04 เขมจักร

4013 คำ
เกินไปมากเกินไปจริงๆเเล้วผมจะเอาตัวรอดอยู่ที่นี่ได้ยังไงนายหัวทินธรร้ายขนาดนี้ ปากร้ายเเล้วยังใจร้ายอีกพูดจาออกมาเเต่ละอย่างลามกเเถมยังชอบลวนลามผมทางสายตาใครจะไปทนไหวล่ะ “ถึงกับสะดุ้ง?” คนตัวสูงถามขึ้นมาพร้อมทำหน้ากวน “อย่ามาลามกกับผม” ผมตอบออกไปเสียงเบาใบหน้าคมห่างกับผมเเค่ไม่กี่เซนจนผมต้องเบี่ยงหน้าหนี “อย่ามาสั่งอะไรโง่ๆ ไม่เข้าใจคำว่าเจ้าของชีวิตหรือไง?!” คนตัวสูงพูดขึ้นมาเสียงดังจนผมสะดุ้ง “นายหัวไม่ใช่เจ้าของชีวิตผม!” ผมตอบกลับไปเสียงดัง คนตัวสูงทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะเดินไปหยิบซองสีน้ำตาลเเล้วโยนลงบนพื้นตรงหน้าผม “ถ้าฉันไม่ใช่ก็หย่าสิ” คนตัวสูงพูดเสียงเรียบพร้อมมองหน้าผม “...” “หยิบขึ้นมาใส่ชื่อตัวเองคงไม่ยากเกินความสามารถหรอกมั้ง?” “อย่ามาขู่ผมนะ” “ตรงไหนที่เรียกว่าขู่?” “นายหัวกำลังบีบผม” “มีตรงไหนที่ฉันทำผิดเธอบอกเองว่าฉันไม่ใช่เจ้าชีวิต ก็นี่ไงหย่าสิจะได้ไม่ต้องมาเป็นคนของใคร” คนตัวสูงมองหน้าผมพร้อมกับพูดออกมาอย่าชิลๆ คิดว่าผมจะยอมหรือไงคิดว่าผมทนไม่ได้หรือไงเอาสิผมไม่หย่าหรอกจะอยู่เเบบนี้เเหละมาดูกันใครจะทนได้นานกว่ากัน “ผมไม่หย่า” ผมตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันเคยบอกเเล้วใช่ไหมถ้าเธอเป็นเขมจักรเมื่อไหร่ตอนนั้นเธอคือสมบัติของฉัน!” “...” “ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวเธอฉันมีสิทธิ์ตัดสินใจ! เป็นเมียฉันอย่าคิดว่ามันง่ายที่จะเดินไปมาอยู่บ้านเฉยๆ อย่ามาคิดอะไรตลกว่าที่เธอทำไปเธอจะได้เปรียบฉัน” “...” “ฉันจะบอกให้เเล้วจำ! เธอก้าวมาเป็นเขมจักรเมื่อไหร่คนเสียเปรียบมันไม่ใช่ฉัน ลองคิดดูดีๆมีอะไรที่เป็นของเธอบ้างเเค่นามสกุลเธอยังต้องใช้ของฉัน” คนตัวสูงพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาผมมือหน้าบีบท้ายทอยผมเบาๆใบหน้าคมก้มลงจนปลายจมูกเเทบชิดกัน “อย่า!” มือขาวรีบยกขึ้นดันอกเเกร่งไว้ทันทีเเต่กลับโดนมือใหญ่จับไว้พร้อมออกเเรงบีบเบาๆ “คิดได้หรือยังว่าอะไรที่เป็นของเธอ?” คนตัวสูงมองผมด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง น่ากลัวเกินไปเเล้วไม่น่าเลยผม “ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นายหัวทินธร!” ผมพูดออกมาพร้อมพยายามดันอีกคนออก “อ๋อ? มีอีกอย่างที่ยังเป็นของเธอ” ตาคมมองผมก่อนจะไล่สายตามองตั้งเเต่หัวจรดเท้า “หยุดมองผมด้วยสายตาเเบบนั้น!” “เเปลกดี กับคนอื่นโดนมองไม่เห็นจะหวง ผัวมองนิดมองหน่อยจะหวงทำไม?” “นี่มันร่างกายผม” “ใช่ เธอพูดถูกมันเป็นของเธอเเต่ต่อไปมันคงไม่ใช่ของเธอ” “...” “เตรียมใจหรือยังที่ต่อไปจะไม่มีอะไรที่จะเป็นของเธอเเม้เเต่อย่างเดียว รวมทั้งตรงนี้ด้วย” คนตัวสูงพูดขึ้นเสียงเข้มพร้อมกับใช้มือชี้ลงบนอกข้างซ้ายของผมเเล้วผละตัวออกเดินออกจากห้องไป ตลกมันตลกที่สุดที่ผมใจเต้นขนาดนี้ ให้ตายผมทำอะไรอยู่มันน่ากลัวเกินไปผมกำลังเล่นกับอะไรอยู่กันเเน่ ผมควรมีชีวิตที่ดีเเละไปได้สวยกว่านี้ไม่ใช่มาปวดหัวกับนายหัวทินธรเเบบนี้ ผมคิดถูกเเล้วใช่ไหมที่ตัดสินใจทำเเบบนี้หรือผมควรจบทุกอย่างไปเเล้วกลับไปใช้ชีวิตปกติ ผมก้มลงเก็บซองเอกสารสีน้ำตาลขึ้นมามองก่อนจะถอนหายใจออกมา “จ้างก็ไม่หย่าให้หรอก” ผมพูดออกมาเบาๆพร้อมกับเก็บเอกสารสำคัญไว้กับตัวเองไม่งั้นมีหวังคงโดนเอามาขู่ทุกวันเเน่ เรื่องนี้ตัดไปก่อนผมยังต้องหาวิธีรับมืออีกเยอะเเต่คืนนี้ผมจะนอนยังไงให้ผมนอนเตียงเดียวกับนายหัวทินธรมีหวังคงได้เปลืองตัว ผมไม่เเน่ใจว่านายหัวทินธรออกไปไหนเเต่ดีเเล้วผมขอเตรียมใจก่อนยังไม่พร้อมที่จะรับมืออะไรสักอย่าง ร้ายมากเลยครับนายหัวของเขมจักรฟาดผมไม่หยุดเลยเเค่คิดว่าผมจะทำยังไงดีเเค่นี้ก็เหนื่อยเเล้วครับ ผมเเบกผ้าห่มกับหมอนวางไว้บนโซฟาใช่ครับผมจะนอนที่โซฟาเเค่อยู่ใกล้ผมก็เเทบจะกลั้นหายใจอยู่เเล้ว ถ้าได้นอนเตียงเดียวกันผมคงตายพอดี เเบบนี้เเหละดีสุดเเล้วผมอุตส่าห์เสียสละตัวเองลงทุนมานอนที่โซฟาเลยนะเนี่ย เสียงประตูห้องที่ดังขึ้นมาทำให้ร่างโปร่งรีบล้มตัวนอนลงโซฟาพร้อมใช้ผ้าห่มคลุมหัวโป่ง ผมได้ยินฝีเท้าเดินผ่านโซฟาที่ผมนอนอยู่เเล้วเสียงเดินก็เงียบไปเเต่กลับเป็นเสียงเข้มที่ดังขึ้นมา “เมื่อไหร่จะหยุดทำอะไรโง่ๆสักที?” คนตัวสูงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด คำก็โง่สองคำก็โง่ผมไปโง่อะไรนักหนา “...” “ที่พูดไปยังไม่เข้าใจใช่ไหมคลีน” เเค่นายหัวเรียกชื่อผมทำไมต้องขนลุกด้วย “ผมเข้าใจเเล้วครับ ผมอุตส่าห์เสียสละมานอนตรงโซฟาให้เเล้วยังจะมาด่าอีกหรือไง” ผมพูดออกไปในขณะที่หัวยังไม่ออกจากผ้าห่ม “ไม่เข้าใจคำว่าผัวเมีย?” คำนี้มาอีกละ! “เเยกกันนอนก็ได้นิครับ” “อย่าให้ฉันหมดความอดทน ลุกขึ้นมา” คนตัวสูงสั่งเสียงเข้ม “ผมจะนอนตรงนี้” “อย่าให้โมโหได้ไหมอารมณ์ยิ่งไม่ดี” น้ำเสียงคนตัวสูงดูจริงจังมากเเม้ผมไม่เห็นหน้าผมรับรู้ได้ถึงใบหน้าคมได้เลยว่าทำหน้าเเบบไหนอยู่ “นายหัวอย่ามาบังคับผมนะ” ผมเเอบเบะปากในผ้าห่มพร้อมกับขดตัวในผ้าห่ม “นับถึงสามเมื่อไหร่ฉันเอาให้จำเเน่!” “ฟังผมก่อนได้ไหมครับ” ผมเถียงออกไป “หนึ่ง” “นายหัวผมบอกว่าผมจะนอนตรงนี้ ผมนอนได้มันสบายมากไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก” “สอง” เอาไงดีๆผมต้องทำยังไงดี “นายหัวทินธร” ผมเรียกออกไปเบาๆ “สาม” “หยุด!นายหัวจะทำอะไรปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้!” ผมร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อตัวผมถูกอุ้มพาดขึ้นบ่าในขณะที่ตัวผมพันอยู่ในผ้าห่ม ให้ตายผมมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นนายหัวจะพาผมไปไหน อย่ามาตลกนะผมกลัวจริงๆ ปึก! “โอ้ยย!ผมเจ็บนะ เดี๋ยวจะทำอะไร!” ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อถูกโยนลงบนเตียงกว้างพร้อมกับร่างเเกร่งที่ขึ้นคร่อมผมไว้มือหนากระชากผ้าห่มออกทำให้ผมเห็นใบหน้าคมได้อย่างชัดเจน เอาล่ะหน้าเเบบนี้รู้เลยว่ากำลังโกรธ มือเรียวทั้งสองข้างถูกรวบไว้เหนือหัวพร้อมกับร่างโปร่งที่ดิ้นไปมา “หยุด!นายหัวปล่อยผมเดี๋ยวนี้จะทำอะไร!” ผมร้องออกมาเสียงดัง “ที่พูดไปมันไม่จำใช่ไหม?” “นายหัวเราคุยกันดีๆนะครับ” ผมพยายามพูดออกไปอย่างใจเย็นเเต่กลับโดนมือใหญ่บีบปลายคางไว้เเน่น “ดี ยิ่งพยศยิ่งดีอยากรู้เหมือนกันเวลาโดนจะปากเก่งเหมือนตอนนี้ไหม” มือใหญ่บีบปลายคางผมเเน่นจนผมเจ็บไปหมด “หยุดพูดแบบนั้นกับผม!” ผมพูดออกไปด้วยความโมโห “ทำไมจะพูดไม่ได้ เอาเมียผิดตรงไหน!มันผิดยังไง?” “ห้ามพูดแบบนั้นออกมา!” “ไม่พูดหรอกเดี๋ยวจะทำให้ดู ว่าเป็นเขมจักรเต็มตัวมันเป็นยังไง!” “หยุดดอื้ิออ!” ริมฝีปากหนาก้มลงบดขยี้ริมฝีปากบางหนักๆพร้อมใช้มือบีบปลายคางเล็กเชิดขึ้นเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อให้ได้องศาปากหนาดูดดึงขบเม้มเเรงๆสลับกับบดขยี้ไปมาจนคนตัวเล็กกว่าร้องออกมาด้วยความเจ็บ “อึกกอื้ออ!โอ้ย!” ฟันคมกัดรอบขอบปากเล็กมือหนาบีบปลายคางเเรงๆให้อีกคนเผยปากออกก่อนจะตวัดเรียวลิ้นเข้าไปกวาดคว้านในโพลงปากปลายลิ้นหนาดูดดุนไปมาดูดดึงจนเกิดเสียงน้ำไสไหลเยิ้มออกมาตามขอบปากเล็กมือใหญ่สอดเข้าใต้เสื้อยืดสีขาวตัวบางริมฝีปากหนากดจูบลงมาจนถึงต้นคอขาวคนตัวเล็กกว่าพยายามดิ้นเเต่กลับโดนฟันคมกัดลงบนซอกคอขาวดูดเม้มจนเกิดรอยฟันพร้อมกับรอยดูดสีเเดงช้ำ “อึกกอย่าา!อื้ออ” ใบหน้าเรียวส่ายหน้าไปมาเมื่อมือใหญ่ถกเสื้อตัวบางขึ้นจนถึงอกริมฝีปากหนาพรมจูบทั่วเเผ่นอกก่อนจะไล่ริมฝีปากลงมาเรื่อยๆ “พะพออนายหัวยอมเเล้วผมยอม!” คนตัวเล็กกว่าพูดออกมาเสียงสั่นไม่ใช่เเค่เสียงเเต่กำลังสั่นไปทั้งตัว คนตัวสูงผงกหัวขึ้นมาก่อนจะจ้องหน้าคนตัวเล็กกว่า “ถ้าฉันไม่หยุด?” “ผมยอมเเล้วฟังเเล้วครับ ไม่เอาเเบบนี้” ผมพูดออกไปเสียงสั่นปากเล็กขบเม้มเข้าหากันจนเจ็บไปหมด สภาพผมตอนนี้โครตเเย่เลยเป็นสภาพที่ผมไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลยว่าจะเกิดขึ้นกับผมเสื้อยืดสีขาวที่ถกมาถึงอกรอยฟันช้ำเเดงเต็มคอไหนจะไอ้ปากที่บวมเจ่อนี่อีกเป็นอะไรที่โครตเเย่ที่สุด “โทษทีที่ผัวเธอมันไม่ใจดี” คนตัวสูงพูดเสียงเข้มมุมปากยกสูงขึ้นก่อนที่มือใหญ่จะเลื่อนมาลูบไล้ตรงหน้าท้องให้เสียวเล่น “ไม่!หยุดดอย่าถอดด ไม่เอาเเบบนี้!” เสียงร้องดังขึ้นมาเมื่อมือใหญ่ถอดกางเกงตัวบางของคนตัวเล็กออกพร้อมใช้มือถ่างขาเรียวออกกว้าง “จะทำอะไร! ไม่เอายอมเเล้วจริงๆ” ผมพูดออกมาเสียงสั่นไม่ใช่เเค่เสียงเเต่เป็นขาทั้งสองข้างที่อ้าออกกว้างก็สั่นไม่หยุด “เงียบ!” “เราคุยกันดีๆได้ไหม นะครับไม่เอาอื้ออ!!” ยังไม่พูดไม่ทันจบคนตัวเล็กกว่าก็ร้องออกมาทันทีเมื่อบีบใหญ่บีบเค้นสะโพกหนักๆพร้อมตีลงบนต้นขาขาวเเรงๆจนต้องหนีบขาเข้าหากัน “อ้าขาออก” คนตัวสูงสั่งเสียงเข้ม “ไม่” ผมส่ายหน้าไปมาสภาพเเย่ทีี่สุดใครจะทำ เสื้อขาวบางถกมาถึงต้นคอสะโพกต้นขาเเดงเถือกไปหมดไหนจะต้องนอนอ้าขาให้อีกบ้าที่สุด “บอกเเล้วใช่ไหมอย่าให้ถึงมือฉัน” คนตัวสูงพูดออกมาอย่างหงุดงิดก่อนจะถ่างขาเรียวออกกว้าง “อย่าาไม่!อ๊ะอื้ออ!!” ใบหน้าเรียวส่ายไปมาน้ำตาไหลออกตามหางตาคนตัวเล็กกว่าสะดุ้งขึ้นทันทีเมื่อปลายนิ้วยาวถูตามรอยจีบของช่องทางพร้อมสอดนิ้วเข้าช่องทางเล็กจนสุดนิ้วปากเล็กร้องลั่นพร้อมกับขาที่สั่นไม่หยุด “อึกกไม่!อืออเจ็บ!” เจ็บเกินไปเเล้วใจร้ายที่สุดใบหน้าหล่อน่ารักเบ้ด้วยความเจ็บเพราะไม่เคยมาก่อนนิ้วเเกร่งกดเน้นลงลึกๆก่อนจะสอดเข้าไปอีกนิ้วพร้อมขยับนิ้วเข้าออกเร็วๆ “เเค่นิ้วจะร้องอะไรนักหนา” ใบหน้าคมพูดพร้อมใช้สายตามองคนตัวเล็กกว่าตั้งเเต่เเผ่นอกแดงด้วยรอยจูบจนถึงปลายนิ้วที่ขยับเข้าออกไม่หยุดน่าเกลียดที่สุด “อื้ออออ๊ะไม่เอาเจ็บพอ!” ใบหน้าเรียวส่ายไปมาพร้อมกับใช้มือพยายามดึงมือเเกร่งออกเเต่กลับโดนนิ้วรัวกระเเทกเร็วๆจนเผลอร้องออกมา “อ๊ะๆไม่เอาอืออ!” คนตัวเล็กกว่าดึงเสื้อที่ถกจนถึงหน้าอกมากัดไว้เเน่นนิ้วเเกร่งยังคงสอดเข้าออกไม่หยุดเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆจนคนตัวเล็กสั่นด้วยความเสียว “ปากบอกเจ็บเเต่ตอดไม่หยุด” คำพูดลามกออกมาจากปากคนตัวสูงไม่หยุดจนคนตัวเล็กรู้สึกโกรธพร้อมใช้เล็บจิกลงตรงเเขนเเกร่งเเค่นั้นเเหละเสียงร้องครางก็ดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อนิ้วยาวกดเน้นย้ำลงลึกๆเเล้วกระเเทกนิ้วใส่ไม่หยุด “พะพออ!อื้อมันเเสบ!อ๊ะอื้ออ!” คนตัวเล็กกว่าพยายามหนีบขาเข้าหากันเเต่ก็ไม่เป็นผมเมื่อสองขาถูกอ้ากว้างกว่าเดิมเเละเเรงจากนิ้วที่กระเเทกไม่หยุดจนกระตุกเกร็งปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะหน้าท้อง ใบหน้าเรียวหันหน้าหนีหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยขาทั้งสองข้างสั่นไม่หยุดเมื่อคนตัวสูงถอดนิ้วออก นี่เเค่นิ้วยังเจ็บขนาดนี้บ้าที่สุดผมจะจำไว้ว่าห้ามขัดใจเขาเด็ดขาด “ถ้ามีครั้งต่อไปฉันรับรองว่ามันจะไม่จบเเค่นี้เเน่” คนตัวสูงก้มลงกระซิบพร้อมกดปลายจมูกลงบนเเก้มขาวเบาๆจนผมต้องหันหน้าหนี “เช็ด” คนตัวสูงพูดขึ้นมาพร้อมโยนทิชชู่มาทางผม ทำเขาก็เป็นคนทำจะไม่รับผิดชอบการกระทำตัวเองเลยหรือไง ผมไม่พูดอะไรสักอย่างออกมาได้เเต่ยื่นมือสั่นๆหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบที่เลอะตรงหน้าท้อง เเม่งโครตโกรธเลยผมเป็นคนที่เเทบจะไม่โกรธใครเเต่นายหัวกลับเป็นคนที่ทำให้ผมโกรธมากที่สุดตอนนี้ ขาก็สั่นไม่หยุดเสียดๆเเสบๆด้วยถึงจะเป็นเเค่นิ้วก็เถอะ ยอมเเล้วครับรู้เเล้วว่าทำจริง ใช่อย่างนายหัวทินธรน่ะไม่มีคำว่าใจดีให้ใครหรอก ผมเช็ดเเล้วโยนทิชชู่ลงข้างเตียงทันทีไม่สนกางเกงอะไรทั้งนั้นไม่ใส่อะไรทั้งนั้น มือขาวคว้าผ้าห่มเตรียมจะหันหน้าหนีนอนเเต่กลับโดนคนตัวสูงจับปลายเท้าไว้ “ปล่อยผมได้เเล้วครับ” ผมพูดออกไปพร้อมกับเบี่ยงหน้าไปทางอื่นไม่อยากมองหน้าอะไรทั้งนั้น เเล้วจะมาจับทำไมจับให้ขามันสั่นกว่าเดิมเหรอ “จะให้ปล่อยก็อย่าดื้อ” คนตัวสูงพูดพร้อมกับมองหน้าผมไปด้วยผมไม่พูดอะไรทั้งนั้นไม่มองหน้าด้วยซ้ำเเต่ต้องตกใจเมื่อคนตัวสูงล้มตัวลงนอนพร้อมกับดึงผมเข้าไปกอด “นี่นายหัว!อือ!” ริมฝีปากหนากดจูบลงบนปากเล็กหนักๆเเล้วผละออกจนใบหน้าขาวเเสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด “หยุดเถียง” “ปล่อยผมเดี๋ยวนี้!” อย่ามากอดอย่ามาใกล้อะไรทั้งนั้นทำอะไรไว้ทำไมไม่นึกถึงทีาตัวเองทำบ้าง ทำไมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำผมเจ็บผมเเสบขนาดนี้ยังกล้าสั่งผมอีก “คลีน” คนตัวสูงกดเสียงต่ำ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะปล่อยให้คนตัวสูงกอดเอวผมไว้เเน่น “ตามใจนายหัวเถอะครับ” ไม่อยากคุยด้วยเเล้ว!ผมเลือกที่จะเงียบด้วยความที่ผมเหนื่อยเเละโดนรังเเกเลยทำให้ผมไม่รู้ว่าผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้เเละไม่รู้ด้วยว่าระหว่างผมนอนโดนนายหัวลวนลามอะไรบ้างวันนี้ผมยอมให้ก่อนวันอื่นไม่มีเเน่ กริ้งง~ ผมลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเพลียพร้อมกับอาการใหม่คือรู้สึกเสียดๆเเสบๆตรงช่องทางนิดหน่อยผมลืมตาขึ้นมองรอบๆห้องกลับไม่พบนายหัวทินธรที่นอนอยู่ข้างๆ ดีไม่อยากเจอหน้าหรอกไม่ต้องกลับมายิ่งดี มือเรียวคว้าโทรศัพท์ขึ้นรับอย่างไวเมื่อเป็นสายจากผู้จัดการตัวเอง “น้องคลีนนนนนน” เเก้วหูเเทบเเตก “ครับพี่เมย์” ผมตอบกลับไปพร้อมกับเสียงที่เเอบเเหบนิดหน่อย “เรื่องที่คลีนกลับไทยพี่เข้าใจเเต่กลับไปทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกพี่ อีเมล์สายโทรศัพท์เข้ามาหาพี่ไม่หยุดเเล้ว อธิบายมาเดี๋ยวนี้!” ทำเรื่องใหญ่อะไรผมทำอะไร? “ใจเย็นก่อนนะครับพี่เมย์ คลีนพึ่งตื่นคลีนงงไปหมดเเล้วครับ” ผมตอบกลับไปด้วยความงง “คลีนยังไม่เห็นข่าว?” “ข่าวอะไรครับ?” “ให้ตายเหอะดีนะที่มันถูกลบจนเกลี้ยงหมดเเล้ว เเต่ยังมีพวกตาไวเห็นซะก่อนเลยกระจายข่าวจนมั่วไปหมด เอาล่ะคลีนตอบมาก็พอว่านี่ใช่คลีนไหม” “...” “นายเเบบอักษรย่อ ค ซุ่มคบกับนักธุรกิจยักษ์ใหญ่คนที่ใครๆก็เเทบไม่กล้าจะเอ่ยชื่อเพราะเจ้าตัวนอกจากจะหาตัวคุยด้วยยากยังไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัวเเต่ขอใบ้ว่าอักษรย่อ ธ คนนี้ทำให้นายเเบบหนุ่ม ค บินกลับมาถึงที่เเถมยังพากันไปถึงอำเภองานนี้ยังไงคะ ไม่เเปลกใจทำไมนายเเบบ ค ถึงไม่มีข่าวทางนี้เลยที่เเท้ตัวจริงเขาก็คนนี้นี่เอง เล่นไม่ได้ด้วยสิคนนี้รีบอ่านนะคะไม่เกินห้านาทีปลิวเเน่นอน เอ๊ะๆงานนี้มีภาพประกอบนะคะเขาไม่ได้ปิดเเต่โจ่งเเจ้งให้เห็นกันเลยทีเดียว” ผมฟังพี่เมย์พูดถึงกลับต้องเงียบลงทันทีใช่ในข่าวเป็นผมเองไม่ต้องถามว่าอีกคนเป็นใคร ทำไมข่าวถึงไวขนาดนี้ “ตอบมาเลยคลีน” “เดี๋ยวคลีนตอบได้ไหมครับ พี่เมย์ช่วยบอกให้พี่ไคท์ปิดข่าวให้คลีนหน่อยได้ไหม” ผมพูดออกไปรัวๆ ไม่ใช่ว่าผมกลัวอะไรทั้งนั้น เเต่ผมไม่ชอบให้ใครมาเขียนข่าวผมในด้านนี้ ด้านชู้สาวหรืออะไรเเบบนี้ถึงไม่ใช่นายหัวถ้าวันไหนผมคบกับใครผมก็ไม่ชอบอยู่ดี คนนอกไม่ควรมารู้เห็นเกี่ยวกับครอบครัวของผม “มันปลิวไปตั้งเเต่ลงไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ เอาล่ะตอบมาได้เเล้ว” ผมโล่งอกทันทีที่มันปลิวหายไป “ในข่าวนั่นคลีนเองครับ” ผมตอบออกไปเเค่นั้นพี่เมย์โวยวายขึ้นทันที “ตอนไหนคลีน ไปคบกับเขาได้ยังไงไปคุยกันตอนไหนถึงขั้นจดทะเบียนย้ายไปอยู่ด้วยกัน” “มันอธิบายยากครับ เรื่องครอบครัวพี่เมย์ก็คงรู้นะครับว่าคลีนไม่ชอบพูดอะไรมาก เอาเป็นว่ามันเป็นทั้งเรื่องจริงเเละเรื่องไม่จริง” “เอาล่ะยิ่งพูดยิ่งงง ขอเเค่คำถามเดียวอักษรย่อ ธ คนนั้น..” “ใช่ครับ ทินธร เขมจักร” ผมตอบกลับไปทันที “เเสดงว่าตอนนี้คลีนเป็นเขมจักร?” “ใช่ครับ” “oh my godddd ฉันต้องตกใจอะไรก่อนดีเเต่ที่เเน่ๆตอนนี้มันยากสำหรับการรับงานเเล้ว ยิ่งเป็นเขมจักรบอกเลยหย่าเมื่อไหร่นั่นเเหละคลีนถึงจะได้กลับมาทำงาน” พี่เมย์พูดออกมาเสียงเบา “คลีนยังทำครับเเต่คงไม่ใช่ตอนนี้” “ขอให้ได้ก่อนเถอะ เอาล่ะพี่จะถามเเค่นี้เเหละขอไปพักให้หายตกใจก่อนเเละจะเคลียร์ตารางงานคลีนด้วยเดี๋ยวพี่จะส่งตารางงานให้ งานไหนผัวคลีนไม่ให้ทำก็โทรมาบอกพี่ด้วย คงต้องหลีกเลี่ยงพวกงานอีเว้นท์ที่มีสัมภาษณ์ไม่งั้นนามสกุลเขมจักรคงกระฉอดไปทุกช่อง โอเคพี่ไปก่อนนอนไม่หลับเลยตอนนี้นอนไม่หลับกว่าเดิมอีก เฮ้อ” ผมเเทบจะไม่ได้พูดอะไรเลยทั้งงงทั้งมึนไปหมดไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดีพี่เมย์พูดเองไปหมดเเล้ววางสายไป ตอนนี้ผมยังงงว่าทำไมข่าวถึงไวถึงเเม้จะปลิวเเต่อย่าลืมว่ามีคนที่เห็นเเละกระจายข่าวจนเป็นที่กล่าวขานกันต่อมา ใช่ความดีนี้ต้องยกให้พี่ไคท์ที่จัดการทำให้ข่าวปลิวได้ ไม่รอช้าผมรีบต่อสายหาพี่ชายตัวเองทันทีรอไม่นานปลายสายก็รับ “พี่ไคท์” “รู้เรื่องเเล้วใช่ไหม ไม่ต้องคิดมากไม่มีอะไรเเล้ว” พี่ชายผมพูดปลอบใจ “ไม่ได้คิดมากอะไรเลยครับเเค่ไม่ชอบเเค่นั้น คลีนจะมาขอบคุณที่พี่ไคท์ทำข่าวปลิวถ้าไม่ได้พี่ไคท์ปานนี้หน้าคลีนติดไปทุกช่องเเล้ว” “น้องพูดว่าใครทำนะ?” พี่ไคท์ถามย้ำอีกครั้ง “ก็พี่ไคท์ไง” “พี่ไม่ได้สั่งทำ น้องขอบคุณผิดคนเเล้ว” อย่ามาตลกโตเเล้วยังเเกล้งน้องอีกไม่ใช่พี่ไคท์เเล้วใครจะทำ “พี่ไคท์คลีนไม่ตลก” “ไม่ได้พูดให้ตลก พี่ไม่ได้ทำเเล้วคนที่น้องต้องขอบคุณคือผัวตัวเองไม่ใช่หรือไง?” หมายความว่าไง “...” “นายหัวทินธรนี่เก่งเนอะ เห็นข่าวเมียไม่ถึงสองนาทีก็ปลิวซะเเล้วไม่รู้คนที่เล่นข่าวจะปลิวด้วยหรือเปล่า” พี่ไคท์พูดขึ้นมาอย่างติดตลก “ไม่ได้เเกล้งใช่ไหมพี่ไคท์?” “ไปถามคนที่ทำข่าวปลิวดีกว่าเถอะ เเล้วอย่าลืมขอบคุณนายหัวทินธรด้วยล่ะ” พี่ไคท์พูดจบก็วางสายไปทันที นี่มันตลกที่สุดให้ตายเหอะทำไมต้องเป็นนายหัวด้วยที่จัดการ เเล้วมันต้องใหญ่ขนาดไหนข่าวลงเเค่นั้นจัดการให้ปลิวได้ไวมาก เเล้วทำไมผมต้องมาขอบคุณเขาวันที่ผมไม่อยากคุยกับเขาด้วยยังไงผมก็ไม่ขอบคุณเด็ดขาด ผมวางสายพี่ชายตัวเองได้สักพักก็ได้ยินเสียงประตูที่เปิดเข้ามาพร้อมกับคนตัวสูงที่เดินใส่กางเกงตัวเดียวท่อนบนเปลือยเปล่าเดินเข้ามา ผมไม่มองหน้าเขาเลยสักนิดเเต่โอ้ยผมต้องขอบคุณด้วยเหรอครับ “ตื่นก็ลุกจะได้ลงไปกินข้าว” คนตัวสูงพูดออกมาเสียงเรียบก่อนจะคว้าเสื้อยืดมาสวมใส่ “...” ผมไม่ตอบอะไรทั้งนั้น “ได้ยินไหม ไม่มีปากหรือไง?” คนตัวสูงเริ่มหัวเสียขึ้นเล็กน้อย “มีครับ” “ก็พูดได้ทำไมไม่พูด?” ก็คนไม่อยากคุยด้วยจะให้พูดอะไร “...” “จะเอาให้ได้ใช่ไหมคลีน!” คนตัวสูงหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิมพร้อมร่างสูงที่เดินเข้ามาใกล้ผมเลยรีบผมออกไป “ขอบคุณ!” “?” “ก็ขอบคุณไงครับ” ผมพูดโดยไม่มองหน้าคนตัวสูง “เรื่อง?” “ก็เรื่องที่ทำไปไงครับ” กวนหรือไง “เรื่องไหนเรื่องเมื่อคืน?” คนตัวสูงพูดออกมาหน้าตาเฉยจนเริ่มทำให้ผมหงุดหงิดเเทนเเล้วตอนนี้ “ผมหมายถึงเรื่องข่าว” “เเล้วยังไง?” “ก็ขอบคุณที่ทำให้มันหายไป” “ก็มันกล้าเล่นข่าวเมียฉันก็สมควรที่มันหายไปเเล้วไม่ใช่หรือไง?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม