ตอนที่ 2 ข้อตกลง

1448 คำ
เช้าวันต่อมา เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นปลุกให้คนที่หลับใหลให้ได้ตื่นขึ้นจากนิทรา เปลือกตาที่ปกปิดดวงตาคู่สวยมีการขยับเล็กน้อยก่อนจะลืมขึ้น มือเรียวสวยได้เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่ดังคงส่งเสียงดังอยู่ข้างตัวด้วยท่าทีคุ้นเคย ก่อนจะกดรับมัน “ว่าไงคะ” เสียวหวานถูกส่งออกไปทักทายปลายสายทันทีเมื่อหญิงสาวได้กดรับโทรศัพท์แล้ว (“คุณหนูครับ ตอนนี้อาการคุณท่านทรุดหนักแล้วครับ”) คำบอกกล่าวจากปลายสายทำให้คนที่ขึ้นชื่อว่าลูกอย่าง คาริสา หน้าซีดลงมากกว่าเดิม เพราะเหมือนเธอจะลืมเรื่องสำคัญในครั้งนี้ไปเลย “ย้ายพ่อไปที่โรงพยาบาล....” (“แน่ใจเหรอครับ ที่นั่นไม่รับนายท่านเป็นผู้ป่วยนะครับ”) “ฉันสั่งให้ย้ายก็ย้ายไปเถอะน่า” คาริสาเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ใช่! เธอไม่เถียงว่าก่อนหน้านี้โรงพยาบาลของมาร์ตินไม่ยอมรับให้พ่อของเธอเข้าไปรักษาที่นั่น ยิ่งถ้าอยากได้มาร์ตินศัลยแพทย์หัวใจที่แสนเย่อหยิ่งมาเป็นคนรักษาให้ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ทว่าตอนนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น เมื่ออีกฝ่ายยอมให้เธอพา คริสเตียน พ่อของเธอเข้าไปรักษาได้ อีกทั้งเขายังเป็นคนรักษาให้อีกด้วย เฮ้อ! เสียงถอนหายใจของคาริสาดังขึ้นหลังจากหญิงสาวได้วางสายโทรศัพท์จากลูกน้องของพ่อตนเอง เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณหนูที่มีพ่อเป็นถึงมาเฟียที่ทรงอิทธิพล จะต้องยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้มาเฟียในคราบหมออย่างมาร์ตินมารักษาพ่อของตนเองแบบนี้ แต่ทว่าถ้าเธอไม่เลือกทำแบบนี้พ่อของเธอก็อาจจะมีลมหายใจได้อีกไม่นาน คาริสาที่เหมือนลืมอะไรบางอย่างไปได้มองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องพักภายในเพนท์เฮาส์แห่งหนึ่งด้วยท่าทีตื่นตระหนก แต่พอไม่เห็นว่าใครอีกคนอยู่ที่นี่เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แม้ว่าตอนนี้ภายในห้องนี้จะมีเพียงแค่เธอคนเดียว แต่ภาพของคืนเร่าร้อนที่ผ่านมาก็ยังคงวิ่งเข้ามาเล่นงานหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เธอหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง คาริสาพยุงตัวเองลุกจากเตียงด้วยท่าทีทุลักทุเลและทันทีที่เธอก้าวเท้าลงจากเตียงร่างระหงที่เคยสง่างามก็ลงไปกองกับพื้นทันที ความปวดร้าวเจ็บตรงกลางใจสาวในตอนนี้ทำให้ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวไปเล็กน้อยเพราะความเจ็บ คาริสาไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เพราะเธอนั้นเป็นถึงลูกสาวของมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลที่ใครต่างต้องก้มหัวให้ แต่ทว่าใครจะคิดว่าชีวิตของเธอต้องกลับกลายมาเป็นแบบนี้ คาริสาใช้เวลาปรับตัวเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นอยู่นานหลายนาที จนเธอแน่ใจแล้วว่าจะไม่รู้สึกเจ็บ หญิงสาวจึงพาร่างกายอันบอบช้ำ ที่มีแต่ร่องรอยรักเข้าไปชำระล้างร่างกายก่อนจะพาตัวเองไปที่โรงพยาบาล ภายในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง คาริสาเดินเข้าไปภายในโรงพยาบาลด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ แต่ภายในใจของหญิงสาวกลับร้อนรนจนแทบจะทนไม่ไหว “คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง” คาริสาเดินเข้าไปหาเบนท์ลูกน้องคนสนิทของพ่อตนเองก่อนถามไถ่ออกมาด้วยความเป็นห่วง “ตอนนี้ทางโรงพยาบาลเตรียมผ่าตัดให้กับคุณท่านแล้วครับ ว่าแต่ทำไมที่นี่ถึงยอมรักษาคุณท่านครับ” เบนท์ถามด้วยสีหน้าที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเขาสงสัยในเรื่องนี้มากแค่ไหน “คือว่า...” “คุณคาริสาคะ คุณหมอให้เข้าไปคุยรายละเอียดเรื่องการผ่าตัดค่ะ” ยังไม่ทันที่คาริสาจะได้ตอบอะไรเบนท์ พยาบาลสาวก็เดินเข้ามาเรียกคาริสาเสียก่อน ทำให้เธอเลือกที่จะเดินตามอีกฝ่ายไปโดยไม่คิดจะบอกอะไรเบนท์เลยสักคำ “เชิญค่ะ คุณหมอรออยู่ในห้อง” พยาบาลเปิดประตูห้องทำงานของหมอศัลยแพทย์ให้กับคาริสาก่อนเอ่ยออกมา “ค่ะ ขอบคุณนะคะ” คาริสายิ้มให้อีกฝ่ายก่อนเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของหมอประจำคนใหม่ของพ่อตนเองด้วยท่าทีเกร็ง ๆ “มานั่ง” เสียงทุ้มแหบที่เต็มไปด้วยความเย็นชาเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาไม่มองแม้แต่หน้าของหญิงสาว เพราะตอนนี้สายตาคู่คมที่แสนเย็นชายังคงมองจับจ้องไปที่เอกสารตรงหน้า “อะไรเหรอคะ” คาริสาเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่ออีกฝ่ายส่งแฟ้มเอกสารมาให้กับเธอถึงสองแฟ้ม “เอกสารข้อตกลง กับเอกสารผ่าตัด” “อ๋อค่ะ” คาริสาหยิบแฟ้มเอกสารผ่าตัดออกมาเปิดดู เธอเลือกที่จะเซ็นมันอย่างไม่ลังเล ในขณะที่อีกแฟ้มหญิงสาวกลับได้แต่ไล่อ่านแต่ละข้อสัญญา และยิ่งเธออ่านรายละเอียดมากแค่ไหน หัวใจดวงน้อยก็เหมือนจะถูกบีบรัดมากเท่านั้น เพราะข้อตกลงที่เธอทำกับอีกฝ่ายมันยิ่งกว่านางบำเรอเสียอีก แต่ทว่าต่อให้เธอต้องยอมเหยียบศักดิ์ศรีของตัวเองลงดินแค่ไหน เธอก็ต้องทำมันเพราะตอนนี้ชีวิตของพ่อตนเอง คือสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับหญิงสาว “จะเซ็นไหม” “เซ็นค่ะ” คาริสาตอบก่อนจะจรดปากกาลงบนแฟ้มเอกสาร ซึ่งทันทีที่คาริสาส่งแฟ้มเอกสารให้กับอีกฝ่ายแล้ว มาร์ตินก็เดินออกไปจากห้องทำงานของตนเองทันที ทิ้งให้คาริสาได้แต่มองตามอีกฝ่าย ด้วยหัวใจที่เต้นช้าลงเรื่อย ๆ ย้อนกลับไปเมื่ออาทิตย์ก่อน “คุณหนูครับ นายท่านเข้าโรงพยาบาลครับ” เสียงของเบนท์ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของคริสเตียนวิ่งเข้ามาหาคาริสา ซึ่งกำลังนั่งเล่นอยู่ภายในห้องรับรองของบ้านด้วยความรีบร้อน “อะไรนะคะ” คาริสาถามย้ำออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินเมื่อครู่นี้ “คุณท่านเข้าโรงพยาบาลครับ ตอนนี้คุณหมอบอกว่าอาการของคุณท่านค่อนข้างวิกฤตครับ” “อย่าแกล้งริสาแบบนี้สิคะ คุณพ่อไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม” คาริสาถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่คาดหวังว่าสิ่งที่เขาเอ่ยออกมานี่จะไม่ได้เป็นจริง “ผมไม่กล้าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นหรอกครับ” “แล้วคุณพ่ออยู่ไหน บอกริสามาคุณพ่ออยู่ไหน” คาริสาถามด้วยท่าทีร้อนรน แต่ทว่าหัวใจดวงน้อยกับเย็นชาลงราวกับกำลังจะหยุดเต้น “อยู่ที่โรงพยาบาลครับ” “พาริสาไปหาคุณพ่อได้ไหมคะ” “ครับ” เบนท์ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการพาคาริสามายังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ บ้านของเขา ซึ่งทันทีที่คุณหนูของเขาเดินทางมาถึง ก็รีบเดินเข้าไปเฝ้าที่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความร้อนใจ “คุณพ่อจะเป็นอะไรไหมคะ” คาริสาที่เอาแต่มองตรงไปยังประตูบานใหญ่ตรงหน้าเอ่ยถามออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ ตอนนี้คาริสาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่และทำไมอยู่ ๆ พ่อของเธอถึงได้ล้มป่วยแบบนี้ “ไม่เป็นอะไรครับ คุณท่านแข็งแรงขนาดนี้ไม่เป็นอะไรง่าย ๆ แน่นอนครับ” เบนท์เอ่ยโกหกคำโตออกมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้หมอเจ้าของไข้ของคริสเตียนได้บอกให้เขาทำใจเอาไว้บ้าง “จริง ๆ นะคะ ไม่ได้หลอกริสาใช่ไหม” “เอ่อ...” ยังไม่ทันที่เบนท์จะได้เอ่ยตอบอะไรออกมา ประตูห้องฉุกเฉินก็ได้เปิดออกมา เผยให้ได้เห็นหมอเจ้าของไข้ของคริสเตียน “คุณหมอ คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ” “ตอนนี้อาการค่อนข้างแย่มากครับ” “แล้วต้องทำยังไงเหรอคะ” “ผ่าตัดครับ” หมอเอ่ยออกมาอย่างไม่กล้าสบสายตาของคาริสา “ก็ผ่าสิครับ รออะไรอยู่” เบนท์ถามอย่างไม่เข้าใจอีกฝ่าย “คือที่โรงพยาบาลเราไม่มีใครสามารถที่จะผ่าเคสแบบคุณคริสเตียนได้เลยสักคนครับ” “อะไรนะคะ คุณเป็นหมอประสาอะไรกัน” คาริสาที่ได้ยินคำพูดของผู้เป็นหมอก็เอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คือว่าในกรณีของคุณคริสเตียนในตอนนี้มีหมอแค่เพียงคนเดียวที่จะผ่าตัดได้ครับ” “ใครครับ....”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม