“พี่ทำให้ดาวคิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วทำไมต้องคิดมากด้วยนะ บอกได้ไหม”
หญิงสาวตวัดตาค้อนอีกครั้ง พลางวางแก้วลงบนโต๊ะตรงหน้า เริ่มเอนศีรษะไปกับพนักพิง บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าหล่อนเริ่มจะมึนแล้วละ
“ดาวแค่อยากลืมเรื่องที่ผ่านมา แต่พอได้เห็นข้าวของที่พี่อาร์มเคยให้ มันก็เหมือนกับตอกย้ำให้ดาวคิดขึ้นมาอีก ดาวอยากลืมพี่อาร์ม”
คำตอบจากริมฝีปากสีเรื่อ และน้ำเสียงแผ่วเบา ทำให้คนฟังใจหาย แล้วก็บีบรัดจนเจ็บขึ้นมา เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดกับใครมาก่อน ร่างสูงผุดลุกจากโซฟาแล้วไปนั่งลงข้างๆ คนที่หลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นเมื่อรับรู้ได้ถึงใครบางคนที่เบียดเข้ามา
ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งนาน ราวกับว่าจะใช้แววตาสื่อสารกันและกันแทนคำพูด แล้วสิ่งที่อยู่ในใจของประกายดาวก็พรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากจิ้มลิ้ม
“พี่อาร์มรังเกียจอะไรดาวมากเลยหรือคะ ถึงได้ไม่ยอมกลับมาหาดาว” น้ำเสียงอ่อนหวานแผ่วพร่าและสั่นเครืออยู่ในที ทำให้คนฟังใจกระตุก เขามองหล่อนนิ่งก่อนเมินมองไปเบื้องหน้า
“เปล่า”
คำตอบสั้นๆ ของเขาทำให้หญิงสาวเม้มปากนิ่ง
“แต่ดาวว่าใช่ ไม่งั้นพี่อาร์มต้องกลับมาบ้าง แต่นี่...”
คนพูดเสียงสั่น ก่อนจะยกมือขึ้นแตะที่หางตา พลางขยับตัว ทำให้ชายหนุ่มหันมามอง
“พี่อาร์มน่าจะปฏิเสธดาวตั้งแต่แรก ไม่น่าจะแต่งงานกับดาวเลย”
หญิงสาวเอ่ยออกมาอีกด้วยความรู้สึกตัดพ้อ
“พี่เคยพูดเรื่องนี้กับแม่พี่ไปแล้ว” เขาตอบตามตรง แต่กลับยิ่งทำให้คนฟังใจหวิวคล้ายจะเป็นลม ดิ่งวูบด้วยความผิดหวังเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่นั่นเอง
“ควรบอกกับดาวด้วยอีกคน ถ้ารู้สักนิดว่าพี่อาร์มไม่อยากแต่งกับดาว ดาวจะบอกแม่ว่าดาวจะไม่แต่งกับพี่ ทุกอย่างคงไม่ต้องเป็นแบบนี้” พูดจบหญิงสาวก็ผุดลุกพร้อมกับคว้ากระเป๋าขึ้นมาถือ แต่กลับเซล้มลงไปอีกครั้ง กลับกลายเป็นว่าร่างของหล่อนถูกใครบางคนรับเอาไว้และยึดตักของเขาเป็นเบาะรองนั่ง
ใบหน้าของทั้งสองเกือบชนกัน ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรง เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่นั่งนิ่ง มองสบตาคู่หวานที่มองมา อย่างตัดพ้อ
“ขอโทษค่ะ ดาวว่าดาวมึนแล้ว” หญิงสาวยกมือขึ้นดันไหล่ของเขาเอาไว้ กระซิบบอกเสียงแผ่ว รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับเขามากขนาดนี้ มากกว่าครั้งก่อนโน้น
“ปล่อยดาวสิคะ” หญิงสาวบอกอีก เมื่อเขากอดหล่อนเอาไว้อย่างนั้น เอาแต่มองหน้านิ่งๆ ไม่พูดอะไรสักคำ
“ดาวกลับไม่ไหวแล้วรู้ตัวไหม เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เขาบอกเสียงเบาพอกัน สายตากวาดมองเครื่องหน้าราวจะจดจำหล่อนเอาไว้ในส่วนลึก
“ไหวสิคะ มาเองได้ก็กลับเองได้” พูดพลางยันตัวลุก แต่อ้อมแขนแข็งแรงกลับกระชับร่างแน่งน้อยนุ่มนิ่มเอาไว้แน่น ทำให้หญิงสาวต้องมองตาเขาเป็นคำถาม แต่ใบหน้าคมเข้มเคลื่อนเข้ามาจนเกือบชิดแล้วบอก
“พี่ไม่เคยรังเกียจหนูดาว ไม่เคย”
ริมฝีปากอิ่มขยับค้าน แต่กลับไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาเลยสักนิด มีเพียงอึกอักในลำคอพร้อมกับเรียวปากนุ่มนิ่มสีหวานที่ถูกริมฝีปากได้รูปของอารัญบดเบียดลงมาทั้งยังส่งปลายลิ้นหนานุ่มทักทายปลายลิ้นเรียวเล็ก
หญิงสาวได้แต่นิ่งงันตัวแข็งค้างไปด้วยความตกใจ แต่เวลาเดียวกันก็หัวใจเต้นแรงอย่างหนัก สองมือกุมกระชับอยู่กับหัวไหล่ของชายหนุ่มเอาไว้แน่นจนแทบจะเป็นจิก
โดยเฉพาะเวลาที่ปลายลิ้นทั้งสองสัมผัสกัน หัวใจของประกายดาวแทบหลุดกระเด็นออกมาจากอก ไม่เคยเลยสักครั้ง ที่จะหวามหวิวได้ขนาดนี้ หล่อนไม่รู้ว่าครั้งแรกของคนอื่นจะเป็นเหมือนกันหรือไม่ แต่สำหรับหล่อนนั้น รู้สึกหัวใจจะวายจนอยากจะเป็นลม
แต่เพียงไม่นาน จากความตกใจก็กลับกลายเป็นความเคลิบเคลิ้ม หวั่นไหว จากที่เกาะกุมบนไหล่หนา ก็ค่อยๆ เคลื่อนคล้อยโอบกอดไปรอบลำคอแกร่ง ทั้งยังเริ่มสนองตอบจุมพิตที่เริ่มจะเร่าร้อนขึ้นทุกวินาที
คล้ายกับว่าประกายดาวได้ยินเสียงครางแหบพร่าออกมาจากลำคอของอารัญ เพราะจากที่นั่งกันอยู่นั้นร่างเล็กถูกผ่อนลงบนโซฟาตัวยาว โดยมีร่างหนาหนักทาบทับลงมาอย่างไม่รู้ตัว รสจูบของเขาทำให้หญิงสาวหลงลืมไปจนหมดว่ามาทำไม
“พี่อาร์ม” เสียงหวานครางออกมาแผ่วเบาเมื่อริมฝีปากบวมเจ่อเป็นอิสระ แต่ร่างกายกลับอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน มือทั้งคู่ยังคงโอบกอดพลางลูบไล้บ่าไหล่และแผ่นหลังกว้าง ขณะที่ใบหน้าคมคายซุกไซ้อยู่กับปลายคางเรียวและลำคอระหงหอมกรุ่น พลางขบเม้มหนักสลับเบา
หญิงสาวยังคงตกอยู่ในห้วงหฤหรรษ์แสนหวาน จนกระทั่งฝ่ามือใหญ่คลุกเคล้าครอบครองนวลเนื้อขาวผ่องสล้างทั้งสองข้าง สัมผัสเช่นนั้นเองที่ปลุกหญิงสาวให้ตื่นขึ้นจากอาการละเมอฝัน ละฝ่ามือที่กอดเขาเอาไว้มาผลักเขาออก
“พี่อาร์ม พอแล้ว”
ชายหนุ่มซบหน้ากับเนินอกอิ่มที่ปรากฏวับแวมอยู่ในกรวยผ้าสีหวานอย่างข่มกลั้นอารมณ์ ขณะเดียวกันหัวใจดวงน้อยภายใต้ฝ่ามือใหญ่ก็เต้นระรัวแรงจนคนที่ครอบครองหล่อนเอาไว้รู้สึกชัดเจน อดใจไม่ไหวที่จะบีบเคล้นและลูบไล้แผ่วเบาจนเจ้าของแท้จริงสะท้านไปทั้งกาย ห่อไหล่เบี่ยงตัวหนี ไม่รู้ว่าหลงเพริดไปกับเขาได้อย่างไร ไม่รู้ตัวแม้กระทั่งถูกเปลื้องเสื้อชั้นนอกออกไปตอนไหน
อารัญรวบรวมจิตใจอยู่พักใหญ่ ซบอยู่กับอกอุ่นแบบนั้นนิ่งๆ ก่อนจะตัดใจจากความงดงามแสนน่ารัก ดึงตัวเองลุกขึ้นนั่งพร้อมทั้งรั้งร่างเล็กให้ติดตามขึ้นมา
หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอกตัวเอง เวลานี้ดวงหน้างามแดงแจ๊ด ริมฝีปากอิ่มสั่นระริก ไม่กล้าสบตาเขาสักนิด พลางมองหาเสื้อตัวนอกที่หลุดไปจากตัว ก่อนจะอับอายมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาเป็นคนหยิบเสื้อตัวนั้นขึ้นมาสวมใส่ให้หล่อน พร้อมช่วยติดกระดุมให้เมื่อเจ้าของเสื้อมือสั่นระริกจนหยิบกระดุมแทบไม่ติด
อารัญอดยิ้มไม่ได้ เขาก้มลงจูบลาดไหล่บอบบางจนเจ้าของหัวใจสั่นไหวอีกครา จากนั้นติดกระดุมให้จนเสร็จ แล้วรั้งร่างเล็กเข้ามากอดแน่นๆ อีกครั้ง โดยที่หญิงสาวได้แต่นิ่งงันเช่นนั้นราวกับทำตัวไม่ถูก กระทั่งเขายอมผละห่าง หญิงสาวจึงขยับตัวหนีเล็กน้อย ก้มหน้าหลบสายตาคมปลาบคู่นั้น ไม่อยากสบนัยน์ตาที่มองมาอย่างล้อเลียน หรือบางทีเขาอาจกำลังดูหมิ่นดูแคลนหล่อนอยู่ก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ไม่อยากรับรู้ จึงไม่รู้ว่าสายตาที่มองมาอยู่ในเวลานี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น อ่อนโยนและเอ็นดูมากแค่ไหน
ความหวานที่ได้รับจากคนตรงหน้า ทำให้หัวใจที่ด้านชาและอ้างว้างของอารัญถูกเติมเต็มจากบางอย่างที่ได้รับจากคนตัวเล็ก เขายอมรับว่าหล่อนหวานกว่าใครๆ กอดอุ่นกว่าผู้หญิงคนไหน และทำให้เขารู้สึกอยากรั้งหล่อนเข้ามากอดอีกครั้งแน่นๆ
“ดาวจะกลับบ้านแล้ว อย่าส่งของพวกนี้ไปให้ดาวอีกนะคะ ถือเสียว่าเป็นคำขอร้องจากดาว” พูดจบก็เม้มปากแน่น กระบอกตาร้อนผ่าว จู่ๆ ก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา
เขาจูบหล่อนทำไม... พลันดวงหน้าหวานก็เงยขึ้นมองเจ้าของจูบแสนร้อนแรงระคนอ่อนหวานตรงหน้า ดวงตาคู่งามแดงก่ำ ทำให้คนมองใจแกว่งไป
“พี่อาร์มทำแบบนี้ทำไม ไม่รักแล้วมาจูบดาวทำไม”
น้ำตาที่ไหลออกมาจากสองตางามทำให้อารัญนิ่งขึง ขยับเข้าไปหาแต่หญิงสาวกลับผุดลุก และแม้จะเซแต่ก็มีสติมากพอจะประคองตนเองไม่ให้ล้มลงไปบนตักของเขาเป็นครั้งที่สอง
ชายหนุ่มมองหล่อนนิ่ง เพราะแบบนี้อย่างไรเขาจึงไม่อยากกลับมาหาหล่อน เพราะรู้ว่าหากได้เข้าใกล้เขาจะหยุดตัวเองไม่ได้ ต่อให้อยากจะรักมากแค่ไหนแต่สุดท้ายเขาก็ต้องทำหล่อนผิดหวังอยู่ดี ให้หล่อนเจ็บเสียตอนนี้ดีกว่าอยู่กินและมีลูกกันไปแล้ว ถึงตอนนั้นหล่อนคงเจ็บปวดมากกว่านี้ร้อยเท่า
“ขอโทษ”
หญิงสาวตาลุกวาว มองคนตัวโตที่ลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นเอง หญิงสาวก็ก้าวเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับฝ่ามือเล็กๆ ที่ตวัดลงไปบนใบหน้าหล่อเหลาจนเกิดเสียงกระทบดังสนั่น
เผียะ!!
ใบหน้าคมคายหันไปด้านหนึ่งทันทีอย่างไม่ทันระวัง ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาพร้อมดวงตาวาววับ แต่คนที่ตัวเล็กกว่ามากกลับน้ำตาไหลพรากทั้งที่เป็นคนตบเขา หล่อนยืนนิ่งไม่คิดจะถอยหนี ไม่กลัวว่าจะถูกตอบโต้กลับมาเช่นเดียวกัน แต่จนแล้วจนรอดชายหนุ่มก็ยืนนิ่ง ไม่คิดจะทำอะไร ได้แต่มองตากันเช่นนั้น
“คนเลว ดาวเกลียดพี่ เกลียดๆๆ!!”
พูดจบร่างบางก็วิ่งหนีเขาตรงไปยังประตูห้อง แต่อาการเหมือนคนน้ำในหูไม่เท่ากันทำให้หญิงสาวล้มลงกับพื้นไปอีก ดีว่ามือแข็งๆ ของอารัญรับเอาไว้ได้ทันหัวหล่อนจึงไม่ฟาดกับพื้นห้อง
“ดาว!”