เกินไปมากเกินไปจริงๆเเล้วผมจะเอาตัวรอดอยู่ที่นี่ได้ยังไงนายหัวทินธรร้ายขนาดนี้ ปากร้ายเเล้วยังใจร้ายอีกพูดจาออกมาเเต่ละอย่างลามกเเถมยังชอบลวนลามผมทางสายตาใครจะไปทนไหวล่ะ
“ถึงกับสะดุ้ง?” คนตัวสูงถามขึ้นมาพร้อมทำหน้ากวน
“อย่ามาลามกกับผม” ผมตอบออกไปเสียงเบาใบหน้าคมห่างกับผมเเค่ไม่กี่เซนจนผมต้องเบี่ยงหน้าหนี
“อย่ามาสั่งอะไรโง่ๆ ไม่เข้าใจคำว่าเจ้าของชีวิตหรือไง?!” คนตัวสูงพูดขึ้นมาเสียงดังจนผมสะดุ้ง
“นายหัวไม่ใช่เจ้าของชีวิตผม!” ผมตอบกลับไปเสียงดัง คนตัวสูงทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะเดินไปหยิบซองสีน้ำตาลเเล้วโยนลงบนพื้นตรงหน้าผม
“ถ้าฉันไม่ใช่ก็หย่าสิ” คนตัวสูงพูดเสียงเรียบพร้อมมองหน้าผม
“...”
“หยิบขึ้นมาใส่ชื่อตัวเองคงไม่ยากเกินความสามารถหรอกมั้ง?”
“อย่ามาขู่ผมนะ”
“ตรงไหนที่เรียกว่าขู่?”
“นายหัวกำลังบีบผม”
“มีตรงไหนที่ฉันทำผิดเธอบอกเองว่าฉันไม่ใช่เจ้าชีวิต ก็นี่ไงหย่าสิจะได้ไม่ต้องมาเป็นคนของใคร” คนตัวสูงมองหน้าผมพร้อมกับพูดออกมาอย่าชิลๆ
คิดว่าผมจะยอมหรือไงคิดว่าผมทนไม่ได้หรือไงเอาสิผมไม่หย่าหรอกจะอยู่เเบบนี้เเหละมาดูกันใครจะทนได้นานกว่ากัน
“ผมไม่หย่า” ผมตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉันเคยบอกเเล้วใช่ไหมถ้าเธอเป็นเขมจักรเมื่อไหร่ตอนนั้นเธอคือสมบัติของฉัน!”
“...”
“ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวเธอฉันมีสิทธิ์ตัดสินใจ! เป็นเมียฉันอย่าคิดว่ามันง่ายที่จะเดินไปมาอยู่บ้านเฉยๆ อย่ามาคิดอะไรตลกว่าที่เธอทำไปเธอจะได้เปรียบฉัน”
“...”
“ฉันจะบอกให้เเล้วจำ! เธอก้าวมาเป็นเขมจักรเมื่อไหร่คนเสียเปรียบมันไม่ใช่ฉัน ลองคิดดูดีๆมีอะไรที่เป็นของเธอบ้างเเค่นามสกุลเธอยังต้องใช้ของฉัน” คนตัวสูงพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาผมมือหน้าบีบท้ายทอยผมเบาๆใบหน้าคมก้มลงจนปลายจมูกเเทบชิดกัน
“อย่า!” มือขาวรีบยกขึ้นดันอกเเกร่งไว้ทันทีเเต่กลับโดนมือใหญ่จับไว้พร้อมออกเเรงบีบเบาๆ
“คิดได้หรือยังว่าอะไรที่เป็นของเธอ?” คนตัวสูงมองผมด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง น่ากลัวเกินไปเเล้วไม่น่าเลยผม
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นายหัวทินธร!” ผมพูดออกมาพร้อมพยายามดันอีกคนออก
“อ๋อ? มีอีกอย่างที่ยังเป็นของเธอ” ตาคมมองผมก่อนจะไล่สายตามองตั้งเเต่หัวจรดเท้า
“หยุดมองผมด้วยสายตาเเบบนั้น!”
“เเปลกดี กับคนอื่นโดนมองไม่เห็นจะหวง ผัวมองนิดมองหน่อยจะหวงทำไม?”
“นี่มันร่างกายผม”
“ใช่ เธอพูดถูกมันเป็นของเธอเเต่ต่อไปมันคงไม่ใช่ของเธอ”
“...”
“เตรียมใจหรือยังที่ต่อไปจะไม่มีอะไรที่จะเป็นของเธอเเม้เเต่อย่างเดียว รวมทั้งตรงนี้ด้วย” คนตัวสูงพูดขึ้นเสียงเข้มพร้อมกับใช้มือชี้ลงบนอกข้างซ้ายของผมเเล้วผละตัวออกเดินออกจากห้องไป
ตลกมันตลกที่สุดที่ผมใจเต้นขนาดนี้ ให้ตายผมทำอะไรอยู่มันน่ากลัวเกินไปผมกำลังเล่นกับอะไรอยู่กันเเน่ ผมควรมีชีวิตที่ดีเเละไปได้สวยกว่านี้ไม่ใช่มาปวดหัวกับนายหัวทินธรเเบบนี้ ผมคิดถูกเเล้วใช่ไหมที่ตัดสินใจทำเเบบนี้หรือผมควรจบทุกอย่างไปเเล้วกลับไปใช้ชีวิตปกติ ผมก้มลงเก็บซองเอกสารสีน้ำตาลขึ้นมามองก่อนจะถอนหายใจออกมา
“จ้างก็ไม่หย่าให้หรอก”
ผมพูดออกมาเบาๆพร้อมกับเก็บเอกสารสำคัญไว้กับตัวเองไม่งั้นมีหวังคงโดนเอามาขู่ทุกวันเเน่ เรื่องนี้ตัดไปก่อนผมยังต้องหาวิธีรับมืออีกเยอะเเต่คืนนี้ผมจะนอนยังไงให้ผมนอนเตียงเดียวกับนายหัวทินธรมีหวังคงได้เปลืองตัว ผมไม่เเน่ใจว่านายหัวทินธรออกไปไหนเเต่ดีเเล้วผมขอเตรียมใจก่อนยังไม่พร้อมที่จะรับมืออะไรสักอย่าง ร้ายมากเลยครับนายหัวของเขมจักรฟาดผมไม่หยุดเลยเเค่คิดว่าผมจะทำยังไงดีเเค่นี้ก็เหนื่อยเเล้วครับ
ผมเเบกผ้าห่มกับหมอนวางไว้บนโซฟาใช่ครับผมจะนอนที่โซฟาเเค่อยู่ใกล้ผมก็เเทบจะกลั้นหายใจอยู่เเล้ว ถ้าได้นอนเตียงเดียวกันผมคงตายพอดี เเบบนี้เเหละดีสุดเเล้วผมอุตส่าห์เสียสละตัวเองลงทุนมานอนที่โซฟาเลยนะเนี่ย เสียงประตูห้องที่ดังขึ้นมาทำให้ร่างโปร่งรีบล้มตัวนอนลงโซฟาพร้อมใช้ผ้าห่มคลุมหัวโป่ง
ผมได้ยินฝีเท้าเดินผ่านโซฟาที่ผมนอนอยู่เเล้วเสียงเดินก็เงียบไปเเต่กลับเป็นเสียงเข้มที่ดังขึ้นมา
“เมื่อไหร่จะหยุดทำอะไรโง่ๆสักที?” คนตัวสูงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด คำก็โง่สองคำก็โง่ผมไปโง่อะไรนักหนา
“...”
“ที่พูดไปยังไม่เข้าใจใช่ไหมคลีน” เเค่นายหัวเรียกชื่อผมทำไมต้องขนลุกด้วย
“ผมเข้าใจเเล้วครับ ผมอุตส่าห์เสียสละมานอนตรงโซฟาให้เเล้วยังจะมาด่าอีกหรือไง” ผมพูดออกไปในขณะที่หัวยังไม่ออกจากผ้าห่ม
“ไม่เข้าใจคำว่าผัวเมีย?” คำนี้มาอีกละ!
“เเยกกันนอนก็ได้นิครับ”
“อย่าให้ฉันหมดความอดทน ลุกขึ้นมา” คนตัวสูงสั่งเสียงเข้ม
“ผมจะนอนตรงนี้”
“อย่าให้โมโหได้ไหมอารมณ์ยิ่งไม่ดี” น้ำเสียงคนตัวสูงดูจริงจังมากเเม้ผมไม่เห็นหน้าผมรับรู้ได้ถึงใบหน้าคมได้เลยว่าทำหน้าเเบบไหนอยู่
“นายหัวอย่ามาบังคับผมนะ” ผมเเอบเบะปากในผ้าห่มพร้อมกับขดตัวในผ้าห่ม
“นับถึงสามเมื่อไหร่ฉันเอาให้จำเเน่!”
“ฟังผมก่อนได้ไหมครับ” ผมเถียงออกไป
“หนึ่ง”
“นายหัวผมบอกว่าผมจะนอนตรงนี้ ผมนอนได้มันสบายมากไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก”
“สอง” เอาไงดีๆผมต้องทำยังไงดี
“นายหัวทินธร” ผมเรียกออกไปเบาๆ
“สาม”
“หยุด!นายหัวจะทำอะไรปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้!”
ผมร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อตัวผมถูกอุ้มพาดขึ้นบ่าในขณะที่ตัวผมพันอยู่ในผ้าห่ม ให้ตายผมมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นนายหัวจะพาผมไปไหน อย่ามาตลกนะผมกลัวจริงๆ
ปึก!
“โอ้ยย!ผมเจ็บนะ เดี๋ยวจะทำอะไร!”
ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อถูกโยนลงบนเตียงกว้างพร้อมกับร่างเเกร่งที่ขึ้นคร่อมผมไว้มือหนากระชากผ้าห่มออกทำให้ผมเห็นใบหน้าคมได้อย่างชัดเจน เอาล่ะหน้าเเบบนี้รู้เลยว่ากำลังโกรธ มือเรียวทั้งสองข้างถูกรวบไว้เหนือหัวพร้อมกับร่างโปร่งที่ดิ้นไปมา
“หยุด!นายหัวปล่อยผมเดี๋ยวนี้จะทำอะไร!” ผมร้องออกมาเสียงดัง
“ที่พูดไปมันไม่จำใช่ไหม?”
“นายหัวเราคุยกันดีๆนะครับ” ผมพยายามพูดออกไปอย่างใจเย็นเเต่กลับโดนมือใหญ่บีบปลายคางไว้เเน่น
“ดี ยิ่งพยศยิ่งดีอยากรู้เหมือนกันเวลาโดนจะปากเก่งเหมือนตอนนี้ไหม” มือใหญ่บีบปลายคางผมเเน่นจนผมเจ็บไปหมด
“หยุดพูดแบบนั้นกับผม!” ผมพูดออกไปด้วยความโมโห
“ทำไมจะพูดไม่ได้ เอาเมียผิดตรงไหน!มันผิดยังไง?”
“ห้ามพูดแบบนั้นออกมา!”
“ไม่พูดหรอกเดี๋ยวจะทำให้ดู ว่าเป็นเขมจักรเต็มตัวมันเป็นยังไง!”
“หยุดดอื้ิออ!”
ริมฝีปากหนาก้มลงบดขยี้ริมฝีปากบางหนักๆพร้อมใช้มือบีบปลายคางเล็กเชิดขึ้นเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อให้ได้องศาปากหนาดูดดึงขบเม้มเเรงๆสลับกับบดขยี้ไปมาจนคนตัวเล็กกว่าร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“อึกกอื้ออ!โอ้ย!” ฟันคมกัดรอบขอบปากเล็กมือหนาบีบปลายคางเเรงๆให้อีกคนเผยปากออกก่อนจะตวัดเรียวลิ้นเข้าไปกวาดคว้านในโพลงปากปลายลิ้นหนาดูดดุนไปมาดูดดึงจนเกิดเสียงน้ำไสไหลเยิ้มออกมาตามขอบปากเล็กมือใหญ่สอดเข้าใต้เสื้อยืดสีขาวตัวบางริมฝีปากหนากดจูบลงมาจนถึงต้นคอขาวคนตัวเล็กกว่าพยายามดิ้นเเต่กลับโดนฟันคมกัดลงบนซอกคอขาวดูดเม้มจนเกิดรอยฟันพร้อมกับรอยดูดสีเเดงช้ำ
“อึกกอย่าา!อื้ออ” ใบหน้าเรียวส่ายหน้าไปมาเมื่อมือใหญ่ถกเสื้อตัวบางขึ้นจนถึงอกริมฝีปากหนาพรมจูบทั่วเเผ่นอกก่อนจะไล่ริมฝีปากลงมาเรื่อยๆ
“พะพออนายหัวยอมเเล้วผมยอม!” คนตัวเล็กกว่าพูดออกมาเสียงสั่นไม่ใช่เเค่เสียงเเต่กำลังสั่นไปทั้งตัว คนตัวสูงผงกหัวขึ้นมาก่อนจะจ้องหน้าคนตัวเล็กกว่า
“ถ้าฉันไม่หยุด?”
“ผมยอมเเล้วฟังเเล้วครับ ไม่เอาเเบบนี้” ผมพูดออกไปเสียงสั่นปากเล็กขบเม้มเข้าหากันจนเจ็บไปหมด สภาพผมตอนนี้โครตเเย่เลยเป็นสภาพที่ผมไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลยว่าจะเกิดขึ้นกับผมเสื้อยืดสีขาวที่ถกมาถึงอกรอยฟันช้ำเเดงเต็มคอไหนจะไอ้ปากที่บวมเจ่อนี่อีกเป็นอะไรที่โครตเเย่ที่สุด
“โทษทีที่ผัวเธอมันไม่ใจดี” คนตัวสูงพูดเสียงเข้มมุมปากยกสูงขึ้นก่อนที่มือใหญ่จะเลื่อนมาลูบไล้ตรงหน้าท้องให้เสียวเล่น
“ไม่!หยุดดอย่าถอดด ไม่เอาเเบบนี้!” เสียงร้องดังขึ้นมาเมื่อมือใหญ่ถอดกางเกงตัวบางของคนตัวเล็กออกพร้อมใช้มือถ่างขาเรียวออกกว้าง
“จะทำอะไร! ไม่เอายอมเเล้วจริงๆ” ผมพูดออกมาเสียงสั่นไม่ใช่เเค่เสียงเเต่เป็นขาทั้งสองข้างที่อ้าออกกว้างก็สั่นไม่หยุด
“เงียบ!”
“เราคุยกันดีๆได้ไหม นะครับไม่เอาอื้ออ!!” ยังไม่พูดไม่ทันจบคนตัวเล็กกว่าก็ร้องออกมาทันทีเมื่อบีบใหญ่บีบเค้นสะโพกหนักๆพร้อมตีลงบนต้นขาขาวเเรงๆจนต้องหนีบขาเข้าหากัน
“อ้าขาออก” คนตัวสูงสั่งเสียงเข้ม
“ไม่” ผมส่ายหน้าไปมาสภาพเเย่ทีี่สุดใครจะทำ เสื้อขาวบางถกมาถึงต้นคอสะโพกต้นขาเเดงเถือกไปหมดไหนจะต้องนอนอ้าขาให้อีกบ้าที่สุด
“บอกเเล้วใช่ไหมอย่าให้ถึงมือฉัน” คนตัวสูงพูดออกมาอย่างหงุดงิดก่อนจะถ่างขาเรียวออกกว้าง
“อย่าาไม่!อ๊ะอื้ออ!!” ใบหน้าเรียวส่ายไปมาน้ำตาไหลออกตามหางตาคนตัวเล็กกว่าสะดุ้งขึ้นทันทีเมื่อปลายนิ้วยาวถูตามรอยจีบของช่องทางพร้อมสอดนิ้วเข้าช่องทางเล็กจนสุดนิ้วปากเล็กร้องลั่นพร้อมกับขาที่สั่นไม่หยุด
“อึกกไม่!อืออเจ็บ!” เจ็บเกินไปเเล้วใจร้ายที่สุดใบหน้าหล่อน่ารักเบ้ด้วยความเจ็บเพราะไม่เคยมาก่อนนิ้วเเกร่งกดเน้นลงลึกๆก่อนจะสอดเข้าไปอีกนิ้วพร้อมขยับนิ้วเข้าออกเร็วๆ
“เเค่นิ้วจะร้องอะไรนักหนา” ใบหน้าคมพูดพร้อมใช้สายตามองคนตัวเล็กกว่าตั้งเเต่เเผ่นอกแดงด้วยรอยจูบจนถึงปลายนิ้วที่ขยับเข้าออกไม่หยุดน่าเกลียดที่สุด
“อื้ออออ๊ะไม่เอาเจ็บพอ!” ใบหน้าเรียวส่ายไปมาพร้อมกับใช้มือพยายามดึงมือเเกร่งออกเเต่กลับโดนนิ้วรัวกระเเทกเร็วๆจนเผลอร้องออกมา
“อ๊ะๆไม่เอาอืออ!” คนตัวเล็กกว่าดึงเสื้อที่ถกจนถึงหน้าอกมากัดไว้เเน่นนิ้วเเกร่งยังคงสอดเข้าออกไม่หยุดเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆจนคนตัวเล็กสั่นด้วยความเสียว
“ปากบอกเจ็บเเต่ตอดไม่หยุด” คำพูดลามกออกมาจากปากคนตัวสูงไม่หยุดจนคนตัวเล็กรู้สึกโกรธพร้อมใช้เล็บจิกลงตรงเเขนเเกร่งเเค่นั้นเเหละเสียงร้องครางก็ดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อนิ้วยาวกดเน้นย้ำลงลึกๆเเล้วกระเเทกนิ้วใส่ไม่หยุด
“พะพออ!อื้อมันเเสบ!อ๊ะอื้ออ!” คนตัวเล็กกว่าพยายามหนีบขาเข้าหากันเเต่ก็ไม่เป็นผมเมื่อสองขาถูกอ้ากว้างกว่าเดิมเเละเเรงจากนิ้วที่กระเเทกไม่หยุดจนกระตุกเกร็งปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะหน้าท้อง ใบหน้าเรียวหันหน้าหนีหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยขาทั้งสองข้างสั่นไม่หยุดเมื่อคนตัวสูงถอดนิ้วออก นี่เเค่นิ้วยังเจ็บขนาดนี้บ้าที่สุดผมจะจำไว้ว่าห้ามขัดใจเขาเด็ดขาด
“ถ้ามีครั้งต่อไปฉันรับรองว่ามันจะไม่จบเเค่นี้เเน่” คนตัวสูงก้มลงกระซิบพร้อมกดปลายจมูกลงบนเเก้มขาวเบาๆจนผมต้องหันหน้าหนี
“เช็ด” คนตัวสูงพูดขึ้นมาพร้อมโยนทิชชู่มาทางผม ทำเขาก็เป็นคนทำจะไม่รับผิดชอบการกระทำตัวเองเลยหรือไง ผมไม่พูดอะไรสักอย่างออกมาได้เเต่ยื่นมือสั่นๆหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบที่เลอะตรงหน้าท้อง
เเม่งโครตโกรธเลยผมเป็นคนที่เเทบจะไม่โกรธใครเเต่นายหัวกลับเป็นคนที่ทำให้ผมโกรธมากที่สุดตอนนี้ ขาก็สั่นไม่หยุดเสียดๆเเสบๆด้วยถึงจะเป็นเเค่นิ้วก็เถอะ ยอมเเล้วครับรู้เเล้วว่าทำจริง ใช่อย่างนายหัวทินธรน่ะไม่มีคำว่าใจดีให้ใครหรอก ผมเช็ดเเล้วโยนทิชชู่ลงข้างเตียงทันทีไม่สนกางเกงอะไรทั้งนั้นไม่ใส่อะไรทั้งนั้น มือขาวคว้าผ้าห่มเตรียมจะหันหน้าหนีนอนเเต่กลับโดนคนตัวสูงจับปลายเท้าไว้
“ปล่อยผมได้เเล้วครับ” ผมพูดออกไปพร้อมกับเบี่ยงหน้าไปทางอื่นไม่อยากมองหน้าอะไรทั้งนั้น เเล้วจะมาจับทำไมจับให้ขามันสั่นกว่าเดิมเหรอ
“จะให้ปล่อยก็อย่าดื้อ” คนตัวสูงพูดพร้อมกับมองหน้าผมไปด้วยผมไม่พูดอะไรทั้งนั้นไม่มองหน้าด้วยซ้ำเเต่ต้องตกใจเมื่อคนตัวสูงล้มตัวลงนอนพร้อมกับดึงผมเข้าไปกอด
“นี่นายหัว!อือ!” ริมฝีปากหนากดจูบลงบนปากเล็กหนักๆเเล้วผละออกจนใบหน้าขาวเเสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“หยุดเถียง”
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้!” อย่ามากอดอย่ามาใกล้อะไรทั้งนั้นทำอะไรไว้ทำไมไม่นึกถึงทีาตัวเองทำบ้าง ทำไมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำผมเจ็บผมเเสบขนาดนี้ยังกล้าสั่งผมอีก
“คลีน” คนตัวสูงกดเสียงต่ำ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะปล่อยให้คนตัวสูงกอดเอวผมไว้เเน่น
“ตามใจนายหัวเถอะครับ”
ไม่อยากคุยด้วยเเล้ว!ผมเลือกที่จะเงียบด้วยความที่ผมเหนื่อยเเละโดนรังเเกเลยทำให้ผมไม่รู้ว่าผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้เเละไม่รู้ด้วยว่าระหว่างผมนอนโดนนายหัวลวนลามอะไรบ้างวันนี้ผมยอมให้ก่อนวันอื่นไม่มีเเน่
กริ้งง~
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเพลียพร้อมกับอาการใหม่คือรู้สึกเสียดๆเเสบๆตรงช่องทางนิดหน่อยผมลืมตาขึ้นมองรอบๆห้องกลับไม่พบนายหัวทินธรที่นอนอยู่ข้างๆ ดีไม่อยากเจอหน้าหรอกไม่ต้องกลับมายิ่งดี มือเรียวคว้าโทรศัพท์ขึ้นรับอย่างไวเมื่อเป็นสายจากผู้จัดการตัวเอง
“น้องคลีนนนนนน” เเก้วหูเเทบเเตก
“ครับพี่เมย์” ผมตอบกลับไปพร้อมกับเสียงที่เเอบเเหบนิดหน่อย
“เรื่องที่คลีนกลับไทยพี่เข้าใจเเต่กลับไปทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกพี่ อีเมล์สายโทรศัพท์เข้ามาหาพี่ไม่หยุดเเล้ว อธิบายมาเดี๋ยวนี้!” ทำเรื่องใหญ่อะไรผมทำอะไร?
“ใจเย็นก่อนนะครับพี่เมย์ คลีนพึ่งตื่นคลีนงงไปหมดเเล้วครับ” ผมตอบกลับไปด้วยความงง
“คลีนยังไม่เห็นข่าว?”
“ข่าวอะไรครับ?”
“ให้ตายเหอะดีนะที่มันถูกลบจนเกลี้ยงหมดเเล้ว เเต่ยังมีพวกตาไวเห็นซะก่อนเลยกระจายข่าวจนมั่วไปหมด เอาล่ะคลีนตอบมาก็พอว่านี่ใช่คลีนไหม”
“...”
“นายเเบบอักษรย่อ ค ซุ่มคบกับนักธุรกิจยักษ์ใหญ่คนที่ใครๆก็เเทบไม่กล้าจะเอ่ยชื่อเพราะเจ้าตัวนอกจากจะหาตัวคุยด้วยยากยังไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัวเเต่ขอใบ้ว่าอักษรย่อ ธ คนนี้ทำให้นายเเบบหนุ่ม ค บินกลับมาถึงที่เเถมยังพากันไปถึงอำเภองานนี้ยังไงคะ ไม่เเปลกใจทำไมนายเเบบ ค ถึงไม่มีข่าวทางนี้เลยที่เเท้ตัวจริงเขาก็คนนี้นี่เอง เล่นไม่ได้ด้วยสิคนนี้รีบอ่านนะคะไม่เกินห้านาทีปลิวเเน่นอน เอ๊ะๆงานนี้มีภาพประกอบนะคะเขาไม่ได้ปิดเเต่โจ่งเเจ้งให้เห็นกันเลยทีเดียว” ผมฟังพี่เมย์พูดถึงกลับต้องเงียบลงทันทีใช่ในข่าวเป็นผมเองไม่ต้องถามว่าอีกคนเป็นใคร ทำไมข่าวถึงไวขนาดนี้
“ตอบมาเลยคลีน”
“เดี๋ยวคลีนตอบได้ไหมครับ พี่เมย์ช่วยบอกให้พี่ไคท์ปิดข่าวให้คลีนหน่อยได้ไหม” ผมพูดออกไปรัวๆ ไม่ใช่ว่าผมกลัวอะไรทั้งนั้น เเต่ผมไม่ชอบให้ใครมาเขียนข่าวผมในด้านนี้ ด้านชู้สาวหรืออะไรเเบบนี้ถึงไม่ใช่นายหัวถ้าวันไหนผมคบกับใครผมก็ไม่ชอบอยู่ดี คนนอกไม่ควรมารู้เห็นเกี่ยวกับครอบครัวของผม
“มันปลิวไปตั้งเเต่ลงไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ เอาล่ะตอบมาได้เเล้ว” ผมโล่งอกทันทีที่มันปลิวหายไป
“ในข่าวนั่นคลีนเองครับ” ผมตอบออกไปเเค่นั้นพี่เมย์โวยวายขึ้นทันที
“ตอนไหนคลีน ไปคบกับเขาได้ยังไงไปคุยกันตอนไหนถึงขั้นจดทะเบียนย้ายไปอยู่ด้วยกัน”
“มันอธิบายยากครับ เรื่องครอบครัวพี่เมย์ก็คงรู้นะครับว่าคลีนไม่ชอบพูดอะไรมาก เอาเป็นว่ามันเป็นทั้งเรื่องจริงเเละเรื่องไม่จริง”
“เอาล่ะยิ่งพูดยิ่งงง ขอเเค่คำถามเดียวอักษรย่อ ธ คนนั้น..”
“ใช่ครับ ทินธร เขมจักร” ผมตอบกลับไปทันที
“เเสดงว่าตอนนี้คลีนเป็นเขมจักร?”
“ใช่ครับ”
“oh my godddd ฉันต้องตกใจอะไรก่อนดีเเต่ที่เเน่ๆตอนนี้มันยากสำหรับการรับงานเเล้ว ยิ่งเป็นเขมจักรบอกเลยหย่าเมื่อไหร่นั่นเเหละคลีนถึงจะได้กลับมาทำงาน” พี่เมย์พูดออกมาเสียงเบา
“คลีนยังทำครับเเต่คงไม่ใช่ตอนนี้”
“ขอให้ได้ก่อนเถอะ เอาล่ะพี่จะถามเเค่นี้เเหละขอไปพักให้หายตกใจก่อนเเละจะเคลียร์ตารางงานคลีนด้วยเดี๋ยวพี่จะส่งตารางงานให้ งานไหนผัวคลีนไม่ให้ทำก็โทรมาบอกพี่ด้วย คงต้องหลีกเลี่ยงพวกงานอีเว้นท์ที่มีสัมภาษณ์ไม่งั้นนามสกุลเขมจักรคงกระฉอดไปทุกช่อง โอเคพี่ไปก่อนนอนไม่หลับเลยตอนนี้นอนไม่หลับกว่าเดิมอีก เฮ้อ”
ผมเเทบจะไม่ได้พูดอะไรเลยทั้งงงทั้งมึนไปหมดไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดีพี่เมย์พูดเองไปหมดเเล้ววางสายไป ตอนนี้ผมยังงงว่าทำไมข่าวถึงไวถึงเเม้จะปลิวเเต่อย่าลืมว่ามีคนที่เห็นเเละกระจายข่าวจนเป็นที่กล่าวขานกันต่อมา ใช่ความดีนี้ต้องยกให้พี่ไคท์ที่จัดการทำให้ข่าวปลิวได้ ไม่รอช้าผมรีบต่อสายหาพี่ชายตัวเองทันทีรอไม่นานปลายสายก็รับ
“พี่ไคท์”
“รู้เรื่องเเล้วใช่ไหม ไม่ต้องคิดมากไม่มีอะไรเเล้ว” พี่ชายผมพูดปลอบใจ
“ไม่ได้คิดมากอะไรเลยครับเเค่ไม่ชอบเเค่นั้น คลีนจะมาขอบคุณที่พี่ไคท์ทำข่าวปลิวถ้าไม่ได้พี่ไคท์ปานนี้หน้าคลีนติดไปทุกช่องเเล้ว”
“น้องพูดว่าใครทำนะ?” พี่ไคท์ถามย้ำอีกครั้ง
“ก็พี่ไคท์ไง”
“พี่ไม่ได้สั่งทำ น้องขอบคุณผิดคนเเล้ว” อย่ามาตลกโตเเล้วยังเเกล้งน้องอีกไม่ใช่พี่ไคท์เเล้วใครจะทำ
“พี่ไคท์คลีนไม่ตลก”
“ไม่ได้พูดให้ตลก พี่ไม่ได้ทำเเล้วคนที่น้องต้องขอบคุณคือผัวตัวเองไม่ใช่หรือไง?” หมายความว่าไง
“...”
“นายหัวทินธรนี่เก่งเนอะ เห็นข่าวเมียไม่ถึงสองนาทีก็ปลิวซะเเล้วไม่รู้คนที่เล่นข่าวจะปลิวด้วยหรือเปล่า” พี่ไคท์พูดขึ้นมาอย่างติดตลก
“ไม่ได้เเกล้งใช่ไหมพี่ไคท์?”
“ไปถามคนที่ทำข่าวปลิวดีกว่าเถอะ เเล้วอย่าลืมขอบคุณนายหัวทินธรด้วยล่ะ”
พี่ไคท์พูดจบก็วางสายไปทันที นี่มันตลกที่สุดให้ตายเหอะทำไมต้องเป็นนายหัวด้วยที่จัดการ เเล้วมันต้องใหญ่ขนาดไหนข่าวลงเเค่นั้นจัดการให้ปลิวได้ไวมาก เเล้วทำไมผมต้องมาขอบคุณเขาวันที่ผมไม่อยากคุยกับเขาด้วยยังไงผมก็ไม่ขอบคุณเด็ดขาด
ผมวางสายพี่ชายตัวเองได้สักพักก็ได้ยินเสียงประตูที่เปิดเข้ามาพร้อมกับคนตัวสูงที่เดินใส่กางเกงตัวเดียวท่อนบนเปลือยเปล่าเดินเข้ามา ผมไม่มองหน้าเขาเลยสักนิดเเต่โอ้ยผมต้องขอบคุณด้วยเหรอครับ
“ตื่นก็ลุกจะได้ลงไปกินข้าว” คนตัวสูงพูดออกมาเสียงเรียบก่อนจะคว้าเสื้อยืดมาสวมใส่
“...” ผมไม่ตอบอะไรทั้งนั้น
“ได้ยินไหม ไม่มีปากหรือไง?” คนตัวสูงเริ่มหัวเสียขึ้นเล็กน้อย
“มีครับ”
“ก็พูดได้ทำไมไม่พูด?” ก็คนไม่อยากคุยด้วยจะให้พูดอะไร
“...”
“จะเอาให้ได้ใช่ไหมคลีน!” คนตัวสูงหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิมพร้อมร่างสูงที่เดินเข้ามาใกล้ผมเลยรีบผมออกไป
“ขอบคุณ!”
“?”
“ก็ขอบคุณไงครับ” ผมพูดโดยไม่มองหน้าคนตัวสูง
“เรื่อง?”
“ก็เรื่องที่ทำไปไงครับ” กวนหรือไง
“เรื่องไหนเรื่องเมื่อคืน?” คนตัวสูงพูดออกมาหน้าตาเฉยจนเริ่มทำให้ผมหงุดหงิดเเทนเเล้วตอนนี้
“ผมหมายถึงเรื่องข่าว”
“เเล้วยังไง?”
“ก็ขอบคุณที่ทำให้มันหายไป”
“ก็มันกล้าเล่นข่าวเมียฉันก็สมควรที่มันหายไปเเล้วไม่ใช่หรือไง?”