“อืม.” ไวทย์มองภรรยาแล้วพยักหน้าบางครั้งเขากับปรีชญาเหมือนคนแปลกหน้าทั้งที่นอนเตียงเดียวกันมายี่สิบกว่าปีแม้เขาจะทำหน้าที่สามีได้ไม่เต็มร้อยแต่เธอก็พอใจแม้บางครั้งจะมีปากเสียงกันบ้างที่ปรีชญาหยิบเรื่องของวลาลีมาพูดไปในทางไม่ดีทำให้เขาไม่พอใจและเธอก็รู้ว่าเขายังรักวลาลี
“วันนี้พี่ไวทย์ไปออกรอบกับเพื่อนหรือเปล่าคะ” ปรีชญาถามสามีที่จะนัดออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนอาทิตย์ละครั้ง หรือไม่ก็ไปเจอกันที่ฟิตเนสของของ คชา สุริยะพันธ์ เพื่อของอนิกม์ และเป็นลูกชายของรณชัย สุริยะพันธ์ ที่แยกตัวมาทำธุรกิจฟิตเนสของตัวเองนับสิบสาขาทั่วกรุงเทพและมีสาขาใหญ่อยู่ที่ซอยทองหล่อซึ่งรุ่นลูกรุ่นพ่อจะนัดเจอกันที่นี่บ่อยๆ
“วันนี้ว่าจะไปฟิตเนสกันน่ะ ปี่มีอะไรหรือเปล่า” ปกติไวทย์จะเรียกน้องปี่ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ทำให้เขาต้องรับผิดชอบปรีชญาอย่างไม่เต็มใจเขาจะเรียกแค่ปี่เฉยๆมาจนทุกวันนี้
“พอดีกานดาชวนปี่ไปดูหนูเกรซเดินแบบงานกุศลที่สมาคมจัดขึ้น ปี่คงกลับค่ำค่ะ” ปรีชญาบอกสามีเมื่อกานดาเพื่อนของเธอนัดไปดู กานรวี ลูกสาวของเพื่อนเดินแฟชั่นการกุศล
“ไม่เป็นไรพี่จะกินข้าวกับเพื่อนเลยละกัน” ไวทย์ตอบภรรยาถึงแม้เขาไม่ได้รักปรีชญาแต่ด้วยความที่อยู่กินด้วยกันมานานมันก็ย่อมผูกพันกันเป็นธรรมดาแม้อยากจะเลิกแต่ทำไม่ได้เพราะมีลูกด้วยกัน
สองสามีภรรยากินอาหารเช้าด้วยกันก่อนไวทย์จะเข้าไปหมกตัวอยู่ในห้องทำงานเพื่อดูการซื้อขายหุ้นในตลาดวันนี้ เขาได้มอบหมายให้ลูกชายดูแลบริษัทแต่ยังดำรงตำแหน่งประธานบริษัทเป็นที่ปรึกษาให้ลูกๆและลูกสาวก็เพิ่งจะไปช่วยงานได้ปีกว่าหลังจากไปเรียนจบปริญญาโทด้านบริหารจากอเมริกา ก่อนนั่งคิดถึงเรื่องที่ผ่านมานานเกือบยี่สิบเก้าปีวันที่ทำให้ชีวิตของเขาพลิกผันในงานวันเกิดของตัวเองทั้งที่นัดกับวลาลีแฟนสาวไว้จะพาเธอมารู้จักกับพ่อแม่และพี่ชายแต่มันไม่เหมือนที่เขาคิดเลยสักนิด
ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบเก้าปีก่อน
วลาลี สิริวงค์ วัย 22ปีเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยของรัฐบาลหญิงสาวก็นัดกับเพื่อนๆนัดกับเพื่อนทั้งห้าคนไปเที่ยวฉลองเรียบจบไปดำน้ำที่เกาะทะลุจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนเพื่อนๆจะจากแยกย้ายกันไปทำงานมี โชติกาหรือแป๋มคนเดียวที่จะไปไปเรียนต่อที่อังกฤษส่วนวลาลีก็เริ่มงานที่สายการบินเดียวกับพี่สาวเป็นพนักงานประชาสัมพันธ์ วรนันท์ก็กลับไปทำงานที่เชียงใหม่ใกล้บ้าน รสรินกับมณียาก็ทำงานบริษัทเป็นสาวออฟฟิต วันทนีย์ก็กลับไปช่วยงานที่ร้านอาหารทะเลของครอบครัวที่บ้านเกิดจังหวัดเพชรบุรี
หลังจากนั้นสองอาทิตย์ วลาลีพา ไวทย์ ราชภักดีภิมุข แฟนหนุ่มไปแนะนำให้รู้จักกับ วิมาลา สิริวงค์ พี่สาวคนเดียวของเธอ วิมาลาก็ไม่ห้ามน้องสาวแต่เตือนด้วยความเป็นห่วงเพราะไวทย์ เป็นถึงทายาทของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริษัทก่อสร้างหนึ่งในห้ายักษ์ใหญ่ของเมืองไทยแต่ไวยท์ยืนยันว่ารักน้องสาวของเธอและวางแผนจะแต่งงานกันเร็วๆนี้เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นแค่แฟนกันทั้งคู่มีความสัมพันธ์เกินเลยกันแล้วครั้งแรกเมื่อตอนงานเลี้ยงที่วลาลีฝึกงานเสร็จและครั้งที่สองเมื่อเดือนก่อนที่พวกเธอนัดกันไปเที่ยวฉลองเรียนจบและหญิงสาวก็ป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีไม่อยากให้พี่สาวผิดหวังว่าท้องก่อนแต่งงานและไวทย์ก็สัญาว่าจะไม่ล่วงเกินเธออีกจนกว่าจะแต่งงาน
เมื่อวลาลีเริ่มทำงานแล้วจึงทำให้มีเวลาเจอแฟนหนุ่มได้แค่วันหยุดแต่จะโทรหากันทุกวันและวันนี้เป็นวันเกิดของไวทย์อายุครบยี่สิบแปดปีในวันที่สิบห้าพฤศจิกายน เขาบอกว่าจะแนะนำเธอกับครอบครัวและเปิดตัวว่าคบกันอย่างเปิดเผยทำให้วลาลีตื่นเต้นและอิดออดไม่อยากไปงานของไฮโซ
“สวยแล้วล่ะน้องรัก” วิมาลามองน้องสาวอย่างชื่นชม วลาลีเหมือนแม่ที่ตัวเล็กแต่เธอสูงเพรียวเหมือนพ่อตอนนี้ก็เหลือสองคนพี่น้องหลังจาก การะเกด แม่ของพวกเธอเสียด้วยโรคมะเร็งไปเมื่อเจ็ดปีก่อนและ ประชัย พ่อเพิ่งเสียเมื่อสองปีก่อน ท่านเป็นปลัดอำเภออยู่ที่จังหวัดน่านเอาเครื่องนุ่งห่มไปช่วยเหลือชาวบ้านบนเขาและรถเกิดอุบัติเหตุตกเขาทำให้เสียชีวิตในหน้าที่ วิมาลาก็ทำหน้าที่ดูแลส่งเสียน้องสาวและยังมีเงินช่วยเหลือจากงานศพของพ่อที่เก็บไว้ให้น้องสาวเรียนจนจบก็ยังมีเหลืออยู่ทำให้สองพี่น้องไม่ขัดสนเพราะเธอก็ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสรายได้ก็ดีและยังหิ้วของมาให้น้องสาวตามออเดอร์ที่เพื่อนๆในมหาวิทยาลัยสั่งอีก วิมาลาวางแผนแต่งงานกับโจนัส สแตนเบิร์ก วัยสี่สิบปี แฟนหนุ่มใหญ่ที่เป็นกัปตันของสายการบินเดียวกันเมื่อน้องสาวเรียนจบและมีงานทำเลี้ยงตัวเองได้
“หนูไม่มั่นใจเลยค่ะพี่มาลาและไม่อยากไปด้วยงานนี้มีแต่ไฮโซทั้งนั้นค่ะ” งานวันเกิดของไวทย์ที่สื่อเขียนแซวข่าวว่าจะมีเซอร์ไพรส์แต่เรื่องอะไรนั้นต้องรอเจ้าของงานบอกก็ยิ่งทำให้วลาลีตื่นเต้น
“ไปเถอะจ้ะ จะเป็นไฮโซหรือโลโซก็เป็นคนเดินดินเหมือนกันในเมื่อลีคบกับคุณไวทย์ก็ต้องยอมรับสังคมของเขาได้สิจ้ะ ไปเถอะรถมาแล้วมั้ง แล้วดูแลตัวเองดีล่ะพี่ถึงสวิตแล้วจะโทรมาหานะ” วิมาลาบอกน้องสาวเรื่องความรักมันห้ามกันไม่ได้ในเมื่อน้องสาวโตพอที่จะคิดเองและเรียนจบแล้วที่ผ่านมาวลาลีไม่เคยสร้างปัญหาให้เธอน้องสาวยังทำงานพาร์ทไทม์เสาร์อาทิตย์เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายทั้งที่เธอห้ามจนสุดท้ายก็ปล่อยให้น้องสาวทำ เธอได้แต่หวังว่าเรื่องความรักของน้องสาวจะราบรื่น และคืนนี้เธอจะเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อไปพักผ่อนกับครอบครัวของแฟนหนุ่มรุ่นใหญ่
“หนูขอให้พี่มาลาเดินทางปลอดภัยนะคะ ฝากเซฮัลโหลพี่เขยด้วย หนูไปนะคะพี่มาลา” วลาลียิ้มให้พี่สาวแล้วเดินออกไปจากบ้านเมื่อเห็นรถของแฟนหนุ่มส่งคนมารับไปที่โรงแรมที่จัดงานเลี้ยงก็ไม่พ้นโรงแรม สิริโชค เรสซิเดนซ์ แอนด์ รีสอร์ท โรงแรมหรูหกดาวของ อนล ศุภสิริโชคเพื่อนของไวทย์
วลาลีมาถึงโรงแรมหรูกลางเมืองหลวงก็ประหม่าจนคนขับรถเดินมาเปิดประตูรถให้เธอถึงได้สติมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกที่มางานหรูและมาคนเดียวแต่โชติกาบอกว่าจะรอเธออยู่หน้างานแล้วเดือนหน้าเพื่อนของเธอถึงจะเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ
“ขอบคุณค่ะ” สาวร่างเล็กลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างเก้ๆกังๆไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“หนูลี” เสียงห้าวดังขึ้นด้านหลังทำให้สาวร่างเล็กบอบบางในชุดราตรีหรูสีชมพูอ่อนสวยน่ารักราวกับตุ๊กตาหันไปมอง
“พี่อนลสวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ อนล ศุภสิริโชค วัยยี่สิบแปดปีเพื่อนของแฟนหนุ่มและเป็นเจ้าของโรงแรม
“มาคนเดียวเหรอครับ นายไวทย์ล่ะ” อนลถามหาเพื่อนที่น่าจะมาพร้อมกับแฟนสาว
“พี่ไวทย์ส่งรถไปรับหนูที่บ้านค่ะ พี่ไวทย์มากับครอบครัวค่ะ”
“อ่อ, งั้นไปพร้อมพี่มั้ย พี่เพิ่งมาถึงเหมือนกันครับ” อนลบอกแฟนสาวของเพื่อนที่ทำให้เขาหัวใจของเขาเต้นแรงและได้แค่แอบมอง
“ดีเลยค่ะหนูไปไม่ถูก แป๋มบอกว่าจะรอหนูอยู่หน้างานค่ะ” อนลมาได้เวลาพอดีเลยเธอกำลังจะถามประชาสัมพันธ์ที่เคาน์เตอร์พอดีว่าห้องจัดเลี้ยงงานวันเกิดของไวทย์ไปทางไหน
“งั้นให้เกียรติเป็นคู่ควงของพี่นะครับ” อนลยื่นแขนให้สาวร่างเล็กเกาะแล้วพากันเดินไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นห้าที่เป็นห้องจัดงานเลี้ยงเล็กที่รับรองแขกได้ร้อยกว่าคนแต่งานนี้มีแต่ญาติๆเพื่อนๆและคู่ค้าที่สนิทกันจริงๆเท่านั้น
“ทางนี้จ้ะลี สวัสดีค่ะพี่อนล มาด้วยกันได้ยังไงคะ” โชติกายกมือไหว้เพื่อนของญาติผู้พี่ที่ให้เธอมารอวลาลีเพราะหญิงสาวไม่รู้จักใคร
“ลีเจอพี่อนลที่ล็อบบี้จ้ะ แป๋มมานานหรือยัง”
“มาถึงก่อนหน้าลีแป้บเดียวเองจ้ะ เข้าไปในงานกันเถอะจ้ะ” โชติกาชวนเพื่อนเข้าไปในงานเพราะพ่อแม่ของไวทย์มาถึงแล้วนั่งคุยกับพ่อแม่ของเธอและพ่อแม่ของปรีชญาอยู่
“ไปครับ วันนี้พี่ของควงสองสาวพร้อมกันให้หนุ่มๆอิจฉากันดีกว่าครับ” อนลพูดยิ้มๆยื่นแขนให้สองสาวเกาะแล้วเดินยืดเข้าไปในงานเลี้ยงที่ตกแต่งประดับดอกไม้อย่างสวยงามมีป้ายสุขสันต์วันเกิดอันใหญ่อยู่ด้านหลังนักดนตรีที่กำลังบรรเลงเพลงเบาๆเคล้าคลอบรรยากาศสดชื่นงานเลี้ยงวันเกิดของ ไวทย์ ราชภักดีภิมุข นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงของวงการ
“หนูลี” ไวทย์ปลดมือของ ปรีชญา พรหมพิมานลูกสาวของเพื่อนแม่ที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กออกจากแขนเดินเข้าไปหาแฟนสาวที่เดินมาพร้อมกับเพื่อนทั้งที่เขาให้น้องสาวรออยู่หน้างาน
“สวัสดีค่ะพี่ไวทย์” วลาลีไหว้แฟนหนุ่ม
“สวัสดีครับหนูลี ไหนของขวัญของพี่ครับ แล้วแกมากับแฟนฉันได้ยังไงวะอนล” ไวทย์ทวงของขวัญจากแฟนสาวและถามเพื่อนที่มาพร้อมกัน
“พอดีเจอเด็กหลงทางที่ล็อบบี้น่ะ ก็เลยอาสาพามาส่งเจ้าของ แต่ว่างานนี้เหมือนงานแต่งงานเลยว่ะ..” อนลพูดแล้วบุ้ยปากไปทางปรีชญากับเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงโต้ะรับขวัญวันเกิดที่ญาติๆเพื่อนๆและคู่ค้าที่สนิทกันนำของขวัญมาร่วมอวยพรวันเกิดที่เจ้าของบอกว่าจะนำไปทำบุญ
“แกก็พูดไป น้องปี่มาช่วยรับแขกเท่านั้นเอง” ไวทย์ตอบเพื่อนแต่วลาลีรู้สึกอึดอัดเหมือนเธอมาอยู่ผิดที่เพราะสายตาจากโต้ะครอบครัวของไวทย์มองเธอ
“ไปรู้จักกับพ่อแม่ของพี่ก่อนครับหนูลี” ไวทย์แตะแขนแฟนสาวที่สะดุ้ง
“อะไรนะคะ”
“ไปรู้จักกับพ่อแม่และญาติๆของพี่กันครับ” ไวทย์บอกแฟนสาวแล้วจับมือเล็กบีบเบาๆแล้วเดินไปโต้ะที่พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของเขานั่งอยู่มีอนลกับโชติกาเดินตามไป
“ปล่อยมือหนูก่อนค่ะพี่ไวทย์ วลาลีบิดมืออกเมื่อเห็นทุกคนมองมาที่เธอกับไวทย์
“ก็ได้ครับ” ไวทย์ยอมปล่อยมือเล็กแล้วเดินไปหาพ่อแม่ของเขา
“พ่อครับแม่ครับ นี่วลาลี หนูลีเป็น...”
“น้องที่เคยมาฝึกงานที่บริษัทกับแป๋มไงคะคุณป้า” เสียงแหลมของปรีชญาชิงพูดขึ้นก่อน
“สวัสดีค่ะท่าน” วลาลีวางสีหน้านิ่งยกมือไหว้พ่อแม่ของแฟนและทุกคนในโต้ะ
“สวัสดีหนู เป็นเพื่อนกับยัยแป๋มเหรอจ้ะ”คุณจารุมลถามวลาลีแล้วยิ้มให้เพื่อนหลานสาว
“ค่ะท่าน”
“ไม่ใช่ครับคุณแม่...”
“พี่ไวทย์คะ คุณกวงมาค่ะ” ปรีชญาเรียกไวทย์เมือเห็นเสี่ยกวงที่เป็นคู่ค้าของบริษัทมานานเพราะรับออกแบบก่อสร้างบ้านจัดสรรทุกแห่งของเขา
“แป๋มฝากหนูลีด้วยะ อย่าคิดมากนะหนูลีเดี๋ยวพี่มาครับ” ไวทย์บอกแฟนสาวแล้วเดินไปตามแรงดึงของปรีชญา
“น้องปี่ทำไมถึงพูดแบบนั้น น้องปี่ก็รู้ว่าวันนี้พี่จะแนะนำหนูลีให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักและพี่จะประกาศหมั้นกับหนูลี” ไวทย์ปัดมือของปรีชญาออกอย่างไม่พอใจ
“พี่ไวทย์คิดดีแล้วเหรอคะที่จะหมั้นกับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างวลาลี” ปรีชญาไม่ยอมเด็ดขาดเธอไม่มีวันปล่อยให้มันเกิดขึ้นแน่นอน
“นี่มันเรื่องส่วนตัวของพี่นะ น้องปี่ไม่มีสิทธิ์ยุ่งพี่ัรักหนูลีแล้วพี่ก็จะแต่งงานกับหนูลี น้องปี่คงเข้าใจที่พี่พูดนะครับ” ไวทย์พูดอย่างไม่รักษาน้ำใจของปรีชญาเพราะเขาทำตัวชัดเจนมาตลอดยืนยันกับพ่อแม่ว่าเขาไม่ได้รักปรีชญาและจะไม่แต่งงานกับเธอเด็ดขาดจนแม่ของเขายอมถอยไม่ยุ่งเรื่องนี้อีก
“พี่ไวทย์ ปี่รักพี่ไวทย์นะคะ”
“พี่บอกน้องปี่ไปแล้วว่าพี่รักน้องปี่เหมือนน้องสาว พี่ขอตัวไปรับแขกก่อนนะ” ไวทย์พูดจบก็เดินลิ่วไปต้อนรับแขกของเขาปล่อยให้ปรีชญายืนเคว้งแล้วหันไปมองตัวต้นเรื่องที่เป็นคนทำให้ไวทย์ไม่รักเธอจึงเดินไปหาเพื่อนทั้งสองแล้วเรียกไปคุยกัน
“มีอะไรยัยปี่” รสนันท์ถามเพื่อนที่หน้าแดงก่ำกำมือแน่นเก็บอารมณ์โกรธสุดฤทธิ์
“เธอเอายาที่ฉันสั่งมาด้วยมั้ย”
“เอามาสิ เธอจะทำจริงๆเหรอปี่” กานดาถามเพื่อนเมื่อเห็นสายตาเคียดแค้นของเพื่อนมองไปที่แฟนสาวของไวทย์
“ใช่และฉันก็หาผัวให้นังนั่นมันได้แล้วล่ะ” ปรีชญาพูดเสียงเย็นคืนนี้เธอต้องได้ไวทย์และวลาลีต้องมีผัวที่เธอเลือกให้
“ปี่มันแรงไปมั้ยเธอ” รสนันท์ถามเพื่อนเสียงสั่นถึงเธอไม่ชอบวลาลลีแต่เรื่องนี้มันเกินไปหน่อย
“ไม่หรอก หากฉันไม่ทำแบบนี้พี่ไวทย์ก็คงไม่ยอมเลิกกับนังนั่นแน่ ฉันไม่มีทางปล่อยให้พี่ไวทย์เลือกนังนั่นมาเป็นเมียแน่” ปรีชญาบอกเพื่อนแล้ววางแผนการก่อนจะให้คนรับใช้ของแม่ที่ติดตามมาด้วยเป็นคนจับตามองวลาลีว่าถ้าอยู่ตามลำพังเมื่อไหร่ให้บอกเธอและให้เพื่อนเตรียมไวน์ไว้แก้วหนึ่งน้ำส้มแก้วหนึ่งเพื่อให้วลาลีกับหนุ่มผู้โชคร้ายที่ดันมาอยู่ในเกมรักของเพื่อนพอดี
ไวทย์ต้อนรับแขกเสร็จก็พา ธรรศกับรณชัยเดินมาที่โต้ะของแฟนสาวที่นั่งกับน้องสาวและอนล
“สวัสดีค่ะพี่เหน่ง พี่ธรรศ” สองสาวยกมือไหว้ รณชัย รุ่งนพคุณ ผู้บริหารสนามกอล์ฟของครอบครัว และธรรศ ปิยะพานิช ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังของครอบครัว เพื่อนของไวทย์ที่นั่งลงฝั่งตรงข้ามก่อนจะคุยกันไปดื่มกันไปจนสองทุ่มตรงได้เวลาตัดเค้กไวทย์ก็ลุกขึ้น
“หนูลีไปกับพี่นะครับ”
“พี่ไวทย์ไปเถอะค่ะ ลีรออยู่ตรงนี้นะคะ”
“ได้ครับ” ไวทย์เดินไปที่เค้กก้อนใหญ่หน้าเวทีด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยแต่เข้าใจแฟนสาวที่อึดอัดและเขาก็ยังไม่ได้แนะนำ วลาลีให้รู้จักกับพ่อแม่อย่างเป็นทางการจากที่คิดจะทำเซอร์ไพรส์แฟนสาวก็ต้องพับไว้ก่อนแล้วยิ่งทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจก็ปรีชญายังมายืนหน้าระรื่นกับเขาและครอบครัวและร่วมร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้นเต็มห้องก่อนจะจบลงแล้วให้เจ้าของวันเกิดเป่าเทียนดับเสียงปรบมือก็ดังขึ้นแฟลชและชัตเตอร์ที่ดังไม่หยุดจากนักข่าวที่ได้รับอนุญาตมาทำข่าวงานวันเกิดของนักธุรกิจหนุ่มหล่อชื่อดังที่แซวเขากับปรีชญาว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานกันและปรีชญาก็ชิงตอบก่อนว่าอีกไม่นานเกินรอคงจะมีข่าวดีก็ยิ่งทำให้ไวทย์หน้าบึ้ง
“ลีแกโอเคนะ” โชติกาถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นท่าทางของปรีชญาที่ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของไวทย์อย่างน่าเกลียดทั้งที่แฟนตัวจริงนั่งอยู่ทนโท่
“ลีโอเคจ้ะ ลีขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะแป๋ม” วลาลีมองแฟนหนุ่มที่อยู่ท่ามกลางวงล้อมของพ่อแม่พี่สาวและครอบครัวของปรีชญาที่กำลังตัดเค้กหญิงสาวจึงบอกเพื่อนเพื่อไปสูดอากาศหายใจด้านนอก
“แป๋มไปเป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกแป๋มลีไปแป้บเดียวเองจ้ะ” วลาลีบอกเพื่อนแล้วลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวแล้วมายืนล้างมือที่หน้ากระจกมองตัวเองแล้วถอนหายใจ
“นี่ยัยนันท์แกเห็นมั้ยว่าวันนี้ยัยปี่กับคุณไวทย์เขาเหมาะสมกันมากเลยนะเธอ” กานดาเดินเข้ามายืนล้างมือแล้วเหลือบมอง วลาลีขณะพูดกับรสนันท์
“นั่นสิเหมือนจัดงานแต่งเลยนะเธอ คุณไวทย์กับยัยปี่ควงกันต้อนรับแขกน่ะ อิจฉาจริงๆเลย อุ้ย วลาลี ขอโทษด้วยจ้ะ คิกๆๆ..” รสนันท์พูดแล้วหันไปหัวเราะกับกานดา
“ไม่เป็นไรค่ะ” วลาลีพูดจบก็เดินออกไปจากห้องน้ำเข้าไปในงานยืนแอบอยู่ใกล้ๆประตูเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตหยิบแก้วน้ำส้มที่พนักงานเอามาให้ยกขึ้นดื่มคิดตามที่สองสาวเพื่อนของปรีชญาพูดมันก็จริงปรีชญาเหมาะสมกับไวทย์ทั้งฐานะ การศึกษาและยังสวยน่ารัก อย่างที่เธอเทียบไม่ได้เลยวลาลีดื่มน้ำส้มจนหมดแก้วและลังเลใจว่าจะอยู่ต่อหรือกลับดีและรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว
“คุณวลาลีใช่มั้ยคะ”
“เอ่อ, ค่ะ,”
“คือคุณไวทย์ให้มาพาคุณวลาลีไปรอที่ห้องพักค่ะ เดี๋ยวเขาจะตามขึ้นไปค่ะ” ต้อยคนรับใช้ของคุณสุรางค์เดินมาบอกวลาลีตามที่ได้รับคำสั่งจากคุณหนูของเธอว่าให้พาวลาลีไปรอที่ห้องสวีทชั้นบนสุดที่จองไว้
“แต่ว่า..”
“ไปเถอะค่ะเดี๋ยวคุณไวทย์ตามไปค่ะ” ต้อยคะยั้นคะยอวลาลีที่จำต้องเดินตามไปที่ลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุดแล้วไปนั่งรอไวทย์ในห้องสวีท
“เอ่อ,พี่คะ.”
“พี่จะไปบอกคุณไวทย์ให้นะคะว่าคุณวลาลีรออยู่ที่ห้องแล้ว..” ต้อยเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วเพื่อไปแจ้งคุณหนูของเธอ
อนลนั่งดื่มและคุยกับเพื่อนรักทั้งสองแต่เขาไม่วายมองหาวลาลีที่หายไปห้องน้ำนานแล้วยังไม่กลับมา
“น้องแป๋ม ทำไมหนูลีไปห้องน้ำนานจังหลงทางหรือเปล่า”
“นั่นสิคะพี่อนล งั้นแป๋มไปดูหนูลีก่อนนะคะ”
“พี่ไปด้วยครับ ฉันไปห้องน้ำนะเดี๋ยวมา.” อนลบอกเพื่อนแล้วลุกขึ้นเดินไปพร้อมกับแป๋มเพื่อไปดูวลาลีแต่ไม่เจอชายหนุ่มก็เดินกลับเข้ามาในงานก็เจอเพื่อนของปรีชญา
“คุณอนลคะ จะไม่ดื่มกับพวกเราหน่อยเหรอคะ” กานดาดักอนลแล้วแกล้งเรียกเด็กเสริฟที่ถือถาดเคร่องดื่มรอจังหวะอยู่ให้มาหา
“ได้สิครับ คนสวยขอทั้งที” อนลหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับสองสาวแล้วยกขึ้นดื่มก่อนจะคุยกับพวกเธอแต่สายตามองหาวลาลี
“รสได้ข่าวว่าคุณอนลกำลังจะหมั้นจริงหรือเปล่าคะ”รสนันท์ชวนอนลคุยเพราะเธอได้ข่าวว่าแม่ของอนลทาบทาบลูกสาวเพื่อนให้ลูกชาย
“ข่าวโคมลอยครับ ผมยังสนุกกับงานไม่คิดจะมีครอบครัวตอนนี้ครับ” อนลตอบเพื่อนของปรีชญาแล้วยกดไวน์ดื่มหมดแก้ว
“งั้นแสดงว่าสาวๆคนอื่นก็ยังมีสิทธ์สิคะ.” กานดาอดเสียดายอนลไม่ได้แต่เพื่อนยืนยันว่าเป็นอนลเธอก็ไม่ขัด
“ครับผม.”
“งั้นกานดาจะขอสิทธิ์นั้นได้มั้ยคะ.”
“ก็ลองดูสิครับ” อนลยิ้มให้กานดาที่อ่อยเขาซึ่งๆหน้า ก่อนจะมีเด็กเสริฟเอากระดาษมาให้ อนลอ่านแล้วก็มองหาเจ้าของวันเกิดแต่ไม่เห็น
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” อนลบอกสองสาวก่อนจะเดินออกจากห้องงานเลี้ยงมีสายตาของสองสาวมองตามแล้วไฟว์มือกัน
“เสียดายคุณอนลอ่ะเธอ” กานดาพูดขึ้น
“เอาน่ากานดา มีผู้ชายอีกเยอะแยะ ไปหายัยปี่กันเถอะ” รสรินกับกานดาก็เดินไปหาปรีชญาที่นั่งยืนร่วมตัดเค้กกับพ่อแม่ของไวทย์ แล้วพยักหน้าให้ว่าทุกอย่างเรียบร้อย
ไวทย์ตัดเค้กเสร็จก็มองหาแฟนสาวไม่เจอก็เดินมาถามน้องสาวที่โต้ะ
“แป๋มหนูลีล่ะ”
“นี่ค่ะพี่ไวทย์” วรนันท์ยื่นกระดาษเล็กๆให้ไวทย์
“ทำไมหนูลีกลับไม่บอกพี่” ไวทย์อ่านข้อความในกระดาษที่โชติกายื่นให้แล้วพึมพรำเบาก่อนจะนั่งลงกับเพื่อน
“งานเข้าแล้วล่ะไอ้ไวทย์” ธรรศว่าเพื่อนที่มีปรีชญาเดินเกาะแขนไปทั่วงานอย่างไม่เกรงใจแฟนสาวของเพื่อน
“หนูลีเป็นคนมีเหตุผลน่า” ไวทย์ชักไม่แน่ใจและเขาก็ช้าไม่ได้แล้วพรุ่งนี้ต้องคุยกับวลาลีให้เข้าใจ