Chapter 4 ผีสาว 2

1270 คำ
เพราะเห็นขาเธอเริ่มแดง ขยับนิดหน่อยก็เจ็บเลยไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรมากไหม ไปให้หมอตรวจเช็กจะดีกว่า พรีมลังเล จะโทรหาเพื่อน กว่าเพื่อนจะมาอย่างน้อย ๆ ก็ครึ่งชั่วโมง จะเรียกรถกลับก็เกิดความกลัวขึ้นมา ก่อนหน้านี้เธอมัวแต่เสียใจจึงไม่ได้สนใจเรื่องอื่น “ไปก็ได้ค่ะ แต่เราคงปีนข้ามไปไม่ไหว” “ไม่ใช่ปัญหา” ชายหนุ่มยื่นแขนมาให้เธอจับ แม้จะลังเลบ้างแต่เธอก็ยอมจับในที่สุด เขาช่วยประคองให้ขยับไปใกล้กำแพง วาดขายาวก้าวข้ามไป “โทษทีนะ” หันมาจับเอว ยกร่างบางลอยข้ามไปหาเขาอย่างง่ายดาย การแนบชิดชั่วขณะนั้นทำให้หญิงสาวรู้สึกแปลก ๆ เธอไม่ได้ไว้ใจเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ หากในสถานการณ์ตรงหน้าจำต้องรับความช่วยเหลือ เขาช่วยให้เธอขึ้นไปนั่งบนรถหรูราคาแพงก่อนจะพารถออกจากบริเวณนั้น เลี้ยวไปอีกทางที่เธอพอจำได้ว่าเป็นโรงพยาบาลของมหา’ลัย D นั่นเอง ในยามกลางคืนแบบนี้ ไม่ค่อยมีผู้มาใช้บริการ พรีมจึงได้รับการตรวจรักษาทันที สรุปว่าข้อเท้าเธอแพลงจริง ๆ ต้องพักอย่างน้อยสามวัน “เดี๋ยวเราไปส่ง” “เราเรียกรถกลับเองดีกว่า” เธอเดาว่าเขาน่าจะอายุพอ ๆ กันจึงใช้คำแทนตัวง่าย ๆ อย่างเช่นที่เขาทำ “ดึกแล้วรถหายาก ไปเถอะ ” เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวถูกช้อนอุ้มจากหนุ่มแปลกหน้า ท่าทางสุภาพกับสีหน้าแววตาจริงจังทำให้เธอปฏิเสธไม่เต็มปาก “ให้ไปส่งที่ไหน” “เจซีอพาร์ตเมนต์” อพาร์ตเมนต์ดังกล่าวอยู่แถวมหาวิทยาลัย K “แล้วมาทำอะไรแถวนี้คนเดียว” มหา’ลัย K อยู่ในละแวกเดียวกับมหา’ลัย D ก็จริง หากไม่ได้ใกล้กันมากมาย โซ่นึกแปลกใจที่เจอเธออยู่ตามลำพังตั้งแต่บนสะพานแล้ว “มาหาแฟน” พรีมตอบไปตามความจริง แม้ว่าพอพูดออกไปจะทำให้ความเจ็บหน่วงรุมเร้าหัวใจขึ้นมาอีก “อ้าว แล้วแฟนไปไหน เธอถึงอยู่คนเดียว” “เลิกกันแล้ว” “...” “เพิ่งเลิกวันนี้” “...” “เราไปเจอเขากำลังเอากับผู้หญิง” “เหี้ย!!” ชายหนุ่มหลุดสบถ ครั้นเห็นตาแดง ๆ ของคนนั่งข้างก็เสียงอ่อน “อ่า โทษที ๆ” “ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนในกลุ่มเขา เราเคยเห็นหน้าประจำ” โซ่นึกอยากก่นด่าไอ้ผู้ชายเฮงซวยพรรค์นั้น ถ้ามันรักสนุก มั่วไม่เลือกจะมีแฟนทำสากกะเบืออะไรวะ แล้วยังปล่อยให้แฟนออกมาเดิมท่อม ๆ ดึกดื่นจนบาดเจ็บอีก ถึงแถวนี้จะไม่เปลี่ยวก็เถอะ คนข้างกายเริ่มสูดน้ำมูก เขาจึงหยิบกล่องทิชชูยื่นให้ เธออุบอิบขอบคุณ “ถ้ามันเจ็บมากก็ร้องได้นะ เราไม่เอาไปเมาท์หรอก” “อือ...ฮึก ฮึก...ฮือๆ” พรีมไม่อยากร้อง หากไม่รู้อะไรทำให้เธอเก็บกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ยกมือกุมหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา เจ้าของรถทำตัวเงียบเชียบเสมือนว่าไม่ได้อยู่ในรถด้วย เขาไม่ได้ปลอบ หากก็ไม่ได้เอ่ยขัดหรือซ้ำเติม เธอร้องไห้จนสร่างซาเหลือเพียงอาการสะอึกสะอื้นเป็นบางครั้ง ประจวบเหมาะกับเสียงมือถือของอีกฝ่ายดัง เขาหันมามองเธอ เหมือนจะขออนุญาต ทั้งที่ไม่จำเป็น เพราะนี่มันรถของเขา “ตาม...สบาย...” ทันทีที่เขากดรับ เสียงจากปลายสายดังขึ้นในรถ เนื่องจากโซ่ต่อโฟนกับรถเอาไว้แบบอัตโนมัติ [“มึงอยู่ไหน”] “มึงมีไร กูอยู่ข้างนอก” [“ทำเหี้ยไรอยู่วะ กูเข้าบ้านไม่ได้”] “ทำไม” [“ลืมกุญแจบ้านมั้ง หรือทำหายที่ไหนก็ไม่รู้ ถ้ารู้กูต้องโทรหามึงมั้ยไอ้สัส”] “อ้าว ด่ากูเฉย มึงเสือกโง่เอง นอนหน้าบ้านไปเหอะ” [“ไอ้โซ่ มึงอย่าลีลา กูกลับมาเอางาน เพื่อนกูรออยู่ให้ไว”] “เรื่องของมึง กูมีธุระ” [“พาธุระมึงมาด้วย ให้ไว ไม่งั้นกูฟ้องแม่ว่ามึงออกเที่ยวทุกคืน”] “สัสเอ๊ย รอ!” โซ่เสียงเข้มใส่คนในสาย ก่อนจะหันมาคุยกับคนที่ติดรถมาด้วย “ขอแวะบ้านแป๊บนะ พี่เรามันลืมกุญแจบ้าน” “เมื่อกี้พี่ชายเหรอ” “อือ มันเรียนปีสี่วิศวะ ช่วงนี้กำลังทำโครงงานโปรเจคจบน่ะ บ้านเราอยู่ทางเดียวกับหอเธอนั่นแหละ” “อื้อ ตามสบาย” “ขอบใจมาก” พรีมละสายตาจากใบหน้าเปื้อนยิ้มละไม จู่ ๆ ความรู้สึกเขินก็อาบไล้ผิวแก้ม หากไม่มัววุ่นวายกับเธอ ป่านนี้เขาคงถึงบ้านตั้งนานแล้ว ใช้เวลาไม่นาน รถคันสวยปราดมาจอดหน้าบ้านสองชั้นหลังหนึ่งในโครงการที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก คนที่รออยู่พุ่งตัวออกมาจากบริเวณหน้าบ้านด้านใน เขาลดกระจกลง โยนกุญแจให้ “ฝากกุญแจไว้ป้อมให้กูด้วย” “เออ แต้งไอ้น้องชาย” “ทีงี้ทำเป็นพี่น้องนะไอ้สัส” โซ่โยนคำใส่หน้าคนเป็นพี่ก่อนจะพารถออกเพราะขี้เกียจฟังคำด่าจากอีกฝ่าย ซึ่งมีมาแน่นอน เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นทำให้คนมองอย่างพรีมนึกไปถึงพี่สาวทั้งสองของตัวเองเช่นกัน เธอกับ พลอยชนันท์ และ พัณณ์ชิตา สนิทสนมกันมาก พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง พี่สาวทั้งสองยังเห็นดีเห็นงามเรื่องที่เธอกับโปรดคบกัน หากว่าพี่ ๆ รู้ว่าเขาทำยังไงกับเธอ คงโกรธเกลียดถึงขั้นไม่เผาผีกันแน่ ใจหนึ่งอยากโทรไปปรับทุกข์กับพี่สาว อีกใจก็ไม่อยากให้ทั้งสองเป็นกังวลไปด้วย “ทำไมเงียบ” “เราไม่รู้จะคุยอะไร” “นึกว่ากำลังตกใจที่เห็นเรากับพี่คุยกัน ผู้ชายอะนะ ฮาร์ดคอกันนิดหน่อย” “ไม่ตกใจหรอก เราก็มีพี่เหมือนกัน พี่สาวสองคนน่ะ สนิทกันมากเหมือนกัน” “ดี ๆ ไว้แนะนำให้เรารู้จักด้วยดิ” “ไม่เอาหรอก พี่เราสวย เดี๋ยวนายจีบ” “เป็นงั้นไป” พรีมหัวเราะออกมาเบา ๆ รถกลับจอดลงหน้าหอพักของเธอแล้ว ช่วงเวลาที่ได้ต่อปากต่อคำกับเขาทำให้ลืมความเศร้าใจ จนอดคิดไม่ได้ว่า บางทีผู้ชายใจดีคนนี้คงชวนเธอคุยเพื่อให้ลืมเรื่องแย่ “เดินไหวไหม” “ไหว เราแชตหาเพื่อนให้ลงมารับแล้ว นั่นไง” เธอบุ้ยหน้าไปตรงประตูตึก ซึ่งตอนนี้มีผู้หญิงสองคนเดินออกมา “ขอบคุณนายมากนะที่ช่วย” “ไม่เป็นไร ไว้เจอกันใหม่” หญิงสาวไม่ได้ตอบกลับ เพราะในใจคิดว่าคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วเพราะเธอจะไม่ไปแถว มหา’ลัย D อีกแล้ว หรือหากวันหนึ่งจะเจอกัน บางทีต่างคนต่างอาจจะลืมหน้ากันไปแล้วก็ได้ โซ่มองตามร่างบางระหงกระทั่งเธอถูกเพื่อนประคองเข้าไปในตึกเขาถึงพารถเคลื่อนออก หวนนึกถึงเรื่องราวตลอดชั่วโมงที่ผ่านมาแล้วหัวเราะ “นึกไปได้ไงวะว่าเธอเป็นผี” ผีที่ไหนจะสวยน่ารักขนาดนี้ พลันนั้น ชายหนุ่มชะงัก ดวงตาคมกล้าขุนมัวเมื่อนึกถึง ไอ้หน้าตัวเมียแฟนเธอ มีแฟนสวยขนาดนี้ยังจะไปมั่วกับคนอื่นอีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม