เงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่ครับน้องฝันหวาน

1670 คำ
หลังเลิกเรียนกิจกรรมของเด็กปี 1 อย่างฉันรวมถึงเพื่อนในเอกที่ไม่ได้ลงแข่งดาวเดือน ไม่ได้ลงแข่งกีฬาหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นให้คณะต้องเข้ารับน้องและซ้อมเชียร์ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก แต่ทำไงได้... ในเมื่อเราอยู่ปี 1 จะให้ปีกกล้าขาแข็งไม่เข้าร่วมกิจกรรมของทางมหาลัยก็ใช่เรื่อง เพราะงั้นถ้ารุ่นพี่สั่งให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะ ตราบใดที่ไม่ใช่เรื่องเกินกว่าเหตุน่ะนะ พอเฟรชชี่เดย์เฟรชชี่ไนท์จบลงก็หลุดพ้น ไม่ต้องมาฟังรุ่นพี่บ่นหรือว้ากโน่นนี่นั่น รวมถึงปรบ มือร้องเพลงที่น่าเบื่อกันละ “ฟังทางนี้หน่อยค่ะ พี่มีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ปี 1 ทุกคนทราบ!” พี่เบียร์ ประธานคณะมนุษย์ศาสตร์ปี 2 ยกมือป้องปากประกาศเสียงดังกว่าปกติ พวกเราปี 1 ที่นั่งรวมตัวใต้ตึกกลางของคณะเงียบลง “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คณะของเราจะรับน้องพร้อมคณะวิศวะ หลังเลิกเรียนน้องๆ ต้องไปรวมตัวกันที่ลานเกียร์ ส่วนซ้อมเชียร์ยังเป็นของคณะใครคณะมันเหมือนเดิม” ขวับ! ฉันตาเหลือกพร้อมกับหันหน้าเข้าหาพีช เอมและแก้มยุ้ยทันควัน! เพื่อนสนิททั้งสามอาจจะกลัวพี่ว้ากคณะวิศวะถึงพากันตกใจที่ต้องรับน้องรวม ส่วนฝันหวานคนนี้มีอะไรมากกว่านั้น... ตั้งแต่พี่เดย์ช่วยฉันด้วยการประกาศต่อหน้าบอสเอกอิ้งค์ว่าเราสองคนเป็นแฟนกันเมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันก็ไม่บังเอิญเจอพี่เค้าอีกเลย... ซึ่งถือว่าดีแล้วแหละ เพราะถ้าพบกันอีกครั้งก็ไม่รู้จะปั้นหน้ายัง ไงเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าฉันโกรธพี่เดย์ที่ทำอะไรโดยไม่ปรึกษาหรอกนะ ในสถานการณ์จวนตัวอย่างนั้น ขืนหันมาตกลงกันก่อนใครจะเชื่อ แถมสิ่งที่พี่เดย์ทำมันได้ผลมากด้วย บอสที่ตื๊อกันไม่หยุด ไม่กล้าเข้ามายุ่งกับฉันอีกเลย... ไม่ต้องเหนื่อยหนีหรือเหนื่อยปฏิเสธอีกแล้ว โคตรโล่งอกอ่ะ! ฟังมามีแต่เรื่องดีๆ ใช่ม้า แล้วเหตุผลอะไรทำให้ฉันไม่อยากเจอผู้มีพระคุณ ไม่ใช่ว่าไม่สำนึกในบุญคุณ ทุกวันนี้ยังซึ้งใจอยู่ตลอด แต่เป็นเพราะฉันกลัวยังไงเล่า! ก็วันนั้นน่ะดันลืมตัว ยื่นมือไปบิดหลังพี่เดย์ทันทีเมื่อพี่เค้าพูดว่าเราเป็นแฟนกันต่อหน้าบอสและเด็กวิศวะ แต่พอฉุกคิดได้ว่าที่พี่เค้าทำไปเพราะอยากช่วย มือก็ดันเผลอหยิกโดยอัตโนมัติแล้วไง ที่สำคัญอีกฝ่ายยังทวงสัญญาเรื่องไปทานข้าวด้วยกันอีก ความวิตกก็จู่โจมเข้ามาในอกไม่หยุดยั้ง แถมเสียงลือก็มีไม่หวาดไม่ไหวเรื่องพี่ว้ากคณะนี้น่ากลัว ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ที่ลานเกียร์เมื่อวันเปิดเทอมตอนพี่เดย์ว้ากเด็กวิศวะปี1 หลายร้อยจนทุกคนเงียบกริบ บางคนถึงขั้นตัวสั่นให้เห็น บอกเลยว่าฝันหวานคนนี้กั๋วแต้กั๋วว่า (กลัวมาก) กั๋วยะหยังบ่ถูกใจ๋แล้วปี้เปิ้นจะว้ากใส่น่ะก่ะ ฮือ! โอเค! พี่เดย์อาจจะหล่อมากถึงขั้นทำให้ฉันใจเต้นผิดจังหวะมาแล้ว แถมฉันยังเคยเจอพี่เค้าในมุมที่มีน้ำใจถึงขั้นถือเสื้อมาส่งถึงหน้าหอรวมถึงจัดการจ่ายค่าข้าวให้ด้วย แต่เพราะไม่รู้มุมไหนคือตัว ตนที่แท้ทรูของพี่เขาไง เกิดความใจดีมีอยู่ 20 แต่ความดุมี 80 งี้! ถ้าต้องทานข้าวด้วยกันจริง... ฉันต้องตัวสั่นงันงกแบบไม่ต้องสืบอ่ะ! เพราะงั้นอย่าเจอกันเลยน่าจะดีที่สุด เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง ยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่กล้าบอกใครเรื่องพี่เดย์เคยยื่นมาช่วยอยู่หลายครั้งรวมถึงชวนไปทานข้าวด้วย ขนาดพีชที่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋แถมคุยกันได้ทุกเรื่อง... ยังไม่กล้าเอ่ยปากเลย ให้มันเป็นความลับน่ะดีละ! แล้วนี่อะไร... ทำไมฟ้าไม่เมตตาฝันหวานบ้าง? ทำไมต้องมีการรับน้องรวมคณะ แล้วแบบนี้จะหลบหน้าพี่เดย์ยังไง ถ้าพี่เค้าเกิดเข้ามาทวงสัญญาทานข้าวต่อหน้าคนอื่นไม่แย่เหรอ โอย! หัวจะปวด! “เงียบหน่อยครับ! เพราะเป็นแบบนี้ไงถึงต้องไปฝึกระเบียบกับคณะวิศวะน่ะ!” เสียงตะโกนของพี่เฮ้ดว้ากหน้าดุทำให้ฉันกลับมามีสติ เพื่อนร่วมคณะที่กำลังวิจารณ์ต่างเงียบลง “พี่เตือนด้วยความหวังดีนะคะ ต่อจากนี้ถ้าน้องคนไหนโดดรับน้องเตรียมตัวรับโทษได้เลย รุ่นพี่วิศวะไม่ได้ใจดีเหมือนพี่คณะเราแน่นอน” สีหน้าของพี่เบียร์ตอนประกาศคือจริงจังขั้นสุด คือแบบว่าบางทีเพื่อนเอกอื่นก็โดดรับน้องไง แต่เอกญี่ปุ่นเข้ากันครบตลอดเพราะพวกเราไม่อยากมีปัญหานั่นล่ะ “เข้าใจมั้ย!” พี่เฮ้ดว้ากถามเสียงดังจนฉันกับพีชแอบหยีตา ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าต้องรับน้องที่ลานเกียร์จะสะดุ้งกว่านี้อีกกี่เท่า ฮือ! “เข้าใจครับ / เข้าใจค่ะ” พวกเราน้องปี 1 ทุกเอกตอบอย่างพร้อมเพรียง “เข้าใจก็ไปที่ลานเกียร์ได้ เริ่มจากเอกไทยก่อนเลย” ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีพวกเราเด็กมนุษย์ก็เดินมาถึงลานเกียร์ที่คลาคล่ำไปด้วยเด็กวิศวะรวมถึงพี่เดย์ด้วย แง! “แก! พวกพี่ว้ากหล่อมากกกก แต่ละคนงานดีสุดไรสุด” “หล่อจริงแก ยิ่งพี่เทมส์ พี่เดย์ พี่เจมส์ พี่กัสคือหล่อมากเว่อร์ หล่อยิ่งกว่าดาราอีก” “หือ! แกรู้จักพวกพี่เค้าด้วย?” “ถามแบบนี้แกไม่ได้อยู่ในเพจผู้งานดีของ ม. เราล่ะสิ” “หึ ไม่ได้อยู่ ทำไมเหรอ?” “ว่าละ ถ้าแกอยู่คงไม่สงสัย อยากจะบอกว่าแอดมินเพจอัพรูปพี่ 4 คนนี้บ่อยมาก อัพจนลูกเพจหลงพวกพี่เค้าจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว” เพื่อนเอกอื่นพากันเม้าท์และกรีดร้องในความหล่อของพี่ว้ากคณะวิศวะไม่หยุด เด็กเอกญี่ปุ่นพากันเงียบกริบเพราะยังจำเหตุการณ์เมื่อวันเปิดเทอมได้ดีว่าพี่ว้ากคณะนี้น่ากลัวขนาดไหน ส่วนเด็กวิศวะที่นั่งบนลานเกียร์อย่างมีระเบียบเริ่มหันไปชวนคนข้างๆ คุย และทันใดนั้นเอง... ดันเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น “ใครอนุญาตให้พวกคุณพูด! อยากลุกนั่ง 50 ครั้งใช่มั้ย!” เฮือก! ฉันกับพีชจับมือกันอย่างไวเมื่อได้ยินเสียงดุดันของพี่เฮ้ดว้ากคณะวิศวะ เชื่อมั้ยว่าทุกอย่างเงียบกริบลงทันที เพื่อนในคณะบางคนถึงกับตัวสั่นเมื่อเห็นความน่ากลัวของผู้ชายหล่อเกินต้านเต็มสองตา “เชิญคณะมนุษย์เข้ามานั่งเลยครับ เรียงตามเอกเลย” รอบนี้พี่เดย์เป็นคนออกคำสั่ง แววตาเต็มไปด้วยความดุดันเล่นเอาเด็กมนุษย์อย่างเราเกร็งกันหมด เห็นเปล่าล่ะน่ากลัวแค่ไหน จะให้ฉันไปทานข้าวด้วยเนี่ยนะ... ไม่ไหวหรอก! “มีไรรึเปล่าฝัน ฉันว่าแกดูแปลกๆ” พีชกระซิบถามตอนที่พวกเรากำลังเดินผ่านพี่เดย์แล้วฉันพยายามทำตัวหดลงให้มากที่สุด แล้วดูสิ... ฉันแอบเห็นพี่เขายิ้มมุมปากด้วยแหละ หวังว่าพี่เค้าคงไม่ขำฉันหรอกนะ! “ฉันแค่กลัวพวกพี่ว้ากคณะนี้” ฉันกระซิบตอบ พีชเลยไม่ถามไรอีก ก็คงกลัวเหมือนกันนั่นล่ะ พอพวกเราเด็กมนุษย์เข้ามานั่งกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยครบทุกเอก พี่ว้ากคณะวิศวะก็เริ่มแนะนำตัวกันรัวๆๆ แล้วถ้าจำชื่อพวกพี่ไม่ได้ต้องโดนทำโทษ... จะโหดไปดาวอังคารหรือไงคะ! “ผมเจมส์” “ผมกัส” “ผมเดย์” พอได้ยินชื่อนี้ ฉันรีบห่อตัวลงทันทีโดยไม่รู้ตัว “ผมเทมส์” เอ๊ะๆ เดี๋ยวนะ! นี่มันแปลกเกินไปรึเปล่า ทำไมฉันรู้สึกว่าพี่เฮ้ดว้ากอย่างพี่เทมส์กำลังแนะนำตัวกับพีชแค่สองคน ก็แบบถึงพี่เค้าจะบอกชื่อกับน้องปี 1 แต่ดันใช้สายตามองพีชที่นั่งหน้าฉันตาไม่กะพริบเลย “พีช” ฉันก้มตัวเรียกเพื่อนรักเสียงเบา “ว่า” พีชที่ยังก้มหน้าไม่เปลี่ยน ถามกลับเสียงเบาหวิวเช่นกัน “ฉันว่าพี่เทมส์เค้ามองแกอยู่นะ” “.............” พีชเงียบ ไม่ตอบอะไรนอกจากก้มหน้าท่าเดียว พรึ่บ! จู่ๆ ก็มีใครบางคนเดินมาหยุดข้างๆ ตายล่ะ! อย่าบอกนะว่าพี่ว้ากเห็นฉันคุยกับพีชเลยเดินเข้ามาว้าก พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยหนูด้วย! หือ! ว่าแต่คนที่ยืนข้างกันเกือบนาทีไม่เห็นส่งเสียงอะไร สรุปยังไงกันแน่? ฉันไล่สายตาจากจากขายาวๆ ขึ้นไปมองด้านบนด้วยความอยากรู้ จนกระทั่งเห็นเป็นหน้าหล่อเหลาของคนที่ไม่อยากเจอ... พะ พี่เดย์! ขวับ! ฉันก้มหน้าหลบสายตา มองพื้นลานเกียร์เป็นพัลวัน พี่เค้ามายืนข้างฉันทำไมก่อน? มาเพื่อ? เดี๋ยวความก็แตกพอดีหรอก ที่เราสองคนรู้จักกัน!! “เงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่ครับน้องฝันหวาน” เสียงของพี่เดย์ดังไม่มาก แต่ก็พอทำให้เพื่อนที่นั่งแถวนี้เหลือบสายตามองมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ รวมถึงพีชที่นั่งตรงหน้าหันขวับมาเลยทีเดียว ดีใจมากๆๆๆๆ เลยค่ะที่มีนักอ่านติดตามมากขึ้น แถมยังใจดีคอมเม้นท์ให้ด้วย หวังว่าคงจะชอบกันน้าาา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม