Chapter 6: หยุดคิดถึงมันได้แล้ว

1990 คำ
นี่คือสิ่งที่พี่เพชรและพี่พลเรียกว่า ‘บ้าน’ ของพวกเขา ด้านหน้ารั้วสูงใหญ่มีชื่อบ้าน ‘พลเพชร’ ติดอยู่ เนื้อที่กว้างกว่าห้าสิบไร่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ นัก แค่เฉพาะตัวที่ดินก็หลายพันล้านเลยทีเดียว ในพื้นที่มีทั้งสวนดอกไม้กว้าง ทุ่งหญ้าเลี้ยงม้า สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส แถมยังมีบ้านอีกหลายหลัง ทั้งหลังเล็ก หลังใหญ่แต่ตรงใจกลางที่ดินดูเหมือนจะเป็นหลังใหญ่ที่สุด บ้านทรงเวสเทิร์นโมเดิร์นสีขาวสามชั้น ดูคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมเรียงตัวต่อกันสลับไปมา มีกระจกบานใหญ่เป็นส่วนประกอบรอบตัวบ้าน มองทะลุเข้าไปเห็นโคมไฟทรงโมเดิร์นสวยงามตามห้องต่าง ๆ พี่ ๆ ไม่ควรเรียกที่นี่ว่า ‘บ้าน’ นี่มันหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านชัด ๆ! “พวกฉันจะไม่ทำอะไรเธอ แต่เธอต้องค้างห้องเดียวกันกับพวกฉัน จะได้ ‘รู้สึกดี ๆ’ เร็วขึ้นหน่อย ฉันกับไอ้เพชรแยกห้องกันนอนแต่เวลาพาผู้หญิงมามีห้องนอนที่ใช้ด้วยกันอยู่ ต่อไปนี้ฉันจะให้เธอไปนอนห้องนั้น” ขุนพลหันไปบอกรติชาที่เดินตามหลังเขาเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางตื่นตะลึง “แต่... หนูสวย หนูกลัวพวกพี่จะห้ามใจไม่ไหวอะ” รติชาที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนที่ยักษ์โอซื้อมาให้พูดขึ้นมาหน้าตาเฉย “เมื่อคืนสวยกว่านี้พวกพี่ยังห้ามใจไหว พี่กับไอ้พลไม่ข่มขืนผู้หญิงหรอกนะคะ” เพชรแท้ที่เดินตามหลังเธอมาติด ๆ พูดขึ้นแล้วหัวเราะน้อย ๆ เสียงหัวเราะของหนุ่มหล่อหน้าใสใส่แว่นจบลงไม่เท่าไหร่ เสียงหวาน ๆ ของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา “เสี่ยขา มาถึงกันแล้วเหรอคะ? รับน้ำเย็นก่อนนะคะ เอ๊ะ! แล้วนั่นใครคะ?” หญิงสาวหน้าตาน่ารัก ไว้ผมยาวประบ่า สวมเสื้อครอปเอวลอยรัดอก กางเกงยีนขาสั้นยาวแค่คืบ หุ่นอวบอัด วัยราว 20 ปี ไล่เลียกับน้องสาวของรติชาเดินเข้ามาหาสองหนุ่มพร้อมถาดน้ำเย็นในมือถามขึ้น “เมียของพวกฉัน น้านวยอยู่ไหนนิ่ม?” ขุนพลตอบสั้น ๆ แล้วถามหาคนอื่น เด็กสาวที่ชื่อนิ่มทำหน้าบึ้งตึงทันที เธอจ้องมองรติชาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ รติชาเชิดหน้าขึ้นแล้วทำเป็นไม่สนใจนิ่ม แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นเด็กรับใช้ที่หวังจะงาบนายจ้าง แหม... มีเด็กรับใช้ใกล้ชิดพร้อมเสนอตัวขนาดนี้ยังจะไปซื้อหนูมาอีก พี่ ๆ สองคนนี้เขาคิดอะไรกันเนี่ย? “แม่ขึ้นไปจัดห้องนอนใหญ่ให้เสี่ยเพชรและเสี่ยพลตามคำสั่งที่เสี่ยพลโทรมาสั่งอยู่ค่ะ” นิ่มตอบคำถามขุนพลแล้วทำหน้างอ “เดี๋ยวไอ้โอจะเอาของใช้ของเมียพวกฉันมาส่ง นิ่มเอาขึ้นไปไว้บนห้องนอนใหญ่แล้วขนของของพวกฉันไปไว้ในห้องนอนนั้นด้วย ต่อไปนี้พวกฉันจะนอนที่นั่น” เพชรแท้ขยับแว่นบอกสาวใช้แล้วหันไปถามรติชาต่อ “น้ำชาเหนื่อยไหม? ห้องคงยังจัดไม่เสร็จ จะไปนั่งดูหนังในห้องโฮมเธียร์เตอร์ก่อนหรืออยากให้พวกพี่ขับรถพาไปดูรอบ ๆ บ้าน?” นิ่มจ้องหน้ารติชาไม่ยอมไปไหน จนรติชาต้องขมวดคิ้วแล้วถามเด็กสาวเสียงเข้ม “นิ่มมีปัญหาอะไรจะถามฉันหรือเปล่า? จ้องหน้าอยู่ได้ หน้าหนูมีอะไรติดอยู่หรือเปล่าคะเสี่ยเพชร? เสี่ยพล?” รติชาเรียกชื่อเด็กสาวตามที่ได้ยินพี่พลและพี่เพชรเรียก เธอแกล้งทำเสียงหวาน เรียกพี่ ๆ ว่าเสี่ยบ้างแล้วมองพวกเขาด้วยสายตาเว้าวอน สองหนุ่มหล่อรู้ว่าน้องคงอยากแกล้งให้นิ่มเดือดดาลจึงได้แต่ตามน้ำ ขุนพลยกมือขึ้นมาไล้ตามกรอบหน้าสวยของน้องเบา ๆ ก่อนจะส่งยิ้มทรงเสน่ห์ให้เธอ “สงสัยเธอสวยจนนิ่มตกใจเลยต้องจ้องหน้านาน ๆ นิ่มไม่ต้องจ้องหน้าน้ำชาแล้ว น้ำชายังจะอยู่ที่นี่อีกนาน ต่อไปคงได้จ้องจนเบื่อ” ขุนพลบอกเด็กรับใช้แต่มือใหญ่ยังไล้ไปมาบนแก้มเนียนของน้อง สายตาคมราวเสือยังจับจ้องแต่ใบหน้างามของคนตัวเล็ก “หรือไม่ก็เพราะปากของหนูสวยมาก ทั้งอิ่ม ทั้งใส สีชมพูอ่อน ๆ น่าจูบมากค่ะ นิ่มเลยจ้องไม่หยุด จุ๊บ!” เพชรแท้พูดบ้างแล้วเชยคางน้องหันมาจูบตรงริมฝีปากอิ่มที่เขาเพิ่งเอ่ยชม รติชาตกใจแต่ก็ยังแอบสะใจไปด้วยเพราะจูบแผ่วเบาจากริมฝีปากอุ่นหนาของพี่เพชรเป็นเชื้อเพลิงทำให้เด็กนิ่มทำท่าฮึดฮัดแล้วเดินกระแทกเท้าออกไปจากห้องรับแขกทันที สะใจอยู่ได้ไม่นานจูบแผ่วเบาที่เรียวปากอิ่มก็เริ่มเลยลากไปเป็นจูบลึกซึ้งดูดดื่ม สาวน้อยเริ่มรู้ตัวว่าเล่นกับไฟเมื่อสายไปเสียแล้ว เห็นเย็น ๆ ที่แท้ก็เป็นมังกรซ่อนเล็บ! พี่เพชรที่ดูอ่อนโยนใจดี กลับมีลีลาจูบร้อนแรงไม่แพ้พี่พล ลิ้นอุ่นลื่นแทรกเข้ามากระหวัดเกี่ยวลิ้นน้อยของเธอออกไปดูดนอกริมฝีปากหลายวินาทีจนสาวน้อยตัวอ่อนระทวย หายใจแทบไม่ทัน “พอก่อนมึง ไอ้เพชร ยัยแสบจะเป็นลมตายแล้ว แม่ง... เริ่มอ่อยก่อนเองแท้ ๆ ดันไก่อ่อน โดนจูบนิดหน่อยจะเป็นลมล้มพับ แม่ง... ไม่เคยโดนไอ้ดามพ์จูบหรือยังไง?” ขุนพลสะกิดเตือนเพื่อนแล้วยกยิ้มที่มุมปาก หากเป็นคนอื่นรุกล้ำ ‘ของของเขา’ แบบที่ไอ้เพชรทำ ไอ้เลวนั่นต้องตายคาตีนเสี่ยพลเป็นแน่ แต่หากเป็นเพชรแท้ มันกลับทำให้ขุนพลมีความสุขที่ได้แบ่งปัน เขาดีใจที่เพื่อนรักเองก็ชอบในสิ่งที่เขาชอบ “อ๊า... ปากนิ่มโคตร จูบก็หวาน มิน่าล่ะ เมื่อเช้ามึงจูบนานฉิบหาย” เพชรแท้ถอนจูบออกแล้วอ้างถึงเหตุการณ์ที่เพื่อนจูบสาวน้อยที่ภูเก็ต “ก็สมกับสิบล้านที่ซื้อมา” ขุนพลตอบแล้วยักไหล่ รติชายืนแทบไม่อยู่และเหมือนเพชรแท้จะรู้ว่าน้องเข่าอ่อน เขารีบตวัดร่างเล็กขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าหญิงแล้วพาน้องออกไปจากห้องรับแขก “มาเร็วไอ้พล! สงสัยน้องหิวข้าวแล้ว เข่าอ่อนเลย ข้าวเที่ยงที่เขาเสิร์ฟบนเครื่องชั้นเฟิร์สคลาสคงไม่พอยาไส้ เมียพี่อยากกินอะไรคะ?” เพชรแท้ตะโกนเรียกเพื่อนแล้วก้มหน้าลงถามสาวน้อยในวงแขน “หนูไม่ได้หิวสักหน่อย พูดเหมือนหนูตะกละไปได้” รติชาที่ตัวอ่อนจากจูบร้อนหน้าแดงแล้วบอกเสียงอ่อย “เธอไม่หิวแต่พวกฉันหิว หิวเธอด้วย หิวข้าวด้วย แต่ในเมื่อเมียยังไม่ยอมให้กิน ก็ต้องกินข้าวแทนกินเมียไปก่อน เมื่อไหร่เมียจะเลิกเล่นตัวก็ไม่รู้ แม่งโคตรอยาก...” ขุนพลตอบแล้วเหยียดยิ้มแบบน่าหมั่นไส้จนรติชาแทบอยากกระโดดออกจากอ้อมแขนของพี่เพชรแล้วเข้าไปตะกุยหน้าเขา “คำก็เมีย สองคำก็เมีย ได้หนูแล้วหรือก็เปล่า เรียกเมียอยู่ได้ ไม่อายปาก” สาวน้อยซุกหน้าเข้ากับอกของพี่เพชรแล้วบ่นพึมพำ “บ่นอะไร? แอบด่าพวกฉันหรือเปล่ายัยแสบ?” ขุนพลถามน้องทันทีเมื่อได้ยินเสียงบ่นอุบอิบของเธอ “เปล่าบ่นค่ะเสี่ยขา แค่พูดว่าอยากกินข้าวผัดปู หมูฮ้อง น่องเป็ดตุ๋นยาจีนค่ะเสี่ย” รติชายิ้มตาหยีแล้วพูดเสียงหวาน ฟังดูก็รู้ว่าเสแสร้งแต่สองหนุ่มหล่อกลับลอบยิ้ม ชอบใจในความเสแสร้งแสนน่ารักของน้อง “โอเค เมียอยากกินอะไรเดี๋ยวพี่หามาให้ทั้งหมดที่ว่าเลยค่ะ จุ๊บ!” เพชรแท้พูดแล้วก้มลงหอมแก้มเนียนของน้องด้วยความรักใคร่ พี่เพชรหวานจัง... พี่ดามพ์ก็เคยหวานกับหนูแบบนี้ อยู่ดี ๆ สาวน้อยก็ประหวัดคิดถึงช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกับแฟนที่ตอนนี้สันนิษฐานได้ว่ากลายเป็น ‘แฟนเก่า’ ไปแล้วขึ้นมา “เป็นอะไรยัยแสบ? จู่ ๆ ก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้?” ขุนพลจับสังเกตหน้าตาที่ดูซึมเศร้าขึ้นมาของน้องน้อยได้จึงเอ่ยถาม “หรือคิดถึงผัวเก่า?” ขุนพลถามจี้ต่อ “ก็ต้องมีบ้างไหม? หนูคบกับเขามาสองปี อยู่ดี ๆ แค่ข้ามวันเขาก็กลายเป็นเหมือนคนที่หนูไม่รู้จัก แถมยังหลอกหนูมาขายให้คนอื่น ถึงอยากตัดใจ... แต่มันก็ยาก พี่ไม่โดนหลอกมาขายพี่ไม่รู้หรอก” รติชาพูดเสียงแผ่วเบา “หยุดคิดถึงมันได้แล้วค่ะเด็กดี ต่อไปนี้ชีวิตของหนูตลอดหนึ่งปีจะมีแต่พี่และไอ้พล แล้วหนูจะรู้สึกโชคดีที่ผัวเก่าหนูมันขายฝากหนูมาให้พวกพี่เสียได้” เพชรแท้สงสารสาวน้อยในอ้อมกอดจับใจ หนุ่มหล่อหน้าใสกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นเหมือนจะเป็นการรับประกันว่าต่อไปนี้เขาจะดูแลเธอให้ดีที่สุด “โชคชะตาของเธอเปลี่ยนตั้งแต่มันตัดสินใจขายเธอให้พวกฉันแล้ว และต่อไปนี้อย่าเศร้าเรื่องของมันให้ฉันเห็นอีกเป็นอันขาด ลืมมันไปเสีย ไอ้เพชรอาจจะไม่ว่าที่เธอคิดถึงคนอื่น แต่ฉันไม่ชอบให้ผู้หญิงของฉันมีเยื่อใยกับผัวเก่า เข้าใจไว้เสียด้วย” ขุนพลพูดน้ำเสียงเย็นชา ในใจมันเหมือนมีความรู้สึกเจ็บแปลบเกิดขึ้นเมื่อเห็นรติชาเอ่ยอ้างถึงรักเก่าที่เลวระยำขนาดหลอกเธอมาขายให้พวกเขา รติชาหันหน้าที่ซบอกพี่เพชรอยู่ออกมาจ้องตาพี่พลแล้วทำปากคว่ำ น้ำตาเริ่มคลอเบ้า คราวนี้เป็นน้ำตาจริง ๆ ไม่ได้มาจากการเสแสร้ง “แค่หนูทำใจได้ภายใน 10 นาทีแรกที่แฟนหลอกมาขาย ไม่ร้องไห้โวยวายให้พวกพี่หนักใจก็ดีเท่าไหร่แล้ว พี่พลจะมาบังคับให้หนูลืมเขาในเวลายังไม่ทันข้ามวันได้ยังไง? ไม่มีเหตุผลที่สุด ร้ายที่สุด หนูเกลียดพี่พลที่สุดเลย!” รติชาด่าเสร็จก็ซุกหน้าลงกับอกกว้างของพี่เพชรต่อ เธอไม่ได้สะอื้นไห้แต่เพชรแท้รู้สึกได้ถึงหยาดน้ำตาของสาวน้อยที่เปียกเปื้อนเสื้อเชิ้ตของเขา เพชรแท้นิ่วหน้าแล้วหันไปมองผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกพี่ลูกน้อง “ไอ้เชี่ย! มึงทำเมียร้องไห้” หนุ่มหล่อหน้าตี๋ขมุบขมิบปากด่าเพื่อน “ก็กูไม่ชอบให้น้องพูดถึงผัวเก่า” ขุนพลขยับปากแบบไม่ออกเสียงตอบกลับไปบ้าง ถึงตอนนี้ขุนพลเองก็ทำหน้าบอกไม่ถูก เหมือนไม่สบายใจ “ฉันขอโทษ” หนุ่มหน้าหล่อจัดพูดออกมาเบา ๆ แล้วก้าวเท้าเข้าไปลูบหัวน้องเป็นการปลอบใจ เพชรแท้ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ระอากับความเอาแต่ใจของเพื่อนรัก ขุนพลมักเป็นเช่นนี้ หวงของกับทุกคนเว้นแต่กับเพชรแท้ วางอำนาจกับทุกคนเว้นแต่กับเพชรแท้ และร้ายกับทุกคนเว้นแต่กับเพชรแท้... อ้อ... ตอนนี้เห็นทีจะมีอีกคนที่ไอ้พลน่าจะยอมลงและทำดีด้วย... เพชรแท้คิดแล้วก้มลงมองสาวน้อยที่ยังซุกหน้าอยู่กับอกของเขาแต่ดูเหมือนจะหยุดร้องไห้แล้ว น้ำชาคือคนที่ไอ้พลและกูต้องยอมลงให้แบบที่ใครก็ไม่เคยได้รับสิทธิ์นั้นมาก่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม