย่างปลอดภัย”
“พี่ควรจะห่วงตัวเองมากเถอะ”
“คิดว่าตัวเองเก่งมากรึไงห่ะ!?”
“แล้วแผลนี้พี่ได้มาไงเล่า!”
“โอ๊ย!! ใช้มือหรือใช้ตีนทำแผลเนี่ย!!” ยัยเด็กบ้ากดแผลซะแรงเชียว แต่ก็นับว่าทำแผลเก่งเหมือนกันนะเนี่ยสงสัยจะทำบ่อย เธอติดผ้าก็อตกันน้ำให้เรียบร้อยก็เริ่มเก็บของใส่กล่อง แต่ว่าเขาจับมือเล็กๆเอาไว้ก่อนแล้วมองดูรอยช้ำสีเขียวและแผลที่มีเลือดซึมออกมาจากข้อมือเพราะถูกมีดบาดในตอนที่ถูกเขาจับได้
“พี่ทำให้”
“ไม่ต้อง!”
“พี่ไม่แกล้งหรอกน่า เร็วๆอย่าดื้อ!”
วาเลนยอมอยู่นิ่งให้เขาทำแผลให้อย่างเบามือและคล่องแคล่วมาก เขามองหน้าเธอแล้วยิ้มกว้างก่อนจะก้มลงมาใกล้จนหันหน้าหนีด้วยความตกใจมาก พอทำแผลเสร็จแล้วเธอก็รีบลุกขึ้นเก็บของไปไว้ที่ตู้ตามเดิม จากนั้นมองเวลารอจะขึ้นไปชั้นบนเพื่อจัดการที่นี่ให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้อมูลทุกอย่างที่พ่อสั่งให้ส่งให้ลุงเอเธนส์เรียบร้อยหมดแล้ว จากนั้นก็ลบไฟล์ทุกอย่างทิ้งไปก่อน เธอฝังมัลแวร์เอาไว้และพร้อมปล่อยไวรัส ถ้ามีใครพยายามจะเชื่อมต่อเพื่อกู้ข้อมูลก็จะถูกดูดเอาข้อมูลคืนเช่นกัน
ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่ออยู่ที่ไหน
เมื่อหลายวันก่อนพ่อบอกว่าไปประชุมด่วน