ประกายดาวหลุบตาลงเมื่อถูกถามประโยคเดิมอีกหน อยากรู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ ตอนอยู่เขาไม่ต้องการแม้แต่จะเห็นหน้า พอขอหย่าเขากลับตั้งคำถามว่าทำไมถึงต้องรีบ
แต่จะว่าไปนี่คือครั้งแรกที่หล่อนกับเขาได้สนทนากันเป็นเรื่องเป็นราวมากที่สุดตั้งแต่แต่งงานกันมา
“ที่ผ่านมาพี่อาร์มเองก็ต้องการให้เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ เพราะฉะนั้นเรามาทำเรื่องนี้ให้จบเสียทีเถอะค่ะ พี่อาร์มจะได้เป็นอิสระ ดาวเองก็จะได้เป็นอิสระเหมือนกัน”
“อยากเป็นอิสระเหรอ”
ประกายดาวเริ่มหงุดหงิด เพราะเขากำลังชวนหล่อนพายเรือในอ่าง
“ใช่ค่ะ ดาวอยากเป็นอิสระ นัดวันเวลามาเถอะค่ะ แล้วไปเจอกันที่เขต” ในเมื่อเขาถามหญิงสาวก็ตอบกลับไปตามตรง
“อยากเป็นอิสระขนาดนี้แล้วเธอแต่งงานกับพี่ทำไม”
เมื่อถูกถามกลับหญิงสาวก็นิ่งอึ้ง เพราะไม่คิดว่าเขาจะถามคำถามนี้ในตอนนี้
“ตอนนั้นดาวยังเด็ก ผู้ใหญ่ขอให้แต่งดาวก็แต่ง พี่อาร์มเองก็ไม่ได้ปฏิเสธนี่คะ ถ้าตอนนั้นปฏิเสธ เราก็คงไม่ได้แต่งงานกัน”
คำตอบของหญิงสาวทำให้รอยยิ้มของชายหนุ่มกว้างขึ้น ขณะเดียวกันสาวสวยที่กำลังก้าวขึ้นจากสระว่ายน้ำต้องขมวดคิ้วมองด้วยความแปลกใจ
“สรุปคือเธออยากหย่าเร็วๆ ใช่ไหม”
คนที่อยู่อีกมุมของเมืองถึงกับลอบผ่อนลมหายใจออกมาทีเดียว
“ค่ะ ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี”
ดวงตาสีเข้มตวัดมองร่างโปร่งระหงของดาราสาวสวยที่กำลังเดินตรงมาหา แล้วตอบออกไปว่า
“ก็ได้ งั้นมาเจอกันที่นี่...” ชายหนุ่มบอกชื่อสถานที่พร้อมวันและเวลากับประกายดาว ทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ
“ไม่ใช่ที่เขตหรือคะ”
“มาคุยรายละเอียดอีกนิดหน่อย เสร็จแล้วค่อยไปที่เขต ตกลงไหม”
เมื่อเขากล่าวเช่นนั้นหญิงสาวก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะอยากให้เรื่องนี้ยุติลงเสียที จะได้มีอิสระในการทำอะไรๆ ที่อยากทำมานาน ไม่ต้องมีห่วงติดอยู่กับการเป็นเมียในนามของเขาอีกต่อไป
“ตกลงค่ะ”
“ดี แล้วเจอกัน” อารัญวางสายทันทีที่พูดประโยคสุดท้ายลงไป พร้อมกับร่างงามของสาวสวยที่นั่งลงมาบนตักกว้างของชายหนุ่มที่เจ้าหล่อนกำลังคบหาอยู่ในเวลานี้ และจากที่แอบได้ยินเขาคุยกับทนายความส่วนตัวเมื่อสองสามวันก่อน ทำให้รู้สึกหัวใจเต้นแรงที่ได้รู้ว่าเขากำลังจะหย่าขาดกับภรรยาเด็ก และนี่คือโอกาสของหล่อนที่จะจับเขาให้อยู่หมัด
อารัญเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง ทั้งสาวแก่แม่หม้ายและสาวน้อยสาวใหญ่ ดารานางแบบ ต่างอยากจะเป็นเจ้าของหัวใจของเขาด้วยกันทั้งนั้น ทว่าตอนนี้มีเพียงหล่อนที่มีโอกาสใกล้ชิดเขามากที่สุด เพราะฉะนั้น จึงเป็นเวลาเหมาะที่จะทำให้เขาหลงรักหัวปักหัวปำ
“คุยอะไรอยู่หรือคะ” แอนนา หรืออริศรา ยกมือทั้งสองข้างขึ้นคล้องไปรอบลำคอของชายหนุ่ม พลางเบียดริมฝีปากกดลงบนเรียวปากได้รูปหนักๆ
“ไม่มีอะไรหรอก เลิกเล่นแล้ว?” เขาถามหญิงสาว
“ก็คุณไม่เล่นด้วย แอนก็เบื่อน่ะสิคะ” หญิงสาวทำปากยื่นอย่างน่ารัก ชายหนุ่มยกยิ้มเพียงเล็กน้อยก่อนบอก
“งั้นเข้าข้างใน” พูดจบหญิงสาวก็หัวเราะคิกเมื่อถูกชายหนุ่มรั้งเอวคอดเล็กให้เดินตามเข้าไปยังห้องด้านใน จากนั้นช่วงเวลาแห่งความหวามไหวและเต็มไปด้วยความหวังที่จะทำให้เขารักเขาหลงก็เริ่มต้นขึ้น ทว่าอารัญไม่ใช่ผู้ชายที่จะตกหลุมรักผู้หญิงเพียงเพราะรสสวาทหรือความสวยเท่านั้น สำหรับเขา การที่จะอยู่กับใครสักคนไปตลอดชีวิตไม่ได้อยู่ในความนึกคิดเลยสักนิด เพราะแค่คิดว่าถ้าต้องอยู่กับผู้หญิงคนเดียวไปจนตายคงเป็นอะไรที่น่าเบื่อและจำเจอย่างที่สุด
แต่ในขณะที่เขากำลังถูกปลุกเร้าจากหญิงสาวคนงาม ใบหน้าหวานๆ ของผู้หญิงที่กำลังจะกลายเป็นอดีตและร้องขอที่จะออกไปจากชีวิตอย่างที่เขาปรารถนาก็ปรากฏขึ้นอีกหน
คิดๆ ดูแล้วเขาเองค่อนข้างขาดทุนอยู่ไม่น้อย ต้องเป็นหม้ายทั้งที่ยังไม่ได้สัมผัสคำว่าผัวเมียอย่างแท้จริง พอหย่าก็ต้องมาจ่ายเงินให้เด็กมันอีกก้อนเพราะสงสารลูกตาแป๋วๆ แบบนี้เรียกว่าเสียเงินเป็นแสนแขนไม่ได้จับสินะ
แต่อันที่จริงเด็กนั่นฟาดเขาไปหลายสิบล้านเลยต่างหาก ตัวแค่นี้ฟันเงินคนแก่ไปโข แม่เขาก็ทั้งรักทั้งหลง ลูกจ้างในบ้านก็เทิดทูนกันซะ เขาไม่อยู่ใช่ว่าไม่รู้ความเคลื่อนไหวหรอก รู้หมดนั่นแหละ แค่ไม่อยากเข้าไปให้เห็นหน้าเท่านั้น ขี้เกียจตอบคำถามมารดา ไม่อยากทำให้ความสัมพันธ์มันถลำลึก เกิดพลาดท่าเจ้าของดวงตาแป๋วแหววมีลูกมีเต้ากันไป เวลาเลิกรามันจะยิ่งยุ่งยากมากกว่านี้หลายร้อยเท่าเลยก็ว่าได้
เพื่อนของเขาหลายคนแต่งกันก้นหม้อข้าวยังไม่ทันดำก็ต้องเลิกรากับภรรยา วุ่นวายไม่จบสิ้น มีแต่เรื่องชวนปวดหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะแบบนี้เขาถึงไม่อยากมีเมีย มีครอบครัว อยู่แบบตัวคนเดียวก็ดีแล้ว สบายตัวสบายใจ เบื่อก็เปลี่ยนใหม่ได้ตลอด
แล้วเขาก็คิดถึงเจ้าของลูกนัยน์ตาดำขลับขึ้นมาอีก
เสียงถอนหายใจทำให้คนที่พยายามปลุกเร้าอารมณ์ของเขาถึงกับเงยหน้าขึ้นมอง เพราะไม่ว่าหล่อนจะพยายามสักเท่าไร กลับดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่รู้สึกอะไรเลย ราวกับว่าเขากำลังหมกมุ่นอยู่กับอะไรสักอย่างจนหมดความสนใจเรื่องเซ็กซ์
ซึ่งก็จริงอย่างที่อริศราคิด หลังจากนั้นไม่นานอารัญก็เปลี่ยนใจโดยที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวและออกจาก คอนโดฯ หรูที่ใช้เป็นห้องเชือดสาวๆ เป็นหลัก และอีกส่วนก็มีไว้สำหรับทำเรื่องสนุกสนานสำหรับผู้ชาย
เมื่อเข้ามานั่งในห้องโดยสารที่เงียบสงบ ชายหนุ่มจึงติดต่อไปยังทนายความส่วนตัวอีกหน
“ครับคุณอาร์ม”
“จำเรื่องคอนโดฯ ที่คุยกันได้ไหม”
“จำได้ครับ”
“ช่วยจัดการเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยด้วยนะ ผมต้องใช้เสาร์หน้า”
“ได้ครับ”
“ขอบใจ” เขากดวางสายแล้วหยิบแว่นตาดำขึ้นมาสวม ก่อนจะขับเฟอร์รารีออกจากคอนโดฯ มุ่งหน้าสู่บ้านที่เขาทอดทิ้งมาหลายปี เพราะมีประกายดาวอาศัยอยู่ในฐานะสะใภ้คนเดียวที่มารดายอมรับ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปในทางที่เขาก็ตอบตนเองไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไร แต่ที่แน่ๆ เขาไม่ได้ดีใจจนต้องรีบนัดเพื่อนมาจัดปาร์ตีเหมือนอย่างที่เคยทำ